ลิขิต โลหิต จันทรา

205.0K · จบแล้ว
ไป๋ชิงหง-เกียร์สายฟ้า
68
บท
20.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

บุตรีของเสนาบดีกรมโยธาธิการคนใดจะถูกท่านอ๋องน้อย ‘เว่ยฉืออวี่หยาง’ หมั้นหมาย คนทั่วทั้งเมืองหลวงก็สุดจะรู้ ทว่านาง ‘เซียวม่านหลิว’ หาทางหนีทีไล่ให้ตัวเองได้อย่างทันท่วงทีแล้ว นางปลอมตัวเป็นบุรุษปะปนไปกลับขบวนพ่อค้าเพื่อออกจากเมืองหลวง มิคาดว่าขบวนพ่อค้ากลับมุ่งหน้าไปยังทิศทางของสุสานหลวง กลายเป็นขบวนโจรขุดสุสานไปเสียนี่ ลักลอบขุดสุสานมีโทษประหารเจ็ดชั่วโคตร นางรับผิดชอบไม่ไหวแน่ แต่คนหรือจะสู้ฟ้าลิขิต จู่ๆ นางก็ตกลงไปในสุสานของเชื้อพระวงศ์ผู้หนึ่ง โลหิตเป็นสื่อนำ พลังอำนาจลึกลับกลับชักจูงให้นางไม่อาจหลบหนี กลายเป็นการปลุกให้ใครบางคนตื่นขึ้นมา ทั้งยังตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าหล่อเหลาเหลือร้าย และน่ากลัวอย่างยิ่ง “เว่ยฉือหลี่หมิง คือชื่อของข้า” “ท่านแซ่เว่ยฉือ มิใช่เป็นเชื้อพระวงศ์หรอกหรือ?” “นั่นย่อมใช่แน่นอน” ครั้นได้ยินคำตอบของเขา ขนลุกชูชันไปทั้งกาย จักรพรรดิพระองค์ก่อนมีพระนามเดิมว่า…เว่ยฉือเทียนหลาง สวรรค์! ศพมีชีวิตผู้นี้ถึงกับแก่กว่านางสามรุ่น เขาถือเป็นปู่ทวดของเว่ยฉืออวี่หยาง นี่นางหนีเสือปะจระเข้เช่นนั้นหรือ!?

นิยายผจญภัยนางเอกเก่งแวมไพร์นิยายจีนโบราณนิยายรักโรแมนติกนิยายศิลปะการต่อสู้นิยายแฟนตาซีนิยายกำลังภายในหนีแต่งงานนิยายประวัติศาสตร์

บทนำ

‘เซียวม่านหลิว’ ธิดาคนที่สามของเสนาบดีแห่งกรมโยธาเซียวอี้ไฉ ปีนี้อายุครบสิบหกปีบริบูรณ์รูปโฉมงดงาม หลักจริยาครบถ้วน ความสามารถทางการเรือนไม่ขาดตกบกพร่อง ถือได้ว่าเป็นยอดหญิงงามอันครบถ้วนสมบูรณ์ จักรพรรดิองค์ที่สิบห้าแห่งต้าถัง ‘เว่ยฉือซินหย่ง’ คิดเป็นพ่อสื่อหมั้นหมาย เซียวม่านหลิว กับ ‘เว่ยฉืออวี่หยาง’ ผู้ดำรงตำแหน่งรองเสนาบดีกรมคลัง บุตรชายคนที่สี่ของ ‘จวินจี๋จวิ้นอ๋อง’ ผู้มากความสามารถ ในวันที่สิบห้าเดือนห้าให้เว่ยฉืออวี่หยางยกขบวนของหมั้นไปสู่ขอเซียวม่านหลิวที่จวนตระกูลเซียว

ใครๆ ต่างก็รู้ว่าจักรพรรดิพระองค์นี้ทรงโปรดปรานหลายชายคนนี้มาก ถึงขั้นคิดแต่งตั้งเป็นองค์ชายเสียด้วยซ้ำ การพระราชทานหมั้นหมายในครั้งนี้จึงเป็นไปตามความต้องการของเว่ยฉืออวี่หยางตั้งแต่ต้น ทว่าเพราะไม่ต้องการบีบบังคับนาง ครั้งนี้จึงเป็นเพียงการพระราชทานหมั้นหมาย น่าเสียดายที่เซียวม่านหลิวมิอาจยอมรับไมตรีครั้งนี้ได้

วันที่สิบห้าเดือนห้า เซียวม่านหลิวหายตัวไปอย่างลึกลับ ผู้ที่มารับของหมั้นแทนจึงกลายเป็น ‘เซียวม่านหนิง’ ธิดาคนรองของเสนาบดีเซียวผู้มีจิตปฏิพัทธ์ให้เว่ยฉืออวี่หยางมานานแล้ว ทว่าเว่ยฉืออวี่หยางผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในราชการตั้งแต่อายุยังน้อยไหนเลยจะถูกผู้อื่นจูงจมูกโดยง่าย เพียงค่ำคืนเดียว ประกาศตามหาเซียวม่านหลิวก็ถูกติดไปทั่วทั้งเมืองหลวง

เพราะต้องการหลบหลีกงานหมั้นหมายเพื่อหลีกทางให้พี่สาวคนรองสมหวังในรัก นางจึงปลอมตัวเป็นชายหนุ่มรับจ้างในขบวนพ่อค้า มุ่งหน้าออกจากลั่วหยาง ทว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด งานจิปาถะที่นางมาสมัครกลับเป็นขบวนโจรขุดสุสาน ทั้งสุสานที่กำลังจะขุดนี้ยังเป็นถึงสุสานของราชวงศ์

หนีงานหมั้นว่าต้องโทษหนักแล้ว ทว่าขุดสุสานของราชวงศ์ยิ่งโทษหนักกว่า

ระหว่างการขุดสุสานในครั้งนี้กลับทำให้ชีวิตของนางเปลี่ยนแปลงไป

ดังคำที่ว่า ‘สตรีไม่ควรยุ่มย่ามพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์’

เมื่อนางย่างเท้าเข้าสู่สถานที่แห่งนี้ก็คล้ายกับว่าถูกใครบางคนร้องเรียก จนถูกนักพรตที่อยู่ในขบวนโจรจับได้ว่ามีสตรีปะปนมากับขบวนเดินทางด้วย ครั้นหมายหลบหนีกลับถูกปลายกระบี่เฉี่ยวผิวหนังตรงลำคอจนโลหิตรินไหล เมื่อหยาดสีแดงเปรอะเปื้อนกับพื้นผนังหินของสุสานโบราณแห่งนี้กลับกลายเป็นการปลุกคนผู้หนึ่งให้ตื่นขึ้น

“เว่ยฉือหลี่หมิง คือชื่อของข้า”

“ท่านแซ่เว่ยฉือมิใช่เป็นเชื้อพระวงศ์หรอกหรือ”

“นั่นย่อมใช่แน่นอน”

เขาก็ถูกฝังในสุสานของราชวงศ์มิใช่หรือ

“แต่ชื่อของท่านกลับผิดหลักการอยู่บ้าง ใบหน้าของท่าน ผิวพรรณของท่านน้ำเสียงของท่าน อย่างไรก็ไม่เหมาะกับชื่อหลี่หมิง”

“หมายความว่าอย่างไร”

“ชื่อกลางของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันคือซิน ลำดับถัดมาคืออวี่ ท่านลำดับที่เท่าใดในสายสกุลเว่ยฉือกันเล่า”

เว่ยฉือหลี่หมิงนิ่งอึ้งไปดวงตาคล้ายฉายประกายสีแดงเรื่อเรืองในความมืด “น้องชายของข้าคือเว่ยฉือหลี่จิ้ง ลูกชายของเขาคือเว่ยฉือเทียนหลาง เว่ยฉือเทียนเฟิง”

ครั้นได้ยินคำตอบของเขาสมองของนางก็บิดม้วนขนลุกชูชันไปทั้งกาย “จักรพรรดิพระองค์ก่อนมีพระนามเดิมว่า…เว่ยฉือเทียนหลาง”

เซียวม่านหลินนับนิ้วของตัวเอง ไล่ลำดับรุ่นของเขาอยู่ในใจ

สวรรค์ ศพมีชีวิตผู้นี้ถึงกับแก่กว่านางสามรุ่น เขาถือเป็นปู่ทวดของเว่ยฉืออวี่หยาง ทั้งยังแก่กว่านางตั้งมากโข

ทว่าแทนที่จะตกใจกับคำตอบของนาง ชายหนุ่มกลับหัวเราะเย็นเยียบในลำคอ “ราชทินนามของข้าคือไท่หมิง องค์รัชทายาทลำดับที่หนึ่งซึ่งถูกแต่งตั้งในปีเสวียนจิ้งที่สิบแปด”