ชาตินี้ข้าขอเป็นชายาองค์ชายจอมโฉด

17.0K·ลออจันทร์ / เลี่ยงจิน 亮金

องค์ชายเก้าจอมโฉดผู้นั้นข้าจะให้เขาเป็นสามี! หวนคืนกลับมาครานี้ข้าขอตัดวาสนากับสามีเก่า เดินหน้าแก้ไขชีวิตไปพร้อมๆ กับยั่วยวนว่าที่สามีใหม่ ทว่า...เหตุใดจึงกลายเป็นนางที่ถูกเขายั่วยวนเล่า! ++++++ “ให้ตายเถอะเจ้าตัวแสบ!” องค์ชายเก้าถานซีหยางใช้มือข้างหนึ่งประคองร่างบางที่ถูกสกัดจุดจนสลบให้นอนลงบนฟูก ก่อนจะหันไปมองมือเล็กที่ยังคงกำกระบอกไม้ไผ่ของเขาเอาไว้แน่น “ยุ่งยากแล้ว” องค์ชายหนุ่มมีสีหน้าปั้นยาก ค่อยๆ แกะนิ้วมือที่เหนียวดั่งตีนตุ๊กแกของเจ้าลิงน้อยทีละนิ้ว ความอุ่นนุ่มของมือที่กุมแท่งหยกของเขานั้นยิ่งทำให้เอ็นอุ่นขยายใหญ่ขึ้นอย่างไม่อาจควบคุม ปวดตุบๆ หน่วงไปทั้งหน้าขาด้วยต้องการปลดปล่อย ใบหน้าของเขาเหยเก ลมหายใจติดขัด ลอบมองคนเมาที่ยังคงหลับตาพริ้มเป็นระยะ “ให้ตายเถอะ! เจ้าคิดว่าแท่งหยกของข้าเป็นกระบอกไม้ไผ่ไปได้อย่างไรกัน” คิดแล้วก็ถึงกับเผลอหลุดหัวเราะออกมา ไม่คิดเลยว่าเฟิ่งเยว่สือยามเมามายจะทำเรื่องตลกน่าขบขันถึงเพียงนี้ แต่แล้วชายหนุ่มก็ต้องบิดเบี้ยวใบหน้าเหยเกเมื่อนิ้วชี้และนิ้วกลางที่แกะออกไปแล้วดีดกลับมากำรอบแท่งหยกของเขาเอาไว้อีกครา “อา...” องค์ชายถานซีหยางหน้าแดงก่ำ เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง พยายามควบคุมหัวใจไม่ให้เต้นกระโจนแรงไปมากกว่านี้ เขาตั้งใจแกะนิ้วตุ๊กแกออกอีกครั้งอย่างระมัดระวังยิ่งกว่าเดิม เพราะไม่เช่นนั้นคืนนี้ทั้งคืนเขาอาจต้องนั่งให้นางกุมกระบอกไม้ไผ่จนถึงรุ่งสาง ครานี้เรื่องที่เขาปลอมเป็นสตรีคงได้ถูกเปิดโปงเป็นแน่! แล้วในที่สุดเขาก็แกะนิ้วสุดท้ายของนางออก ทันทีที่แท่งหยกเป็นอิสระชายหนุ่มผงะถอยหลังไปหลายก้าวราวกับต้องการเวลาตั้งตัว เขายกมือลูบหน้าตนเองหลายๆ ครั้งเพื่อเรียกสติ จากนั้นจึงเดินวนไปวนมาในห้องจนแท่งหยกแข็งขึงค่อยๆ สงบลง เมื่อแน่ใจว่านางจะไม่ตื่นขึ้นมาแน่ๆ แล้ว จึงได้เดินกลับเข้าไปหาแล้วห่มผ้าให้นางอย่างเบามือ “ขยันทำให้ข้าเป็นห่วงเสียจริง” ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยไปตามเส้นผมที่ระกรอบหน้าหวาน ก่อนจะสัมผัสเบาที่ใต้ตาแดงช้ำ หยาดน้ำตาของนางทำให้เขาเจ็บปวดใจยิ่งนัก ชาติก่อนนางลำบากมากเหลือเกินแล้ว ชาตินี้เขาจะไม่ให้นางต้องพบเจอกับความลำบากอีก “เจ้าลิงน้อย เจ้าจับแท่งหยกของข้าแล้ว อย่างไรเจ้าก็ต้องรับผิดชอบตัวข้า ต้องเป็นเจ้าสาวของข้า เข้าใจหรือไม่...” เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะโน้มใบหน้าลงไป สัมผัสเบาๆ ที่ริมฝีปากอวบอิ่มเย้ายวน อยากจะ ‘จูบ’ มากกว่าแค่ประกบปากสัมผัส แต่ก็จำต้องหักห้ามใจ “ฝันดีนะเจ้าลิงน้อย”

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

หลังเกิดใหม่ ฉันจะล้างแค้นให้ลูกสาวที่เสียชีวิต

356.0K·-

หลังจากปล่อยตัวปล่อยใจไปกับกวีวัธน์ น้องชายสามีในนามในคืนนั้น ขวัญรัตน์ทนทุกข์ทรมานมานานถึง8ปี ตอนที่เขากอดอัฐิลูกสาวไว้พร้อมจะฆ่าตัวตาย กวีวัธน์กลับไปจัดงานฉลองวันเกิดยิ่งใหญ่ของลูกชายหญิงในใจ ไม่เหลียวแลเธอเลยสักนิด พอลืมตาขึ้นอักครั้ง เธอที่เกิดใหม่อีกครั้ง จะทำให้กวีวัธน์ต้องได้ชดใช้อย่างสาสม! ชาติที่แล้ว เธอได้อธิบายอย่างหนักแน่น กวีวัธน์ว่าเธอมีเจตนาแอบแฝงคิดจะจับเขา ชาตินี้เธอได้ขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนต่อหน้าทุกคน! ชาติที่แล้ว หญิงในใจขโมยผลงานของเธอไปหน้าด้านๆ กวีวัธน์ว่าเธออิจฉาริษยาเป็นนิสัย ชาตินี้เธอจะเหยียบหญิงในใจของเขาขึ้นไปรับรางวัลให้ดู! ชาติที่แล้ว เธอถูกเจาะจงใส่ร้ายป้ายสีมาตลอด กวีวัธน์ก็เอาแต่เข้าข้างหญิงในใจอยู่เรื่อยไป ชาตินี้ เธอจะตบๆๆนังผู้หญิงคนนั้นให้คว่ำไปซะ! กวีวัธน์นึกว่าขวัญรัตน์จะรักเขาไม่เปลี่ยนแปลง ถึงตอนที่ขวัญรัตน์จากไปโเยไม่หันกลับมา เขาใจลนลานอย่างแปลกๆ กวีวัธน์ผู้หยิ่งยโสคนนั้น ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธและเศร้าใจปะปนกัน ดึงเธอไว้:"ขวัญ อย่าทิ้งผมไป ให้ผมไปกับคุณด้วยได้มั้ย"

นิยายรักโรแมนติกยังไม่จบ

หลังแต่งงาน ท่านบอสบ้าระห่ำตกหลุมรักฉันซะแล้ว

16.0K·-

เพื่อเด็กในท้อง ลู่จือหลิงถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้มีอิทธิพลบ้าระห่ำ ที่ใครต่างคาดว่าเธอคงอยู่ไม่ถึงวันคลอดบุตร เพื่อเอาตัวรอดเธอคิดวิธีรับมือ แต่ไม่ทันตั้งตัวเธอก็กลายเป็นแก้วตาดวงใจของเขาไปแล้ว ต่อมา เธอเตรียมจะหนี รถของเขาจอดอยู่บนหน้าผาสูงชัน สั่นคลอนไปมา เขาเหยียบคันเร่งโดยเตรียมที่จะเหยียบเบรค ยิ้มลอยๆ ฉันฟังไม่ค่อยชัดเลย เธอว่าไงนะ...... หย่า?หืม? ต่อมา เขาลูบหน้าเธอเบาๆ เสียงดูเซ็กซี่ปนโหดหน่อย อยู่ตรงนี้กับฉันดีๆ ถ้าคิดหนีเจอลงโทษแน่ และจากนั้นต่อมา เขาเลือดอาบเต็มตัว ร้องขอให้เธออย่าจากไป

นิยายรักโรแมนติกยังไม่จบ

ข้ามภพสยบอ๋องร้าย

713.0K·weiwei

"เจ้ากล้าเข้าวังไปขอเสด็จพ่อหย่ากับข้าหรือไม่?" เหอะเจ้าอ๋องหลงตัวเอง "ได้ วันนี้ข้าจะหย่ากับท่านให้ได้" กลัวที่ไหนรู้จักข้าสตรียุคใหม่น้อยไปแล้ว "อยากหย่ากับข้าเพื่อไปอยู่ชายอื่นสินะฝันไปเถอะ.."

นางเอกเก่งจบแล้ว

วันไนท์ฯมายบอส

6.0K·จินต์พิชา

เธอเครียดจากเรื่องงานเธอจึงออกไปดื่มและได้เจอกับธันวา การเจอครั้งแรกก็คุยกันถูกคอและเมื่อบังเอิญเจออีกครั้งเธอเครียด เธอเมา เมื่อเขามาเสนอทำให้หายเครีดหญิงสาวก็ตกลงอย่างไม่ลังเล เธอกับเขาตกลงจะเป็นแค่วันไนท์สแตนด์ แต่พระเจ้าก็เล่นตลกเมื่อได้เจอกันอีกครั้งและความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาก็ดีขึ้น โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเขานั้นคือเจ้านายของเธอ

21+จบแล้ว

เด็กเลี้ยงหมอคีรินทร์

4.0K·จินต์พิชา

ในเวลาที่ผู้มีพระคุณหัวใจแตกสลาย เธอคอยอยู่ข้างๆ จนความสัมพันธ์มันเลยเถิด เพราะเขาคิดว่าเธอคือคนรัก แต่ใสถานะเด็กเลี้ยงเขาจะจริงจัง หรือจะเห็นแค่เธอเป็นตัวแทนของใครบางคน แต่สำหรับเธอแล้ว เขาคือทุกอย่างและรักเขาจนหมดใจ

18+จบแล้ว

ซาตานร้ายพ่ายเมียเด็ก

4.0K·จินต์พิชา

จากจุดเริ่มต้นของความจำเป็น สู่ความรักที่ไม่อาจยอมปล่อยไป เขาจะทำอย่างไรเมื่อเธอจากไปแล้ว และเขาเพิ่งได้รู้ว่าตัวเองรักเธอหมดใจ

18+จบแล้ว

นางร้ายเจ้ามารยาแห่งจวนโหว

17.0K·ลออจันทร์ / เลี่ยงจิน 亮金

เมื่อสตรีที่ขึ้นชื่อ 'นางร้าย' ถูกดึงดวงวิญญาณมาสวมร่างนางเอกในนิยายที่เคยอ่าน นางเอกแสนบอบบาง อ่อนแอ ไม่สู้คน ถูกข่มเหงรังแก สามีก็ไม่รักไม่ปกป้อง จนท้ายที่สุดต้องอุ้มท้องหนีสามี! แต่ 'หลิวเซียวหลิน' มีหรือจะยอมถูกรังแก เรื่องอะไรนางต้องอุ้มท้องหนี? เรื่องอะไรนางต้องแบกทุกข์ไว้บนไหล่เพียงลำพัง? นางจะใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แล้วปล่อยให้คนรอบข้างทุกข์ใจแทน!

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

ชายาไร้ใจ

466.0K·weiwei

เหลียงซิน นิติเวชที่ยอดเยี่ยมที่สุดในศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ดกลับข้ามภพกลายเป็นพระชายาที่ท่านอ๋องรังเกียจ แถมยัง ถูกเขาทรมานจนเกือบเสียชีวิต นางสาบานว่าจะต้องล้างแค้นให้ได้แล้วหย่ากับเขา แต่เขากลับไล่ตามนาง

นางเอกเก่งจบแล้ว

พลิกชะตาจอมนางข้ามภพ

246.0K·weiwei

ข้ามภพมาปุ๊บก็มีเหตุจำเป็นต้องให้ฆ่าคนตาย พบเจอกับแม่เลี้ยงใส่ร้าย บิดาลำเอียงกล่าวหาว่านางเป็นฆาตกรฆ่าคนตาย "หากนางไม่ตายศพตรงนั้นก็คือศพของคุณหนูใหญ่" น้ำเสียงทุ้มดังขึ้นมา เขาบุรุษผู้หล่อร้าย

นางเอกเก่งยังไม่จบ

ทาสสวาทวิศวะโหด

427.0K·อยู่ในตะเกียงแก้ว

"เธอ...กินยาคุมฉุกเฉินรึยัง?" เสียงของฟาเรนเอ่ยถามดังมาจากทางด้านหลัง และคำถามของเขานั้น มันก็ทำเอาฉันชะงักไปเลยเหมือนกัน ฉันมัวแต่วิตกเรื่องอื่น ๆ จนลืมเรื่องยาคุมฉุกเฉินไปซะสนิทเลยจริง ๆ เพราะถึงแม้ว่าฟาเรนจะปล่อยน้ำสกปรก ๆ นั้นด้านนอก แต่มันก็ไม่ได้ปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ได้ 100% เพราะเขาไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย ยังไงก็เสี่ยงท้องอยู่ดี "ทำไมฉันถึงลืมเรื่องนี้ไปได้นะ" ฉันยกมือทุบหัวของตัวเองอย่างเครียดหนักกว่าเดิมไปอีกเท่าตัว "ยัยโง่เอ๊ย!" ฟาเรนสบถออกมาทันทีก่อนจะปล่อยบุหรี่ทิ้งและขยี้มันด้วยเท้าของเขา เขาเดินมาหาฉันจากทางด้านหลัง และยังไม่ทันที่ฉันจะตั้งตัว ใบหน้าที่เย็นเฉียบของคนตัวสูงก็ยื่นมาข้าง ๆ ใบหน้าของฉันแล้ว "อสุจิของฉันเพียงหยดเดียว ถ้ามันพุ่งเข้าไปในตัวของเธอ" ฟาเรนกัดริมฝีปากเล็กน้อยและพูดอย่างตรงไปตรงมา "ก็ปั้นเด็กได้เป็นตัวแล้วนะ ยัยโง่!" เขาลูบที่หน้าท้องของฉันเบา ๆ ในท่าทางที่เหมือนเขากำลังโอบกอดฉันจากทางด้านหลัง "ปล่อยนะ เดี๋ยวคนอื่นมาเห็น" ฉันพยายามจะสะบัดตัวออกแต่ฟาเรนก็รัดเอวของฉันเอาไว้แน่น "เธอคงไม่ได้คิดจะจับฉันด้วยวิธีนี้หรอกใช่ไหม?" แบดบอยอย่างฟาเรนกระซิบด้วยเสียงกระเส่า ๆ ที่ข้างใบหูของฉัน "ฉันจะไปซื้อยาคุมกินเดี๋ยวนี้แหละ" ฉันพยายามจะงัดฝ่ามือหนา ๆ ของเขาออกจากเอวของตัวเองให้ได้ "ไม่ต้องไป!" ฟาเรนถอนหายใจออกมา จู่ ๆ เขาก็เอื้อมมือมาบีบปากของฉันและแกะยาคุมฉุกเฉินออกจากกล่อง และยัดใส่ปากของฉันสองเม็ดทันที "อื้อ ~" ฉันพยายามจะขัดขืนแต่ก็ต้องกลืนยาเม็ดนี้ลงคอไปในที่สุด _________ ตัวอย่างตอนสำคัญ ฟุ่บ ~ ทันทีที่กระดุมเม็ดบนของเสื้อเชิ้ตสีขาวหลุดออกมาได้สามเม็ดเท่านั้น... "ฟาเรน เดี๋ยว!" น้ำขิงหยุดชะงักทุกอย่างในทันที ฟาเรนเองก็ชะงักไปเหมือนกันเมื่อเห็นใบหน้าที่ดูตกใจของเธอในตอนนี้ "เธอหยุดทำไม มีอะไรสำคัญรึไงที่รัก ~" เขาขมวดคิ้วถามกลับอย่างข้องใจในตอนที่เกือบจะเข้าได้เข้าเข็ม "เป็นอะไรไป?" เขาถามเมื่อเห็นน้ำขิงนิ่งไปอยู่พักใหญ่ "รอยแดง ๆ นี่มันอะไร?" เธอมองที่แผ่นอกของเขา ก่อนจะแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตเพื่อสำรวจดูอย่างถี่ถ้วนด้วยความสงสัย... "ช่างมันเถอะน่า" ฟาเรนจับมือของเธอเอาไว้และดึงเธอมาจูบพร้อมกับตีหน้านิ่ง ๆ แต่น้ำขิงกลับไม่ยอมลดละ เธอยังคงพยายามจะเปิดเสื้อของเขาดูให้ได้ "ไปเอากับคนอื่นมาใช่ไหม?" ___________________ อ่านต่อได้ที่ ฟาเรนไฮต์คลั่งรัก ตัวอย่างตอนสำคัญ ในนิยายเรื่อง พิษสวาท    ฟุ่บ! ร่างบางถูกผลักลงเตียงทันที รันเวย์ไม่รอช้าที่จะขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ และยังไม่ทันที่เด็กสาวจะกรีดร้องออกมา ฝ่ามือหนาของเขาก็ปิดปากของเธอเอาไว้แทนที่ "หนึ่งบอกให้รอ..รันก็รอ" ร่างสูงที่เปลือยท่อนบนยังคงเพ้อถึงคนรักเก่าของเขาไม่ยอมหยุด "แต่รอแล้วรันได้อะไร?" กลิ่นวอดก้าร้อนผ่าว ออกมาจากริมฝีปากเรียวบางของเขา เรือนร่างของเขาแดงก่ำและร้อนระอุไปหมด ".. (หนูไม่ใช่คุณหนึ่ง) .." คนตัวเล็กส่ายหน้าและเธอพยายามเปล่งเสียงบอกผ่านฝ่ามือหนาไปทั้งน้ำตา "เธอคือนับหนึ่ง.." คนเมาที่ขาดสติย้ำกับเธอไปอีกครั้งแววตาของเขาสื่อความหมายบางอย่างที่ยากจะเข้าใจได้.. เขาค่อย ๆ ปล่อยมือที่ปิดปากเธออยู่เลื่อนมาเช็ดน้ำตาให้แทน "และเธอเป็นของฉัน..." คนเมาหลับตาลงและพูดออกมาด้วยน้ำเสียงกระเส่า "อย่าทำอะไรหนูเลยนะ มันเจ็บมาก....หนูไม่ไหวแล้วจริง ๆ คุณ" เธอยังคงพยายามขอร้อง ทั้ง ๆ ที่เขาไม่รับฟังอะไรทั้งนั้นก้มหน้าลงประทับริมฝีปากจูบเธออีกครั้ง ขณะที่เขาประกบปากจูบสาวน้อยอย่างดูดดื่ม มือสากค่อย ๆ ลูบไล้เรือนร่างของเด็กสาวก่อนจะล้วงเข้าไปใต้เสื้อเพื่อปลดตะขอชุดชั้นในออก พร้อมดันแผ่นหลังเธอขึ้นมา กดริมบดขยี้อย่างดิบเถื่อน ก่อนจะฝีปากผละออกจากเธอเพียงเล็กน้อย.. มือหนากระชากถอดเสื้อของเธอออกอย่างรวดเร็ว ก่อนจะกระแทกริมฝีปากจูบอีกอย่างรุนแรง เขาจูบเธออย่างบดขยี้ แลกปลายลิ้นเข้ามาในโพรงปากและตวัดเลียชิม แลกน้ำลายเธออย่างไม่รังเกียจใด ๆ  แม้ว่าเด็กสาวไม่ได้ตอบรับจูบกลับไปเพราะเธอไม่เคยจูบกับใครมาก่อนเลย ยิ่งไปกว่าเธอคือเธอจูบไม่เป็นสักนิด เธอกลั้นหายใจอยู่นานจนแทบจะหมดลมหายใจตายคาจูบที่เร่าร้อนของเขาอยู่แล้ว พลั่ก! เธอผลักคนตัวใหญ่ออกไปในเฮือกสุดท้าย "เฮ่อ ๆ ๆ ๆ" สาวน้อยหายใจอย่างหอบเหนื่อย ร่างสูงกระชากกางเกงขาสั้นรวบพร้อมกับกางเกงในถอดออกและโยนลงพื้นไปทันที "…." เด็กสาวหายใจหอบเหนื่อยเงยหน้ามองเพดานห้องนอนหรูอย่างหมดเรี่ยวแรงจะขัดขืนแล้วจริง ๆ รันเวย์ลูบใบหน้า ของเธอก่อนจะไล่ต่ำลงมาถึงหน้าอกที่ขนาดเล็กกว่าฝ่ามือของเขา มือสากลูบลงมาจนถึงหน้าท้องของเธอก่อนจะแยกเรียวขาเล็ก ๆ ให้ถ่างออกเพื่อที่จะได้มองเห็นชอกช้ำตามผิวกายและเนื้อกายขาวเนียนนุ่มของเด็กสาววัยแรกแย้มตรงหน้า "หนูไม่ใช่คุณนับหนึ่ง..ปล่อยหนูไปนะ" เธอพูดออกไปอย่างแผ่วเบา สาวน้อยมองที่เรือนร่างแกร่งของรันเวย์อย่างหวาดผวา "งั้น..ฉันจะสมมุติว่าเธอเป็นหนึ่งก็แล้วกันนะ" ร่างสูงเอ่ยตอบเธอด้วยแววตาที่เศร้า ๆ สวบ!! "อะ.อึก... (กรี๊ด) " ร่างบางกระตุกเกร็งทันทีที่เขากระทำลงไปโดยที่เธอไม่เต็มใจ "หนูเจ็บ..ไม่ไหวแล้ว ๆ " เธอส่ายหน้าพร่ำบอกเขาไปทั้งน้ำตา แต่ทว่าตับ ตับ ตับ.. ____________________ ตัวอย่างตอนสำคัญ ในนิยายเรื่อง ทาสรัก ทาสรัก (1) “คือ...ฉันยังไม่พร้อมน่ะค่ะ” เธอตัดสินใจพูดออกไปอย่างเสียงสั่น ๆ และจับมือของคลินต์เอาไว้ คลินต์จึงค่อย ๆ ดึงปลายนิ้วจากร่องสวาทขึ้นมา ซึ่งมีเมือกน้ำใส ๆ ติดปลายนิ้วของเขามาด้วย และคลินต์ก็เลียชิมรสชาติความหวานของเซลีนอย่างหน้าตาเฉย “คุณคลินต์?” เซลีนเอ่ยขึ้นอย่างตกใจกับการกระทำของเขาเป็นอย่างมาก เพราะที่เขากินเข้าไปมันคือน้ำจาก...ร่องรักของเธอ... “ฉันไม่รังเกียจ...แล้วเธอล่ะรังเกียจฉันไหม?” เขาถามขึ้นอย่างลองใจอีกฝ่าย “ก็ไม่ค่ะ...เพียงแต่ว่า...” เซลีนส่ายหน้าตอบไปทันที คลินต์เลิกคิ้วมองเธอด้วยแววตาที่กดดัน ๆ เพราะเขาพร้อมที่จะสอดใส่แล้วแต่เหมือนเซลีนต้องการหยุดเอาไว้จนมันเริ่มน่ารำคาญเกินไปสำหรับคนใจร้อนอย่างคลินต์ “ฉันคิดว่ามันเร็วเกินไปที่เราจะ...” คนตัวเล็กพูดออกไปอย่างลำบากใจ ถึงเธอจะชอบเขามาก แต่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพียงแค่ไม่กี่วันเอง “ไม่มีอะไรเร็วเกินไป...ถ้ามันใช่ก็คือใช่...เซลีน~” คลินต์จ้องใบหน้าของอีกฝ่ายและพูดต่อด้วยแววตาที่แน่วแน่

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

อดีตสามีคุกเข่าง้อขอให้ฉันกลับมา

32.0K·-

ในงานเลี้ยงวันเกิดพี่สาวลูกพี่ลูกน้อง ฉันท์ชนกถูกจัดฉากปีนขึ้นเตียงมีสัมพันธ์กับคนอื่น เพียงข้ามคืนกลายเป็นผู้หญิงที่น่าไม่อายที่สุดในแวดวงไฮโซ แถมยังกลายเป็นภรรยาซีอีโอผู้เย็นชาและมีอิทธิพลท่วมท้น แต่ทว่า หลังแต่งงาน ความรักทุ่มเทสุดหัวใจของฉันท์ชนก แลกมาด้วยการดูถูกเหยียดหยามรังเกียจสารพัด ในที่สุด ผู้หญิงดวงใจของเขาก็กลับมา ผู้ชายโยนหนังสือหย่าใส่เธอ "คืนตำแหน่งคุณนายศิริกําเนิด ให้กับเจ้าของตัวจริงซะ" กระทั่งเอาเซลล์ไข่ในท้อง ลูกของฉัน ไปให้คนรักที่"มีบุตรยาก" ฉันท์ชนกหมดหวังลงในที่สุด พาลูกหนีไปให้ไกลจากที่นี่ หายไปจากโลกของเขาอย่างไม่คืนกลับมา ณวันแต่งงาน ชเนนทร์มารู้ความจริงทีหลังว่า หญิงในใจของเค้าตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงตอนนี้เป็นฉันท์ชนกคนเดียวตลอดมา "ฉันท์ชนก ถ้าความรักเป็นเกาะร้างเกาะหนึ่ง ผมขอพักพิงอยู่เพื่อคุณตลอดกาล!"

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

Love My Boss

56.0K·Phat_sara

“ฉันจะไปฝึกงานที่เชียงใหม่นะแก” “ฮะ?” “จริง ๆ” “บ้า~ ที่ฝึกงานไม่มีที่เชียงใหม่ซะหน่อย” “เดี๋ยวก็มี” ขวัญเอยเพื่อนสนิทของฉันพูดขึ้นแล้วยิ้มบาง ๆ แต่ทำไมยัยเอยยิ้มเศร้าจังเลย มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ทั้งคำพูดทั้งสีหน้าทุกอย่างดูแปลกไปหมด “มีอะไรรึเปล่าแก” “...” “เอย แกเป็นไร” ฉันย้ำถามเพราะเพื่อนไม่ตอบแต่เพื่อนมองฉันแล้วน้ำตาคลอแทนทำฉันใจคอไม่ดีทันที “...ฉันท้อง” “อะไรนะ!” “ฮึก!” “เฮ้ย ๆๆ ใจเย็น ๆ เอยอย่าเพิ่งร้อง” ตอนแรกตกใจนึกว่าอำเล่นแต่ร้องแบบนี้ไม่อำแล้วล่ะเรื่องจริงแน่นอน แค่ได้ยินเรื่องเล่าที่ไม่มีรายละเอียดก็รู้สึกมวนท้องขึ้นมาทันทีเลยมิ้งค์เอ้ย~ “...อย่าเพิ่งบอกใครนะแก ฮึก!” “ไม่บอก ๆ ฉันไม่บอกใครแน่นอน” จะไปบอกใครได้ยังไงเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อย่าว่าแต่จะไปบอกใครเลยลำพังตอนนี้แค่ตั้งสติของตัวเองยังทำไม่ได้ เกิดเรื่องใหญ่กับเพื่อนรักแถมตอนนี้เพื่อนรักของฉันก็เลิกกับแฟนไปแล้วด้วย ตายห่าคุณมิ้งค์คนนี้จะช่วยอะไรได้มากกว่าปลอบใจไหมเนี่ย! -สองอาทิตย์ต่อมา- “แม่คะ” “จ้ะ” “มิ้งค์จะฝึกงานแล้วนะ” “รู้จ้ะ แล้วที่ฝึกงานไกลไหมแม่ว่าจะถามก็ลืมตลอดเลย” “ไกลค่ะ” “เดินทางไหวไหมล่ะลูก ฝึกงานตั้งหลายเดือนไปหาหอใกล้ ๆ อยู่ระหว่างฝึกงานไหม” “ค่ะ ก็ต้องเอาแบบนั้นล่ะค่ะแม่เพราะว่าที่ฝึกงานของมิ้งค์ไกลมาก~” ฉันเน้นคำว่าไกลมากเป็นพิเศษ “มิ้งค์ดูที่พักรึยังล่ะหรือจะให้แม่พาไปดู” “ไม่ต้องดูค่ะแม่ ที่ฝึกงานมีที่พักให้ค่ะ” “จริงเหรอจ้ะถ้างั้นก็ดีสิ ว่าแต่หนูฝึกที่ไหนทำไมสวัสดิการดีจังเลย” “ฝึกที่ไร่สิริภัคดิ์ค่ะ” “ไร่? สำนักงานของไร่เหรอ ชื่อไร่คุ้น ๆ นะเหมือนเคยได้ยิน” แม่ขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินชื่อบริษัทที่ฉันจะไปฝึกงาน “ไร่สิริภัคดิ์ที่เป็นไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดของไทยไงคะ มีโรงแรมแล้วก็โรงงานผลิตชาส่งออกแม่น่าจะรู้จักนะคะ เหมือนแม่เคยแท็กมิ้งค์ด้วยนะว่าอยากไปเที่ยวที่ไร่เขา” “อ้อก็ว่าอยู่ชื่อคุ้น ๆ ฝึกที่สำนักงานใช่ไหม ตั้งใจนะยัยมิ้งค์อย่าไปโก๊ะเด็ดขาด” “ค่า~ มิ้งค์ไม่ปล่อยโก๊ะหรอกค่ะแม่สบายใจได้เลย” “แล้วว่าแต่ที่ฝึกงานอยู่แถวไหนล่ะลูก” “...เชียงใหม่ค่ะ” “อะไรนะ?” “เชียงใหม่ค่ะแม่ มิ้งค์จะไปฝึกงานที่เชียงใหม่ค่ะ” “อำแม่เหรอยัยมิ้งค์” แม่ทำหน้าไม่เชื่อแต่ฉันก็ยังมีสีหน้ามุ่งมั่นแน่วแน่เหมือนเดิม จะไม่ให้แน่วแน่ได้ไงก็มิ้งค์มีความฝันที่ทำให้อยากไปมากพอมีโอกาสก็ต้องรีบคว้าไว้แล้วไปให้ได้ “ไม่อำค่ะแม่มิ้งค์จะไปฝึกงานที่เชียงใหม่กับเอยค่ะ” “...ไกลเลยนะลูก” ยิ่งย้ำแม่ก็ยิ่งอึ้งแต่ฉันก็เข้าใจนะใครจะคิดว่าลูกสาวจะไปฝึกงานไกลถึงเชียงใหม่จริงไหม กรุงเทพ-เชียงใหม่ ไม่ใกล้เลยนะคะ “ค่ะแม่แต่มิ้งค์อยากไป มีโอกาสก็เลยไปดีกว่า แม่ไม่โกรธใช่ไหมคะ” “ไม่โกรธหรอกจะโกรธทำไมมิ้งค์ไปฝึกงานนี่จ้ะไม่ได้ไปตามผู้ชายซะหน่อย” “...” เจอคำนี้ของแม่เข้าไปแอบสะอึกไปเหมือนกันนะมิ้งค์ “แม่แค่ตกใจแค่นั้น แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะลูก” “...วันจันทร์หน้าค่ะ” “ฮะ!” -หลายวันต่อมา- “เป็นไรแก” ขวัญเอยเพื่อนรักหันมามองฉันที่ขยับตัวหยุกหยิกไม่หยุดมาสักพักแล้ว “ฉันตื่นเต้น” “ตื่นเต้น? ไม่ต้องกลัวหรอกน่าวันนี้ยังไม่ได้เริ่มฝึกงานสักหน่อย” “อื้อ” เพื่อนจะคิดแบบนั้นก็ให้เพื่อนคิดไปเลยดีกว่าค่ะสบายใจทั้งสองฝ่ายดี แต่มันใช่แบบนั้นหรอกค่ะ มิ้งค์ไม่ได้ตื่นเต้นเพราะเรื่องฝึกงานเลยสักนิด “เดี๋ยวไปถึงไร่รับรองว่าความสวยของที่นั่นจะทำแกลืมความตื่นเต้นไปเลยเชื่อฉัน” “นั่นสิเนอะฉันดูรีวิวมาไร่สิริภัคดิ์สวยมากเลยนี่นา” “ใช่แต่ในรูปไม่สวยเท่าของจริงหรอกของจริงสวยกว่ามาก ๆ” ขวัญเอยเพื่อนฉันเป็นหลานสาวของเจ้าของไร่ค่ะ ที่เรามาที่นี่ก็เพราะเหตุผลก่อนหน้านี้นั่นแหละ ยัยเอยจะท้องโตขึ้นทุกวันเลยเลือกมาฝึกงานในบริษัทของบ้านตัวเองแล้วที่เลือกมาที่นี่เพราะยัยเอยอยากหนีอะไรบางอย่างมา ซึ่งอะไรบางอย่างก็คงไม่ต้องเดาให้ยากหรอกค่ะก็หนีพ่อของลูกมานั่นแหละ ส่วนฉันเป็นห่วงเพื่อนเลยตามมาฝึกงานที่นี่ด้วย แต่นั่นก็แค่หนึ่งเหตุผลนะคะเพราะฉันยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่ขอไม่บอกดีกว่า มันเป็นเหตุผลฟลุ๊ค ๆ ที่ทำให้ฉันแอบมีความสุขมากเหมือนกัน “แก” “ว่า” “พี่ชายแกดุไหม” “พี่แทนน่ะเหรอ ไม่ดุหรอกพี่แทนใจดี” “อื้อ” “ทำไมจ้ะกลัวว่าที่เจ้านายเหรอ” “อื้อ ก็ต้องกลัวไหมล่ะแกเล่นจะให้อยู่บ้านเดียวกันกับเจ้านายเลย ถ้าดุฉันอยู่ลำบากแน่ ๆ” “ฮ่า ๆๆ ไม่ต้องกลัวหรอกเพราะพี่แทนใจดีมาก~ ที่สำคัญหล่อมากด้วยนะจ้ะ” “โม้รึเปล่า” “ไม่โม้ รับรองถ้าแกเห็นพี่แทนแกจะต้องอยากยื่นใบสมัครเป็นพี่สะใภ้ฉันแน่นอนจ้ะยัยมิ้งค์คนสวยเพราะพี่แทนทั้งหล่อรวยนิสัยดีทุกอย่างดีหมดเลย ดีมากเหมาะเป็นแฟนเพื่อนมาก~” ฉันฟังคำพูดของยัยเอยแล้วก็เบ้ปากใส่เพื่อนที่พรีเซ้นส์พี่ชายตัวเองเต็มที่มาก แต่ฉันก็ไม่เถียงคะนะเพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าคุณแทนคุณรองประธานกรรมการของสิริภัคดิ์ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นานหลังจากที่กลับมาจากอเมริกาหล่อมากเกินคำว่าหล่อด้วยซ้ำ พูดแล้วอยากเห็นตัวเป็น ๆ เลยแต่ถึงเห็นก็คงไม่รู้สึกอะไรเพราะฉันเคยเห็นคนที่หล่อมากเกินคำว่าหล่อมาแล้ว แฟนขวัญเอยไง รายนั้นก็หล่อมากเกินคำว่าหล่อเช่นกัน แต่หล่อให้ตายยังไงก็ทำได้แค่มองเพราะนั่นคือแฟนเพื่อน แหะ ๆ “อันนี้ไร่อะไรเหรอยัยเอย” ฉันชี้ไปที่ด้านหนึ่งที่เป็นทางเข้าไร่แต่อ่านป้ายได้ไม่ชัดเท่าไหร่ “นี่เหรอ ไร่ชาเหมือนกันนี่แหละแต่ไม่ได้เน้นชาเป็นพิเศษเท่าไร่เรา ทำหลายอย่างข้างในสวยนะเคยเข้าไปตอนเด็ก ๆ ตามคุณลุงไปทำอะไรไม่รู้จำไม่ได้เหมือนกัน” “อ้อ~” ฉันพยักหน้ารับแล้วมองไปที่ป้ายชื่อขนาดใหญ่ของไร่ ...สวยเหรอ เดี๋ยวต้องหาโอกาสเข้าไปดูไร่นี้สักครั้งแล้วล่ะค่ะ อยากรู้เหมือนกันว่าจะสวยอย่างที่เขาบอกไหม ^^ รถขับผ่านไร่นั้นได้ไม่กี่ร้อยเมตรก็เลี้ยวเข้าจุดมุ่งหมายของเรา ไร่สิริภัคดิ์ ไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยแล้วก็มีโรงแรมที่สวยอลังกาลมาก ๆ อยู่ในนี้ด้วย ที่ที่ฉันต้องฝึกงานและใช้ชีวิตที่นี่ไปอีกสี่เดือน “สวัสดีค่ะคุณเอย” “สวัสดีค่ะคุณมิลิน” พอลงรถหน้าส่วนที่ยัยเอยบอกว่าเป็นออฟฟิตก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมาก ๆ มาต้อนรับ ใส่ชุดทำงานแสดงว่าเป็นพนักงานที่นี่สินะ เห็นยัยเอยไหว้ฉันก็ไหว้ด้วย “นี่มิ้งค์เพื่อนเอยที่จะมาฝึกงานด้วยกันค่ะ” “ค่ะ ยินดีต้อนรับนะจ้ะ คุณเอยกับเพื่อนไปพักผ่อนที่บ้านดีกว่านะคะวันนี้ยังไม่ต้องรายงานตัว” “พี่แทนล่ะคะ” “ไปธุระค่ะ” “อ้อ ค่ะ ถ้างั้นเอยไปบ้านเลยดีกว่า ไปกันแก” ยัยเอยพยักหน้ารับแล้วก็หันมาชวนฉันจากนั้นเพื่อนฉันก็ขึ้นรถเลยส่วนฉันก็งง ๆ แต่แว๊บหนึ่งฉันเห็นผู้หญิงคนนี้แอบทำหน้าไม่สบอารมณ์ไล่หลังยัยเอยนะ “แก” พอรถปิดสนิทฉันก็สะกิดเพื่อนรักทันที “ฉันรู้นะว่าแกจะถามอะไร” “ฮ่า ๆๆ นี่สิเพื่อนรัก แค่มองตาก็รู้ว่าจะนินทาใคร” “เดี๋ยวเถอะยัยมิ้งค์นี่ ไม่ได้จะนินทาสักหน่อย เมื่อกี้คุณมิลินเป็นผู้จัดการทั่วไปของที่นี่” “อ้อเป็นผู้จัดการนี่เองไม่น่าล่ะจัดการให้เสร็จสรรพเลย” ตอนที่เห็นแว็บแรกก็ว่าสวยนะคะแต่พูดออกมาไม่กี่ประโยคก็รู้เลยว่ายัยเจ้นั่นฤทธิ์เยอะแน่นอน แล้ว! ที่สำคัญ! สิ่งที่ฉันรู้สึกไม่เข้าตาที่สุดคือการที่น้องสาวของเจ้าของไร่ถามหาพี่ชายแล้วเจ้แกตอบว่า ไปธุระค่ะ ฮัลโหล~ ไม่ได้จะเบ่งนะแต่ยัยเอยเป็นหลานสาวของเมียประธานบริษัทนะเว้ยเฮ้ย! บอกตรง ๆ นะคะว่าคำตอบของยัยเจ้นั่นทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองพบเจอคนหวงก้างแล้วหนึ่ง ท่าทางพี่ชายเพื่อนจะฮอตแล้วก็เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ในไร่เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย แล้วเด็กฝึกงานสวย ๆ อย่างมิ้งค์ที่อยู่บ้านเดียวกันกับคุณแทนคุณจะโดนเพ่งเล็งจากสาว ๆ มากแค่ไหนกันนะไม่อยากจะคิดเลย -_-! “เสียดายเนอะเลยไม่ได้แนะนำให้ว่าที่พี่สะใภ้เจอพี่ชายเลย” “หืม~ เรียกซะ เดี๋ยวเจ้มิลินอะไรนั่นก็มาแหกอกเพื่อนหรอก” “ฮ่า ๆๆ ไม่ใช่แค่คุณมิลินหรอกที่จะแหกอกแกแกเชื่อฉันสิ” “ฉันก็ว่างั้นเพราะฉะนั้นมิ้งค์ขอบายจ้ะเพื่อนรัก” “อย่าเพิ่งพูดแบบนี้รอเจอพี่แทนก่อนสิ” “ฉันไม่ได้คลั่งคนหล่อนะแก ฉันคลั่งคนดีจ้ะคนสวย” “พี่ชายฉันก็ดีไง” “เชียร์เก่งจัง เป็นไรเนี่ยพี่ชายแกหล่อมากจนหาแฟนไม่ได้รึยังไง” “เปล่า~ แค่เห็นแกสวยเลยอยากได้มาเป็นพี่สะใภ้ อิอิ” “ฮ่า ๆๆ เจ้มิลินนั่นก็สวยไม่เชียร์เหรอจ้ะ” “ไม่เอาอ่ะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจเนอะ เจอหน้าไม่กี่ครั้งก็รู้แล้วว่าเป็นยังไง” ขวัญเอยยิ้มแห้งฉันเลยขำเบา ๆ จากนั้นรถก็พาเราไปหยุดที่บ้านหลังใหญ่ที่...สวยมาก~ อ้อ! ไร่ก็สวยนะคะ โคตรสวยเลย สวยมาก ๆ เหมือนอยู่ในวิมานไม่มีผิดคิดไม่ผิดเลยที่มาฝึกงานที่นี่ เราสองคนเข้าไปในบ้านแม่บ้านก็พาฉันไปที่ห้องพัก ห้องสวยค่ะแต่เปิดไปที่ระเบียงสวยมากกว่าเพราะเห็นวิวที่มองไปเห็นไร่ตรงหน้าได้ชัดเจน บ้านอยู่บนเนินเขานี่สวยจริง ๆ เลยนะ อิจฉาเจ้าของบ้านจังที่มีบ้านสวยขนาดนี้ส่วนฉันคงได้แค่ฝัน สิบปีคงไม่มีแม้แต่ปัญญาจะซื้อที่ตรงตีนเขา แหะ ๆๆ “อยู่ตรงไหนนะ” ฉันพึมพำออกมาคนเดียวตรงริมระเบียงหลังจากที่ยืนกวาดสายตามองวิวตรงหน้าแล้วหาอะไรบางอย่าง “ตรงนั้นรึเปล่า” น่าจะใช่รึเปล่านะเพิ่งมาถึงเลยยังไม่ค่อยรู้ทิศรู้ทางเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรหรอกมิ้งค์อีกสักพักเดี๋ยวก็รู้เอง ฉันนอนพักผ่อนเพราะเพิ่งมาถึงไม่ได้มีอะไรให้ทำจนถึงช่วงบ่ายคล้อยเลยออกมาเดินเล่นส่วนยัยเอยน่าจะนอนอยู่นะคะเลยไม่ได้กวนเพื่อน “สวยจัง” ฉันเดินเล่นมาเรื่อย ๆ ออกจากตัวบ้านเดินลัดเลาะมาตามเนินเขาด้านหลังแล้วมองวิวที่หาซื้อไม่ได้ ธรรมชาตินี่สวยมากเลยเนอะมองตอนไหนก็เพลินตาไปหมด “คิดถึงมากเลยค่ะ” “...” หือ ใครคุยโทรศัพท์กับแฟนแถวนี้? “เมื่อเช้าก็เจอกันแล้วไง” อ้าว! ไม่ใช่เสียงคุยโทรศัพท์นี่คะมีเสียงผู้ชายด้วย “แต่มันไม่เหมือนกันนี่คะ” “เหมือนกันนั่นแหละ” “คุณจะไปรู้อะไร แล้วนี่ยังไงคะไปที่บ้านไม่ได้เลยเหรอ” “ไม่ได้ วันนี้ไม่ได้อยู่คนเดียว” “ก็แค่น้องสาวรึเปล่า พี่ชายจะพาผู้หญิงเข้าบ้านก็ไม่เห็นเป็นอะไรสักหน่อย” ฉันไม่ได้แอบฟังนะคะแต่บังเอิญว่าสองคนนี้คุยกันเข้าหูฉันเอง “บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้อย่าเซ้าซี้” เสียงผู้ชายเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาฉันว่าฉันพาตัวเองไปจากตรงนี้ดีกว่ามันดูเสียมารยาทยังไงก็ไม่รู้ ฉันรีบขยับตัวมองซ้ายมองขวาหาทางที่จะเดินไปต่อให้พ้นจากตรงนี้ทันที “อย่าเข้าใจผิดสิคะไม่ได้เซ้าซี้ซะหน่อย ไม่เอาค่ะไม่อารมณ์เสียนะทำงานมาเหนื่อย ๆ อุตส่าห์มาเจอกันตรงนี้ทั้งที มาค่ะเดี๋ยวทำให้หายเหนื่อยดีกว่า~” ทำไมผู้หญิงต้องทำเสียงเซ็กซี่ด้วย ที่นี่มีคนงานในไร่มาพลอดรักกันแบบนี้บ่อย ๆ รึเปล่าเนี่ยไม่อายเจ้าป่าเจ้าเขาก็ช่วยเกรงใจเจ้าของไร่ไม่ได้รึ...ไง แกร็บ~ ขวับ! “ว้าย!” “เอ่อ...” “เธอเป็นใคร!” “คือ...สวัสดีค่ะพี่แทน” “ใครเป็นพี่เธอ? ลงไปก่อน” เขาถามฉันเสียงไม่สบอารมณ์แต่ยังไม่ได้คำตอบจากฉันก็หันไปบอกผู้หญิงคนนั้นที่ฉันจำได้ว่าคือยัยเจ้มิลินให้ลงไปจากการนั่งคร่อมตักเขา “มาทำอะไรของเธอ คิดว่าจะเดินเล่นตรงไหนก็ได้รึไง” ยัยเจ้มิลินขยับตัวลงพร้อมกับต่อว่าฉันด้วยเสียงที่เหวี่ยงมาก อารมณ์เหมือนเจ้านายด่าลูกน้องไม่มีผิด แต่ก็คงจะอย่างนั้นไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าทำไมถึงกล้าสั่งให้ยัยเอยไปพักที่บ้านแล้วตอบคำถามของยัยเอยแบบเมื่อกลางวันก็เพราะว่ายัยเจ้นี่ท่าทางจะเป็นว่าที่แม่เลี้ยงของไร่สิริภัคดิ์นี่ไง “ขอโทษค่ะ” ฉันได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาแล้วขอโทษนี่ล่ะ ถึงจะเป็นเพื่อนของยัยเอยแต่จะไปมีเพาเวอร์สู้แฟนเจ้าของไร่ได้ยังไงจริงไหมคะ เป็นทั้งผู้จัดการเป็นทั้งแฟนเจ้าของไร่ กินรวบหมดเลยโชคดีเป็นบ้า “ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” เสียงเจ้าของที่นี่ถามขึ้นฉันก็ยิ่งก้มหน้า หล่อเกินคำว่าหล่อจริง ๆ นั่นแหละแต่น้ำเสียงไม่น่าสบตาคนหล่ออย่างเขาเลย “เพื่อนคุณขวัญเอยที่จะมาฝึกงานที่นี่ไงคะ เด็กเส้นของท่านประธาน” ฉันแค่เด็กติดสอยห้อยตามเถอะไม่ได้เป็นเด็กเส้นอย่ามาแอบแขวะ! “ไปก่อนไป” “...” “ไปสิ” เสียงแข็งจากยัยเจ้นั่นพูดออกมาเหมือนฉันฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องทำให้ฉันได้แต่ก้าวขาแล้วเก็บความโกรธไว้ในใจ นี่สินะชีวิตจริงของการเป็นผู้ใหญ่ ชีวิตของการเป็นผู้น้อย! “ขอผมคุยกับเด็กคนนี้แบบส่วนตัว” ฉันก้าวขาได้ขาเดียวเสียงเขาก็พูดขึ้นทำเอาฉันแทบหลุดขำ นี่เขาบอกให้ยัยเจ้มิลินแฟนเขาไปหรอกเหรอ ฮ่า ๆๆ แอบสะใจมากเหมือนกันนะที่ยัยเจ้นั่นหน้าแตก “คะ?” นี่ยังต้องทำหน้างงอีกเหรอคะเจ้ขา~ “คุณกลับบ้านพักได้แล้ว” “แต่...ก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะคะ” ยัยเจ้มิลินอะไรนี่พูดจบก็เขย่งปลายเท้าทำท่าจะหอมแก้มแฟนเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของแต่อีกฝ่ายมองหน้าเธอนิ่ง สายตาเย็นชาพอสมควรทำให้อีกคนชะงัก ยัยเจ้มิลินหน้าเสียแต่สุดท้ายก็ยิ้มให้เขาแล้วไม่วายหันมามองจิกฉันแล้วเดินไปทางที่ฉันเพิ่งเดินมาพอยัยเจ้นั่นเดินห่างไปไกลฉันก็รีบปรับสีหน้าให้ดีขึ้นแล้วยกมือไหว้เจ้าของที่นี่ให้เป็นทางการ “สวัสดีค่ะ หนูชื่อมิ้งค์ค่ะเป็นเพื่อนของยัย... / ห้ามบอกเอยเด็ดขาด” “คะ?” ยังพูดไม่จบเลยมือก็ยกไหว้ค้างอยู่เลยเนี่ยแต่เขาก็พูดแทรกซะก่อน น้ำเสียงเต็มไปด้วยคำสั่งแกมข่มขู่ทำฉันใจไม่ดีขึ้นมา First Impression ของฉันกับเขาโคตรแย่เลยสินะ -_-! “ห้ามบอกเรื่องที่เธอเห็นให้เอยรู้เด็ดขาดไม่งั้นเธอฝึกงานไม่ผ่านแน่นอน” เขาไม่เป็นมิตรกับฉันเลย เพราะอะไรแค่เพราะฉันบังเอิญมาเห็นเขากำลังจะพลอดรักกับแฟนของเขาเนี่ยนะ? แฟน รึเปล่านะ? ไม่หรอกไม่ใช่แน่นอน อาการแบบนี้แอบแซ่บกันชัวร์ “หนู...มิ้งค์ไม่เอาเรื่องใครไปพูดหรอกค่ะโดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว” “ก็ดี อย่าให้รู้ว่าเอยรู้เรื่องนี้ก็แล้วกัน” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นี้แล้วเดินผ่านหน้าฉันไปอีกทางทิ้งไว้แค่ฉันที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตก ก็เห็นยัยเอยเชียร์ฉันอยู่นะ คุยเรื่องพี่ชายก็คุยปกติไม่เห็นจะมีท่าทางเหมือนน้องสาวที่หวงไม่อยากให้พี่ชายมีแฟนเลยแล้วจะต้องกลัวยัยเอยรู้เรื่องนี้จนถึงขั้นขู่จะให้ฉันฝึกงานไม่ผ่านเลยเหรอ? ไม่เวิร์คว่ะมิ้งค์ การฝึกงานที่นี่แม่งไม่เวิร์คแน่ ๆ เพราะมาวันแรกแกก็ไม่เข้าตาคนที่มีอำนาจในนี้ซะแล้วทั้งยัยผู้จัดการตัวร้ายกับเจ้าของไร่หน้าหล่อ “เฮ้อ! เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่เจ้าทางเจ้าขา หนูแค่ตั้งใจมาฝึกงานแล้วก็มาดูแลเพื่อนของหนูเท่านั้นหนูไม่ได้มีเจตนาจะมารับรู้เรื่องส่วนตัวของใคร ขอให้การฝึกงานของหนูผ่านไปอย่างราบรื่นด้วยเถอะนะคะ หนูมาไกลหนูไม่มีที่พึ่งทางไหนเลยได้โปรดเมตตาหนูด้วยนะคะ” #MING END #TANKUN TALK “เฮ้อ! เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่เจ้าทางเจ้าขา หนูแค่ตั้งใจมาฝึกงานแล้วก็มาดูแลเพื่อนของหนูเท่านั้นหนูไม่ได้มีเจตนาจะมารับรู้เรื่องส่วนตัวของใคร ขอให้การฝึกงานของหนูผ่านไปอย่างราบรื่นด้วยเถอะนะคะ หนูมาไกลหนูไม่มีที่พึ่งทางไหนเลยได้โปรดเมตตาหนูด้วยนะคะ” ...ประสาท ผมไม่ได้จะแอบฟังเด็กคนนี้ยกมือไหว้สวดมนต์ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรอกแต่ผมแค่บังเอิญได้ยินเพราะเด็กคนนี้เปล่งเสียงพูดออกมาเองต่างหาก โคตรบ้าเลยว่ะแต่เห็นแบบนี้ก็อดขำไม่ได้ ไม่ได้ตั้งใจอยู่รอหรอกครับแค่เมื่อกี้เดินไปอีกทางแล้วกลัวว่ามิลินจะแอบดักรอขู่อะไรเธอเพราะผมพอจะรู้นิสัยของผู้จัดการของที่นี่ก็เลยเดินย้อนกลับมา ว่าจะเดินนำไปก่อนไปดูให้แน่ใจว่ามิลินไปแล้วแค่นั้นเอง ผมหยุดยืนมองท่าทางของเด็กคนนี้แล้วก็เผลอยิ้มขำแต่แทนที่จะกลับบ้านเธอกลับนั่งลงตรงม้านั่งที่มิลินเพิ่งนั่งคร่อมผมแล้วมองดูวิวจากภูเขาตรงหน้า “คิดถึงแม่มากเลยค่ะ อยากให้มาด้วยจัง” ยัยเด็กนี่ชอบพูดคนเดียวเหรอวะ? มันก็ไม่แปลกที่คนเราจะคุยกับตัวเองแต่ยัยนี่แม่งเล่นพูดออกมาเลยมันก็เลยแปลกกว่าคนปกติทั่วไปที่เขาจะคุยกับตัวเองในใจ “แต่ดีแล้วค่ะที่แม่ไม่ได้มาด้วย เพราะถ้าแม่มาด้วยแล้วมาเห็นภาพบัดสีแบบเมื่อกี้แม่เป็นลมแน่เลย” ??? นี่ผมโดนแอบเหน็บสินะ หึ ๆๆ ท่าทางจะแสบไม่ใช่เล่นแล้วล่ะเพื่อนขวัญเอยคนนี้ ผมปล่อยให้เธอนั่งเล่นต่อแล้วก็เดินอ้อมไปอีกหน่อยจากนั้นก็เดินกลับบ้าน ระหว่างที่เดินกลับก็โทรหามิลินเพื่อเช็คถึงได้แน่ใจว่าเธอถึงบ้านพักของเธอแล้ว “ไงคะพี่แทน” กำลังจะเดินเข้าบ้านก็เห็นคนคนหนึ่ง คนที่อยู่ในใจผมตลอดมาเดินมาทักทายพอดี “ไงเรา เดินทางเหนื่อยไหม” “นั่งเครื่องชั่วโมงเดียวคิดว่าจะเหนื่อยไหมคะ” ขวัญเอยแกล้งถามผมเลยได้แค่ยิ้มก่อนจะมองที่หน้าท้องของเธอที่ตอนนี้เริ่มนูนขึ้นมานิดหน่อย “รู้ว่านั่งเครื่องแป๊บเดียวแต่ห่วงหลานของลุงไง” ผมพูดจริง ๆ ผมเป็นห่วงหลานในท้อง ตอนที่รู้ว่าขวัญเอยท้องผมทั้งช็อคทั้งเสียใจมากแต่พอเวลาผ่านไปสักพักก็เริ่มทำใจได้ ก็จะให้ทำใจยังไงในเมื่ออีกคนไม่คิดที่จะกลับมาผมก็คงทำได้แค่ทำใจต่อให้ไม่อยากทำเลยก็ตามแล้วจากนี้ไปก็คงทำหน้าที่พี่ชายคิดไม่ซื่อคอยดูแลเธอกับหลานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ขอบคุณนะคะแต่ไม่ต้องห่วงเลยหลานคุณลุงแทนแข็งแรงดีค่ะ” “หึ ๆๆ เก่งทั้งแม่ทั้งลูกนั่นแหละ โทษทีนะที่พี่ไม่ได้ไปรับวันนี้มีประชุมด่วนน่ะ” “ไม่เป็นไรค่ะแต่จะว่าไปก็เป็นนั่นล่ะค่ะ” ขวัญเอยพูดแล้วแอบทำหน้าเซ็งนิดหน่อย “เป็นอะไร มีอะไรเหรอ” “ก็พี่แทนพลาดการไปรับคนสวยน่ะสิคะ เซ็งมาก ๆ น่าจะได้เจอกันตั้งแต่แรกที่มาถึง” “เราหมายถึงเพื่อนเรา?” ผมถามตรง ๆ ขวัญเอยก็ยิ้มจนตาหยีแล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะ เอยเซ็งมากที่พี่แทนไม่ได้ไปรับเพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะว่าเพื่อนเอยสวยมาก~ รับรองว่าถ้าเห็นแล้วพี่แทนต้องอยากจองมาเป็นพี่สะใภ้เอยแน่นอน” “หึ ๆๆ พูดอย่างกับพี่เจอคนสวยแล้วต้องอยากได้มาเป็นเมียทันที” ผมหัวเราะส่ายหน้าเบา ๆ แต่ก็สวยมากอย่างที่ขวัญเอยบอกนั่นแหละผมไม่เถียงหรอก “รู้ค่ะว่าเจอคนสวยมาเยอะแต่เพื่อนเอยมีมากกว่าความสวยนะคะ ทั้งสวยแล้วก็น่ารักที่สำคัญนิสัยดีมาก ๆ เลยนะ” “อื้ม” ผมพยักหน้ารับแล้วก็ยิ้ม สงสัยจะนิสัยดีจริง ๆ ล่ะมั้งเพิ่งพูดคนเดียวแล้วแอบเหน็บผมอยู่เลย “ไม่เชื่อเหรอคะ” “คนเรามีหลายมุมอยู่ที่ว่าอยู่กับใคร อยู่กับเราอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีแต่ถ้าอยู่กับคนอื่นอาจจะไม่ดีก็ได้” “อะไรคะทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ไม่ชอบเพื่อนเอยรึเปล่าเนี่ย” “เปล่า พี่แค่พูดไปงั้นไม่ได้ไม่ชอบอะไรสักหน่อยคนยังไม่เจอกันจะไม่ชอบได้ยังไง พี่แค่จะบอกว่าเรื่องนิสัยมันต้องดูเอง จะให้เชื่อคำพูดคนอื่นเลยมันก็ไม่ได้จริงไหมล่ะ” “ก็จริงค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะเพราะเดี๋ยวพี่แทนก็เชื่อคำพูดเอยเพราะเพื่อนเอยเป็นอย่างที่เอยอวยทุกอย่าง นั่นไงมาแล้ว ค่อย ๆ หันไปมองนะคะแล้วอย่าตะลึงในความสวยล่ะ อิอิ” หึ ๆๆ ตลกขวัญเอยว่ะแต่ผมก็ทำตามนะครับ หันไปมองเด็กคนนั้นที่กำลังเดินกลับมาที่บ้านแต่ก็ไม่ได้ตะลึงหรอกจะตะลึงได้ยังไงในเมื่อเพิ่งคุยกันได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เธอสวยมากอย่างที่ขวัญเอยบอกแต่ชื่ออะไรผมจำไม่ได้แล้วตอนนั้นมัวแต่โมโหที่มีคนไปเห็นแล้วก็กลัวว่าเรื่องจะถึงหูขวัญเอยผมเลยลืมสนใจความสวยกับชื่อของเธอไปเลย “เป็นไงคะ สวยใช่ไหมล้า~” เสียงสดใสจากคนข้างหลังทำให้ผมยิ้ม ดีนะที่ขวัญเอยยืนอยู่ข้างหลังเลยไม่เห็นหน้าผมไม่งั้นเธอคงผิดหวังน่าดูที่ผมไม่ตะลึงอย่างที่เธอคิด “อื้ม” “อะไรอ่ะ ตอบแค่นี้เองเหรอพี่แทน” “ก็สวยไงจะให้พูดอะไรล่ะ” ผมหันกลับมามองขวัญเอยส่วนเด็กคนนั้นเมื่อกี้ก็ทำหน้าลำบากใจนิดหน่อยตอนที่เห็นหน้าผม “ชิส์! มิ้งค์จ๋า~ มานี่เร็วมารู้จักคุณแทนคุณพี่ชายเพื่อนเลย~” ขวัญเอยเรียกเพื่อนของเธอด้วยท่าทางตื่นเต้น นี่คงอยากจับคู่ให้ผมกับเพื่อนรักของตัวเองสินะ หึ ๆๆ ความหวังที่มีแค่ริบหรี่ในใจไอ้แทนดับมอดลงไปแล้วล่ะครับ “สวัสดีค่ะ” ยัยเด็กคนนี้เดินเข้ามาแล้วยกมือไหว้ผมอีกครั้ง ก็ดีที่ทำเหมือนเราเพิ่งเจอกันไม่งั้นขวัญเอยถามต่อแน่ว่าเจอกันเมื่อไหร่แล้วคุยอะไรกันบ้าง บอกตรง ๆ ว่าไม่อยากโกหกคนท้อง “ครับ” ผมยกมือรับไหว้ทำให้คนที่ไหว้ผมเผลอทำหน้ากระอักกระอ่วนใจออกมา อ่าส์! ฉันก็ไม่อยากแกล้งทำเป็นมีมารยาททั้งที่เพิ่งขู่เธอไปเมื่อกี้เหมือนกันนั่นล่ะวะ “พี่แทนคะนี่มิ้งค์คนสวยของเอยเองค่ะ ดูแลดี ๆ นะคะไม่งั้นร้องไห้กลับบ้านตั้งแต่ยังฝึกงานไม่เสร็จแน่เลย” “ครับ ตามสบายนะที่นี่อยู่กันเหมือนพี่น้องอยู่กันแบบครอบครัวไม่ต้องเกร็ง ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองได้เลย” “...ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณแทนคุณ” “แก~ ไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิตเรียกธรรมดาก็ได้คุณเคินอะไร” “ไม่ดีกว่าแกเดี๋ยวไม่ชินขอเรียกแบบนี้ดีกว่า” “แต่... / อย่าบังคับเพื่อนเลยเอยเอาตามที่เพื่อนสะดวกดีกว่า หิวรึยังแม่บ้านน่าจะทำอาหารเสร็จแล้วมั้ง” ผมก็ไม่อยากให้เด็กคนนี้เรียกผมว่าพี่เหมือนกัน ไม่รู้ว่ะ ไม่ใช่ไม่ชอบหน้าแต่ไม่อยากให้เรียกเฉย ๆ หรือถ้าจะเรียกก็คงไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน “โอเคค่ะถ้างั้นไปกินข้าวกันดีกว่าเอยก็เริ่มหิวแล้ว ไปกันแกแม่ครัวที่นี่ทำอาหารเหนืออร่อยมาก~” ขวัญเอยเดินผ่านผมไปเกาะแขนเพื่อนแล้วพาเพื่อนของเธอเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับโม้เรื่องอาหารไปด้วย ผมได้แต่ยืนมองผู้หญิงสองคนที่จะมาอยู่ด้วยอีกหลายเดือน สวยเหมือนกันทั้งคู่แต่นิสัยจะเหมือนกันไหมผมไม่รู้หรอก แต่ต่อให้เหมือนก็ไม่มีทางมีใครมาแทนที่เธอได้เพราะขวัญเอยก็คือขวัญเอย #TANKUN END #MING TALK ...ตามสบายนะที่นี่อยู่กันเหมือนพี่น้องอยู่กันแบบครอบครัวไม่ต้องเกร็ง ครอบครัวแบบไหนเหรอ ครอบครัวเลือดข้นคนจางเหรอ? ใช่แน่นอนเพราะดูจากยัยเจ้มิลินของเขาแล้วก็น่าจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ ...ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองได้เลย ใครจะไปทำตัวตามสบายได้ถามจริงในเมื่อเจ้าของบ้านเพิ่งขู่คนที่มาขออาศัยไปหยก ๆ ที่พูดเมื่อกี้แค่เอาใจน้องสาวตัวเองเท่านั้นแหละ ท่าทางอีตาแทนคุณอะไรนี่จะเกรงใจน้องสาวตัวเองมากน่าดู เฮ้อ! ท่าไม่ดีตั้งแต่วันแรกแต่ก็ทนหน่อยนะมิ้งค์เอ้ยมาถึงขนาดนี้แล้ว อย่างน้อยยัยเอยก็น่าจะคุ้มกะลาหัวแกได้บ้างไม่มากก็น้อยล่ะวะ “แก” ฉันบอกเพื่อนดีไหมนะ “ว่า~” เห็นเพื่อนมีความสุขฉันก็ไม่กล้าพูดอะไรเลยค่ะ ฉันรู้นะว่ายัยเอยชอบไปแอบร้องไห้เวลาอยู่คนเดียวเพราะฉะนั้นเรื่องที่อึดอัดใจเก็บไว้ก่อนก็ได้มั้งมิ้งค์ อย่างน้อยก็ช่วยให้คนท้องมีสุขภาพจิตดีตอนที่อยู่กับแกเถอะนะ “ไม่มีอะไรแค่จะบอกว่าหิว” “อ้อ ถ้างั้นรีบมาเลยจ้ะมิ้งค์เดี๋ยวเพื่อนพาไปกิน” ขวัญเอยลากฉันให้เดินเร็วกว่าเดิมจนต้องห้ามให้เดินช้าลงเผื่อเพื่อนลืมว่าตัวเองท้องอยู่ พอมาถึงโต๊ะอาหารเจ้าของบ้านก็เดินตามมาฉันถูกจัดให้นั่งตรงข้ามยัยเอย แน่นอนว่าเจ้าของบ้านนั่งหัวโต๊ะและใช่ค่ะฉันกับยัยเอยนั่งขนาบเขาซ้ายขวา เกร็งเป็นบ้าเลยอาหารที่จัดไว้บนโต๊ะน่ากินแต่ไม่รู้ว่าตัวเองจะกล้ากินเยอะรึเปล่า “น่ากินมาก~ อาหารของที่นี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เอยเลือกมาฝึกงานที่นี่เลยนะคะ” “หึ ๆๆ ถ้างั้นก็กินเยอะ ๆ ทั้งคุณแม่แล้วก็คุณลูกล่ะ” “ค่า~” ฉันนั่งฟังสองพี่น้องที่ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดแต่ดูสนิทสนมกันดีแล้วก็เกร็งไปอีกเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองจมหายไปจากโต๊ะอาหารในชั่วขณะหนึ่ง ชิส์! คนก็อุตส่าห์คิดว่ามาแล้วจะต้อนรับกันแบบน้องนุ่งที่ไหนได้ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด ก็อุตส่าห์จะฝากตัวเป็นน้องสาวเพราะเห็นเป็นพี่ชายของเพื่อนรักแต่บอกตรง ๆ นะคะตอนนี้ในสายตาฉันเขาเป็นแค่เจ้าของบริษัทที่ฉันมาฝึกงานแล้วฉันก็ต้องวางตัวให้นอบน้อมที่สุดก็เท่านั้น ถ้าคลานเข่าเป็นทาสในเรือนเบี้ยได้ก็คงทำไปแล้ว -เวลาต่อมา- “มาทำอะไรทำไมไม่เข้านอน” “อุ้ย!” ฉันสะดุ้งแล้วรีบหันไปตามเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง “ว่าไงทำไมไม่เข้านอน” เสียงเจ้าของบ้านโคตรดุเลย นี่เพิ่งสี่ทุ่มเองนะจะรีบไล่ไปนอนถึงไหน “พอดีเห็นตรงนี้วิวดีค่ะเลยออกมานั่งเล่น” “นี่ไม่ใช่เวลามานั่งเล่น” ฉันพยายามจะสร้างมิตรภาพเพื่อให้ตัวเองอยู่ที่นี่ได้อย่างไม่ยากลำบากแต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ชอบเท่าไหร่ -_-! “...ทราบค่ะ” “ขึ้นนอนซะแล้วคราวหลังอย่าทำอะไรตามใจตัวเองอยากออกไปไหนทำอะไรก็ทำแบบนี้อีก มันไม่ใช่บ้านของเธอ” โห~ อาการออกขนาดนี้ทำไมไม่ให้ฉันไปนอนบ้านพักคนงานล่ะยะไปได้นะแบบนั้นน่าจะสบายใจกว่า “ค่ะ!” ฉันรับคำแล้วเดินหนีเขาทันที เผลอแสดงกิริยาไม่เหมาะสมใส่เขาด้วยนะ ฉันกระแทกเสียงใส่แล้วสะบัดหน้าหันหลังให้เขาทันที “เหอะ! กลัวฉันจะไปเห็นว่าแอบพลอดรักกับผู้จัดการอีกรึไงยะ!”

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

ข้าจะร้ายให้พวกเจ้าจดจำ

42.0K·ลออจันทร์ / เลี่ยงจิน 亮金

ไม่มีอีกแล้วหุ่นเชิดผู้โง่เขลาบูชารักดั่งตามืดบอด หวนคืนมาครั้งนี้ ข้าจะร้ายให้พวกเจ้าจดจำจนตาย ไม่สนวิธีถูก-ผิด ต่อให้ต้องร่วมมือกับทรราชผู้นั้นก็ตาม ทว่าเขากลับตามคลั่งรักข้า! ผะ...ผิดแผนเสียแล้ว!

นิยายจีนโบราณจบแล้ว

ข้าคือภรรยาตัวร้ายของกั๋วกง

52.0K·ลออจันทร์ / เลี่ยงจิน 亮金

บุตรสาวพ่อค้าหวนคืนกลับมาเพื่อเก็บดอกเบี้ยแห่งความแค้นอย่างสาสม! เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยสามีใหม่หุ่นเชิด แต่ไฉนเลยสามีใหม่ถึงเจ้าเล่ห์ช่างเอาอกเอาใจ(ช่างเอา)นักเล่า! อีกทั้งตัวตนของเขาหาใช่คุณชายตกอับ!

นิยายจีนโบราณจบแล้ว

รักเกินเลย

107.0K·ณดารินทร์

เป็นแค่ผัวชั่วคืนอย่ามาวุ่นวาย เสร็จแล้วก็จบๆ กันไป ของไม่อร่อย..แป้งหอมไม่กินซ้ำ

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

ทายาทมาเฟียหวงรัก

2.0M·ณดารินทร์

ความเข้าใจผิดทำให้เขามีค่ำคืนอันเร่าร้อนกับเธอ..และเขาจะถือว่าเธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจก็ตาม และของที่เป็นของเขา จะไม่มีวันปล่อยให้ใครหน้าไหนได้เชยชมทั้งนั้น..อย่าฝันจะเป็นอิสระ

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

เรื่องวิวาห์ของเจ้าสาวจำเป็น

469.0K·BUNNY

พี่สาวแต่งงาน เจ้าสาวกลับเป็นน้องสาวภรรยา กลร้ายหนึ่งครา ทำให้เธอแต่งงานกลับชายผู้มีอำนาจล้นฟ้า เขาเป็นเจ้าแห่งวงการธุรกิจ ที่มีฝีมือยอดเยี่ยมระดับเทพ หยิ่งยโสเลือดเย็ด เห็นผู้หญิงเป็นเหมือนกองขี้ แต่ทว่า ครั้งแรกที่เจอเขาเป็นเสือตัวผู้ พอหลังๆก็รักถนอมเธอดั่งไข่ในหิน ในขณะที่เธอกำลังตกอยู่ในภวังค์แห่งความสุข กลับมีทะเบียนสมรสโยนมาหน้าเธอ “เหลือเด็กไว้ สำหรับเธอจากไปซะ”

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

แฟนเก่าใกล้ฉัน

6.0K·อิงอรทัย

"เราจะจบกันด้วยดีไม่ได้หรือ" ในวันที่เขาขอเลิกวันนั้นเธอประสบอุบัติเหตุ จึงรู้ว่าตัวเองท้องและแท้ง ในวันเดียวกัน จบกันด้วยดี คือต่างคนต่างอยู่ การไม่เจอกันอีกคงดีที่สุด แต่เธอไม่กล้าบอกที่บ้านเรื่องอุบัติเหตุและแท้ง เพราะพี่ชายคอยย้ำเสมอว่าไม่ให้ยุ่งกับเพื่อนพี่ทุกคน แต่ถ้าไม่บอกพี่ชายกับแม่ เงินที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลก็หาไม่ได้ เธอตัดสินใจส่งข้อความไปหาเขาเป็นครั้งสุดท้าย เงินสี่หมื่นบาท แลกกับอิสรภาพ เขาเรียนจบ เธอได้เรียนต่อไม่ต้องดร็อป เจ็ดปีผ่านไปเธอก็ยังไม่กล้าเริ่มต้นใหม่ แต่ในวันที่เจอเขาอีกครั้งในฐานะเจ้านายกับลูกน้อง หัวใจเธอกลับเต้นแรงอีกหน

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

คุณพ่อหนูคือทันตแพทย์

1.0K·ปะหนัน

คุณพ่อหนูเป็นทันตแพทย์ ในวันที่ชีวิตกำลังผิดหวังทันตแพทย์หนุ่ม มองไม่เห็นใครนอกจาก เธอ เปรมิกา ผู้หญิงที่คอยอยู่เคียงข้างเขาในทุกความเสียใจ ในเมื่อทุกอย่างมันไม่มีทางเป็นไปได้ คุณหมออยากให้เธอได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่แต่สุดท้ายแค่เธอหายไป เขากลับเป็นฝ่ายเสียใจและทำทุกทางให้ได้เธอคืนมา...แม้มันจะดูไม่มีทางเพราะเธอไม่ได้จากไปแค่คนเดียว ยังมีอีกหนึ่งชีวิตที่กลายเป็นความไร้ค่าในวันที่ถูกสามีอย่างคุณหมอผลักไส

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว