พลังเหนือมนุษย์

บอดี้การ์ดเทพนักพรต
เมื่อสิบปีก่อน “เย่เฉิงเฟิง” คือคุณชายไร้ประโยชน์ของตระกูล ถูกสาวน้อยถอนหมั้นและถูกตระกูลเฉดหัวทิ้งอย่างไร้เยื่อใยจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน วันหนึ่งได้รับมรดกบำเพ็ญเซียน สิบปีต่อมาเขากลายเป็นพลเอกแห่ง “มังกรแฝง” ผู้ผ่านศึกมานับไม่ถ้วน เพื่อแลกกับทรัพยากรในการฝึกฝน เขาได้รับภารกิจให้ไปปกป้องประธานสาวคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนซี้ของอดีตคู่หมั้นเขา! ภารกิจครั้งนี้เปิดประตูสู่ความลับที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน ความจริงที่ซ่อนอยู่กำลังจะเปิดเผย…

เนรเทศไม่เป็นไร ข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียง!
ถูกเนรเทศ…!? เรื่องเล็ก! เพราะข้าเกิดใหม่พร้อมคลังเสบียงไร้ขอบเขต เซี่ยหยู่ หญิงสาวศตวรรษที่ 21 ทะลุมิติมาอยู่ในร่างขององค์หญิงที่ถูกฮ่องเต้โยนให้ไปอยู่ในดินแดนกันดารพร้อมกับองค์ชายตัวน้อย แต่ไม่เป็นไร ในมือของนางมีระบบคลังเสบียง มีให้กินให้แจกแบบไม่อั้น ของหายากทั่วแผ่นดิน รวมถึงคลังสมบัติของฮ่องเต้ นางจะกวาดเข้าคลังสมบัติให้เรียบ! ดินแดนกันดารหรือ? ฟื้นฟูใหม่ไม่ยาก รอหน่อยเถอะ...องค์หญิงผู้นี้จะสร้างอาณาจักรใหม่ให้ฮ่องเต้ตะลึงจนพูดไม่ออกเลย!

นางร้ายกลายเป็นแม่หมอปราบผี
บัวบูชาเป็นลูกสาวพ่อหมอปราบผี ดันทะลุมาอยู่ในร่างของสตรีที่มีนิสัยร้ายกาจ แต่ครั้งนี้นางไม่ได้ทะลุิติมาคนเดียว นางยังมีกุมารน้อยปิงปิง ที่ทะลุมิติตามนางมาด้วย ภารกิจช่วยผีและปราบผีจึงเกิดขึ้น

ท่านเทพเจ้าขา ข้าต้องการปลาทองของท่าน
นางเป็นถึงเซียนชั้นสูงวันที่ผ่านพ้นใช้ชีวิตและเวลาไปกับการบำเพ็ญเพียรแต่เมื่อกลายเป็นเทพแดนสวรรค์ชั้นเก้าก็ต้องมาตกสวรรค์ลงไปเกิด เพ้ยจะลงไปเกิดก็ไปสิจะมาลากนางไปด้วยทำไมนางจะไปเสพสุขที่สวรรค์ชั้นเก้า

ข้าเป็นแค่สาวใช้
เมื่อรู้สึกตัวขึ้นมา เหมยหลิงก็มั่นใจในทันทีว่า... นี่ไม่ใช่บ้านของเธอแน่ เพดานไม้เก่า กลิ่นสมุนไพรจาง ๆ และเสียงสาวใช้ข้างนอกที่พูดจาแปลกหู ล้วนยืนยันสิ่งเดียวกัน — เธอหลุดเข้ามาอยู่ในโลกนิยายที่เพิ่งอ่านก่อนนอนเมื่อคืน! “อย่าบอกนะว่า...นี่มัน ‘ชะตาสาวใช้ในจวนอ๋อง’?” เธอพึมพำออกมาเบา ๆ ก่อนจะหน้าซีดเผือดขึ้นทันที เพราะจำได้ดีว่าตัวละครชื่อเหมยหลิงในเรื่องนี้ — สาวใช้คนงามที่บังเอิญล่วงรู้ความลับของเจ้านาย — ถูกโบยจนตายอย่างอนาถในตอนที่สาม “ไม่เอานะ...อีกแค่สองตอนเองก็จะถึงฉากนั้นแล้ว!” เธอกุมขมับ ถอนหายใจยาว “เฮ้อ...ใครจะยอมตายกันล่ะ” ไหน ๆ ก็ต้องติดอยู่ในเรื่องนี้แล้ว เหมยหลิงจึงนั่งทบทวนเนื้อเรื่องทั้งหมดที่จำได้ พลางคิดหาทางเอาตัวรอดให้เร็วที่สุด ก่อนที่โชคชะตาในนิยายจะตามมาทัน

เสิ่นชิงรั่ว
บรรยากาศในห้องหนักอึ้งราวกับมีพายุกำลังก่อตัว"หนิงชิงรั่ว" หนิงเจิ้งเป็นฝ่ายเปิดฉาก เขากระแทกมือลงบนโต๊ะเสียงดังปัง "เมื่อเช้าเธอทำบ้าอะไรลงไป คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงกล้ามาพูดจาสั่งสอนพี่ๆ ของเธอแบบนั้น เธอจงใจจะสร้างความแตกแยกให้บ้านนี้ใช่ไหม" ชิงรั่วเพียงยืนนิ่ง มองตอบกลับไปด้วยแววตาที่ว่างเปล่า ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย "พี่ๆ เหรอคะ?" เธอทวนคำ "หนูไม่แน่ใจว่าตอนนี้เรายังอยู่ในสถานะนั้นกันอีกหรือเปล่า" "แก" คำตอบของเธอราดน้ำมันลงบนกองไฟ สวีลู่ลุกพรวดขึ้นชี้หน้าเธอ "นังเด็กอกตัญญู ตระกูลหนิงเลี้ยงแกมาจนโต ยังไม่สำนึกบุญคุณอีก ตั้งแต่เวยอันกลับมา แกก็พยศขึ้นทุกวัน ทำให้ลูกสาวฉันไม่สบายใจ แกมันเป็นตัวหายนะ"

รสสวาทควาญช้าง
“อ๊อย... เสียวเหลือเกิน” ลิลลี่ชันข้อศอกขึ้นมองสองเต้าของตัวเอง คำรณขยี้ลิ้นแรงๆ ดูดแรงจนหัวนมยุบยวบจมหายลงในวงป้านลานหัวนมสีเนื้อซึ่งเป็นฐานรองรับ จากนั้นก็ดูดรวบขึ้นมาแรงๆ เสียงดังจ๊วบ ส่งผลให้เม็ดหัวนมแข็งโด่เป็นตุ่มไตแดงเรื่อ “ชอบให้ผมดูดไหมครับ” คำรณถามเสียงกระเส่า

เจ้าสาวแวมไพร์ [PWP] + [NC30+]
อย่ากัดตรงนั้น...มันเสียว

ลูกกรอกขุนแผน (NC20+)
อำนาจ โชคลาภ บารมี และมนต์มหาเสน่ห์ ความลับของความมั่งคั่งประจำตระกูลที่ส่งต่อกันมาหลายชั่วอายุคนกำลังจะถูกส่งต่อให้ลูกชายรุ่นใหม่ "ลูกกรอกขุนแผน" หากใช้ไม่ระวัง ภัยจะมาเยือน

ฮูหยินแม่ทัพไม่ง่าย
สามีฟื้นความทรงจำรู้ว่าตนเองเป็นถึงแม่ทัพ เดิมกู้เฉียวจิงจะต้องกลายเป็นอนุ แต่ว่ากู้เฉียวจิงในฐานะอดีตนักฆ่าเกิดใหม่พร้อมตู้ยา ไม่ยอม แม้เป็นฮูหยินแม่ทัพไม่ใช่เรื่องง่าย ก็จะทวงคืนฐานะเมียเอกให้ดู

เมื่อสตรีเช่นข้าขโมยดวงจ้าวมังกร
เมื่อ 'อวี้เสวี่ยหนิง' สาวงามผู้ดื้อรั้นและไม่เชื่อในเทพเจ้า กลับทำให้ชะตาของ ‘หลงอวี่’ จ้าวมังกรแห่งทิศประจิมผู้เยือกเย็นต้องถึงจุดพลิกผัน เมื่อนางขโมยดวงชะตาแห่งชีวิตอมตะโดยไม่รู้ตัว

อามาร์
"เวตาลอามาร์" เฝ้ารอนางอันเป็นที่รักมาตลอดสี่พันห้าร้อยปี แน่นอนเขามีอายุเกือบหมื่นปี และตอนนี้นางก็กลับมาแล้ว "พุฒิตา" ไม่เชื่อเรื่องอดีตแต่เมื่อถูกเวตาลหื่นกามจู่โจมแล้วเธอจะต้านทานไหวได้ยังไงเมื่อเขามีหน้าตาหล่อขยี้ใจขนาดนั้น เป็นใครจะต้านและทนไหวเมื่อถูกขยี้ 'รัก' ดุดัน +++++ “อ่า...คุณมันไม่ใช่คน อะ...อื้อ” แล้วเธอก็ต้องร้องครางซ่านออกมาเมื่อปากหนากัดคลึงยอดอกตัวเองหนักหน่วง “ข้าคือเวตาล และเป็นเวตาลที่มีแค่เจ้าคนเดียวเท่านั้นที่จักได้ครอบครองร่างกายกับจิตวิญญาณของข้ายอดรัก อ่า...” แล้วปากหนาก็เคลื่อนไล้มายังหน้าท้องแบนราบที่กำลังเคลื่อนไหวตามแรงหอบหายใจของเจ้าของร่างเล็กระหงน่าทะนุถนอม “คุณมันต่ำช้า!” “เดรัจฉานเช่นข้ามิมีความดีให้พูดถึง นอกจากความต่ำทราม ดวงใจของข้าเอ๋ย...อื้ม” แล้วเขาก็ไล้ปลายลิ้นสากลามเลียหน้าท้องแบนราบไปยังความเป็นสตรีของนางอันเป็นที่รักที่อวบนูนสวยงามแถมยังฉ่ำแฉะเพื่อรอให้ตนกลืนกินน้ำเกสรงามอีกด้วย ++++++ ว้าย! “น้ำบ้า! นึกอยากหยุดก็หยุด นึกอยากไหลก็ไหล” พุฒิตายกมือปัดน้ำที่เข้าตาออกทิ้งพร้อมบ่นและเริ่มอาบน้ำต่อ แต่พอได้ยินเสียงหัวเราะขำอยู่ด้านหลังก็รู้ในทันทีว่าใครทำให้น้ำหยุดไหล หึหึ “คุณ!” เธอเอี้ยวหันหน้ามาทางเจ้าของต้นเสียงพร้อมกับปิดน้ำ คว้าผ้าเช็ดตัวที่ชั้นวางผ้าเช็ดตัวมาห่อหุ้มตัวเปลือยให้พ้นสายตาเจ้าเล่ห์ที่มองมายังตน “ทำไมไม่อาบต่อเล่า ข้าเองก็เหนียวตัวเช่นกัน” มือใหญ่ยกขึ้นถอดเสื้อสูทตัวนอกออกแล้วปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวในของตัวเองทีละเม็ดทั้งๆ ที่แค่ใช้เวทคาถาเสื้อผ้าก็หลุดแล้ว แต่เขาอยากปลดถอดมันออกทีละชิ้นต่อหน้านางมากกว่าใช้วิธีเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ

The dimensions มิติปีศาจ
ศูนย์บัญชาการการปราบปรามและรับมือสิ่งเหนือธรรมชาติแห่งประเทศไทย รัฐบาลไทย จำเป็นต้องจัดตั้ง องค์กรนี้ขึ้นมาและรวบรวมผู้ที่มีพลังเหนือธรรมชาติ เข้ามาในองค์กรเพื่อมาป้องกันมหันตภัยที่เกิดจากปีศาจพวกนี้ โดนการคัดเลือกจะเลือกเฉพาะผู้ที่มีพรสวรรค์และมีพลังตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเป็นพลังที่ได้รับพรจากพวกเทพเจ้าต่างๆ เข้าไปจัดการกับปีศาจก่อนที่พวกมันจะเข้ามายังในโลกความเป็นจริง โลกคู่ขนานเป็นโลกอีกมิติที่พวกปีศาจสามารถแทรกแทรงเข้ามาก่อความวุ่นวายในนี้ได้โดยที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นมหันตภัยที่โลกจริงแทน ความรุนแรงก็แล้วแต่ชนชั้นของปีศาจที่เข้ามาก่อความวุ่นวาย ยิ่งพลังเยอะมากเท่าไหร่ก็จะส่งผลเสียกับโลกจริงมากเท่านั้น

ทะลุมิติมาเป็นบุตรสาวหญิงหม้าย
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี้ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น

องค์ชายใหญ่ก็ดี องค์ชายสี่ก็ได้
นางคือภูติที่มีลมหายใจวิเศษและได้เจอกับสององค์ชายจนเชื่อมโยงจิตวิญญาณ พวกเขาต่างช่วงชิงตัวนาง ส่วนนางเล่ากลับไม่อาจตัดสินใจ พวกท่านอย่าได้ทำเช่นนี้ ข้าเลือกไม่ถูกแล้ว ---------------------------------- นางคือภูติซึ่งมีลมหายใจวิเศษแต่กลับถูกหลอกลวงเพื่อใช้งานจนพลังสูญสิ้นและหมดประโยชน์จึงถูกปล่อยให้ตายอย่างไร้ค่า เมื่อได้โอกาสฟื้นขึ้นมาพบว่ามีองค์ชายถึงสองคนที่ต่างกล่าวหากันและกันแล้วช่วงชิงตัวนาง ในความทรงจำพวกเขาล้วนเห็นแก่ตัว ไม่ได้ชอบนางอย่างแท้จริง เพียงเห็นแก่พลังวิเศษของนางเท่านั้น เหตุใดคราวนี้พวกเขากลับไม่แย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทกันอย่างดุเดือดเช่นเดิม แต่เปิดศึกแย่งนางอย่างเอาเป็นเอาตาย ---------------------------------- เรื่องนี้นางเอกควบสองนะคะ ออกแนวโดนแย่งไปมา จบดีมีความสุขค่ะ

วิศวะอาคม NC25+
จะไสยหรือจะเสว... เดี๋ยวได้รู้กัน!

ขอโทษทีศิษย์น้องผู้นี้เป็นของข้า
ลู่เจินสาวน้อยที่ระดับการฝึกตนค่อนข้างต่ำ นางเดินทางมายังหุบเขาไป๋หูเพื่อลองเสี่ยงดวง แต่ไม่คาดคิดว่าครั้งนี้นางจะได้เจอกับศิษย์พี่ร่วมสำนักศึกษาเก่าเข้าพอดี และให้บังเอิญว่าอีกฝ่ายกำลังฝึกวิชากระบี่ ซึ่งขั้นตอนที่จะผ่านด่านจนทะลวงไปถึงขั้นปรมาจารย์ได้นั้นค่อนข้างลำบาก ร่างกายของเขาจะร้อนราวกับถูกไฟเผา จำเป็นต้องใช้พลังหยินของสตรีมาช่วยบรรเทาความเจ็บปวด เมื่อม่อเฉิงเห็นศิษย์น้องร่วมสำนักผ่านไปหลายปีระดับบำเพ็ญเพียรก็ไม่เพิ่มขึ้น และเขาก็ต้องการคนมาช่วยเรื่องบำเพ็ญวิชากระบี่อยู่พอดี จึงยื่นข้อเสนอให้นางมาฝึกร่วมบำเพ็ญแลกเปลี่ยนหยินหยางเพิ่มระดับพลังด้วยกัน สาวน้อยระดับฝึกฝนต่ำเช่นลู่เจินจึงตอบรับข้อเสนออย่างไม่ลังเล

ย้อนเวลามายุค80พร้อมระบบทำฟาร์มแสนห่วย
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - - ตัวอย่างในเล่ม “ดูสิ ฉันจะได้อะไร” หลิวตานถูมืออย่างตื่นเต้น ก่อนจะบอกระบบว่าเริ่มสุ่มวงล้อ “ระบบเริ่มสุ่มวงล้อได้เลย” ทันใดนั้นหน้าจอโปร่งใสก็ปรากฏตรงหน้าเธอ ดวงตาคู่งามมองวงล้อสุ่มของรางวัลที่หมุนไปมาด้วยความประหม่า เพราะมันเป็นของรางวัลชิ้นแรกที่เธอคาดหวัง ไม่รู้มันจะสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่ขอให้ช่วยสี่แม่ลูกได้ยิ่งดี “เมล็ดพันธุ์ผักกาด?” หลิวตานมองภาพตรงหน้าแล้วได้แต่น้ำตาตกในเมื่อของรางวัลที่แลกมากับการไปตัดหญ้ามาให้หมูคือเมล็ดพันธุ์ผักกาด!

ก็บอกว่าไม่เอาบทบาทนักบุญหญิงไงล่ะ
ไม่เอาบทบาทนักบุญหญิง = ได้เป็นนักบุญหญิง นี่คือบทบาทที่มีดีแค่หน้าตา แต่สติปัญญาติดลบ..สรุปก็คือนอกจากจะหน้าตาดี ก็ไม่มีอะไรดีอีกเลย

สวนท้อสวรรค์ของเหยาจี
ผลท้อสวรรค์สูญหาย นางเซียนน้อยจึงถูกลงโทษให้ลงมาอยู่บนโลกมนุษย์ แต่นางดันพกเมล็ดพันธ์ผลท้อติดมือมาด้วยนี่สิ!! เหล่าเซียนว่างงานที่หมายปองผลท้อรีบขันอาสาลงมาแดนมนุษย์เพื่อตามหาผลท้อที่ตนต้องการอีกเป็นขโยง และหนึ่งในนั้นก็มีเซียนหนุ่มผู้ฝึกฝนเคล็ดวิชาสายเทพมังกรซึ่งควรเป็นผู้ครอบครองผลท้อสวรรค์ตั้งแต่เริ่มรวมอยู่ด้วย แต่เป้าหมายหลักของเขากลับเป็นความท้าทายในการมีชีวิตในฐานะมนุษย์มากกว่าและยังตั้งใจจะยับยั้งการปลูกท้อสวรรค์ในแดนมนุษย์อีกด้วย สุดท้ายแล้วเซียนน้อยของเราจะปลูกท้อสวรรค์ในแดนมนุษย์สำเร็จหรือไม่? เจ้าของผลท้อที่แท้จริงจะยับยั้งนางไว้ทันเวลาหรือไม่? เหล่าเซียนผู้แอบแฝงจะยึดครองอำนาจในแดนมนุษย์สำเร็จหรือไม่? ร่วมลุ้นและเอาใจช่วยสาวน้อยผู้มีดีในการปลูกต้นท้อเพียงอย่างเดียวของเราไปด้วยกันนะคะ แนะนำตัวละคร มู่เหยาจี เซียนน้อยเหยาจีผู้มีพลังวิญญาณแห่งเทพพฤกษา นางมีความสามารถในการเพาะปลูกและได้เป็นผู้ดูแลสวนท้อสวรรค์เพียงหนึ่งเดียว มู่สี่เสิน ผีเสื้อเกล็ดแก้วหนุ่มน้อยทูตสวรรค์ผู้ซื่อสัตย์ เขายอมรับโทษพร้อมกับเหยาจี ติดตามเหยาจีลงมาแดนมนุษย์ในฐานะพี่ชายแท้ๆ หลวนหลง เซียนหนุ่มผู้บ่มเพาะพลังเทพมังกร ผู้โชคดีที่จะได้รับผลท้อสวรรค์คนสุดท้ายในรอบ 3,000 ปี แต่เขาต้องพลาดโอกาสงาม เพราะท้อสวรรค์ของเขาถูกช่วงชิงไปโดยเซียนน้อยเหยาจี มหาเทพฮ่าวเทียน หนึ่งในสามมหาเทพผู้ปกครองสูงสุดบนแดนสวรรค์ ดูแลสรรพสิ่ง ดิน น้ำ ลม ไฟ สุริยัน จันทรา มหาเทพมู่ซี หนึ่งในสามมหาเทพผู้ปกครอง ดูแลเหล่ามวลพฤกษานานาพรรณ มหาเทพสิงเทียน หนึ่งในสามมหาเทพผู้ปกครอง ดูแลสรรพสัตว์และสิ่งมีชีวิตทั้งปวง
