
บทย่อ
บัวบูชาเป็นลูกสาวพ่อหมอปราบผี ดันทะลุมาอยู่ในร่างของสตรีที่มีนิสัยร้ายกาจ แต่ครั้งนี้นางไม่ได้ทะลุิติมาคนเดียว นางยังมีกุมารน้อยปิงปิง ที่ทะลุมิติตามนางมาด้วย ภารกิจช่วยผีและปราบผีจึงเกิดขึ้น
ตอนที่1ทะลุมาอยู่ในร่างใหม่
“คุณหนูตื่นเถอะเจ้าค่ะ คุณหนู!” บัวบูชาได้ยินเสียงปลุกก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดและเริ่มรำคาญ จะเรียกทำไมหนักหนาเนี่ยะคนจะนอน! ก่อนจะรีบลืมตาขึ้นมาหมายจะด่าคนที่เรียก
“อ่าวปิงปิงมานั่งทำไมบนตัวข้า ลงไป!”
“แล้วทำไมแต่งชุดเด็กจีนละวันนี้ เป็นกุมารทองต้องแต่งชุดไทย หรือว่าอยากเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัว เอ้า!ข้าบอกให้ลงไป มานั่งอยู่บนตัวข้าแบบนี้มันหนักนะจะบอกให้!” บัวบูชาตาเขียวใส่น้องกุมารปิงปิง ที่ตั้งแต่เธอเกิดมาก็เจอน้องกุมารมาอยู่ที่บ้านเธอแล้ว เพราะพ่อของเธอเป็นพ่อครูร่างทรง แถมยังมีอาชีพเป็นหมอผีคอยปราบวิญญาณร้าย
“คุณหนูพวกเราทะลุมิติมาอยู่ในยุคจีนโบราณเจ้าค่ะ” ปิงปิงเด็กน้อยวัยห้าขวบหน้าตาน่ารัก รีบเอ่ยบอกผู้เป็นนายสาว
“ตลกละทะลุมิติ เจ้าพูดบ้าอะไร ดูซีรีย์กับแม่พี่บ่อยละสิ อินมากปะ?” บัวบูชายังคงนอนพูดเล่นกับน้องกุมารปิงปิง เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง
“หากทะลุมิติมาจริงๆ แล้วเกิดอะไรขึ้น?”
“ก็เรือนของท่านถูกไฟไหม้ ข้าคิดว่าอาจมีคนไม่พอใจ ที่พ่อช่วยปราบวิญญาณร้ายให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน ก็คงเป็นเจ้าของที่ดินที่ชาวบ้านอาศัยอยู่นั่นแหละเจ้าค่ะ อยากขับไล่คนให้ย้ายด้วยการใช้วิญญาณผีไปก่อกวนพอไม่สำเร็จก็เลยใช้วิธีมาเผาเรือนหมอผีแทนเจ้าค่ะ ท่านก็เลยเสียชีวิตแล้ววิญญาณของท่านกับข้าก็ทะลุมาที่นี่เจ้าค่ะ แต่ท่านไม่ต้องกลัวข้าหยิบย่ามของพ่อติดมือมาด้วยเจ้าค่ะ ข้าฉลาดใช่มั้ยละเจ้าคะ” กุมารน้อยปิงปิงเอ่ยขึ้นด้วยความภูมิใจในตนเอง
“แล้วตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน?”
“โลงศพเจ้าค่ะ” กุมารน้อยปิงปิงเอ่ยตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ละ..โลงศพ!เฮ้ย!หมายความว่าตายแล้วตายอีกตายซ้ำซ้อนอย่างงั้นเหรอ?” บัวบูชาเริ่มงงกับชีวิตของตนเอง แต่ว่าตอนนี้ยังมีความรู้สึกและยังพูดได้ ก็แสดงว่ายังไม่ตาย
“ท่านมาอยู่ในร่างของคุณหนูสามว่านชิงอี แต่เพราะว่านางตายแล้วท่านเลยมาสวมรอยเจ้าค่ะ”
“ข้ามาอยู่ในร่างของคุณหนูสามว่านชิงอี! แต่ว่าร่างนี้ตายนานแค่ไหนแล้วเนี่ยะ! ดูสิผิวซีดเหมือนปลาขาดน้ำ โอ๊ย!ชีวิตของนางบัว!” บัวบูชาเริ่มโอดครวญเมื่อเริ่มสังเกตว่า ร่างกายที่นางมาอยู่นั้นซีดเซียวเกินไป คงต้องบำรุงอย่างหนักเลยทีเดียว
“ท่านอย่าบ่นมากไปเลย ร่างนี้อายุแค่14หนาวเท่านั้น ท่านสามารถบำรุงและดูแลให้สวยงามได้อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ” ปิงปิงเอ่ยให้กำลังใจ เมื่อเห็นนายสาวโอดครวญไม่หยุด
“แต่ว่าทำไมเจ้าพูดภาษาเหมือนคนจีนโบราณได้ทันทีเลยละ?”
“ก็ข้าไม่ใช่คนปกติทั่วไป ข้าเป็นเหมือนเด็กเทพ อีกอย่างข้าเป็นเด็กฉลาดมาก” บัวบูชาในร่างของว่านชิงอี กลอกตามองบนอีกครั้ง เจ้าเด็กนี่หลงตัวเองเหลือเกิน แต่ว่านางก็รักและสนิทกับปิงปิงมานาน โชคดีที่นางทะลุมิติมาด้วยกับนาง ไม่เช่นนั้นนางคงจะเหงามาก
เสียงพูดคุยด้านในโลงศพ ทำเอาบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานศพ ต่างพากันมองหน้ากันเลิกลักด้วยความหวาดกลัว คุณหนูสามนางตายแล้วจริงหรือ? หากตายแล้วด้านในนั้นคืออะไร?
ส่วนฮูหยินว่านมองหน้าบุตรสาวคนโตและบุตรสาวคนรองด้วยความหวาดกลัวเช่นเดียวกัน
“เจ้าได้ยินเสียงอะไรหรือไม่?” เสียงของฮูหยินว่านสั่นด้วยความหวาดกลัว ต้องเป็นผีว่านชิงอีแน่ๆ ในเมื่อนางตายไปแล้ว ถึงนางจะเป็นมารดาของนาง แต่ถ้าพูดถึงเรื่องผีและวิญญาณนางก็หวาดกลัวเช่นกัน
“ท่านแม่เหมือนเสียงนางกำลังพูดกับใครไม่รู้ในนั้น แต่ว่านางตายไปแล้วนะท่านแม่ “ว่านชิงหลานเริ่มขวัญผวาเนื้อตัวเริ่มสั่นเทาปากคอสั่น
บัวบูชาไม่รู้เหตุการณ์ด้านนอกเลยสักนิด หลังจากลุกขึ้นมานั่ง ความทรงจำของร่างนี้ก็เริ่มกลับเข้ามา คุณหนูสามว่านชิงอีเป็นบุตรสาวคนที่สามของสกุลว่าน ถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงมและตามใจ จนนางกลายเป็นคนเอาแต่ใจตนเอง เพราะไม่มีใครกล้าขัดใจ เพราะบิดาคือว่านซื่อเหยียนให้ท้ายและตามใจ อีกทั้งท่านผู้เฒ่าว่านมารดาของว่านซื่อเหยียน ก็ทั้งรักและตามใจนางเช่นเดียวกัน บ่าวไพร่ในจวนพากันหวาดกลัวว่านชิงอี เพราะหากทำอะไรไม่ถูกใจ นางก็จะนำไปรายงานต่อว่านซื่อหยวนและท่านผู้เฒ่าว่าน ให้ลงโทษบ่าวผู้นั้น บัวบูชาคิดตามพฤติกรรมของร่างนี้แล้วก็ได้แต่ถอนใจ มาอยู่ในร่างของนางมารน้อยเอาแต่ใจสินะ
“ปิงปิงเราจะออกไปได้อย่างไร” ว่านชิงอีเริ่มพูดเหมือนคนจีนโบราณบ้างแล้ว เมื่อสมองได้รับความทรงจำของร่างนี้กลับคืนมา
“คุณหนูลองดันฝาโลงดูสิเจ้าคะข้าลองแล้วแต่เปิดไม่ออก”
“เจ้านะเก่งและฉลาดทุกเรื่องแต่ว่ายกเว้นเรื่องนี้” ชิงอีได้ทีว่าเข้าให้ แต่เด็กน้อยก็ปั้นหน้ายิ้มสดใส เพราะอยู่ด้วยกันมานาน จึงรู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี พอชิงอีลองดันฝาโลงก็เลื่อนเปิดออกได้อย่างง่ายดาย อะไรกันนางแทบไม่ได้ใช้แรงเลย แค่แตะสัมผัสก็เคลื่อนฝาโลงได้เลยหรือ หรือว่า!..ร่างนี้จะมีพลังวิเศษ!
“กรี๊ดดดดดด!เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัวของผู้คน ในห้องไหว้เคารพศพ จากนั้นผู้คนก็พากันวิ่งหนีกันอย่างไม่คิดชีวิต ว่านชิงอีไม่สนใจก้าวขาออกมาจากโลงศพ ก่อนจะหันไปมองปิงปิงว่านางปีนออกมาได้หรือไม่ แต่ปรากฎว่านางออกมายืนข้างนางเรียบร้อยแล้ว ก่อนนางจะพากันเดินไปที่เรือนที่ร่างนี้เคยอยู่ ระหว่างเดินไปผู้คนที่เห็นนาง ก็กรีดร้องกันอย่างหวาดกลัว และวิ่งหนีคนละทิศละทาง ชิงอีมองแล้วก็หลุดขำ ตอนยังไม่ตายร่างนี้คนก็หวาดกลัวไม่อยากเข้าใกล้ พอตายแล้วฟื้นเช่นนี้คาดว่าคงกลัวเป็นสิบเท่า
ว่านชิงอีเดินมาหยุดอยู่เรือนที่แสนงดงาม ดูก็รู้ว่าร่างนี้ถูกเลี้ยงดูมาอย่างไร สาเหตุเป็นเพราะมีนักพรตได้ทำนายทายทัก ช่วงที่ฮูหยินว่านตั้งครรภ์ว่า เด็กที่จะเกิดมาจะมีบุญญาธิการสูง และผู้คนจะได้พึ่งพาบารมีของนาง และนั้นคือเหตุผลที่ทั้งบิดาและฮูหยินผู้เฒ่ารักและตามใจนางจนเกินพอดี ว่านชิงอีมองวิญญาณของร่างนี้ที่มายืนรอที่หน้าประตู ก่อนที่จะเดินเข้าไปหานางอย่างมั่นคง
“เจ้าจะมาลาข้าหรือ?” วิญญาณว่านชิงอียกยิ้ม ก่อนจะเอ่ยขึ้น
“ข้าฝากครอบครัวของข้าไว้กับเจ้าด้วย ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนดีและเป็นคนที่ท่านนักพรตได้ทำนายทายทักเอาไว้ซึ่งไม่ใช่ข้า ข้าหมดวาสนาในชาตินี้แล้ว”
“เจ้าไม่ต้องกังวลครอบครัวเจ้าข้าจะดูแลให้เอง ขอให้เจ้าไปสู่ภพที่ดี”
