เนื้อคู่

80.0K · จบแล้ว
Peanut Butter
39
บท
1.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ที่ไหนก็ตามถ้าเป็นเนื้อคู่กันแล้วก็ย่อมมาพบกันในสักวัน และสายน้ำก็พาพัดย้อนกาลเวลาให้เธอและเขาได้พบกัน บัวหญิงสาวหัวสมัยใหม่ที่พยายามหาวิธีกลับคืนสู่ยุคปัจจุบันจำต้องมาใช้ชีวิตร่วมกับพิพัฒน์ชายหนุ่มผู้ต้องการหลุดพ้นจากอดีตของเขา วันเวลาจะช่วยสร้างสายใยแห่งความรักให้เขาทั้งคู่จนกลายเป็นเนื้อคู่หรือไม่ ติดตามอ่านได้ใน เนื้อคู่

นิยายรักโรแมนติกนิยายแฟนตาซีนิยายรักนิยายปัจจุบันรักหวานๆข้ามมิติโรแมนติกนิยายย้อนยุคนิยายประวัติศาสตร์

1. โชคชะตานำพา

ว๊าย!!!!! ช่วยด้วยยยยย!!!มีคนตกน้ำ!

เสียงตะโกนร้องด้วยความตกใจของผู้คนที่อยู่ในเรือข้ามฟากดังขึ้น หลังจากที่เรือกำลังเข้าเทียบท่าเพื่อส่งผู้โดยสารกราบเรือได้กระแทกเข้ากับโป๊ะเรือทำให้เกิดระลอกคลื่นที่แรงมากพอจะทำให้โป๊ะเรือเอียงลงในทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว บัวยืนอยู่บนโป๊ะเรือไม่ทันได้ระวังตัวเพราะมัวแต่เซลฟีถ่ายภาพตัวเอง แม้ว่าระลอกคลื่นจะไม่แรงมากนัก แต่พอจะส่งให้โป๊ะฝั่งที่บัวยืนเอียงลงในทันที ภาพสุดท้ายที่แทนเห็นคือร่างของบัวกำลังจะตกจากด้านข้างของโป๊ะ แทนตกใจมากเขาตะโกนเรียก

“บัว บัว บัว ....”

จากนั้นเขาก็รีบวิ่งเข้าไปหมายจะคว้าร่างของบัวไว้แต่เพราะพื้นโป๊ะเอียงไปมาไม่นิ่งทำให้แทนยืนทรงตัวไม่ได้

เช่นเดียวกัน เขาทำได้เพียงแค่ยื่นมือออกไปจนสุดแขนแต่ก็คว้าได้เพียงแค่สายกระเป๋าสะพายของบัว ทันทีที่ร่างของบัวจมหายลงไปในแม่น้ำแทนตัดสินใจพุ่งตัวตามลงไป แทนพยายามดำน้ำลงไปแต่น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาวันนี้กำลังขึ้นอีกทั้งผักตบชวาลอยมาเป็นกอ เป็นกอเล็กบ้างใหญ่บ้าง คลื่นกระแทกจากเรือด่วนเจ้าพระยาที่แล่นฉิวผ่านมาเพิ่มอุปสรรคให้กับแทนขึ้นไปอีก

ผู้คนที่อยู่บนโป๊ะเรือข้ามฟาก และคนที่มาให้อาหารปลาต่างพากันส่งเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายจนฟังไม่ได้

ศัพท์เมื่อเห็นหญิงสาวหนึ่งคนตกลงไปในน้ำ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าซึ่งทำหน้าที่ดูแลอยู่บริเวณโป๊ะเรือก็ได้กระโดดตามลงไปช่วยแทนอีกแรง เด็กท้ายเรือข้ามฟากรีบพุ่งตัวตามลงไป เรือข้ามฟากลำนั้นต้องถอยออกไปจอดให้ห่างจากโป๊ะเพื่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำที่มาถึงทำงานได้สะดวกขึ้น

เสียงเอะอะโวยวายที่บริเวณโป๊ะท่าเรือทำให้หลายคนในวัดทราบว่าเกิดอะไรขึ้น คุณยาย น้าเล็ก และแม่ชีที่

อยู่ในศาลา ได้ยินผู้คนพูดว่า

“ที่ท่าเรือโน้นมีผู้หญิงตกน้ำจ้ะ”

หลังจากที่คุณยายฟังผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินมาจากท่าเรือพูดก็นึกถึงคำพูดที่แม่ชีแก้วทักเมื่อครู่เรื่องอายุเบญเพสของบัว ให้ระวังอันตรายเกี่ยวกับน้ำ ตอนนี้ทั้งคุณยายและน้าเล็กต่างมองหน้ากันภายในใจยังไม่อยากจะปักใจเชื่อ จู่ๆแม่ชีแก้วก็พูดขึ้นว่า

“จริงอยู่ว่ากรรมคือการกระทำ ทำดีย่อมได้ดี แต่เรื่องของดวงชะตาที่ถูกกำหนดไว้ ก็ถือเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายให้เข้าใจได้”

น้าเล็กจึงบอกกับคุณยายว่า

“เดี๋ยวเล็กเดินไปดูเองคุณยายรอที่นี่นะคะ”

“อย่าลืมแม่เล็กเราไปด้วยกันหมดนี่หละจ้ะ”

คุณยายเริ่มมีสีหน้ากังวลจึงจะตามน้าเล็กไปโดยทั้งสามรีบเดินตรงไปยังท่าน้ำหน้าวัดในทันใด เมื่อไปถึงบริเวณท่าน้ำหน้าวัดก็เห็นผู้คนมุงกันเกือบมองไม่เห็นบริเวณโป๊ะเรือ ในใจของคุณยายและน้าเล็กทั้งห่วงทั้งกังวล แม่ชีแก้วสังเกตเห็นท่านจึงคว้ามือคุณยายมาบีบเบาๆเพื่อส่งกำลังใจให้คุณยายโดยสีหน้าท่านยังไม่คลายความกังวลลงเลย ส่วนน้าเล็กก็สะกิดแขนคุณยายแล้วพูดว่า

“คุณพระช่วย! คุณยายขาดูนั่น!ค่า พ่อหนุ่มแทนใช่มั้ยค่ะ”

น้าเล็กพูดกับคุณยายเมื่อเห็นแทนซึ่งรักเหมือนหลานชายแท้ พึ่งโผล่พ้นน้ำและดำกลับลงไปใหม่ มีเจ้าหน้าที่หลายคนในน้ำพยายามจะรั้งตัวแทนไว้ คงเพราะไม่อยากให้มีคนได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม และขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้เต็มที่

“แทนขึ้นมาเถอะ แทนเอ้ย!ขึ้นมาเถอะลูก”

น้าเล็กร้องเรียกแทน เมื่อแทนโผล่ขึ้นมาอีกรอบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ 2 – 3 คน ก็เข้าไปอธิบายอยู่ครู่หนึ่ง แทนจึงยอมขึ้นมานั่งรอบนศาลาท่าเรือแต่โดยดี แทนมองดูยายและน้าเล็กด้วยแววตาเศร้าปนสำนึกผิดพยายามจะขอโทษคุณยาย แต่ทั้งคุณยายและน้าเล็กพยายามอธิบายว่ามันไม่ใช่ความผิดของแทนเพราะอุบัติเหตุเป็นเรื่องที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น กลับเป็นฝ่ายผู้ใหญ่ที่เป็นฝ่ายปลอบใจ

แทนซึ่งมองดูเจ้าหน้าที่กำลังดำผุดดำว่ายรอบแล้วรอบเล่า ก่อนที่เขาจะบอกให้คุณยาย น้าเล็ก และแม่ชีแก้วไปนั่งพักอยู่บริเวณศาลาด้านในก่อนเพราะเป็นห่วงว่าจะพลัดตกลงไปในน้ำและเป็นห่วงว่าคุณยายจะหน้ามืดเป็นลม

แม้ว่าบัวจะรู้สึกตัวตลอดว่า ตอนนี้เธอได้พลัดตกลงมาในแม่น้ำ เพราะคาดไม่ถึงประจวบกับยังคงรู้สึกตกใจอยู่ ทำให้บัวทำตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ แต่เมื่อบัวเริ่มได้สติ บัวก็เริ่มใช้ขา และมือกระทุ้งน้ำ พยายามจะดันตัวเองให้โผล่ขึ้นให้พ้นผิวน้ำโดยเร็วที่สุด แต่ดูเหมือนว่าความพยายามของบัวจะไม่เป็นผล เหมือนกับห้วงน้ำบริเวณที่เธอตกลงไปนั้นเกิดกระแสน้ำวน โอบล้อมรอบตัวเธอไว้ไม่ให้เธอไปไหน กระแสน้ำนั้นกลับออกแรงฉุดรั้งตัวเธอให้ดำดิ่งลงไป ลงไป เรื่อยๆ ไม่ว่าบัวจะพยายามออกแรงมากสักเพียงใดก็ไร้ผล และนั่นยิ่งทำให้เธอหมดแรงลงทุกขณะ ร่างกายเธอเริ่มอ่อนล้า เนื่องจากเธอเริ่มขาดอากาศหายใจ สายตาเธอเริ่มพร่า ภาพแห่งความสุขในช่วงสองสัปดาห์ก่อนที่เธอได้อยู่กับแทนก็ปรากฏขึ้นมาในมโนสำนึก ทันใดนั้นแว่วเสียงของแม่ชีที่ทักเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“แม่หนูบัวมีเนื้อคู่ที่เขารอหนูมาหลายภพชาตินะลูก”