บทย่อ
เหอรุ่ยเถียนได้เกิดใหม่อีกครั้งในยุคจีนโบราณที่ไม่เคยอยู่ในประวัติศาสตร์ พร้อมมิติวิเศษที่จะพานางไปสู่ความมั่งคั่ง ชาติก่อนนางไม่เคยแต่งงานทว่าชาตินี้กลับสามารถแต่งบุรุษเข้าบ้านได้! ทว่าสามีจำเป็นของนางคนนี้ช่างน่าสงสารเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรนางยอมเป็นสะใภ้ปากร้ายเพื่อปกป้องสามีที่อ่อนแอคนนี้เอง...
บทนำ ฟ้าลิขิตหรือมนุษย์ลิขิตเอง...
[ สวัสดีค่ะ คุณเหอรุ่ยเถียนใช่ไหมคะ]
"ค่ะ ใช่ค่ะ"
[ ติดต่อจากบริษัท xxx นะคะ ขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ คุณไม่ผ่านการสัมภาษณ์]
"..."
[ คุณเหอรุ่ยเถียนคะ?]
"ค่ะ ได้ยินแล้วค่ะ ลำบากคุณแล้ว"
เหอรุ่ยเถียนกดตัดสายด้วยตัวเอง นี่เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็จำไม่ได้ที่เธอถูกปฏิเสธงาน การรับสายจากเบอร์ที่ไม่คุ้นไม่ตื่นเต้นอีกต่อ เธอคิดว่าตัวเองจะถูกปฏิเสธก่อนได้รับสายด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตที่เหมือนถูกสาปนี่กันแน่
เงินประทังชีวิตตอนนี้ได้มาจากพาร์ทไทม์ทั้งนั้น ทั้งที่หลักสูตรที่เธอจบมาก็ไม่ได้ดูเหมือนหางานยาก แต่กลับไม่เป็นที่น่าพอใจเลย
หญิงสาวในยูนิฟอร์มร้านสะดวกซื้อถอนหายใจแล้วตั้งใจทำงานกะสุดท้ายของตัวเอง
เหอรุ่ยเถียนไม่สนิทกับใครในที่ทำงานเพราะทำได้ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนที่ไปเรื่อย ๆ อาจเพราะมันไม่ใช่งานที่ต้องการจึงไม่อยากเสียเวลากับมันมาก ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังตั้งใจทำหน้าที่ตัวเอง ทุกครั้งที่ลาออกจึงมีคนเสียดาย
"วันนี้ทำงานวันสุดท้าย เหนื่อยหน่อยนะคะพี่" รุ่นน้องในที่งานร่วมกะสุดท้ายกับเธอมีแววอาลัยอาวรณ์อยู่เล็ก คงเพราะเหอรุ่นเถียนคุยกับเธอมากที่สุด
"อื้ม หลังจากนี้ก็พยายามเข้านะ ถ้าเจอกันข้างนอกก็อย่าลืมทักกันบ้างล่ะ"
"แน่อยู่แล้วค่ะ ใครจะลืมพี่ได้ลงกัน พี่ใจดีกับฉันที่สุดแล้ว"
เธอพูดอย่างนั้นด้วยท่าทีกระตือรือร้นในคำพูดของตัวเอง สิ่งที่เหอรุ่ยเถียนตอบกลับท่าทีนั้นมีเพียงรอยยิ้มเล็ก ๆ ตรงมุมปาก
เดินพ้นออกมาจากหน้าร้านที่ปิดไฟสนิทก็ผ่านร้านขายเครื่องดื่ม อากาศเย็นเหมาะกับการดื่มเบียร์เหอรุ่ยเถียนจึงเต็มใจเดินเข้าไปนั่งโต๊ะที่ว่าง
ถนนเส้นนี้อยู่ในหมู่บ้านเงียบสงบทั้งที่ห่างจากย่านธุรกิจไม่มาก ไฟถนนติด ๆ ดับ ๆ อยู่หลายวันแล้วแต่ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม เธอนั่งไปค่อนคืนอย่างเปล่าเปลี่ยวเช่นเดียวกับลูกค้าคนอื่น ๆ
ร้านรวมตัวของคนเหงาหรือไงกันเนี่ย
ใบหน้าหญิงสาวแต่งแต้มสีแดงจากเลือดฝาด ในหัวเริ่มว่างเปล่าและมุมมองสายตาเอียงเหมือนโลกถูกจับพลิก เธอดื่มมากพอแล้ว
เหอรุ่ยเถียนวางเงินไว้แล้วออกจากร้านไป
ไอเย็นสีขาวถูกพ่นออกมาให้เห็นชัดเจนทุกครั้งหายใจ สองมือล้วงกระเป๋าพร้อมถุงเบียร์กระป๋องที่คล้องข้อมือไว้ เธอซื้อไว้กลับไปดื่มต่อที่บ้านด้วย ระยะทางจากที่ทำงานถึงห้องพักห่างกันสิบห้านาที แต่เดินเอื่อยเฉื่อยอยู่แบบนี้คงใช้เวลานานกว่านั้น
เหอรุ่ยเถียนรู้สึกว่างเปล่า เธอไม่อยากทำอะไรเลยตั้งแต่ตกงานมาเกือบหนึ่งปี ความตั้งใจมอดไหม้ไปพร้อมจำนวนครั้งที่ถูกปฏิเสธ บริษัทไหน ๆ ก็หาว่าเธอไม่มีประสบการณ์ หากไม่ให้โอกาสเธอแล้วจะเอาประสบการณ์มาจากที่ไหน น่าเหนื่อยใจจริงๆ
แสงไฟจากรถยนต์ที่แล่นสวนไปมาเป็นความบันเทิงเล็ก ๆ ยามเมื่อต้องเดินบนถนนที่ไม่มีแสงส่องทางเพียงพอ เสียงน้ำไหลเชี่ยวข้างใต้สะพานน่าขนลุกแม้เธอจะเดินผ่านมันทุกวัน เพราะวันนี้อากาศหนาว หรือวันนี้กระแสน้ำไหลแรงกว่าปกติ ไม่ก็ทั้งสองอย่าง
หญิงสาวเค่นเสียงหัวเราะให้ชีวิตอันน่าสมเพชของตัวเอง ไม่มีอะไรได้ดั่งใจเลยสักอย่าง
เสียงแตรรถที่ดังลั่นไม่ได้สร้างความตื่นตระหนกให้เธอด้วยเหมือนกัน มันเป็นเพียงเสียงน่ารำคาญที่พุ่งเข้ามาสำหรับคนไม่มีสติเต็มที่เท่านั้น ความคิดที่จะหลบยังไม่มี ชั่วพริบตานั้นในหัวดันคิดขึ้นมาเสียได้ว่าจบแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
เธอเบื่อแล้ว เบื่อกับชีวิตแบบนี้เต็มทน เกิดมาทั้งทีควรได้ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ใช่หรือ ถ้ามีเงินจนไม่ต้องห่วงเรื่องเงินละก็ เธอจะไม่ทำอะไรเลยคอยดูสิ จะไม่ทำงานอีกเด็ดขาด
ความเจ็บปวดจากแรงกระแทกก็ไม่ได้ทำให้สติของเธอกลับมาอย่างสมบูรณ์ แม้แต่ทิวทัศน์ของท้องฟ้าที่เห็นอยู่กับอุณหภูมิของน้ำที่เย็นเสียดผิวก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอยากตะเกียกตะกายขึ้นมาเลย
จะว่าไปแล้ว เธอตกลงมาได้อย่างไรกันนะ โดนรถชนหรือแค่เฉี่ยว หรือเป็นตัวเธอที่เดินเซจนพลัดตกลงมาเองกันแน่
อ่า เรื่องนั้นจะเป็นยังไงช่างมันสิ คิดไปแล้วจะมีอะไรเปลี่ยน
เหอรุ่ยเถียนไม่อยากไขว่คว้าอะไรที่นี่ไว้อีกแล้ว ที่นี่ไม่มีของสำคัญสำหรับเธอเหลืออยู่แม้แต่อย่างเดียว…

