ทะลุมิติเป็นขอทานแม่ลูกสอง

71.0K · จบแล้ว
อวิ๋นจวิ้น
32
บท
3.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"จากผู้กองสาวสู่ขอทานแม่ลูกสองในยุคโบราณ แม้ชีวิตจะเริ่มต้นจากศูนย์ แต่นางไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ด้วยทักษะและสองมือที่มี นางตั้งใจสร้างอนาคตใหม่เพื่อปกป้องลูกน้อย ท่ามกลางอันตรายและอุปสรรค"

นิยายรักโรแมนติกนิยายผจญภัยแม่ทัพนางเอกเก่งข้ามมิตินิยายย้อนยุคเกิดใหม่ในนิยายนิยายศิลปะการต่อสู้นิยายประวัติศาสตร์

ทะลุมิติ

เสียงปืนดังก้องกังวานในซอยแคบ แสงสลัวจากไฟถนนสะท้อนเงาร่างของ "จ้าวอวิ๋นหลิน" ผู้กองสาวผู้มากฝีมือเธอหายใจหอบ กระชับอาวุธในมือแน่น ขณะมองไปยังร่างของคนร้ายที่ล้มลงตรงหน้า กลิ่นดินปืนคละคลุ้ง แต่เธอก็ไม่หยุดฝีเท้าวิ่งตามเป้าหมายต่อไป ล่าหัวหน้าแก๊งผู้ค้าของโบราณมาให้ได้

"จับกุมให้ได้!" เธอสั่งทีมผ่านวิทยุด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

แต่แล้ว... ทุกอย่างกลับมืดมิด เมื่อเสียงปังดังขึ้นอีกครั้ง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วอก เลือดอุ่น ๆ ไหลซึมจากบาดแผล มือที่ถือปืนเริ่มอ่อนแรง เธอล้มลงอย่างช้า ๆ มองเห็นเพียงภาพแสงไฟถนนที่เริ่มเลือนราง ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป

เธอคิดว่ามันคือจุดจบของชีวิต...

แต่เมื่อจ้าวอวิ๋นหลินลืมตาขึ้นอีกครั้ง สิ่งที่เห็นกลับไม่ใช่เมืองใหญ่หรือโรงพยาบาล หากเป็นท้องฟ้าหม่น ๆ และกลิ่นสาบเหม็นอับจากพื้นดิน สายลมเย็นปะทะร่างของเธอ ไม่ใช่ชุดผู้กองอีกต่อไป แต่เป็นชุดผ้าขาดวิ่นของหญิงยากไร้

เสียงเรียกเล็ก ๆ ดังขึ้น "ท่านแม่... ท่านแม่!"

นางหันไปพบเด็กสองคนน่าจะเป็นแฝดกัน เด็กชายอายุราวสามขวบและเด็กหญิงตัวเล็กที่น้ำตาคลอเบ้า กำลังกระตุกแขนเสื้อนาง ทั้งสองมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความหวัง

"เด็ก ๆ ...เรียกฉันว่าอะไรนะ? " นางถามด้วยเสียงที่สั่นเครือ

เด็กชายเอ่ยเสียงเบา "ท่านแม่... ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม? "

จ้าวอวิ๋นหลินหายใจลึก ความสับสนเต็มหัวใจ นี่คือที่ไหน?ทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่?และที่สำคัญเหตุใดนางจึงกลายเป็น "แม่" ของเด็กสองคนนี้?

พลันรู้สึกถึงความทรงจำร่างเดิมก่อนตายขึ้นมาในหัว

เสียงตึงตังของฝีเท้าดังขึ้นพร้อมกับเสียงด่าทอที่แสบแก้วหู

"อย่าหนี! คิดจะขโมยซาลาเปาข้าแล้ววิ่งหนีรึ!"

ร่างหญิงสาวในชุดเก่าขาดวิ่นล้มลงกลางถนน ขณะที่มือใหญ่กระชากนางขึ้นมาอย่างรุนแรง

"ขโมยอย่างเจ้า สมควรโดนสั่งสอนให้หลาบจำ!"

เสียงไม้กระบองฟาดลงมาเต็มแรง แววตาของนางเริ่มพร่ามัว ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างเหมือนกับถูกบดขยี้ช้า ๆ

เสียงสุดท้ายที่นางได้ยินคือเสียงหัวเราะสะใจของพ่อค้าขายซาลาเปา… ก่อนที่ความมืดมิดจะเข้าครอบงำทุกสิ่ง

"แต่ฉัน...ตายแล้วไม่ใช่หรือ?ทำไมถึงมีความทรงจำที่ไม่ใช่ฉันโผล่เข้ามา!"

เสียงของนางสั่นไหว รู้สึกได้ว่าร่างกายไม่ใช่ของตัวเองอีกต่อไป แขนและขาที่อ่อนแรง และเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นเต็มไปด้วยรอยเลือดที่แห้งกรัง

ทันใดนั้น เสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นจากข้าง ๆ "ท่านแม่! ท่านแม่ฟื้นแล้ว! ข้านึกว่าท่านจากพวกข้าไปแล้ว"

เด็กชายตัวน้อยวิ่งเข้ามาโอบกอดนาง น้ำตาคลอเบ้า ข้าง ๆ มีเด็กหญิงอีกคนกำลังร้องไห้สะอื้น

"แม่...? " จ้าวอวิ๋นหลินเบิกตากว้าง มองเด็กทั้งสองด้วยความสับสนสุดขีด ก่อนที่ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมเริ่มจะหลั่งไหลเข้ามาในสมอง นางไม่ใช่ผู้กองสาวในยุคปัจจุบันอีกต่อไป แต่เป็นหญิงขอทานที่ถูกตีจนตายเพียงเพราะขโมยซาลาเปาไปให้ลูก ๆ

ท่ามกลางความมึนงงและความเจ็บปวดในร่างใหม่ จ้าวอวิ๋นหลินรู้ว่าชีวิตของนางไม่ได้จบลง แต่เพิ่งเริ่มต้นในโลกที่โหดร้ายแห่งนี้

ท้องของจ้าวอวิ๋นหลินร้องเสียงดังอย่างหนัก ความหิวโหยที่ไม่ได้สัมผัสมานานทำให้นางรู้สึกอ่อนแรงอย่างที่สุด ทั้งหัวใจและร่างกายของนางยังไม่ปรับตัวกับสถานการณ์ใหม่ แต่ความหิวกลับไม่ได้รอให้นางตั้งสติ

นางก้มมองเด็กสองคนที่มองกลับมาด้วยสายตาอ้อนวอน ความเป็นแม่ในร่างนี้ทำให้นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลุกขึ้นไปหาอาหารมาประทังชีวิต

นางเดินไปตามถนนในหมู่บ้านเล็ก ๆ ดวงตาเหลือบมองไปรอบ ๆ หวังจะเจออะไรสักอย่างที่พอจะกินได้ ข้างทางมีเพียงร้านค้าเก่า ๆ กับพ่อค้าแม่ค้าที่ดูจะไม่สนใจนางขอทานอย่างนาง

หลังจากที่นางเดินไปได้สักพัก จ้าวอวิ๋นหลินก็เห็นกองผักที่ถูกทิ้งไว้ข้างร้านขายอาหาร แม้ว่าจะเป็นผักที่เหลือทิ้ง แต่สำหรับนางตอนนี้ มันคือสิ่งเดียวที่ช่วยชีวิตได้

นางรีบยื่นมือไปหยิบผักเหล่านั้นใส่มือ พยายามจะหามากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทันใดนั้นเสียงตวาดดังขึ้นจากด้านหลัง

"เจ้าทำอะไรน่ะ! ขโมยผักของข้ารึ!"

จ้าวอวิ๋นหลินสะดุ้ง หันไปพบพ่อค้าร่างใหญ่ที่กำลังมองนางด้วยสายตาเกรี้ยวกราด นางกำผักในมือแน่น น้ำลายที่กลืนไม่ลงเพราะความหิวทำให้นางตัดสินใจจะขอเอาผักนี้ไป

"ข้า...ข้าขอแค่เพียงผักเหลือทิ้งนี้ ข้าและลูกต้องกินเพื่อประทังชีวิต"

พ่อค้าเหลือบมองนางอย่างเหยียดหยาม ก่อนจะส่ายหัวและผลักนางออกไป "ไปให้พ้น! หากไม่อยากตายก็อย่ามาขโมยของข้า!"

จ้าวอวิ๋นหลินเซถอยหลัง หัวใจเต้นแรงทั้งจากความอายและความหิว นางต้องทำอย่างไรต่อไปในเมื่อแม้แต่ผักเหลือทิ้งก็ไม่อาจได้มา?

ทันใดนั้นเอง เด็กชายตัวน้อยคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมซาลาเปาในมือ เขามองนางด้วยดวงตาใสบริสุทธิ์ก่อนจะยื่นซาลาเปาให้

"เอานี่ไปเถอะ ท่านแม่บอกว่าควรแบ่งปันให้คนที่หิวโหย"

จ้าวอวิ๋นหลินมองซาลาเปาในมือเด็กน้อย รู้สึกเหมือนหัวใจนางถูกกระทบด้วยความอบอุ่น น้ำตาคลอเบ้าด้วยความตื้นตัน ก่อนที่นางจะยื่นมือไปรับและกล่าวขอบคุณด้วยเสียงสั่นเครือ

"ขอบใจเจ้ามาก..."

นางแบ่งซาลาเปาให้เด็กน้อยทั้งสองที่รอคอยด้วยความหิว พวกเขากินอย่างรวดเร็ว

ส่วนจ้าวอวิ๋นหลิน แม้จะหิวแค่ไหนนางกลับรู้สึกถึงความหวังเล็ก ๆ ที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ

จ้าวอวิ๋นหลินนั่งพิงกำแพงเก่า ๆ มือจับซาลาเปาที่แบ่งให้ลูก ๆ กินจนหมด แม้กระเพาะของนางยังคงร้องเรียกหาอาหาร แต่ความคิดของนางเริ่มหมุนวนไปสู่เรื่องราวอันคลุมเครือ ความทรงจำบางอย่างของร่างนี้ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาเหมือนเศษซากที่จมหายอยู่ใต้ผืนน้ำ

นางพยายามเรียบเรียงความรู้สึกแปลกประหลาดนี้ ร่างกายนี้ไม่ใช่ของนาง ความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้ที่มีชีวิตไม่ต่างจากฝันร้าย มันซ้อนทับเข้ามาในสมองอย่างหนักหน่วง

นางชื่อ “ซูอวิ๋นหลิน” หญิงสาวผู้เคยมีชีวิตที่ดีในครอบครัวธรรมดา แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไปเมื่อนางตั้งครรภ์โดยไม่มีพ่อของเด็ก เด็กทั้งสองคนที่นางกอดไว้นี้เป็นลูกของนาง แต่เพราะการตั้งครรภ์ที่ไม่มีพ่อ นางถูกครอบครัวตัดขาด ไล่ออกจากบ้านโดยไม่สนใจว่าชีวิตของนางและลูกน้อยจะเป็นอย่างไร อีกทั้งชื่อของนางยังคล้ายนางอีกด้วยยกเว้นแซ่เท่านั้น

"นาง...ถูกขับไล่เพราะเรื่องแบบนี้เองหรือ? "

จ้าวอวิ๋นหลินพึมพำเสียงแผ่ว ความเศร้าและความเจ็บปวดจากความทรงจำของร่างเดิมกดทับลงบนหัวใจของนาง ทำให้นางรู้สึกถึงความสิ้นหวัง

ซูอวิ๋นหลินพยายามดิ้นรนใช้ชีวิตเพื่อเลี้ยงลูกทั้งสองคนตามลำพัง แต่ความยากจน ความอดอยาก และการถูกสังคมกดขี่ทำให้นางไม่มีทางออก ในที่สุดนางก็เสียชีวิตเพราะถูกตีจนตายขณะที่ขโมยซาลาเปาเพียงเพราะความหิว

จ้าวอวิ๋นหลินหลับตาลง รู้สึกถึงความเจ็บปวดและความอับอายของร่างเดิมที่ส่งผ่านมาถึงนาง น้ำตาไหลออกมาช้า ๆ นี่คือชีวิตที่นางจะต้องสานต่อ ชีวิตของหญิงที่ไร้ที่พึ่ง หญิงที่ถูกทอดทิ้งจากทุกสิ่งในโลก

นางคิดในใจ ท่ามกลางความหิวโหยและความอ่อนล้า จ้าวอวิ๋นหลินตัดสินใจว่านางจะต้องทำให้ชีวิตนี้ดีกว่าเดิม นางจะต้องปกป้องลูกทั้งสอง และกอบกู้ชีวิตใหม่ขึ้นมาด้วยสองมือของนางเอง

นางจะไม่ยอมเป็นขอทานตลอดไป!