พยัคฆ์ในกรงทอง

63.0K · จบแล้ว
ลูกปลาน้อย
50
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ท่ามกลางกลิ่นหอมของดอกเหมยที่ร่วงหล่นจากกิ่งไม้ พระจันทร์เต็มดวงทอแสงสีเงินลงมาอย่างเยือกเย็น ในยามราตรีที่ควรจะสงบสุข กลับแฝงไปด้วยอันตรายที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้ร่มเงาของราชสำนักอันกว้างใหญ่ เรื่องราวของความรัก ความแค้น และการหักหลังเริ่มต้นขึ้นในคืนที่ควรจะเป็นคืนแห่งความสุขของ "หลี่ซูเม่ย" บุตรสาวของแม่ทัพผู้เกรียงไกร ผู้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นอัญมณีที่งดงามที่สุดในเมืองหลวง นางถูกบังคับให้แต่งงานกับ "องค์ชายสาม หวังเหยียนหมิง" เพื่อสร้างพันธมิตรระหว่างตระกูลหลี่และราชสำนัก แต่ทว่าความสุขในวันแต่งงานกลับกลายเป็นฝันร้าย เมื่อบ้านตระกูลหลี่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ หลี่ซูเม่ยถูกจับไปต่อหน้าประชาชน เห็นบิดามารดาถูกประหารอย่างไร้ปรานี ท่ามกลางสายตาที่เย้ยหยันและเสียงหัวเราะที่สะท้อนถึงความอำมหิตของผู้มีอำนาจ นางถูกทำร้ายจนเสียโฉม ถูกเนรเทศออกจากวังหลวง และเหลือเพียงความเจ็บปวดที่สุมอยู่ในใจ แต่ในความเจ็บปวดนั้นก็ได้จุดประกายของความแค้นขึ้นมา นางกลับมาในฐานะ "ไป๋ซูเฟิง" หญิงสาวผู้เก่งกาจในด้านพิษและการรักษา พร้อมที่จะทำลายทุกคนที่มีส่วนทำลายตระกูลของนาง ทว่าการแก้แค้นกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อนางต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ซับซ้อนกว่าเดิม และต้องเลือกว่าจะปล่อยวางความแค้นเพื่อเริ่มต้นใหม่ หรือจะเดินต่อไปในเส้นทางแห่งความเจ็บปวดนี้อย่างไม่มีวันหวนกลับ

นิยายจีนโบราณพลิกชีวิตนางเอกเก่งดราม่าแก้แค้นจีนโบราณกลอุบายในวังราชวงศ์/ชนชั้นเจ้าผู้ใช้ความรุนแรงหักหลัง

บทที่ 1 การแต่งงานที่เต็มไปด้วยเล่ห์กล

คฤหาสน์ของตระกูลหลี่ถูกประดับประดาอย่างงดงามด้วยผืนผ้าไหมแดงพาดยาวทั่วลานพิธี โคมแดงนับร้อยแขวนเรียงรายเปล่งแสงอบอุ่นตัดกับฟ้ายามเช้าที่สว่างไสว กลิ่นธูปหอมและเสียงขลุ่ยจีนบรรเลงละมุน บรรยากาศนั้นหรูหราเกินกว่าที่จะเป็นเพียงพิธีสมรสของสามัญชน

นี่คือการแต่งงานของ “หลี่ซูเม่ย” ธิดาคนรองของตระกูลหลี่ ขุนนางผู้มีอำนาจและอิทธิพลแห่งราชสำนัก กับ “องค์ชายสาม หวังเหยียนหมิง” บุรุษผู้เป็นนักรบผู้สง่างามแห่งยุทธภพและราชวงศ์

หลี่ซูเม่ยในชุดเจ้าสาวสีแดงสดที่ปักด้วยลายดอกเหมยสีทองละเอียดอ่อน เดินออกจากเรือนหลังใหญ่โดยมีสาวใช้สองนางช่วยประคองชายผ้าที่ยาวลากพื้น ใบหน้าของนางเปื้อนด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน แต่หากพินิจให้ดี ดวงตาของนางกลับเต็มไปด้วยเงาแห่งความไม่มั่นคง

“เจ้าดูงดงามยิ่งนัก ซูเม่ย ข้าภูมิใจในเจ้ายิ่งนัก” เสียงของหลี่เจิ้ง หนึ่งในขุนนางอาวุโสแห่งราชสำนักและเป็นบิดาของนาง กล่าวด้วยความภาคภูมิ

“บุตรีเพียงทำตามหน้าที่พ่ะย่ะค่ะ” นางตอบเบา ๆ

หัวใจของนางเต้นแรงด้วยความกังวล ไม่ใช่เพราะความตื่นเต้นของเจ้าสาว หากแต่เพราะนางรู้ดีว่านี่มิใช่การแต่งงานเพื่อความรัก แต่มันคือหมากการเมือง ที่ตระกูลหลี่ใช้ส่งนางเข้าไปในวังหลวง เพื่อยึดโยงอำนาจกับราชวงศ์

ณ ลานพิธี องค์ชายสามในชุดเจ้าบ่าวสีทองลายมังกร ยืนตระหง่านท่ามกลางแขกนับร้อย ใบหน้าของเขายังคงเรียบนิ่ง แม้รอยยิ้มจะอยู่บนริมฝีปาก ทว่าในแววตานั้นเย็นชาเกินกว่าคำว่ายินดี

“เจ้าหญิงหลี่ซูเม่ย... เจ้าดูงดงามสมคำเล่าลือ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เมื่อนางเดินมาถึงเคียงข้าง

“ขอบพระทัยเพคะ องค์ชาย” นางตอบกลับอย่างสงบ แม้ในใจนั้นอัดแน่นไปด้วยคำถาม

ระหว่างพิธี ท่ามกลางเสียงพิณและเสียงกลอง พวกเขาทั้งสองยืนเคียงข้างกันราวกับคู่บ่าวสาวที่สมบูรณ์แบบ ทว่าภายในกลับเย็นชาราวน้ำแข็ง

หลี่ซูเม่ยก้มหน้าตลอดเวลา นางรู้ดีว่าอำนาจที่ตระกูลของนางต้องการนั้นมีราคา และราคานั้นก็คือ... ชีวิตของนางเอง

เงามืดในการเฉลิมฉลอง

ในมุมหนึ่งของลานพิธี หวังจิ้นหลง องครักษ์คู่ใจขององค์ชายสามกำลังมองรอบด้วยแววตาระแวดระวัง

“ทหารจากกองใด?” เขาถามเบา ๆ กับทหารคนหนึ่งที่ยืนอยู่ริมกำแพง

“ข้าน้อยไม่รู้จักขอรับ เห็นเข้ามากับขบวนของตระกูลหลี่” ทหารผู้นั้นตอบอย่างลังเล

หวังจิ้นหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย เขากระซิบรายงานองค์ชายทันที “ฝ่าบาท กระหม่อมพบทหารแปลกหน้าปะปนอยู่ในงาน ดูเหมือนไม่ใช่กองของราชสำนัก”

“ข้ารู้แล้ว...” หวังเหยียนหมิงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ

เบื้องหลังเงา... องค์ชายรอง

ภายในตำหนักลับในวังหลวง หลี่หยวนเฉิง องค์ชายรองผู้แฝงกายอยู่ในเงามืดจ้องมองแผนการของเขาดำเนินไปอย่างราบรื่น

“ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน พิธีแต่งงานจะกลายเป็นหายนะในค่ำคืนนี้” เขากล่าวกับสายลับคนสนิท

เขารู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้คือโอกาสเดียวที่จะสร้างรอยร้าวระหว่างตระกูลหลี่กับองค์ชายสาม และเมื่อความขัดแย้งปะทุ เขาก็จะฉวยโอกาสชิงอำนาจที่รอคอยมานาน

หมอหญิงแห่งคฤหาสน์หลี่

ที่มุมเรือนรับรอง หยวนอี้หลาน หมอหญิงประจำตระกูลหลี่เดินตรวจดูความเรียบร้อยของเหล่าทหารและผู้ติดตามนางรู้สึกถึงความผิดปกติในอากาศ

“ทำไมพวกทหารเหล่านั้นจึงมีท่าทีอึดอัด ทั้งที่ควรจะเป็นงานมงคล?”

นางกระซิบกับตัวเอง พลางจดจำใบหน้าหลายคนไว้ในใจ หญิงสาวแม้ไม่ได้ฝึกยุทธ์ แต่สายตาเฉียบคมยิ่งกว่าผู้มีดาบในมือ

ค่ำคืนที่ไม่ใช่ของความรัก

เมื่อเข้าสู่ยามค่ำ หลี่ซูเม่ยถูกพาไปยังห้องหอที่ตกแต่งอย่างประณีต ด้วยม่านโปร่งสีแดงและเทียนหอมเรียงราย

ไม่นานนัก หวังเหยียนหมิงก็เดินเข้ามา นางลุกขึ้นทำความเคารพ ทว่าเขาเพียงเอ่ยเสียงเย็น

“เจ้าไม่ต้องแสร้งเป็นอ่อนหวานหรอกหลี่ซูเม่ย”

นางหยุดนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับอย่างสงบ “ข้าเองก็มิได้หวังให้ท่านยอมรับในทันที”

เขาจ้องหน้านางนิ่ง ๆ ก่อนจะเอ่ยอย่างเคร่งเครียด “พวกเจ้าคิดจะใช้ข้าเป็นสะพานเข้าสู่อำนาจหรือ?”

นางยิ้มเพียงบาง ๆ “หากท่านคิดเช่นนั้น ข้าย่อมมิอาจห้ามได้”

เงียบ... ทั้งห้องถูกกลืนด้วยบรรยากาศที่แน่นตึง

ในใจลึก ๆ ของนาง หยดหนึ่งของความเศร้าไหลริน แม้นางยอมเป็นหมากเพื่อครอบครัว แต่นางก็ยังเป็นหญิงสาวที่ปรารถนาความรัก

เสียงกลองที่ไม่ใช่เพื่อเฉลิมฉลอง

ขณะเดียวกัน ภายนอกคฤหาสน์ กลุ่มทหารที่สังกัดองค์ชายรองเริ่มเคลื่อนไหว พวกเขาอ้างว่ามาเพื่อถวายความปลอดภัย แต่แท้จริงแล้วซ่อนอาวุธไว้ในเกี้ยว

ภายในคืนเดียว ความสงบที่ถูกสร้างขึ้นด้วยสีสันและเสียงหัวเราะ... จะถูกแทนที่ด้วยเพลิงและเสียงกรีดร้อง

คืนแต่งงานของหลี่ซูเม่ย จึงมิใช่จุดเริ่มต้นของความสุข หากแต่คือการเริ่มต้นของสงครามเงียบ ที่ไม่มีใครรู้ว่าจะจบลงเช่นไร...