50's อันธพาลคนนั้นคือสามี

94.0K · จบแล้ว
1037
40
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักหน้าค่าตากัน เลยทำให้อินธาราตัดสินใจหนีออกจากบ้าน ก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะเกิดขึ้น

นิยายYaoiนิยายรักโรแมนติกนิยายประวัติศาสตร์เลือดร้อน18+

CHAPTER 1

ศิวกร ตระกูลมีชื่อที่คนทั่วพระนครต่างรู้จักในฐานะตระกูลของผู้ดีที่ร่ำรวยและบุญหนา บุตรหลานที่เกิดมาล้วนมีเพียงคนเดียวของครรภ์มารดา ไม่มีพี่หรือน้องให้ได้เล่นสนุกเหมือนตระกูลอื่น หากไม่เกิดเป็นหญิงงามก็เกิดเป็นชายท้องได้ที่หน้าตาสะสวยไม่ต่างไปจากบุตรสาว

ชาวบ้านต่างสรรเสริญตระกูลนี้ว่าเป็นตระกูลของเทวดาแต่ชาติปางก่อน หากใครได้หลงมาเกิดเป็นลูกหลานตระกูลนี้ก็จะมีแต่ความโชคดีและต่างเชื่อกันทั่วว่าเป็นเทพธิดาลงมาเกิด

อินธารา บุตรหลานรุ่นที่ 59 ของตระกูลที่กำลังนั่งทุกข์อยู่ภายในห้องนอนของตน หลังจากที่ได้รู้ข่าวจากคุณพ่อ เรื่องเข้าพิธีแต่งงานกับอีกฝ่ายที่ทางตระกูลหาไว้ให้ อินไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าเหตุใดคนของตระกูลนี้จะต้องถูกส่งไปแต่งงานกับบุคคลที่ไม่แม้แต่จะเห็นหน้าค่าตากันเลยด้วยซ้ำ

“อย่าโศกเศร้าไปเลยลูกแม่ วันนี้ไม่ได้รัก พออยู่ด้วยกันไปก็รักกันเอง เหมือนคุณพ่อกับแม่อย่างไรลูก”

“ลูกไม่เข้าใจครับ แม้แต่คุณแม่ก็ผลักไสลูกหรือ?”

อินธาราพูดเอ่ยทั้งน้ำตาที่ยังไหลอาบ แม้คุณแม่จะเข้ามาคุยด้วยอยู่ร่วมชั่วโมง แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนความเสียใจของอินได้ คุณแม่ที่ก็เป็นบุตรสาวของตระกูลนี้เหมือนกัน ตอนถูกส่งให้ออกเรือน คุณแม่ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยหรือ

“หากแม่ไม่ยอม บัดนี้แม่จะมีอินธาราหรือลูก”

“...”

เป็นคำตอบของเขมมิกาที่อินเองก็ไม่สามารถตอบกลับอะไรได้อีก จริงอย่างที่ท่านว่า หากคุณแม่ไม่ยอมออกเรือนและแต่งงานกับคุณพ่อ อินธาราก็คงไม่ได้เกิดมาเหมือนกัน

“เช็ดน้ำตาเสีย ลูกทำผิดต่อคุณพ่อรู้ตัวหรือไม่?”

“ครับคุณแม่”

ผู้เป็นแม่กำลังเอ่ยบอกถึงเรื่องก่อนหน้าเมื่อสามชั่วโมงที่แล้วระหว่างที่ผู้นำตระกูลกำลังเอ่ยเรื่องออกเรือนของลูกชายที่ตนรัก ในช่วงเช้าที่ผ่านมา แต่อินธาราที่ผิดนิสัยไปจากเดิมกลับพูดสวนคุณพ่อด้วยถ้อยคำที่ไม่สามารถให้อภัยได้

‘ลูกไม่แต่งครับ’

‘เหตุใดถึงพูดแบบนั้นออกมา ไม่มีผู้ใดในตระกูลทำ’

‘อินธาราผู้นี้อย่างไรครับ คุณพ่อไม่รักลูกแล้วหรือ ถึงจะส่งลูกไปอยู่กับผู้ใดหาได้รู้ไม่’

แต่เพราะช่วงเวลานั้นที่อินธาราเริ่มไม่ฟังทุกอย่างที่ผู้ใหญ่เอ่ยบอก นิสัยลึก ๆ ของตนเลยยืนกรานขึ้นเถียงคำไม่ตกฟากต่อบิดาที่รักตนเยื่องชีพของท่านเอง

“หากอาการโศกเศร้าดีขึ้นแล้ว ไปขอโทษคุณพ่อเสียหนาลูก”

“ครับคุณแม่”

อินรับปากว่าจะไปขอโทษคุณพ่อต่อเรื่องที่ตนพูดจาไม่ดีออกไป แต่ใช่ว่าจะยอมรับสิ่งที่ตระกูลพร่ำสอนมาเสียหน่อย เด็กหนุ่มวัยเพียง 18 ปีมาไม่นานอย่างเขา จะต้องรีบแต่งงานไปไย ชีวิตก็หาได้ใช้คุ้มค่าเสียที่ไหนกันเชียว

แม้ที่ผ่านมาจะอยู่ในร่องในรอยตลอด แต่กระนั้นก็เป็นเพียงสิ่งที่ถูกพร่ำสอน หาได้เป็นอย่างที่ใจตนอยากจะเป็นไม่ อินธาราที่ภายนอกเป็นชายร่างเล็ก มีมารยาทดี กิริยางามไม่ต่างไปจากบุตรสาว แต่ความเป็นจริงนั้น เขาอยากจะกระโดดโลดเต้นเสียให้รู้แล้วรู้รอด

แต่หากทำตามใจอยาก คุณพ่อคงได้ลงโทษเป็นแน่

“แต่ลูก ไม่อาจหักใจแต่งงานกับคนผู้นั้นได้จริง ๆ ครับคุณแม่”

“โธ่ ลูกรักของแม่”

“เราจะทำเช่นใดคะ หากลูกไม่ยอมปลงใจแต่งงานกับตระกูลนั้น”

“จะทำเช่นใดได้ หากไม่แต่ง คุณพ่อของเจ้าจะไม่ตื่นจากหลุมศพมาบีบคอข้าหรอกหรือ?”

เพราะคำมั่นของเขยที่ตบแต่งกับลูกหลานตระกูลนี้คือการทำตามธรรมเนียมที่สืบสานกันมาหลายชั่วคนของตระกูลศิวกร แม้เรื่องเมียที่แต่งงานออกไปจะต้องใช้นามสกุลของสามียังไม่สามารถทำได้ กลับเป็นสามีเจ้าเสียเองที่ต้องเปลี่ยนนามสกุลตามเมียมา

“อินธาราไม่เคยดื้อรั้นต่อเรา แต่การนี้ไม่เหมือนอินธาราที่เรารู้จักเลยนะคะ”

“พี่สัญญาต่อพ่อของเจ้าไปแล้วหนา พี่จะต้องทำให้สำเร็จจนได้”

สองสามีภรรยาที่เริ่มรักกันจากการคลุมถุงชนเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร พวกท่านยังสามารถรักและอยู่ด้วยกันได้จนมีอินธารา เหตุใดลูกรักจะไม่เป็นอย่างนั้น หากมัวพะวงรัก ไม่รัก เมื่อใดจะได้แต่งงานกัน

“ลูกเข้าใจว่าเราไม่รัก น้องไม่อาจทำใจเรื่องนี้ได้”

“พี่เข้าใจความรู้สึกเจ้า”

อินธารายังคงปักใจว่าพวกท่านต้องการเงินทองหรือกระไร แต่หาได้กังวลเรื่องทรัพย์สินเงินทองไม่ ตระกูลศิวกรใช่สิ้นไร้ไม้ตอก ทรัพย์สินที่มีก็มากล้นเก็บกินจนตายก็ไม่หมดไปในเร็ววัน แต่ที่ต้องทำไปก็เพราะคำมั่นของรุ่นต่อรุ่น ที่เปรียบเสมือนศักดิ์ศรีทั้งชีวิตของผู้นำในช่วงนั้น

หากไม่ทำให้เรื่องนี้เป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ชาวบ้านที่กำลังจับตามองอยู่รอบทิศ ไม่แม้แต่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษของศิวกรในหลุมศพก็คงไม่ให้อภัยยามที่ต้องตายแล้วไปพบเจอหน้ากัน

“ลูกขอโทษคุณพ่อครับ ที่พูดล่วงเกินไปเมื่อเช้าวันนี้”

“พ่อไม่ถือโทษโกรธอินหรอก แต่พ่ออยากให้ลูกเข้าใจทุกอย่างเสียหน่อย พ่อไม่ได้หมายใจจะทอดทิ้งลูกให้ไปอยู่กับผู้อื่นหนา”

“...”

อินธารานั่งฟังอยู่บนเก้าอี้ไม้สักเก่าราคาสูงด้วยท่าทีสงบเสงี่ยมทั้งภายในใจหาได้เป็นอย่างท่าทีที่แสดงออกมา จิตใจที่ไม่อยู่กับร่องกับรอยคิดเพียงหาทางออกของเรื่องนี้อย่างเดียวลืมหลุดหายและตัดขาดจากโลกภายนอก

“ได้ตั้งใจฟังที่พ่อพูดหรือไม่?”

“...”

“อินธารา”

“ครับคุณพ่อ”

ไม่รู้ว่าเหม่อครุ่นคิดเรื่องนั้นไปนานมากเพียงใด หลังจากที่คุณพ่อและคุณแม่ต่างไปช่วยกันเรียกลูกชายของตนพร้อมกับมือเล็ก ๆ ของมารดาที่แตะลงกับหลังมือให้ได้สติ

“เป็นอะไรหรือ?”

“เปล่าครับ ลูกเพียงเหม่อคิดถึงเรื่องงานแต่ง”

ไม่ว่าจะมองยังไงชวินทร์ก็แลเห็นเพียงความกังวลใจของลูกชายตน เรื่องนี้คงยากจัดการตามภรรยาว่าไว้ อินธาราไม่ใช่คนหัวแข็ง แต่พอมามีเรื่องนี้เข้ากลับพูดจาโผงผางขึ้นกลางวงดั่งไม่มีผู้ใดสั่งสอนมาก่อน

อินธาราครานี้กับอินธาราคราก่อนหาได้ใช่คนเดียวกันอย่างที่คุณพ่อคุณแม่รู้จัก แต่รังจะบังคับคาดคั้นกันมากเกินไปก็จะเอาไม่อยู่พลอยให้คลางแคลงใจกันไปเสียเปล่า

“คิดอย่างไรหรือ เหตุใดไม่เอ่ยเป็นถ้อยคำบอกพ่อ”

“ลูกไม่ได้คิดอะไรแล้ว ลูกอยากพักผ่อน ขอตัวนะครับ”

“รอพ่อพูดอีกเรื่องก่อนเถอะหนา”

“...”

มือเล็กที่กำลังผสานประกบกันตรงหน้าหวังกราบลาจำต้องล้มเลิกไปเพื่อฟังสิ่งที่ชวินทร์จะพูดเอ่ยเรื่องที่ต้องการบอกสำหรับกำหนดการ ไม่รู้ว่ามันเร็วไปหรือไม่สำหรับอินธารา แต่กำหนดการมันตายตัวแต่สมัยก่อน หากต้องเลื่อนไปคงไม่เป็นการดี

“ลูกจงเตรียมตัวไว้เสีย อีกสองสามวัน ตระกูลทางโน้นคงได้พากันมาดูตัวลูก”

“เร็วถึงเพียงนี้เลยหรือครับ?”

ความโศกเศร้ายังไม่ทันได้หายไปเสียด้วยซ้ำ อีกไม่กี่วันก็ถึงเวลาดูตัวตามที่คุณพ่อเอ่ยบอก อินธาราผู้นี้จะต้องทำอย่างไรดี

“คุณอินของป้าเป็นอะไรหรือคะ?”

“...”

อินธาราที่นั่งเกยคางบนหลังมือกับขอบหน้าต่าง นัยน์ตาที่ไร้ความสุขมองยังด้านนอกอย่างไร้จุดหมาย เห็นทีป้าพร แม่บ้านคนสนิทที่เลี้ยงอินธารามาตั้งแต่วัยเยาว์ยันโตคงต้องเข้าไปถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง

“ไม่สบายใจเรื่องแต่งงานหรือคะ?”

“จ้ะ อินไม่ได้หมายใจอยากจะแต่งงานเลยสักนิดเดียว”

“แต่เรื่องแบบนี้ ก็อยู่คู่ศิวกรมานานหลายชั่วอายุคนแล้วนะคะ”

สำหรับป้าพรแล้ว แม้จะเป็นเพียงแม่บ้านแต่ก็สนิทและเข้าใจอินธาราเป็นที่สุด เลี้ยงดูและดูแลมาเป็นอย่างดี แถมยามที่อินมีเรื่องทุกข์ใจอะไรก็มักได้ป้าพรเป็นที่ปรึกษาเสมอหรือแม้แต่นิสัยส่วนตัวของอินธาราจริง ๆ ป้าพรยังรู้เป็นอย่างดี

กับเรื่องแบบนี้ก็เช่นกัน ที่อินธาราไม่คิดจะปกปิดความรู้สึกจริง ๆ ภายในใจแก่ป้าพรให้ได้รับรู้

“อินรู้จ้ะ หากเลือกได้ อินก็ไม่ได้อยากจะเกิดในตระกูลนี้”

“คุณอินของป้าไยพูดแบบนั้นออกมาเล่าคะ หากคุณพ่อคุณแม่ได้ยิน พวกท่านจะเสียใจเอาหนา”

สิ่งที่อินพูดบอก เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ ทำไมการเกิดมาในตระกูลนี้ ถึงไม่มีอิสระในตัวเองเลยสักอย่าง แม้แต่เลือกคนที่รักด้วยตนเองก็ไม่มีอย่างนั้นหรือ

ธนบัตรแบงก์ร้อยหลายปึกถูกจับออกจากตู้ใส่เงินของอินธาราโดยเจ้าของในคืนก่อนดูตัวที่จะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้เช้า หลังจากที่ครุ่นคิดต่อเรื่องนี้อยู่นาน สุดท้ายอินก็เลือกที่จะหนี แม้สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้จะทำให้ตระกูลตนเสียหน้ามากเพียงใด

แต่อินก็หาได้ทำใจเรื่องแต่งงานได้จริง ๆ

เงินเก็บทั้งหมดที่ถูกหยิบมากองรวมนับแสนบาทที่สมัยนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากมหาเศรษฐีที่ร่ำรวย อินธาราคิดเพียงว่าจะเอาเงินเก็บของตนก้อนนี้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เท่านั้น

“ลูกขอโทษนะครับ ลูกขอยอมเป็นคนเนรคุณดีกว่าต้องมาหักใจแต่งงานกับผู้อื่นที่ไม่ได้รักหรือชอบพอกันแบบนี้”

เงินจำนวนนั้นที่ถูกหยิบออกจนตู้โล่ง กำลังถูกบรรจุใส่ลงกระเป๋าสะพายที่นายฝรั่งมาเสนอขายให้คุณพ่อเมื่อเดือนก่อนจนเป็นของใช้ของอินธาราในตอนนี้

“คุณอินของป้า จะทำอย่างนี้จริง ๆ หรือคะ?”

“ป้าพรอย่าห้ามอินเลยจ้ะ อินคิดดีแล้ว”

ป้าพรเป็นคนแรกที่รับรู้แผนการของอินธาราเรื่องหนีออกจากบ้านไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ นอกจากจะไม่ได้บอกเรื่องนี้แก่ผู้นำตระกูลแล้ว ยังถูกหยิบยืมตัวมาอยู่ในแผนนี้ด้วยเหมือนกัน

‘ป้าพรหลับให้สนิทไปเลยนะจ๊ะ หากเช้าแล้วก็ตะโกนออกไปให้ดังว่าอินธาราหนีไปเสียแล้ว’

‘คุณอินของป้า ไม่ทำอย่างนี้ได้หรือไม่คะ?’

‘ป้าพรรักอินผู้นี้หรือไม่จ๊ะ’

‘รักสิคะ ป้ารักคุณอินมาก ๆ เลยค่ะ’

‘หากป้าพรรักอิน ก็ช่วยอินให้หลุดออกจากความทุกข์นี้ทีนะจ๊ะ’

เพราะแบบนั้นป้าพรที่ไม่เห็นด้วยก็นึกอดไม่ได้ที่จะสงสารคุณอินของเธอ เลยตกลงว่าจะไม่นำความนี้ไปบอกให้ชวินทร์และเขมมิกาได้รู้ตัวเสียก่อนที่อินธาราจะหนีไปได้สำเร็จ

“คุณอินรู้แล้วหรือไม่คะ ว่าจะไปอยู่ที่ใด?”

“ไม่จ้ะ อินยังไม่รู้”

เพราะอินธาราตอบออกมาแบบนั้น ป้าพรก็ยิ่งพะวงและนึกเป็นห่วงคุณหนูของเธอหนักมากขึ้นไปอีก อินธาราที่ไม่เคยใช้ชีวิตลำบาก จะต้องไปอยู่ ไปนอน ไปกินอะไรหากไม่มีคนคอยดูแล

“ให้ป้าไปด้วยได้หรือไม่?”

“อินไม่อยากให้ป้าพรต้องไปลำบากร่วมกับอินหรอกจ้ะ หากได้ที่อยู่ใหม่แล้ว อินสัญญาว่าจะส่งจดหมายถึงป้าพรนะจ๊ะ”