บุบผายั่วรัก องค์ชายยั่วอารมณ์

55.0K · ยังไม่จบ
ลูกปลาน้อย
43
บท
1.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ใต้แสงจันทร์นวลผ่อง คืนหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ... เสียงขลุ่ยแผ่วเบาไหลเรื่อยดังมาจากตำหนักหยกขาว หญิงสาวในอาภรณ์สีครามนั่งเหม่อมองจันทร์ ดวงตาคู่งามหม่นแสงด้วยความเศร้า “ท่านพี่...” นางกระซิบเบา ๆ ราวกับเสียงลมหายใจ พี่สาวของนาง — ซูเมิ่งอวี้ — ผู้เคยเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลซู กลับต้องจบชีวิตลงเพราะความริษยาและกลอุบายในวังหลวง มือเรียวกำแน่นกับผ้าเช็ดหน้าผืนบาง ซึ่งเปื้อนเลือดของพี่สาวในวันสุดท้าย นับแต่นี้ไป... นาง ซูเหยียน จะใช้ทั้งชีวิต...ทั้งร่างกาย...และทั้งหัวใจ... แก้แค้นแทนท่านพี่ แม้ต้องแปดเปื้อน แม้ต้องสูญเสียทุกสิ่ง! ขอเพียงฟ้าโปรดเมตตา... ขอให้ข้าได้ลิ้มรสความรักอันหวานปนขม... ก่อนที่ข้าจะตกสู่อเวจีแห่งการแก้แค้นด้วยสองมือของตนเอง!

นิยายรักโรแมนติกนิยายจีนโบราณนิยายรักหนุ่มเจ้าสำราญนางเอกเก่งศัตรูกลายคนรักคู่รักลิขิตจีนโบราณดราม่าหลอกลวง

บทที่ 1: คืนจันทร์ลวงใจ

"หากสวรรค์มีตา... ขอเพียงสักคราหนึ่ง ให้ข้าได้ลิ้มรสคำว่า 'ยุติธรรม' ไม่ใช่เพียงได้ยินแต่ในนิทานที่เล่าขานในวังหลัง!"

เสียงกระซิบแผ่วเบาดังขึ้นใต้ผืนจันทร์นวล ซูเหยียนในอาภรณ์สาวใช้ธรรมดานั่งเหม่อมองฟ้าอยู่บนหลังคาตำหนักเย็น ดวงตาของนางไม่สะท้อนแสงดาวใด ๆ มีเพียงเงาของอดีตที่ฝังแน่นในความทรงจำ

เจ็ดปีที่แล้ว... นางคือคุณหนูรองแห่งจวนแม่ทัพใหญ่ 'ซูหมิ่นเหยียน' ผู้มีพี่สาวงดงามที่สุดในแคว้นอย่าง 'ซูเมิ่งอวี้' เป็นดั่งแบบอย่าง แต่ค่ำคืนแห่งการแต่งตั้งองค์ชายกลับกลายเป็นจุดจบของตระกูลซู...

"ท่านพี่ ข้าสาบาน... จะทำให้เขารู้ว่าเลือดของท่านมิได้ไหลเปล่า!"

มือเรียวกำผ้าเช็ดหน้าผืนบางที่เคยเป็นของพี่สาวแน่น นั่นคือสิ่งเดียวที่เหลือจากความงดงามในวันวาน ขณะที่ลมเย็นพัดเส้นผมของนางให้ปลิวไสว

เสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น ซูเหยียนกระโดดลงจากหลังคาอย่างคล่องแคล่ว นางกวาดตามองรอบตัวพลางถอนหายใจเบา ๆ คืนนี้คือเดิมพันสำคัญของชีวิตนาง คืนที่นางจะพลิกชะตาของตนเองด้วยมือคู่นี้

คืนนี้... องค์ชายหลงเยี่ยนจะลอบเสด็จมายังตำหนักเย็น และคืนนี้เอง... นางเตรียม 'ยา' พิเศษไว้เรียบร้อยแล้ว

“เขามาแล้วเจ้าค่ะ!” สาวใช้หน้าตื่นกระซิบ ซูเหยียนยกยิ้มมุมปาก นางจัดสไบให้เลื่อนต่ำลง เผยไหล่ขาวระหง ก่อนฉีดน้ำหอมกลิ่นเหมยจาง ๆ บนลำคอระหง

ดวงตาคู่งามที่เคยหม่นหมองบัดนี้ฉายแววเจ้าเล่ห์ นางก้าวเดินไปยังห้องโถงกลางตำหนักอย่างช้า ๆ ทุกย่างก้าวพลิ้วไหวเย้ายวนราวบุบผาต้องลม

เมื่อบานประตูเลื่อนเปิดออก ร่างสูงในชุดคลุมยาวสีแดงเข้มขลิบทองปรากฏต่อสายตา ใบหน้าเรียบเฉียบ หล่อเหลาจนยากจะละสายตา

“ข้ามาช้าไปหรือไม่... สตรีลึกลับของข้า?”

น้ำเสียงทุ้มต่ำเจือแววเย้าเยือนทำให้หัวใจนางสั่นระริก

ซูเหยียนไม่ตอบ นางเพียงยกจอกสุราขึ้นช้า ๆ แววตาวับวาวพลางส่งจอกให้เขาด้วยปลายนิ้วเรียวระหง

“สุรานี้... จะทำให้คืนของท่านหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง”

องค์ชายหลงเยี่ยนหัวเราะเบา ๆ รับจอกสุรามาจากมือนาง นิ้วมือของเขาเฉียดผ่านปลายนิ้วของนางอย่างจงใจ ทำให้ร่างบางสะท้านเล็กน้อยโดยไม่อาจควบคุม

เขายกสุราขึ้นจิบ... ดวงตาคมปลาบจับจ้องนางไม่วางตา กลิ่นหอมหวานจากตัวนางลอยมากระทบจมูก ชวนให้หัวใจเขาเต้นแรงผิดปกติ

สุราผสมยาเริ่มทำหน้าที่อย่างเชื่องช้า เพลิงอารมณ์เริ่มสุมในอก มือเรียวขององค์ชายเอื้อมแตะปลายคางของนางเชยขึ้นเบา ๆ

ไม่รู้ว่าเริ่มต้นอย่างไร ร่างสูงตวัดเอวบางเข้าหาอย่างรวดเร็ว ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนเรียวปากแดงระเรื่ออย่างหิวกระหาย รสชาติหวานล้ำทำให้เขาแทบคลั่ง

ซูเหยียนสะดุ้ง ใจเต้นไม่เป็นส่ำ นางพยายามผลักเขาออกแต่กลับไร้เรี่ยวแรง ร่างกายเหมือนถูกพันธนาการด้วยไฟวาบร้อนจากภายใน

“ท่าน...!?”

“เจ้าจุดไฟในตัวข้าเอง... ก็อย่าได้คิดหนีไปเสียล่ะ”

น้ำเสียงแหบพร่าข้างหูทำให้สติที่เหลืออยู่แทบขาดผึง

มือหยาบกร้านเลื่อนไปตามแนวไหล่เปลือยเปล่า ลากไล้จนถึงสาบเสื้อบางเบา ก่อนจะปลดออกอย่างใจเย็นในขณะที่สายตาอัดแน่นด้วยไฟปรารถนา

ผิวเนื้อสีหิมะถูกแสงตะเกียงเรืองรองย้อมให้ดูงดงามราวหยกสลัก มือใหญ่ลูบไล้อย่างแผ่วเบาจนหญิงสาวตัวสั่นเทา เสียงหอบหายใจเบา ๆ หลุดออกมาจากริมฝีปากแดงระเรื่ออย่างไม่ตั้งใจ

“ข้า...” ซูเหยียนพยายามประท้วงเสียงพร่า ดวงตาฉ่ำเยิ้มไปด้วยไอสุราและแรงปรารถนาที่ไม่อาจระงับ

ปลายนิ้วเรียวขององค์ชายแตะริมฝีปากนางเบา ๆ เป็นเชิงห้าม พลางก้มลงครอบครองความหอมหวานจากเรียวปากนั้นอีกครั้งอย่างเร่าร้อนยิ่งขึ้น ราวกับต้องการกลืนกินนางทั้งตัว

มือหนาเลื่อนไปตามแผ่นหลังเปลือยเปล่า สัมผัสอุ่นร้อนที่ไล้ไปตามแนวโค้งเว้าอย่างเชื่องช้า ก่อนจะพานางเข้าสู่อ้อมแขนที่แข็งแรงมั่นคงราวเหล็กกล้า

ทุกอณูของร่างกายแนบสนิทจนแทบไม่มีช่องว่าง อุณหภูมิในห้องสูงขึ้นราวกับถูกจุดไฟเผาไหม้ นางปล่อยตัวเองจมดิ่งลงสู่ทะเลเพลิงหฤหรรษ์อย่างไม่อาจขัดขืน

ภายใต้แสงจันทร์และกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกเหมย คืนนี้กลายเป็นราตรีที่พันธนาการหัวใจสองดวงเข้าด้วยกันอย่างมิอาจแก้ไข...

จนกระทั่งรุ่งสาง

เมื่อสติกลับคืนมา ซูเหยียนตื่นขึ้นในอ้อมแขนอันอบอุ่น ร่างกายเปลือยเปล่าของนางแนบแน่นกับร่างสูงใหญ่ สร้างรอยแดงช้ำจาง ๆ เป็นพยานแห่งความร้อนเร่าที่เกิดขึ้น

ดวงตานางเบิกกว้างด้วยความตกใจ นางรีบเก็บเสื้อผ้า หยิบผ้าเช็ดหน้าของพี่สาวขึ้นแนบอก แล้วกระโจนออกจากห้องอย่างเงียบงัน ปล่อยให้องค์ชายหลงเยี่ยนนอนเคว้งคว้างอยู่เพียงลำพัง

เบื้องหลัง...

องค์ชายหลงเยี่ยนลืมตาขึ้น ดวงตาคมกล้าเป็นประกายวาววับ

“สตรีน้อย... เจ้าอยากหนีข้าอย่างนั้นหรือ?”

ริมฝีปากหยักยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนเสียงหัวเราะทุ้มต่ำจะดังขึ้นในห้องเงียบสงัด