นิยายประวัติศาสตร์

คุณหนูกู้ผู้ร้ายกาจ Boss Mafia ข้ามภพ
ในเมืองลั่วเฉินไม่มีใครไม่รู้จักคุณหนูรองกู้บุตรสาวอนุของจวนแม่ทัพฮู่กั๋วนอกจากใบหน้าที่งดงามมากแล้วอย่างอื่นล้วนสวนทางไปหมด กลอน กวี ดนตรี คัดอักษร นางไม่สนใจเลยคอยไล่ตามแต่องค์ชายรองจนน่ารังเกียจ .... กู้อวิ๋นเหยาเดิมทีก็เป็นบอสตัวร้ายขององค์กรลับใต้ดิน รถระเบิดครั้งหนึ่งวิญญาณก็มาอยู่ในร่างของคุณหนูรองกู้ผู้มาจากบ้านนอกเสียแล้ว กู้อวิ๋นเหยาเป็นบุตรสาวที่เกิดจากหญิงสาวที่ชายแดนในตอนแม่ทัพกู้พานางกลับมาก็อายุสิบสามปีแล้ว เด็กสาวใช้ชีวิตในจวนแม่ทัพภายหลังจากที่แม่ทัพกลับชายแดนก็ไม่ค่อยราบรื่นนัก จนกระทั่งตกน้ำและล้มป่วยไปหลายวันตื่นมาอีกทีก็เปลี่ยนไป จากคนไม่เอาไหน ไร้สมองทึ่มทื่อกลับกลายเป็นเด็กสาวที่ฉลาดเฉลียว มีไหวพริบวาจาคมคายไปเสียแล้ว ที่ต่างออกไปคือ "ข้าเคยไล่ตามท่านหรือ? ขอโทษทีตอนนั้นข้าคงตาบอด" "พี่สาวเจ้าเลิกเล่นละครได้แล้วตั้งแต่ข้ากลับมาจากชายแดนท่านก็เล่นไม่หยุดไม่เหนื่อยบ้างหรือ?" "ฮูหยินใหญ่ก่อนท่านพ่อกลับชายแดนได้สั่งเอาไว้ว่าให้ดูแลข้าเหมือนบุตรสาว ไหนหล่ะเสื้อผ้าดีดี อาหารดีดี เบี้ยหวัดรายเดือนถึงอย่างไรท่านก็เป็นผู้ดูแลจวนอย่าหน้าไหว้หลังหลอกสิ!" ไกลออกไป "นายท่าน ท่านเฝ้ามองนางจนนางจะละลายแล้วนะขอรับ มืดค่ำแล้วพวกเราก็กลับเถิด" .... นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องสมมุติ

เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน
จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจ ภายหลังจากมารดาเสียชีวิต เด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปให้ได้พร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลก อีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกจับแยกออกไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น

อุบัติรักชายาตัวร้าย
"ข่าวลือร้าย ๆทำให้นางถูกมองว่าเป็นสตรีบ้าบิ่น แต่โชคชะตากลับนำพาให้ต้องแต่งงานกับอ๋องผู้เย็นชาและถูกพิษจนขาเดินไม่ได้ ชะตาของนางจะพลิกผันหรือพ่ายแพ้ท่ามกลางมรสุมในการบำเพ็ญเพียรซึ่งเต็มไปด้วยอุปสรรค"

ใต้เงารักทรราช
"เขา" คือ ทรราชที่โลกจารึก ส่วน "นาง" คือวิญญาณหลงยุคที่ย้อนอดีตกลับมาเกิดในร่างใหม่ ตัวอย่าง บางตอน ในที่สุดชิวเยี่ยก็กระจ่าง ที่แท้ตนอยู่ในยุคจ้านกว๋อ ยุคสงครามแย่งชิงดินแดน ยุคของฉินสื่อหวงตี้ ทรราชที่โลกจารึกนั่นเอง พอคิดไปถึงว่าตนย้อนกลับมาเกิดยุคเดียวกับฉินสื่อหวงตี้ ชิวเยี่ยพลันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที อดคิดไม่ได้ว่า หากมีโอกาสได้เห็นฉินสื่อหวงตี้ตัวเป็นๆ คงจะดีไม่น้อย “แล้วตอนนี้ ผู้ใดคือผู้ครองแคว้นฉินหรือ” ชิวเยี่ยเงยหน้าถามมู่ตงด้วยท่าทางกระตือรือร้น “ฉินจวงเซียงหวาง” มู่ตงตอบ นั่นมิใช่พระบิดาของฉินสื่อหวงตี้หรือ ชิวเยี่ยคิด นางมิได้เรียนประวัติศาสตร์มาเสียด้วย ชิวเยี่ยถามต่อไปอีกว่า “ฉินจวงเซียงหวางผู้นี้ ก่อนหน้านั้น ใช่องค์ประกันของแคว้นเจ้าหรือไม่” “โอ้ เจ้ารู้เรื่องนั้นด้วยหรือ” มู่ตงมีท่าทางแปลกใจเป็นคำรบสอง ทว่ายังคงตอบไปตามจริง “ใช่แล้วฉินจวงเซียงหวางเคยเป็นองค์ประกันแคว้นเจ้า พึ่งจะได้ขึ้นเป็นผู้ครองแคว้นฉินเมื่อเดือนก่อน” ชิวเยี่ยพยักหน้าหลายคราติด ใช่จริงด้วย ถ้าอย่างนั้นฉินสื่อหวงตี้ย่อมต้องถือกำเนิดมาแล้ว แล้วเขาอยู่ที่ใดกัน ไม่รู้ว่านางจะมีโอกาสได้เห็นหน้าค่าตาสักครั้งไหมหนอ

สายลับสาวทะลุมิติมาเลี้ยงลูกในยุค 90
สายลับสาวเข้ามาอยู่ในร่างแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ในอดีตถูกรังแกสารพัด แต่จูถานอิงคนใหม่จะไม่ยอมอีกต่อไป พร้อมเอาคืนกับทุกคนที่รังแกเธออย่างสาสม

ทะลุมิติเป็นขอทานแม่ลูกสอง
"จากผู้กองสาวสู่ขอทานแม่ลูกสองในยุคโบราณ แม้ชีวิตจะเริ่มต้นจากศูนย์ แต่นางไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ด้วยทักษะและสองมือที่มี นางตั้งใจสร้างอนาคตใหม่เพื่อปกป้องลูกน้อย ท่ามกลางอันตรายและอุปสรรค"

สะใภ้น้อยแม่ทัพไร้รัก
ชาติก่อน 6 ขวบ ถูกขายเข้าจวนแม่ทัพเป็นสะใภ้น้อยเลี้ยงบุตรของผู้อื่น 14 ปีถูกส่งตัวเป็นสาวใช้ห้องข้างคนเผด็จการ 17 ปี เหลือเพียงป้ายวิญญาณ ไร้ชื่อแซ่ ในหอบรรพชน เมื่อได้เกิดใหม่ชาตินี้ นางตั้งใจใช้ชีวิตเรียบง่าย ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ เปิดโรงน้ำชาและร้านอาหารเล็กๆ ใช้ชีวิตสุขสงบ แบบ slice of life หาเงินเลี้ยงชีพ ทว่ากลับมีผู้หวังดีหยิบยื่นมีดและยาพิษให้นางเพื่อสังหารศัตรู !?! เอาล่ะ หากสวรรค์ลิขิตเช่นนั้น นางก็จะส่งเสริม ให้เหล่าคนชั่วได้สมหวัง ถูกถีบลงนรกเร็วขึ้น!

หยาดน้ำตาแห่งฤดูใบไม้ร่วง
เมื่อวันที่ประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ แห่งสหรัฐอเมริกา ถูกลอบสังหารในดัลลัสนั้น หยาดน้ำตาแห่งฤดูใบไม้ร่วง หล่นพราวลงทั่วแผ่นดินอเมริกา และนับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ยังไม่มีใครช่วยขับหยาดน้ำตานั้นให้เดือดแห้งลงได้.....และหยดน้ำตาหยาดหนึ่งนั้น ได้จารึกไว้ในหนังสือเล่มนี้ "เธอะ เทียร์ส ออฟ ออตั้ม” “...ท่านครับ มันเป็นฤดูใบไม้ร่วงในอเมริกาจริง ๆ เสียด้วย ในวาระที่ท่านประธานาธิบดีเคนเนดี้ถูกลอบสังหาร...วันที่ 22 พฤศจิกายน...คําว่า “เธอะ เทียร์ส ออฟ ออตั้ม” นั้น ทําให้ประชาชนชาวอเมริกันต้องเสียน้ำตาไปมากมายสักเพียงไหนสําหรับฤดูใบไม้ร่วงปีนั้น ท่านก็คงทราบแล้ว..... “...คุณจะเห็นได้ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในดัลลัสครั้งนั้น เราได้มองเห็นน้ำใจของคนอเมริกันครั้งใหญ่หลวง คือความร่วมอยู่ในความทุกข์อันเดียวกันนั่นแสดงว่าประชาชาติอเมริกันนั้นมิได้แตกแยก...ซึ่งผมขอย้ำอย่างภาคภูมิใจ...” -------------------------------

เนื้อคู่
ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตามถ้าเป็นเนื้อคู่กันแล้วก็ย่อมมาพบกันในสักวัน และสายน้ำก็พาพัดย้อนกาลเวลาให้เธอและเขาได้พบกัน บัวหญิงสาวหัวสมัยใหม่ที่พยายามหาวิธีกลับคืนสู่ยุคปัจจุบันจำต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับพิพัฒน์ชายหนุ่มผู้ต้องการหลุดพ้นจากอดีตของเขา วันเวลาจะช่วยสร้างสายใยแห่งความรักให้เขาทั้งคู่จนกลายเป็นเนื้อคู่หรือไม่ ติดตามอ่านได้ใน เนื้อคู่

บุพนิมิตแห่งรัก
ถวิลรักซึ้งถึงอิศเรศ กาลก่อนเหตุเมื่ออยู่คู่ภิรมย์ คืนวันผันผ่านชีวาระทม ตรอมตรมฤทัยไฟรักสุ่มทรวง โหยหวนให้หวนคืนชื่นฤทัย ปรารถนาไปในหล้าโลกละลวง บุพนิมิตแห่งรักทั้งปวง สลายร่วงฤาพรากจากใจนาง

ล็อคดาวน์ล็อกใจ
“กรี๊ด………” หญิงสาวร้องเสียงหลง หลังจากที่เธอเปิดประตูคอนโด ซึ่งเธอแน่ใจว่านี่คือห้องของเธอ แต่ภาพที่เธอเห็นในห้องบัดนี้ กลับมีชายหนุ่ม เปลือยอก สวมกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว ดูๆ น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ ชายหนุ่มผิวแทน รูปร่างสูง จมูกโด่งเป็นสัน ยืนนิ่งจ้องมาที่เธอ เขายืนอยู่โซฟาหน้าทีวี บนโต๊ะกลางระหว่างทีวีและโซฟาเต็มไปด้วยกองหนังสือวางระเกะระกะ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค ข้าวของวางเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้นที่ห้องรับแขก สายตาคู่นั้นเบิกกว้างพุ่งมองเธอด้วยความตกใจเช่นกัน อาจจะเพราะเธอเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับเสียงกรี๊ด นับดาวตกใจมากพอๆกับที่สงสัยว่ามีชายหนุ่มหน้าตาดี มายืนเท่ๆอยู่กลางห้อง

ภพเพาะรัก (พีเรียดร่วมสมัย โรแมนติก วรรณกรรมสำหรับผู้ใหญ่)
หนุ่มชาวดูไบย้อนเวลากลับไปตามหารักแท้ในสมัยอยุธยา เขามักจะฝันเห็นภาพต่าง ๆ ในอดีตรวมทั้งเธอ หญิงสาวที่แสนงดงามและอ่อนโยน ฝันเห็นช่วงเวลาแห่งความสุขกับบรรยากาศเก่า ๆ ที่แสนโรแมนติก ทั้งขบวนพยุหยาตราชลมาค ประเพณีลอยกระทง และการละเล่นต่าง ๆ รวมทั้งบรรดาเพื่อน ๆ ที่สนทนาด้วยถ้อยคำโบราณอีกทั้งยังยศตำแหน่งของเขาที่ได้รับใช้ใกล้ชิดสมเด็จพระนารายณ์ ในฐานะเป็นหัวหน้ามหาดเล็ก ทุกอย่างติดตราตรึงใจเขา และที่สำคัญคือทุกครั้งที่เขาฝันเห็นเธอ หัวใจของเขามันร่ำร้องหาแต่เธอ ทำให้เขาไปที่อยุธยาและได้พลัดตกลงไปในรอยเลื่อนขณะเกิดแผ่นดินไหว เขาย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่เกิดการรัฐประหารโดยฝ่ายหนึ่งคือพระเพทราชา อีกฝ่ายหนึ่งพระยาวิชเยนทร์ ภาพของสามีที่ปรากฏเสมือนคนแปลกหน้าในชุดแต่งกายแบบฝรั่งทำให้เธอรู้สึกราวกับฝันไป แต่ก็ดีใจเหลือเกินที่ได้พบเขาอีกครั้ง แต่เขาก็ได้รับการฝากฝังเธอไว้ ให้ช่วยพาเธอหนีไปจากแผ่นดินที่กำลังจะเปลี่ยนยุคสมัย เขาจึงพยายามสุดชีวิตฝ่าฟันอุปสรรคและความตายพาเธอกลับมาในภพปัจจุบันที่เธอรู้สึกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่กับสิ่งที่ไม่คุ้นตา เธอจึงต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เธอจะปรับตัวได้หรือไม่ แล้วยังต้องเผชิญกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เฝ้ารักและปรารถนาเขาอยู่ เธอจะสามารถครอบครองหัวใจของเขาไปชั่วกัลป์นานได้ดั่งคำอธิษฐานหรือไม่

รักเอย
สุบินสนั่นทั่วทั้งเมฆา ว่าได้ลูบจูบองค์อรอัปสร กอดกายอ้อนแอ้นอนงค์นวลกร อรชรแนบเนื้อนวลเย้ายวนชื่น หอมดูดดื่มรื่นชิดสนิทใกล้ จรใจลืมหลงระเริงระรื่น ร่วมเรียงเคียงเขนยอยู่ค่อนคืน รนใจตื่นหวิวไหวจำจากพราก

อัปสรามนตรา
อนินนาถ หญิงสาวผู้ถูกชักจูงเข้าไปในอดีตแห่งเมืองวิเภทะ มนตราได้พาเธอกลับไปสู่ยุคแห่งการรวมอาณาจักรเจินละ และได้กลายเป็นผู้รู้เห็นโศกนาฏกรรมแห่งสัญญาที่ไม่อาจปฏิบัติตาม

บ่วงเงา
'ตะวัน' นายทหารหนุ่มรูปงามกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับ 'สโรชา' แฟนสาวที่คบหากันมานาน แต่ยิ่งใกล้วันวิวาห์ตะวันกลับมีเรื่องให้ต้องกังวลใจ เพราะยามหลับตาครั้งใดเสียงฝีเท้าม้าจะต้องมารบกวนทุกราตรี ทำให้เขาพยายามค้นหาความจริงว่าเหตุใดเสียงนั้นจึงมีอิทธิพลต่อเขานัก จากการแนะนำของเพื่อนรักให้ได้รู้จักกับแพทย์ผู้มีชื่อเสียงซึ่งทำการรักษาด้วยการสะกดจิต ตะวันจึงได้รับรู้ถึงอดีตที่ผ่านมาของตนว่า เขาเคยเป็นทหารในองค์อุปราชแห่งเวียงจันทร์ มีความรักความผูกพันกับแม่หญิงลาวผู้เลอโฉมนามว่า 'คำสี' เงาอดีตทำให้ตะวันพยายามตามหาแม่หญิงคำสีในชาติภพปัจจุบัน แต่ตะวันก็มิอาจสมหวังเพราะไม่เคยมีผู้ใดในลาวพบเห็นหญิงสาวที่มีใบหน้าเหมือนนางเลย ยิ่งผิดหวังก็ยิ่งเหมือนติดอยู่ในบ่วงเงาแห่งอดีต เพราะตะวันไม่สามารถลืมคำสีนางอันเป็นที่รักยิ่งในอดีตได้ สโรชาจะมีส่วนช่วยให้ตะวันหลุดพ้นจากบ่วงเงาแห่งอดีตนั้นได้อย่างไร เขาจะกลับมาอยู่กับปัจจุบันได้หรือไม่คงต้องให้บทอวสานแห่ง "บ่วงเงา" เป็นผู้เฉลยคำตอบ

พระนางแก้วเก็งยา
“ชัยชนะที่วางอยู่บนมือ จักมีค่าอันใดหากมือนั้นปราศจากซึ่งลมหายใจเสียแล้ว” เรื่องราวของพระเจ้าฟ้างุ่ม แห่งเวียงเชียงทอง ผู้ซึ่งทำทุกอย่างเพื่อสตรีที่รักราวแก้วกลางดวงหทัย...พระนางแก้วเก็งยา ทว่า ตัวแทนความรักที่เจ้าฟ้างุ่มมีให้นั้น หาได้มีความหมายต่อนางผู้เป็นที่รัก ทรัพย์สินศฤงคารใดก็ไม่มีค่าพอกับตัวตนของคนที่รัก...เจ้าฟ้างุ่ม มิเคยเข้าใจ ลุ้นติดตามความรักของคนทั้งคู่ ใน พระนางแก้วเก็งยา

มายามหาเทวี
นางเก็บสมบัติของแม่ไว้ที่ข้อเท้า จึงย่างก้าวสู่ความยิ่งใหญ่ แต่ทองพระบาทคู่นี้ ก็คือห่วงคล้องกรรม ที่ทำให้นางมิอาจหลุดพ้นในอำนาจ ------------- เมื่อกรรมที่เคยก่อร่วมกันนั้นนำพาให้ "เกศมณี" และ "พล" ได้ร่วมทางในครั้งไปหลวงพระบาง เหตุการณ์ควรสิ้นสุด ณ จุดที่แยกย้าย แต่สองคนที่ไม่เคยรู้จักกันกลับต้องวิบากร่วมกันอีกครั้ง ด้วยสายใยที่เชื่อมโยงจาก "พระนางแก้วเกดสี" มหาเทวีผู้ยิ่งใหญ่แห่งเวียงเชียงทอง พระนางใช้ทองพระบาทเป็นสื่อ เพื่อให้เกศมณีนำดวงจิตพระนางไปพบกับ "แสน" หรือเจ้าพระยาสามแสนไทไตรภูวนาถฯ เจ้าหลวงแห่ง เวียงเชียงทองในอดีต เพื่อขออโหสิกรรมในสิ่งที่เคยล่วงเกิน มหาเทวีเคยใช้อำนาจสร้างกรรมกับบุคคลมากมาย ด้วยความเข้าใจว่าพระนางได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุด ให้กับเวียงเชียงทอง ด้วยสายเลือดขัตติยะแห่งพระบิดา "เจ้าฟ้างุ่ม" กษัตริย์ผู้มิเคยพ่ายศึกใดในการสงคราม รบชนะทั่วทุกเขตคาม เพื่อขยายอาณาจักรให้กว้างใหญ่ไพศาลกำนัลแด่ "พระนางแก้วเก็งยา" พระราชมารดาแห่งมหาเทวี เหตุนี้พระนางจึงมีใจฝักใฝ่อำนาจอยากทำให้เวียงเชียงทองยิ่งใหญ่ไม่ต่างกับตอนที่พระราชบิดายังครองบัลลังก์เวียงเชียงทอง ความรักความแค้นที่ก่อเกิดขึ้น ในวังวนนี้ยังมีอีกมากมาย มายาต่างๆ ที่เหล่ามนุษย์ทั้งหลายต่างหลงใหลนั้นก็อีกมากมี ท้ายที่สุดแล้วเรื่องราว จะลงเลยอย่างไรติดตามกันต่อได้ใน "มายามหาเทวี"

ทวารวดีศรีนระ
“นางนี้คือหนึ่งเดียวในดวงใจ แม้มิได้เคียงคู่กาย แต่ใจรักนั้นเคียงคู่กันตราบนิรันดร” “เพชรแรก” วณิชชาหนุ่มเชื้อสายกษัตริย์แห่งเมืองอมริสา ผู้เปี่ยมไปด้วยศรัทธาแห่งองค์พระกฤษณะ เดินทางรอนแรมค้าขายจนได้มาพบกับ “มณี” หญิงงามแห่งลุ่มน้ำนครไชยศรี รักแรกนั้นตราตรึงจนทำให้ชายหนุ่มอย่างเขา ทำได้ทุกอย่างเพื่อให้หญิงอันเป็นที่รักนั้นพึงใจและมีความสุข ส่วนฝ่ายหญิงเองแม้จะแสร้งทำเป็นว่ามิสนใจ แต่ภายในนั้นตระหนักดีว่าตนได้แอบมีใจให้กับชายหนุ่มไปแล้วมิใช่น้อย ความรักของทั้งคู่ดูแล้วน่าจะราบรื่น แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้น เพราะทั้งสองต่างคนต่างมีหญิงและชายที่เฝ้าหมายปองต้องการจะครอบครองหัวใจของทั้งคู่

คุณพระของบ่าว
ความจำเป็นทางบ้านทำให้ ‘เปลว’ ต้องถูกพ่อแม่ขายไปเป็นทาสในเรือนของ ‘พระพิชิตพลเดชา’ ขุนศึกผู้เกรียงไกร มีนิสัยเย็นชาและแข็งกระด้าง หน้าที่ของเปลวคือรับใช้คนอย่างคุณพระ แม้จะเป็นหน้าที่อันหนักหน่วงหากทว่าเขากลับไม่ยอมแพ้ให้กับความเย็นชานั่น พยายามทำทุกอย่างเพื่อลดความเย็นชาของคุณพระให้ได้ ..... “บ่าวขอตัวนะขอรับ” “จะไปไหน” “จะกลับไปเรือนนอนของบ่าวขอรับ” “ข้าบอกให้นอนอยู่ที่นี่อย่างใดเล่า อย่าออกไปเพ่นพ่านด้านนอก ไม่เช่นนั้นข้าจะลงโทษเอ็ง” “แต่...” กล่าวคำนี้จบเปลวก็รีบยกมือขึ้นมาปิดปากตนเอง เพราะเมื่อครู่หลังจากพูดคำนี้จบเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง ไม่อยากจะโดนอย่างนั้นอีก “เอ็งก็รู้หากดื้อกับข้าจะต้องโดนอะไรบ้าง” “แต่คุณพระก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับบ่าวเยี่ยงนี้นะขอรับ” “ข้ามีสิทธิ์ในตัวบ่าวทุกคนในเรือนนี้ แค่นี้เอ็งคงจะรู้นะว่าต้องทำตัวเยี่ยงไร” “แล้วเหตุใดต้องเป็นบ่าวด้วยขอรับ”

มนต์ไอยคุปต์
กี่ภพชาติจะผ่านไป แต่ข้าก็ไม่อาจลืมได้ว่าจะมีชีวิตเพื่อจะได้พบและรักเจ้าอีกสักครั้ง... เรื่องราวการระลึกชาติของอดีตองค์ฟาโรห์หนุ่ม เจ้าของพีระมิดบนทะเลทรายขาว ผู้ไม่เคยปรากฏพระนามบนจารึกใด กับหญิงสาวสามัญชนผู้กุมหัวใจของพระองค์
