


นิยาย


แผนลับนางร้าย ฉันจะเป็นผู้ชนะ
เสียงกรีดร้องดังลั่นในโสตประสาทของฉัน ลมหายใจสะดุดขาดตอน ฉันพยายามลืมตาขึ้น แต่ภาพเบื้องหน้ากลับพร่าเบลือน่ากลัว ทั้งโลกหมุนคว้างเหมือนกำลังจมดิ่งลงสู่ห้วงลึกที่ไร้ก้นบึ้ง กลิ่นหอมหวานของดอกไม้แปลกปลอมปะปนกับกลิ่นไม้หอมลอยแตะปลายจมูก เสียงลมครางเบา ๆ ผ่านม่านผ้าบางเบา ทำให้สติฉันยิ่งโงนเงนมากขึ้น ...ที่นี่มันที่ไหน!? ฉันเผลอตัวเด้งกายลุกขึ้นนั่งทันที พร้อมกับมองสำรวจไปรอบตัวด้วยหัวใจที่เต้นระรัวเหมือนกลองศึก ทุกสิ่งทุกอย่างแปลกตาจนทำให้เลือดในกายฉันเย็นเฉียบ เตียงไม้สลักลวดลายดอกเหมย ผ้าม่านแพรสีอ่อน ชุดเครื่องแต่งกายโบราณที่ห่มคลุมร่างฉันอยู่ — ทั้งหมดนี้ไม่มีทางเป็นคอนโดโทรม ๆ ที่ฉันนอนอยู่อีกต่อไป ฉันรีบก้มมองมือตัวเอง — มือเรียวยาว ผิวขาวเนียน ราวกับมือหญิงสาวในภาพวาดโบราณ ไม่มีรอยแผลเป็นจากชีวิตทำงาน ไม่มีรอยข่วนจากการใช้ชีวิตยุ่งเหยิงในเมืองใหญ่ ไม่จริง... นี่มันไม่จริง! "เจ้าหญิงเฟยหลิง..." เสียงแผ่วเบาของสาวใช้ดังขึ้นข้างหู ฉันสะดุ้งเฮือก หันขวับไปมองตามเสียง หญิงสาวในชุดจีนโบราณกำลังคุกเข่าก้มหน้าก้มตาอยู่ข้างเตียง ดวงตาสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว เฟยหลิง...? ชื่อนั้นดังก้องในหัวฉันเหมือนระฆังยักษ์ ฉันเคยได้ยินมัน — ในนิยายจีนโบราณที่ฉันเคยอ่าน! เฟยหลิง...นางร้ายผู้ตกอับในราชสำนัก ผู้ซึ่งจะถูกกำจัดในไม่ช้า เพื่อเปิดทางให้นางเอกกับพระเอกได้ครองรักอย่างสมบูรณ์แบบ... อย่าบอกนะ...ว่า... มือฉันเย็นเฉียบ ฉันค่อย ๆ ลุกจากเตียงเหมือนคนละเมอ ก่อนเดินโซซัดโซเซไปยังกระจกทองเหลืองที่ตั้งอยู่มุมห้อง ในเงาสะท้อน — ฉันเห็นหญิงสาวผู้หนึ่ง ดวงตาเรียวยาวพราวระยับ ริมฝีปากบางยกยิ้มร้าย ๆ อย่างห้ามไม่ได้ แม้ว่าดวงหน้าเธอจะยังสวยราวกับภาพวาด ฉัน...กลายเป็น... "เฟยหลิง" — นางร้ายที่มีชะตาต้องตาย! มือสั่นน้อย ๆ ขณะที่ฉันยกขึ้นแตะกระจกเบา ๆ ในใจพลันเกิดความรู้สึกตลกขื่นขมขึ้นมาพร้อมกัน จะให้ฉันเดินตามบทเดิม? ถูกเหยียบย่ำอย่างน่าสมเพช? ไม่มีวันเสียหรอก! ฉันหลับตาลงชั่วครู่ ก่อนลืมตาขึ้นมาใหม่พร้อมรอยยิ้มบาง ๆ — แต่เยือกเย็นจนลมหายใจตัวเองยังแข็งค้าง ฟ้าให้โอกาสฉันอีกครั้ง ฉันจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นแค่ "นางร้าย" อีกต่อไป ในโลกใบนี้ — ฉันจะเป็นผู้ชนะ...ไม่ว่าต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม!


ธนูพันศึก
ท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดและเถ้าถ่านของสงครามที่ไม่สิ้นสุด ทหารของแคว้นซุนหลิงผงาดขึ้นด้วย "พลังอสูร" กลายพันธุ์จากร่างมนุษย์ พวกมันแข็งแกร่ง ดุร้าย และไม่รู้จักตาย ลั่วอวิ๋น อดีตแม่ทัพเอกแห่งแคว้นต้าอวี้ ถูกกล่าวหาว่าทรยศและถูกกวาดล้างทั้งตระกูล เขาหายสาบสูญไปแปดปี ก่อนจะกลับมาอีกครั้งพร้อม “ธนูปีศาจ” ที่สร้างจากกระดูกของสหายผู้ตาย... ไม่มีคำว่าความยุติธรรม มีเพียงคำว่า "ศรหนึ่ง ปลิดใจคน" และเบื้องหลังสงครามครั้งนี้ มีบางสิ่งที่ “ชั่วยิ่งกว่าอสูร” ซ่อนอยู่ในวังหลวง…


ชีพจรฟ้าดินสะท้านภพ
ชิน เด็กหนุ่มกำพร้าในโลกปัจจุบัน ผู้ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวไร้ครอบครัวและไม่มีอนาคต ทว่าในค่ำคืนที่เงียบงัน เขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอย่างไม่ทันตั้งตัว และลืมตาตื่นขึ้นในร่างของเด็กกำพร้าที่ชื่อ "หลี่ชุน" แห่งโลกยุทธภพโบราณ ในโลกที่วิทยายุทธ์คือกฎหมายสูงสุด ชีวิตของหลี่ชุนกลับไร้ค่าราวเศษฝุ่น เขาถูกไล่ออกจากสำนัก ถูกกลั่นแกล้ง ถูกล่า—แต่โชคชะตาก็ไม่ได้ทอดทิ้ง เมื่อเขาบังเอิญตกหน้าผาและได้สัมผัสกับ “เส้นชีพจรของฟ้าดิน” วิชาลับที่สามารถเชื่อมโยงจิตของมนุษย์กับพลังของธรรมชาติทั้งหมดได้ เขาจึงเริ่มต้นเส้นทางฝึกฝนเพื่อผงาดขึ้นเหนือทุกผู้คน บัดนี้ เขาจะใช้วิชาจากแผ่นดิน ตอบโต้ยุทธภพ ตีแผ่เบื้องหลังของโลกที่เต็มไปด้วยความลวง และกลายเป็นตำนานที่แม้แต่เซียนยังต้องจารึก


บุบผายั่วรัก องค์ชายยั่วอารมณ์
ใต้แสงจันทร์นวลผ่อง คืนหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ... เสียงขลุ่ยแผ่วเบาไหลเรื่อยดังมาจากตำหนักหยกขาว หญิงสาวในอาภรณ์สีครามนั่งเหม่อมองจันทร์ ดวงตาคู่งามหม่นแสงด้วยความเศร้า “ท่านพี่...” นางกระซิบเบา ๆ ราวกับเสียงลมหายใจ พี่สาวของนาง — ซูเมิ่งอวี้ — ผู้เคยเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลซู กลับต้องจบชีวิตลงเพราะความริษยาและกลอุบายในวังหลวง มือเรียวกำแน่นกับผ้าเช็ดหน้าผืนบาง ซึ่งเปื้อนเลือดของพี่สาวในวันสุดท้าย นับแต่นี้ไป... นาง ซูเหยียน จะใช้ทั้งชีวิต...ทั้งร่างกาย...และทั้งหัวใจ... แก้แค้นแทนท่านพี่ แม้ต้องแปดเปื้อน แม้ต้องสูญเสียทุกสิ่ง! ขอเพียงฟ้าโปรดเมตตา... ขอให้ข้าได้ลิ้มรสความรักอันหวานปนขม... ก่อนที่ข้าจะตกสู่อเวจีแห่งการแก้แค้นด้วยสองมือของตนเอง!


ตำนานรักมังกรอสูร
เสียงกระพือปีกดังสะท้อนกลางท้องฟ้าอันมืดมิด ราวกับจะฉีกท้องนภาออกเป็นเสี่ยง ๆ มังกรอสูรสีดำสนิททะยานผ่านเมฆหนา แผ่รังสีอันเยือกเย็นและอำมหิต ท่ามกลางสายลมที่กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาแดงฉานของมันส่องประกายราวเปลวเพลิงอันมืดมน "เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบครองดาบสลักมังกร!" เสียงหญิงสาวตะโกนขึ้น ฝ่าม่านหมอกที่คลุ้งกระจาย เธอยืนหยัดท่ามกลางความวุ่นวาย ร่างบอบบางในชุดสีแดงงามประณีต ทว่าดวงตาเต็มไปด้วยความเข้มแข็งที่ไม่อาจสั่นคลอนได้ ชายหนุ่มในชุดสีดำเข้มยืนเผชิญหน้า นัยน์ตาคมดุจเหยี่ยวจับจ้องไปที่หญิงสาวตรงหน้า ดาบมังกรอสูรในมือเขาส่องประกายแสงสีเงินออกมา พร้อมเสียงก้องกังวานราวกับมังกรกำลังขู่คำราม "ถ้าเจ้าไม่ยอม... ก็จงเตรียมรับผลที่จะตามมา" คำพูดของเขาเย็นเยียบและหนักแน่น ทว่าในดวงตากลับเต็มไปด้วยความสับสนที่ถูกปิดบังเอาไว้ "ข้าไม่สนว่าเจ้าจะเป็นใคร หรือมีพลังอำนาจมากแค่ไหน แต่ดาบนี้... มันเป็นของข้า!" หญิงสาวพุ่งเข้าหาเขาอย่างไม่เกรงกลัว ดาบในมือส่องประกายแสงสีทองพุ่งสวนขึ้นกลางอากาศ การปะทะระหว่างแสงสีทองกับสีเงินทำให้เกิดแรงกระแทนจนผืนดินสั่นสะเทือน และในชั่วขณะนั้น ทั้งสองต่างรู้ดีว่า การต่อสู้นี้มิใช่เพียงเพื่อแย่งชิงอำนาจ แต่มันคือการตัดสินระหว่าง ความรัก ความแค้น และคำสาบานที่ไม่อาจถอนคืนได้


พยัคฆ์ในกรงทอง
ท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกเหมยที่ร่วงหล่นจากกิ่งไม้ พระจันทร์เต็มดวงทอแสงสีเงินลงมาอย่างเยือกเย็น ในยามราตรีที่ควรจะสงบสุข กลับแฝงไปด้วยอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้ร่มเงาของราชสำนักอันกว้างใหญ่ เรื่องราวของความรัก ความแค้น และการหักหลังเริ่มต้นขึ้นในคืนที่ควรจะเป็นคืนแห่งความสุขของ "หลี่ซูเม่ย" บุตรสาวของแม่ทัพผู้เกรียงไกร ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นอัญมณีที่งดงามที่สุดในเมืองหลวง นางถูกบังคับให้แต่งงานกับ "องค์ชายสาม หวังเหยียนหมิง" เพื่อสร้างพันธมิตรระหว่างตระกูลหลี่และราชสำนัก แต่ทว่าความสุขในวันแต่งงานกลับกลายเป็นฝันร้าย เมื่อบ้านตระกูลหลี่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ หลี่ซูเม่ยถูกจับไปต่อหน้าประชาชน เห็นบิดามารดาถูกประหารอย่างไร้ปรานี ท่ามกลางสายตาที่เย้ยหยันและเสียงหัวเราะที่สะท้อนถึงความอำมหิตของผู้มีอำนาจ นางถูกทำร้ายจนเสียโฉม ถูกเนรเทศออกจากวังหลวง และเหลือเพียงความเจ็บปวดที่สุมอยู่ในใจ แต่ในความเจ็บปวดนั้นก็ได้จุดประกายของความแค้นขึ้นมา นางกลับมาในฐานะ "ไป๋ซูเฟิง" หญิงสาวผู้เก่งกาจในด้านพิษและการรักษา พร้อมที่จะทำลายทุกคนที่มีส่วนทำลายตระกูลของนาง ทว่าการแก้แค้นกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อนางต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ซับซ้อนกว่าเดิม และต้องเลือกว่าจะปล่อยวางความแค้นเพื่อเริ่มต้นใหม่ หรือจะเดินต่อไปในเส้นทางแห่งความเจ็บปวดนี้อย่างไม่มีวันหวนกลับ


ห้วงรักเงาจันทร์
ในโลกที่ถูกแบ่งแยกด้วยพลังของแสงและเงา หลี่หลิน หญิงสาวผู้มีพลังพิเศษที่สามารถผสานแสงและเงาได้อย่างลงตัว ต้องออกเดินทางเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับพลังของตัวเอง และทำให้มันสมบูรณ์แบบ การเดินทางของหลี่หลิน ไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้คนมากมายหวาดกลัวพลังที่นางถือครอง เพราะมันแตกต่างจากสิ่งที่พวกเขาเคยรู้จัก แต่ หลิวจิ้ง ชายหนุ่มผู้ที่เฝ้าอยู่เคียงข้างนางอย่างมั่นคง ไม่เคยละทิ้งหรือหันหลังให้ แม้ว่าจะต้องเผชิญกับอันตรายที่น่ากลัวที่สุดก็ตาม หลิวจิ้ง เป็นนักรบผู้ภักดีที่คอยสนับสนุนหลี่หลินเสมอ ความรักที่เขามีต่อเธอมั่นคงและซื่อสัตย์ ทำให้หลี่หลินได้รับกำลังใจและความเชื่อมั่นในการค้นหาพลังที่แท้จริงของตนเอง อย่างไรก็ตาม การเดินทางของพวกเขาไม่ได้ราบรื่น เมื่อพลังแห่งความมืดที่ถูกครอบงำโดย จ้าวแห่งเงาที่แท้จริง เริ่มคุกคามโลกด้วยความเกลียดชังและการทำลายล้าง ความมืดที่แผ่ขยายไปทั่วทำให้หลี่หลินต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ ในระหว่างการเดินทาง เหวินหลง องค์ชายแห่งแคว้นเงา ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับความลับที่อาจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง ความสามารถของเขาในการควบคุมพลังแห่งเงา ทำให้เขากลายเป็นบุคคลสำคัญที่สามารถช่วยหรือขัดขวางหลี่หลินได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด อ๋องฉางเยี่ย ผู้ปกครองแคว้นเงา ผู้ทรงอำนาจที่มีความลึกลับซ่อนเร้น เป็นผู้ที่มีอิทธิพลสำคัญต่อเรื่องราวทั้งหมด ความทะเยอทะยานของเขาอาจกลายเป็นภัยที่ร้ายแรงที่สุด หรืออาจเป็นผู้ที่มีคำตอบให้กับหลี่หลินในการค้นพบพลังที่แท้จริง การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น พลังแห่งแสงและเงากำลังเผชิญหน้ากัน และ หลี่หลินจะต้องค้นพบพลังที่แท้จริงของตนเอง เพื่อเอาชนะความมืดและนำพาความสงบสุขกลับคืนมา