ข้ามภพมาพบรัก

149.0K·weiwei

"แม่นางหลินเจ้าไม่ใช่อยากถอนหมั้นกับข้าหรอกหรือ?""ใครบอกว่าข้าจะมาถอนหมั้นกับท่าน..ข้าแค่มาถามว่าเราจะแต่งงานกันเมื่อไหร่ดีต่างหาก"

นางเอกเก่งจบแล้ว

หลงรักนายมาเฟีย

128.0K·เดย์ไลลา

Writer : เดย์ไลลา Illust : Sin_SK. Proofread & Design : เดย์ไลลา สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติพุทธศักราช 2557 ห้ามดัดแปลงบทความ คัดลอกและนำไปใช้บางส่วนและนำไปเผยแพร่ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษบัญญัติไว้สูงสุดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ 2537 คำเตือน นิยายเรื่องนี้มีการกระทำไม่เหมาะสมเรื่องเพศ คำพูดจาหยาบคาย การใช้ความรุนแรง มีฉากการร่วมเพศรุนแรง/ไม่สมยอม มีฉากNC20+ เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาในนิยายเป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น ไม่อิงตามความจริง อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ แนะนำให้โหลดตัวอย่างมาอ่านก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนซื้อเล่มเต็มนะคะ

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

เจ้าสาวไร้ค่า (หน่วง/หื่น)

173.0K·ลออจันทร์ / เลี่ยงจิน 亮金

สองตระกูลขุนนางเกลียดชัง พัวพันการลอบสังหารประมุขของอีกฝ่าย กระนั้นฮ่องเต้กลับต้องการยุติข้อพิพาทด้วยการให้สองตระกูลเกี่ยวดอง 'หูเส่าหลิง' จึงกลายเป็นหมากบนกระดาน บุตรสาวลูกอนุปลายแถวถูกโยนเข้าไปให้อีกฝ่ายบดขยี้อย่างไม่ไยดี เจ้าสาวไร้ค่า... เขามีนางไว้เพียงเพื่อสืบพันธุ์ราวกับแม่หมูในเล้า เพื่อสนองพระราชโองการขององค์ฮ่องเต้เท่านั้น

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

ถ่านไฟเก่า

163.0K·เวย์นิส

"พะ..พี่คราม..อึก..มีนเจ็บ" "ไม่ได้อยู่บนเตียงเธอก็เจ็บเป็นเหมือนกันเหรอ นึกว่าเจ็บตอนโดนฉันกระแทกอย่างเดียว" "มะ..มีนไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้" "เห็นเธอกลับมาฉันเลยแวะมาทักทายเฉยๆ" สงครามยอมปล่อยมือจากปลายคางมน แล้วก้มลงไปตวัดเลียริมฝีปากสั่นระริกของจัสมินอย่างนุ่มนวล ทำเอาเธอขนลุกซู่จนเผลอยกมือขึ้นมาดันแผงอกแกร่งเบาๆ เธอเคยอ่อนไหวกับสัมผัสของเขา แต่มันก็แค่เคยเท่านั้น "ยินดีต้อนรับกลับมา" "อึก" คำพูดของสงครามทำให้น้ำตาหยดแรกค่อยๆ ไหลกลิ้งลงมาบนพวงแก้มในที่สุด เธอเบือนหน้าหนีก่อนที่เขาจะได้สอดเรียวลิ้นเข้ามา "ระ..เราเลิกกันแล้ว มีนขอร้อง อย่ายุ่งกับมีนอีกได้ไหม" "ก่อนจะพูดคำนั้นคิดให้ดีก่อนว่าฉันเป็นแฟนเก่าหรือยังเป็นผัวเธออยู่"

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

เล่ห์ร้ายนายบอดี้การ์ด

72.0K·เดย์ไลลา

Writer : เดย์ไลลา Illust : MARI ME ART Proofread & Design : เดย์ไลลา สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติพุทธศักราช 2557 ห้ามดัดแปลงบทความ คัดลอกและนำไปใช้บางส่วนและนำไปเผยแพร่ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนมีบทลงโทษบัญญัติไว้สูงสุดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ 2537 คำเตือน นิยายเรื่องนี้มีการกระทำไม่เหมาะสมเรื่องเพศ คำพูดจาหยาบคาย การใช้ความรุนแรง มีฉากการร่วมเพศรุนแรง/ไม่สมยอม Toxic Relationship มีฉากNC20+ เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาในนิยายเป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น ไม่อิงตามความจริง อ่านเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ แนะนำให้โหลดตัวอย่างมาอ่านก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ ก่อนซื้อเล่มเต็มนะคะ

มาเฟียจบแล้ว

คู่หมั้นมาเฟีย

119.0K·น้ำผึ้งสีเลือด

เขาชื่อ คราม เป็นทั้งคู่หมั้นของฉันและเป็นคนที่ฉันพลาดมีอะไรด้วยเมื่อสองปีก่อน ใครจะไปคิดล่ะว่าจะได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง

พลิกชีวิตจบแล้ว

เมียในสมรส

120.0K·ชะนีติดมันส์

"ขะ! คุณ!?" หญิงสาวจำได้ทันทีเลยว่าเขาเป็นใคร ผู้ชายคนที่เธอยืนจูบอยู่หน้าห้องน้ำในผับวันนั้น "หึ! ถึงกับตกใจเลยเหรอ" ชายหนุ่มแสยะขำออกมากับท่าทางที่ผู้หญิงของพ่อตกใจตอนที่เห็นเขา ________________ เรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อไลยา เธอต้องการจะทดแทนบุญคุณผู้มีพระคุณด้วยการแต่งงานกับลูกชายของเขา ภาคินทร์ลูกชายของผู้มีพระคุณ เขาไม่ยอมถูกจับคลุมถุงชนง่ายๆ แล้วไลยาจะทำยังไงต่อไป แต่เธอคงไม่ยอมแพ้แค่นี้แน่ ติดตามอ่านต่อได้ในเรื่อง เมียในสมรส แต่งโดย ชะนีติดมันส์ 

ประธานจบแล้ว

เซ็กซ์บำบัด

109.0K·เวย์นิส

"แล้วถ้าหนูทำให้พี่แวมไพร์กลับมามีความรู้สึกแบบนั้นกับผู้หญิงคนอื่นได้ล่ะ หนูจะได้รางวัลอะไรเป็นการตอบแทนคะ" เมื่อแวมไพร์ไม่ตอบคำถามวิปครีมจึงเสนอข้อแลกเปลี่ยน ยกมือขึ้นมาลูบไล้กรอบหน้าคมคายเบาๆ "ว่ายังไงคะ อยากให้หนูช่วยไหม" "ฉันให้เวลาเธอหนึ่งเดือน ถ้าเธอทำให้ฉันกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้ฉันจะตอบแทนเธอด้วยของทุกอย่างที่เธอต้องการ" "..." "แต่ถ้าไม่หาย...เตรียมตัวเรียกฉันว่าผัวได้เลย"

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

One night Stand แค่แฟนคืนเดียว

76.0K·ปีศาจชอนซา

นิโคลัสเขาแค่ไปเที่ยวสนุกกับเพื่อนๆ ไม่คิดว่าจะได้รับบทบาทเป็นแฟนของสาวสวยในคืนนั้น พริมโรสเธอแค่ต้องการประชดแฟนเก่า จึงขอให้ชายหนุ่มที่ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนอย่างนิโคลัสมาเป็นแฟน แค่วันไนท์สแตนด์ แต่ทว่าเรื่องราวในคืนนั้น กลับกลายเป็นเรื่องราวในวันนี้ ที่ทำให้เธอมีชีวิตที่เปลี่ยนไปตลอดกาล..

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

Love Sick

71.0K·Phat_sara

“หวาย” “ว่า” “วันนี้ไม่ได้ไปด้วยนะ” “เพราะ?” “มีนัด” “กับใคร?” ไม้หวายหันไปถามเพื่อนสนิทด้วยความสงสัยเพราะเธอกับมายานัดกันไว้ตั้งแต่เมื่อสามวันที่แล้ว “เออน่า” “มายาแกจะเบี้ยวฉันแล้วไปกับผู้ชายอีกแล้วเหรอ” “อีกแล้วอะไรกันล่ะ” “เหอะ! ให้มันได้อย่างนี้สิ” “เอาน่า ผู้ชายคนนี้งานดีมากเข้าใจเพื่อนหน่อย” “แล้วฉันก็ต้องไปคนเดียวทั้งที่นัดกันไว้แล้วนี่นะ” ไม้หวายกรอกตาใส่เพื่อนสนิทที่เอาแต่ยิ้มให้เธอ “เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก” “อือ ตามสบายเลย” เธอตอบกลับด้วยความเซ็ง ไม่ใช่ว่าอยากได้ขนมแต่เพราะรู้ว่าต่อให้พูดยังไงเพื่อนสนิทอย่างมายาก็ไม่ไปตามนัดของเธอแน่นอน “น่ารักที่สุด” “ได้แค่น่ารักไงไม่สวยเท่ามายาเลยไม่มีผู้เข้ามาให้เทเพื่อนบ้าง” “ฮ่า ๆๆ ไม่เอา ๆ ไม่กัดเพื่อน อุ้ย! ผู้ชายใกล้มาถึงแล้วฉันไปก่อนนะแก” “ขอติดรถไปลงหน้ามอได้ไหม” “ไม่ได้จ้ะเพื่อน” “ทำไมอ่ะ” “ไม่ได้ก็คือไม่ได้จ้ะเพื่อนรัก ขอโทษน้าแต่ไม่ได้จริง ๆ เพื่อนไปก่อนนะหวาย จุ๊บ~” มายายิ้มหวานให้เธอแล้วส่งจูบก่อนจะรีบปรี่ออกไปด้านหน้าคณะทิ้งให้ไม้หวายอยู่กับความเซ็งและติดอยู่กับความสงสัย สงสัยว่าทำไมมายาถึงได้ไม่เคยให้เธอได้ทำความรู้จักกับผู้ชายของเธอเลยสักครั้งไม่ว่าจะคบกับใครก็ตาม “ช่างเถอะ” ไม้หวายสลัดความคิดทิ้งก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากคณะเพื่อไปขึ้นรถเมล์ที่หน้ามหาวิทยาลัย ปริ๊น ๆ ปริ๊น ๆ “หวาย” “อ้าวพี่ลุค สวัสดีค่ะ” “เราจะไปไหน” “กำลังจะกลับค่ะ” “ขึ้นมาสิเดี๋ยวพี่ไปส่ง” “ไม่เป็นไรค่ะพี่ลุค” “มาเร็ว” “จะดีเหรอคะ” เธอถามด้วยความเกรงใจ อีกอย่างตรงที่เธอยืนอยู่ก็ยังอยู่ไม่ไกลหน้าคณะซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่กับการขึ้นรถของพี่ลุค รุ่นพี่ปีสี่ที่ทั้งหล่อ รวย ฮอต เป็นที่หมายตาของสาว ๆ เกินครึ่งคณะ “มาเถอะน่า” “โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะพี่ลุค” ไม้หวายรีบขึ้นรถหรูของเขาก่อนที่ลุคจะขับรถออกไป “เพื่อนไปไหนล่ะทำไมเดินกลับคนเดียว” “ไปทำธุระค่ะ” ไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องเอาเรื่องส่วนตัวของเพื่อนมาพูดให้ใครฟังไม้หวายจึงเลือกที่จะตอบกว้าง ๆ เข้าไว้ “อื้ม” “พี่ลุคกำลังจะกลับเหรอคะ” “เปล่า พี่จะไปทำธุระให้ไอ้ชาร์ล” ลุคเอ่ยถึงเพื่อนสนิทของตัวเองที่เป็นหนึ่งในผู้ชายเพอร์เฟ็คที่สาว ๆ ทั้งในคณะและต่างคณะต่างก็อยากได้เขาเป็นแฟนกันทั้งนั้น “อ่อ” “แล้วนี่เราจะกลับห้องเลยใช่ไหม” “เปล่าค่ะ หวายจะไปซื้อของน่ะค่ะพี่ลุค” ไม้หวายตอบตามความจริง เธอจะไปซื้อของมาทำงานกลุ่มแต่เพื่อนในกลุ่มของเธออย่างมายาดันเบี้ยวนัดไม่ไปด้วยทำให้เธอต้องไปคนเดียว “ซื้อของใช้เหรอ” “ของทำงานกลุ่มค่ะ” “ไปคนเดียว?” “ค่ะ” เธอพยักหน้ารับเขาที่ถามด้วยสีหน้าฉงน “แล้วเพื่อนในกลุ่มไปไหนหมด หรือว่าไปเจอกันที่ร้าน” “เพื่อนไม่ว่างน่ะค่ะหวายเลยอาสาไปซื้อเอง” เธอยิ้มตอบเขาด้วยความสดใส ถึงจะเซ็งอยู่บ้างที่เพื่อนไม่ไปด้วยแต่จะเซ็งต่อไปก็เปล่าประโยชน์ “ของเยอะรึเปล่า” “นิดหน่อยค่ะ” “ซื้อที่ไหนล่ะ” “ร้าน XXX ค่ะ” เขาถามอะไรมาเธอก็ตอบอย่างไม่คิดอะไร “ไม่ไกลจากที่นี่เท่าไหร่ใช่ไหม” “ค่ะ ไม่ไกลหวายเลยไปเอง” “แต่ยังไงงานกลุ่มก็ไม่สมควรไปซื้อคนเดียวจริงไหม” “ก็...ค่ะ แต่ไม่เป็นไรค่ะเดี๋ยวตอนทำงานก็ช่วยกันทำเหมือนเดิม” “เดี๋ยวพี่พาไปแล้วกันไปคนเดียวลำบาก” “ไม่เป็นไรค่ะพี่ลุคหวายไปได้ค่ะ” “เถอะน่า พี่ว่าง” “เมื่อกี้เพิ่งบอกจะไปทำธุระให้พี่ชาร์ลไม่ใช่เหรอคะ” “อื้ม แต่ไม่ได้รีบอะไร” “อย่าเลยค่ะหวายเกรงใจนั่งแท็กซี่ไปแป๊บเดียวค่ะพี่ลุค” “ไม่ต้องเกรงใจหรอกพี่กำลังอยากขับรถเล่นอยากหาอะไรทำพอดี” “แต่... / นั่งเงียบ ๆ ก็พอไม้หวาย” เธอกำลังจะปฏิเสธอีกครั้งแต่เขาก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงดุนิดหน่อยทำให้ไม้หวายยอมเงียบเพราะรู้ว่าคงปฏิเสธไม่ได้ถ้าเขาต้องการจะพาไป -เวลาต่อมา- “ของโคตรเยอะถ้ามาเองจะหอบขึ้นแท็กซี่ยังไง” “แหะ ๆ ขอบคุณนะคะ” เธอหัวเราะแผ่วเบาด้วยท่าทางเก้อเขินหลังจากที่เขายกของขึ้นรถแล้วหันมาพูดด้วยประโยคเมื่อครู่นี้ “ไม่เป็นไร ต้องซื้ออะไรอีกไหม” “ไม่แล้วค่ะ” “โอเคถ้างั้นพี่ไปส่งที่หอเลยนะ” “ค่ะ” ไม้หวายยิ้มรับก่อนที่ทั้งสองคนจะขึ้นรถแล้วขับตรงไปที่หอพักของเธอ ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด ...ชาร์ล ไม้หวายรับรู้ว่าใครโทรหาลุคจากการมองหน้าจอของรถยนต์ที่เชื่อมต่อกับโทรศัพท์ทำให้เธอเลือกที่จะนั่งเงียบเพื่อให้เขาได้คุยธุระ ติ๊ด! (เมื่อไหร่มึงจะมาวะ!) เสียงที่ดังจากปลายสายบ่งบอกอารมณ์ของคนพูดได้ดีว่ากำลังหงุดหงิดมากแค่ไหน “เออกำลังจะไป รอก่อน” (รอเหี้ยไร มึงรีบมาเดี๋ยวนี้ไอ้ลุคไม่งั้นกูได้ฆ่าผู้หญิงคนนี้ตายก่อนยัยนี่จะฆ่าตัวตายเองแน่!) “เออ ๆ บอกว่ารอก่อนไงวะ” (กูจะฆ่ายัยนี่ให้ตาย มึงรอมาเก็บศพแทนแล้วกัน) “อ่าส์! กูกำลังรีบไป” ติ๊ด! “พี่ต้องเปลี่ยนเส้นทางระทันหันนะหวาย” “เอ่อ...ค่ะ ถ้างั้นเดี๋ยวหวายลงข้างหน้าก็ได้ค่ะ” “ไปด้วยกันนี่แหละ เสร็จธุระเดี๋ยวพี่ไปส่ง ที่ ๆ พี่จะไปอยู่ไม่ไกลจากแถวนี้” ลุคบอกเธอจบก็เพิ่มความเร็วของรถยนต์ขึ้นทันทีส่วนไม้หวายก็กล้าพูดอะไรต่อเพราะเธอตกใจตั้งแต่ที่ได้ยินประโยคนั้นของเพื่อนเขาแล้ว (รอเหี้ยไร มึงรีบมาเดี๋ยวนี้ไอ้ลุคไม่งั้นกูได้ฆ่าผู้หญิงคนนี้ตายก่อนยัยนี่จะฆ่าตัวตายเองแน่!) เธอไม่เคยคุยพี่ชาร์ลคนนั้นหรอกมีแค่พี่ลุคคนนี้เท่านั้นที่เธอมีโอกาสได้คุยบ้างเพราะบุคลิคที่เข้าถึงง่ายของเขาแตกต่างจากเพื่อนของเขาที่แค่มองหน้าก็เหมือนจะฆ่าคนให้ตายคนนั้นพอได้ยินเขาพูดประโยคนั้นออกมาเลยทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัว “พี่ลุคคะ” หลังจากปล่อยให้บรรยากาศในรถเงียบอยู่พักหนึ่งไม้หวายก็ตัดสินใจเรียกคนข้าง ๆ “ครับ” “เหมือนจะมีธุระสำคัญ ให้หวายไปด้วยจะไม่เป็นไรเหรอคะ” “ก็...ไม่เป็นไรหรอก พี่รีบของเราก็เยอะจะให้กลับเองได้ไง ไม่เป็นไรหรอกอย่าคิดมากเลยใกล้ถึงแล้ว เคลียร์ธุระเสร็จเดี๋ยวพี่ไปส่งนะ” “ค่ะ” เพราะไม่รู้จะพูดอะไรต่อไม่กล้าพูดมากเพราะเกรงใจเขาด้วยทำให้เธอเลือกที่จะเงียบจนกระทั่งเวลาผ่านไปไม่ถึงสิบนาทีลุคก็พาไม้หวายเลี้ยวรถเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง “ไปครับ” “คะ?” “ลงรถไงถึงแล้ว” “ค่ะ ๆ” เธอรีบลงรถตามที่เขาบอกเพราะดูเขาเองก็รีบพอตัวจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นส่วนเธอก็ยืนรออยู่ข้างนอกไม่ได้เดินตามเข้าไป “พี่ลุคมาทำไม!” เสียงที่ดังออกมาจากข้างในบ้านทำให้เธอที่ยืนอยู่ข้างนอกตกใจนิดหน่อย ดูเหมือนข้างในจะมีปัญหาใหญ่ที่เธอก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไรเพราะเป็นคนนอก และด้วยความที่เป็นคนนอกก็ยิ่งทำให้เธอลำบากใจที่จะยืนอยู่แถวนี้เช่นกัน “เฮ้อ! มาทำอะไรที่นี่นะหวายเอ้ย” ไม้หวายพึมพำกับตัวเองแล้วพยายามมองหาที่นั่งแต่มันดันไม่มีนี่สิ “กลับได้แล้วพิม” “ไม่! พิมยังคุยกับพี่ชาร์ลไม่รู้เรื่องเลย!” “คุยห่าอะไรอีกวะ” “คุยเรื่องเด็กในท้องพิมนี่ไงยังจะถามอีกเหรอว่าคุยเรื่องอะไร!” ไม้หวายตกใจมากกว่าเดิมกับสิ่งที่ได้ยิน เธอไม่ได้ตั้งใจฟังแต่เพราะคนในบ้านคุยกันเสียงดังออกมาข้างนอกให้เธอได้ยินเอง “ฉันไม่ได้ทำเธอท้อง” “ไม่ได้ทำพิมท้องแล้วหมาที่ไหนมันทำในเมื่อพิมนอนกับพี่ชาร์ลคนเดียว!” “จะไปรู้เหรอวะ!” “เฮ้ยไอ้ชาร์ลมึงใจเย็น” “เย็นเหี้ยไรยัยนี่นอนกับกูสามครั้งกูใส่ถุงทุกครั้งจะมาท้องกับกูได้ยังไง!” “มันก็แตกได้ไหมพี่ชาร์ล! ปัดความรับผิดชอบเอาแต่ได้ ตกลงจะไม่รับผิดชอบพิมกับลูกใช่ไหม!” “เออ!” “ได้! ถ้าพี่ชาร์ลไม่รับผิดชอบพิมจะฆ่าตัวตาย!” “เออ! ตาย ๆ ไปเลยเรื่องของเธอ!” “เฮ้ย ๆ พอ ๆ กูว่าไปกันใหญ่แล้ว เอางี้พิมพี่ว่าคุยตอนนี้ก็มีแต่แรงใส่กันให้ไอ้ชาร์ลมันไปสงบสติอารมณ์ก่อนดีกว่านะ” “แล้วพิมล่ะ! พิมจะอยู่ยังไงระหว่างที่พี่ชาร์ลไปสงบสติอารมณ์! คนทำแค่อารมณ์เสียแต่คนท้องมันจะตายอยู่แล้วนะพี่ลุค ฮื่อ ๆๆ” “ไม่เป็นไรเดี๋ยวคุยกับพี่ก่อน มีอะไรระบายกับพี่ ยิ่งดันทุรังคุยกับมันตอนนี้ยิ่งพังกว่าเดิมนะพิม” “แต่พิม... / เชื่อพี่ คุยตอนนี้ยิ่งพังก็เห็นอยู่ว่าไอ้ชาร์ลไม่ได้แคร์อะไร” “ฮึก! ก็ได้ค่ะ” “โอเค ถ้างันพิ้มรออยู่ตรงนี้ก่อน อย่าเพิ่งทำอะไรนั่งอยู่เฉย ๆ เดี๋ยวพี่มา ถ้าอยากให้เรื่องมันดีขึ้นอย่าวู่วามเด็ดขาดนะพิม” “ค่ะ ฮื่อ ๆๆ” “มึงมานี่ไอ้ชาร์ล” ลุคดึงเพื่อนสนิทของตัวเองออกมานอกบ้าน ทันทีที่เดินออกมาข้างนอกก็ทำให้ไม้หวายสะดุ้งด้วยความตกใจแล้วก็รู้สึกหวาดกลัวทันทีที่เห็นสายตาเกรี้ยวกราดที่มองมาที่เธอ “...มึงพาเด็กในคณะมาทำไม?” “เอ่อ...” ไม้หวายรู้สึกเสียวสันหลังกับน้ำเสียงและสายตาที่ดูไม่พอใจกับการมีเธออยู่ที่นี่ของเขาทำให้เธออึกอักออกมาในทันที “ก็มึงเร่งกูจะให้ทำยังไงวะกูกำลังจะไปส่งน้องที่หอพอดีจะไปส่งก่อนก็กลัวไม่ทัน ช่างเถอะน่ากูว่าตอนนี้มึงกลับก่อนดีกว่าเดี๋ยวกูเคลียร์ทางนี้เอง” “อืม เคลียร์ไปเลยกูรำคาญ แต่ถ้าเคลียร์ไม่ได้ก็ปล่อยให้ตายอย่างที่อยากตายไปเลย” ชาร์ลเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาไร้เยื่อใยก่อนจะหันหลังเดินไปทันที “เดี๋ยวก่อนไอ้ชาร์ล” “อะไร” “กูคงต้องเคลียร์อีกนานฝากไม้หวายกลับกับมึงก่อน” “เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะพี่ลุคเดี๋ยวหวายกลับแท็กซี่ก็ได้ค่ะ” “ไม่ได้ พี่บังคับเรามาจะให้เรากลับเองได้ยังไงของเราก็เยอะ กูเคลียร์ธุระให้มึงมึงก็เคลียร์ธุระให้กูบ้าง พาไม้หวายไปส่งที่หอเอารถกูไปเพราะของน้องอยู่หลังรถกูเยอะ” ลุคพูดจบก็ยื่นกุญแจรถไปข้างหน้าเพื่อให้ชาร์ลมาหยิบมัน “...ยุ่งยากว่ะ” เขาพึมพำออกมาด้วยความหงุดหงิดก่อนจะเดินมาแลกกุญแจรถกับเพื่อนสนิทด้วยท่าทางที่ดูไม่น่าเข้าใกล้ที่สุดในความรู้สึกของไม้หวาย “กลับกับมันนะไม้หวาย พี่ขอโทษจริง ๆ ที่ไปส่งด้วยตัวเองไม่ได้” “...ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะพี่ลุค” ไม้หวายรับคำด้วยความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ความจริงเธอยากกลับเองมากกว่าแต่ด้วยอารมณ์ของชาร์ลในตอนนี้ทำให้เธอไม่กล้าพูดอะไร “มาสักที” เสียงดุดันเอ่ยขึ้นทำให้สองขาเรียวต้องรีบเดินไปที่รถของลุคก่อนจะรีบขึ้นรถด้วยความลนลานแต่ยังไม่ทนที่เธอจะได้คาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อยรถหรูคันนี้ก็ถูกคนขับเหยียบคันเร่งเต็มแรงจนรถกระชากและมันก็ทำให้ไม้หวายอกสั่นขวัญหาย จากที่กลัวอยู่แล้วก็ยิ่งกลัวมากขึ้นหลายเท่าตัว บรรยายกาศในรถมีแต่ความเงียบไม่มีสักวินาทีที่ไม้หวายจะไม่เกร็ง แม้แต่การหายใจเข้าออกของตัวเองเธอก็ยังรู้สึกเกร็งต้องค่อย ๆ หายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อไม่ให้เกิดเสียงรบกวนเขาที่เธอไม่ได้สนิทด้วยแม้แต่นิดเดียวต่อให้เขาจะเป็นพี่รหัสของเพื่อนสนิทเธอก็ตาม “ชื่ออะไรนะ” เสียงเย็นชาที่เอ่ยขึ้นมาทำลายความเงียบอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียงทำไม้หวายสติแทบหลุด “คะ” “เธอชื่ออะไร” เขาถามอีกครั้งโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าเธอแม้แต่นิดเดียวเอาแต่จ้องมองไปที่ถนนด้วยใบหน้าถมึงทึง “หวะ...หวายค่ะ” “อืม” เขาตอบรับแค่นั้นบรรยากาศโดยรอบก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งและมันยิ่งทำให้ไม้หวายทำตัวไม่ถูก แม้แต่มือไม้ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปวางไว้ตรงไหนดี “อย่าไปพูดเรื่องนั้นให้ใครฟัง” “...ค่ะ” เธอเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะตอบไม่ใช่เพราะจะไม่รับปากแต่เป็นเพราะเธอรู้สึกหวาดกลัวน้ำเสียงเย็นยะเยือกของเขาต่างหากเลยทำให้เธอขยับปากได้ช้า “รับปากแล้วก็ทำให้ได้ ถ้าเรื่องนี้เล็ดลอดออกไป...เธอตาย”

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

มาเฟียพ่อลูกอ่อน

89.0K·เวย์นิส

"ฉันท้อง" "..." ให้ตายเถอะ! เขากำลังจะประสาทเสียเพราะผู้หญิงคนนี้ เจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มพ่นลมหายใจหนักๆ พยายามระงับอารมณ์ไม่ให้หมุนตัวกลับไปยิงแสกหน้าเธอตอนนี้ "ฉันท้อง ท้องกับนาย" "..." "ได้ยินไหมว่าฉันท้อง" "..." "ลูกของฉันต้องมีพ่อ นายต้องเซ็นรับรองบุตรให้ฉัน" "..." "ฉันท้อง" "โว้ย! เลิกกล่อมประสาทฉันสักทีได้ไหม!" ความอดทนสิ้นสุด คาเรนหยุดฝีเท้าแล้วหมุนตัวกลับไปตวาดเสียงใส่หญิงสาว สร้างความตกใจให้อิงดาวไม่น้อย เธอมองเขาด้วยแววตาสั่นระริก "ฉันท้อง" "เออรู้แล้ว! ก็ไปบอกพ่อของลูกเธอสิวะ!" "ฉันท้องกับนาย"

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

วิวาห์จำแลง

73.0K·ชะนีติดมันส์

เธอต้องการเงินที่จะมารักษาน้องชายที่ประสบอุบัติเหตุ จึงยอมขายไตตัวเองเพื่อที่จะยื้อชีวิตของน้องชายไว้ แต่การขายไตเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ปลายฝนจึงต้องจดทะเบียนสมรสกับลูกชายของท่านก่อน ถึงจะทำการผ่าตัดได้.. แต่เรื่องมันไม่ได้จบอยู่แค่นั้น เมื่อทั้งสองได้มาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันความสัมพันธ์ก็เริ่มขึ้น..

ประธานจบแล้ว

สามี(ไร้)รัก

69.0K·ชะนีติดมันส์

"หอม" ชายหนุ่มเผลอปากพูดออกมา ผิวกายของเธอช่างหอมยั่วยวนเพศตรงข้ามมาก เขาไม่เคยได้กลิ่นกายผู้หญิงที่หอมละมุนแบบนี้มาก่อน "อือ" เธอไม่ใช่พระอิฐพระปูน พอถูกเล้าโลมหนักเข้า หญิงสาวก็มีอารมณ์คล้อยตาม กรงเล็บจิกลงที่แผ่นหลังแกร่งแบบลืมตัว และมันก็ทำให้เลือดในกายของชายหนุ่มวิ่งพุ่งพล่านขึ้น ใบหน้าหล่อคมเลื่อนต่ำลงมาจนถึงหน้าท้องที่แบนราบ มันยิ่งทำให้เจ้าของเรือนร่างนั้นสยิวมากขึ้น ..ทันใดนั้นริมฝีปากหนาก็แนบลงเนินสวาทที่มีสิ่งกีดขวางพอประปราย ซึ่งตอนนี้เขาได้กำจัดเสื้อผ้าอาภรณ์ของเธอออกจนหมดสิ้น ต้นขางามชันขึ้นเมื่อริมฝีปากนั้นสัมผัสกับที่สงวนแบบตกใจ ลิ้นสากเปลี่ยนเป้าหมายลากยาวลงมาตามเรียวขาขาวเพื่อให้เธอผ่อนคลาย และมันก็ได้ผล จากที่เกร็งอยู่เมื่อสักครู่ตอนนี้หญิงสาวก็ปล่อยขาลง เรียวลิ้นอุ่นลากกลับขึ้นมาที่สงวนอีกครั้ง เขาไม่เคยเล้าโลมผู้หญิงคนไหนขนาดนี้มาก่อน แต่เพราะกลิ่นกายหอมของเธอทำให้เขาอยากสัมผัสไปทั่วร่าง ชายหนุ่มรีบจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองแบบทนไม่ไหว เพราะตอนนี้อาวุธที่เขาซ่อนไว้ด้านในมันพร้อมที่จะสู้รบมากแล้ว อาทิตย์ไม่ได้เมาจนขาดสติไม่รู้ว่าคนที่กำลังร่วมเตียงอยู่ในตอนนี้เป็นใคร..มาถึงขั้นนี้แล้วถ้าเขาปล่อยเธอก็เรียกเขาว่าไอ้หมาอาทิตย์ได้เลย วาดเดือนได้สติตลอดเวลา เพราะมันคือสิ่งที่เธอต้องการหญิงสาวถึงนอนนิ่ง และตอนนี้สิ่งนั้นที่เธออยากจะได้จากเขามากมันกำลังจะ.. "โอ้ย..อือ.." ความเป็นชายของเขาได้สอดใส่เข้ามาทันที ที่ร่างหนาทาบทับลงมา "อ้าา.." อาทิตย์คิดว่ามันจะเข้าได้ง่ายๆ เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยผ่านมา ..ชายหนุ่มถึงกับชะงัก เพราะช่องคลอดของเธอบีบรัดตัวมาก..มากจนเขาดันมันเข้าไปได้แค่ตรงปลายหัว "เจ็บ"

ประธานจบแล้ว

ผัวเถื่อน

85.0K·เวย์นิส

"โอ๊ย!!" ร่างของเธอถูกเหวี่ยงขึ้นมาบนเตียงอีกครั้ง แต่เจ้าของการกระทำนั้นไม่ใช่คนเดิม "ต่อให้พวกแกเอาฉันจนตายก็ได้ไปแค่ร่างกายของฉันเท่านั้นแหละ!" วายุหัวเราะในลำคอเบาๆ ราวกับขบขันคำพูดของเธอนักหนา ก่อนที่เขาจะคลานเข่าขึ้นมาบนเตียง พร้อมกับชักรูดความใหญ่โตเพื่อเตรียมความพร้อม วิสกี้มองภาพตรงหน้าด้วยจังหวะหัวใจที่เต้นแรงไม่เป็นส่ำ น้ำตาที่ไม่เคยแห้งเหือดไหลพรากออกมาอีกครั้งอย่างสุดจะกลั้นเมื่อเรียวขาสวยทั้งสองข้างถูกหัวเข่าของวายุดันออกจากกัน "ฉันบอกเหรอว่าต้องการหัวใจของเธอ?"

นิยายรักจบแล้ว

MY PERSISTENT หัวใจกำราบรัก

52.0K·AngelBell

จากน้องสาวของเพื่อนสนิทอย่าง ‘เฌอลินณ์’ กลายมาเป็นคู่นอนแก้เหงาให้กับเสือร้ายอย่าง ‘พอร์ช’ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาถึงสองปีความสัมพันธ์บ้า ๆ นี้จบลงอย่างง่ายดายเพียงเพราะ ‘ตัวจริงในหัวใจ’ ของเขากลับมา โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังจะเป็น...พ่อคน

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

Love My Boss

47.0K·Phat_sara

“ฉันจะไปฝึกงานที่เชียงใหม่นะแก” “ฮะ?” “จริง ๆ” “บ้า~ ที่ฝึกงานไม่มีที่เชียงใหม่ซะหน่อย” “เดี๋ยวก็มี” ขวัญเอยเพื่อนสนิทของฉันพูดขึ้นแล้วยิ้มบาง ๆ แต่ทำไมยัยเอยยิ้มเศร้าจังเลย มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ทั้งคำพูดทั้งสีหน้าทุกอย่างดูแปลกไปหมด “มีอะไรรึเปล่าแก” “...” “เอย แกเป็นไร” ฉันย้ำถามเพราะเพื่อนไม่ตอบแต่เพื่อนมองฉันแล้วน้ำตาคลอแทนทำฉันใจคอไม่ดีทันที “...ฉันท้อง” “อะไรนะ!” “ฮึก!” “เฮ้ย ๆๆ ใจเย็น ๆ เอยอย่าเพิ่งร้อง” ตอนแรกตกใจนึกว่าอำเล่นแต่ร้องแบบนี้ไม่อำแล้วล่ะเรื่องจริงแน่นอน แค่ได้ยินเรื่องเล่าที่ไม่มีรายละเอียดก็รู้สึกมวนท้องขึ้นมาทันทีเลยมิ้งค์เอ้ย~ “...อย่าเพิ่งบอกใครนะแก ฮึก!” “ไม่บอก ๆ ฉันไม่บอกใครแน่นอน” จะไปบอกใครได้ยังไงเรื่องใหญ่ขนาดนี้ อย่าว่าแต่จะไปบอกใครเลยลำพังตอนนี้แค่ตั้งสติของตัวเองยังทำไม่ได้ เกิดเรื่องใหญ่กับเพื่อนรักแถมตอนนี้เพื่อนรักของฉันก็เลิกกับแฟนไปแล้วด้วย ตายห่าคุณมิ้งค์คนนี้จะช่วยอะไรได้มากกว่าปลอบใจไหมเนี่ย! -สองอาทิตย์ต่อมา- “แม่คะ” “จ้ะ” “มิ้งค์จะฝึกงานแล้วนะ” “รู้จ้ะ แล้วที่ฝึกงานไกลไหมแม่ว่าจะถามก็ลืมตลอดเลย” “ไกลค่ะ” “เดินทางไหวไหมล่ะลูก ฝึกงานตั้งหลายเดือนไปหาหอใกล้ ๆ อยู่ระหว่างฝึกงานไหม” “ค่ะ ก็ต้องเอาแบบนั้นล่ะค่ะแม่เพราะว่าที่ฝึกงานของมิ้งค์ไกลมาก~” ฉันเน้นคำว่าไกลมากเป็นพิเศษ “มิ้งค์ดูที่พักรึยังล่ะหรือจะให้แม่พาไปดู” “ไม่ต้องดูค่ะแม่ ที่ฝึกงานมีที่พักให้ค่ะ” “จริงเหรอจ้ะถ้างั้นก็ดีสิ ว่าแต่หนูฝึกที่ไหนทำไมสวัสดิการดีจังเลย” “ฝึกที่ไร่สิริภัคดิ์ค่ะ” “ไร่? สำนักงานของไร่เหรอ ชื่อไร่คุ้น ๆ นะเหมือนเคยได้ยิน” แม่ขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินชื่อบริษัทที่ฉันจะไปฝึกงาน “ไร่สิริภัคดิ์ที่เป็นไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดของไทยไงคะ มีโรงแรมแล้วก็โรงงานผลิตชาส่งออกแม่น่าจะรู้จักนะคะ เหมือนแม่เคยแท็กมิ้งค์ด้วยนะว่าอยากไปเที่ยวที่ไร่เขา” “อ้อก็ว่าอยู่ชื่อคุ้น ๆ ฝึกที่สำนักงานใช่ไหม ตั้งใจนะยัยมิ้งค์อย่าไปโก๊ะเด็ดขาด” “ค่า~ มิ้งค์ไม่ปล่อยโก๊ะหรอกค่ะแม่สบายใจได้เลย” “แล้วว่าแต่ที่ฝึกงานอยู่แถวไหนล่ะลูก” “...เชียงใหม่ค่ะ” “อะไรนะ?” “เชียงใหม่ค่ะแม่ มิ้งค์จะไปฝึกงานที่เชียงใหม่ค่ะ” “อำแม่เหรอยัยมิ้งค์” แม่ทำหน้าไม่เชื่อแต่ฉันก็ยังมีสีหน้ามุ่งมั่นแน่วแน่เหมือนเดิม จะไม่ให้แน่วแน่ได้ไงก็มิ้งค์มีความฝันที่ทำให้อยากไปมากพอมีโอกาสก็ต้องรีบคว้าไว้แล้วไปให้ได้ “ไม่อำค่ะแม่มิ้งค์จะไปฝึกงานที่เชียงใหม่กับเอยค่ะ” “...ไกลเลยนะลูก” ยิ่งย้ำแม่ก็ยิ่งอึ้งแต่ฉันก็เข้าใจนะใครจะคิดว่าลูกสาวจะไปฝึกงานไกลถึงเชียงใหม่จริงไหม กรุงเทพ-เชียงใหม่ ไม่ใกล้เลยนะคะ “ค่ะแม่แต่มิ้งค์อยากไป มีโอกาสก็เลยไปดีกว่า แม่ไม่โกรธใช่ไหมคะ” “ไม่โกรธหรอกจะโกรธทำไมมิ้งค์ไปฝึกงานนี่จ้ะไม่ได้ไปตามผู้ชายซะหน่อย” “...” เจอคำนี้ของแม่เข้าไปแอบสะอึกไปเหมือนกันนะมิ้งค์ “แม่แค่ตกใจแค่นั้น แล้วจะไปเมื่อไหร่ล่ะลูก” “...วันจันทร์หน้าค่ะ” “ฮะ!” -หลายวันต่อมา- “เป็นไรแก” ขวัญเอยเพื่อนรักหันมามองฉันที่ขยับตัวหยุกหยิกไม่หยุดมาสักพักแล้ว “ฉันตื่นเต้น” “ตื่นเต้น? ไม่ต้องกลัวหรอกน่าวันนี้ยังไม่ได้เริ่มฝึกงานสักหน่อย” “อื้อ” เพื่อนจะคิดแบบนั้นก็ให้เพื่อนคิดไปเลยดีกว่าค่ะสบายใจทั้งสองฝ่ายดี แต่มันใช่แบบนั้นหรอกค่ะ มิ้งค์ไม่ได้ตื่นเต้นเพราะเรื่องฝึกงานเลยสักนิด “เดี๋ยวไปถึงไร่รับรองว่าความสวยของที่นั่นจะทำแกลืมความตื่นเต้นไปเลยเชื่อฉัน” “นั่นสิเนอะฉันดูรีวิวมาไร่สิริภัคดิ์สวยมากเลยนี่นา” “ใช่แต่ในรูปไม่สวยเท่าของจริงหรอกของจริงสวยกว่ามาก ๆ” ขวัญเอยเพื่อนฉันเป็นหลานสาวของเจ้าของไร่ค่ะ ที่เรามาที่นี่ก็เพราะเหตุผลก่อนหน้านี้นั่นแหละ ยัยเอยจะท้องโตขึ้นทุกวันเลยเลือกมาฝึกงานในบริษัทของบ้านตัวเองแล้วที่เลือกมาที่นี่เพราะยัยเอยอยากหนีอะไรบางอย่างมา ซึ่งอะไรบางอย่างก็คงไม่ต้องเดาให้ยากหรอกค่ะก็หนีพ่อของลูกมานั่นแหละ ส่วนฉันเป็นห่วงเพื่อนเลยตามมาฝึกงานที่นี่ด้วย แต่นั่นก็แค่หนึ่งเหตุผลนะคะเพราะฉันยังมีอีกหนึ่งเหตุผลที่ขอไม่บอกดีกว่า มันเป็นเหตุผลฟลุ๊ค ๆ ที่ทำให้ฉันแอบมีความสุขมากเหมือนกัน “แก” “ว่า” “พี่ชายแกดุไหม” “พี่แทนน่ะเหรอ ไม่ดุหรอกพี่แทนใจดี” “อื้อ” “ทำไมจ้ะกลัวว่าที่เจ้านายเหรอ” “อื้อ ก็ต้องกลัวไหมล่ะแกเล่นจะให้อยู่บ้านเดียวกันกับเจ้านายเลย ถ้าดุฉันอยู่ลำบากแน่ ๆ” “ฮ่า ๆๆ ไม่ต้องกลัวหรอกเพราะพี่แทนใจดีมาก~ ที่สำคัญหล่อมากด้วยนะจ้ะ” “โม้รึเปล่า” “ไม่โม้ รับรองถ้าแกเห็นพี่แทนแกจะต้องอยากยื่นใบสมัครเป็นพี่สะใภ้ฉันแน่นอนจ้ะยัยมิ้งค์คนสวยเพราะพี่แทนทั้งหล่อรวยนิสัยดีทุกอย่างดีหมดเลย ดีมากเหมาะเป็นแฟนเพื่อนมาก~” ฉันฟังคำพูดของยัยเอยแล้วก็เบ้ปากใส่เพื่อนที่พรีเซ้นส์พี่ชายตัวเองเต็มที่มาก แต่ฉันก็ไม่เถียงคะนะเพราะใคร ๆ ก็รู้ว่าคุณแทนคุณรองประธานกรรมการของสิริภัคดิ์ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นานหลังจากที่กลับมาจากอเมริกาหล่อมากเกินคำว่าหล่อด้วยซ้ำ พูดแล้วอยากเห็นตัวเป็น ๆ เลยแต่ถึงเห็นก็คงไม่รู้สึกอะไรเพราะฉันเคยเห็นคนที่หล่อมากเกินคำว่าหล่อมาแล้ว แฟนขวัญเอยไง รายนั้นก็หล่อมากเกินคำว่าหล่อเช่นกัน แต่หล่อให้ตายยังไงก็ทำได้แค่มองเพราะนั่นคือแฟนเพื่อน แหะ ๆ “อันนี้ไร่อะไรเหรอยัยเอย” ฉันชี้ไปที่ด้านหนึ่งที่เป็นทางเข้าไร่แต่อ่านป้ายได้ไม่ชัดเท่าไหร่ “นี่เหรอ ไร่ชาเหมือนกันนี่แหละแต่ไม่ได้เน้นชาเป็นพิเศษเท่าไร่เรา ทำหลายอย่างข้างในสวยนะเคยเข้าไปตอนเด็ก ๆ ตามคุณลุงไปทำอะไรไม่รู้จำไม่ได้เหมือนกัน” “อ้อ~” ฉันพยักหน้ารับแล้วมองไปที่ป้ายชื่อขนาดใหญ่ของไร่ ...สวยเหรอ เดี๋ยวต้องหาโอกาสเข้าไปดูไร่นี้สักครั้งแล้วล่ะค่ะ อยากรู้เหมือนกันว่าจะสวยอย่างที่เขาบอกไหม ^^ รถขับผ่านไร่นั้นได้ไม่กี่ร้อยเมตรก็เลี้ยวเข้าจุดมุ่งหมายของเรา ไร่สิริภัคดิ์ ไร่ชาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยแล้วก็มีโรงแรมที่สวยอลังกาลมาก ๆ อยู่ในนี้ด้วย ที่ที่ฉันต้องฝึกงานและใช้ชีวิตที่นี่ไปอีกสี่เดือน “สวัสดีค่ะคุณเอย” “สวัสดีค่ะคุณมิลิน” พอลงรถหน้าส่วนที่ยัยเอยบอกว่าเป็นออฟฟิตก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมาก ๆ มาต้อนรับ ใส่ชุดทำงานแสดงว่าเป็นพนักงานที่นี่สินะ เห็นยัยเอยไหว้ฉันก็ไหว้ด้วย “นี่มิ้งค์เพื่อนเอยที่จะมาฝึกงานด้วยกันค่ะ” “ค่ะ ยินดีต้อนรับนะจ้ะ คุณเอยกับเพื่อนไปพักผ่อนที่บ้านดีกว่านะคะวันนี้ยังไม่ต้องรายงานตัว” “พี่แทนล่ะคะ” “ไปธุระค่ะ” “อ้อ ค่ะ ถ้างั้นเอยไปบ้านเลยดีกว่า ไปกันแก” ยัยเอยพยักหน้ารับแล้วก็หันมาชวนฉันจากนั้นเพื่อนฉันก็ขึ้นรถเลยส่วนฉันก็งง ๆ แต่แว๊บหนึ่งฉันเห็นผู้หญิงคนนี้แอบทำหน้าไม่สบอารมณ์ไล่หลังยัยเอยนะ “แก” พอรถปิดสนิทฉันก็สะกิดเพื่อนรักทันที “ฉันรู้นะว่าแกจะถามอะไร” “ฮ่า ๆๆ นี่สิเพื่อนรัก แค่มองตาก็รู้ว่าจะนินทาใคร” “เดี๋ยวเถอะยัยมิ้งค์นี่ ไม่ได้จะนินทาสักหน่อย เมื่อกี้คุณมิลินเป็นผู้จัดการทั่วไปของที่นี่” “อ้อเป็นผู้จัดการนี่เองไม่น่าล่ะจัดการให้เสร็จสรรพเลย” ตอนที่เห็นแว็บแรกก็ว่าสวยนะคะแต่พูดออกมาไม่กี่ประโยคก็รู้เลยว่ายัยเจ้นั่นฤทธิ์เยอะแน่นอน แล้ว! ที่สำคัญ! สิ่งที่ฉันรู้สึกไม่เข้าตาที่สุดคือการที่น้องสาวของเจ้าของไร่ถามหาพี่ชายแล้วเจ้แกตอบว่า ไปธุระค่ะ ฮัลโหล~ ไม่ได้จะเบ่งนะแต่ยัยเอยเป็นหลานสาวของเมียประธานบริษัทนะเว้ยเฮ้ย! บอกตรง ๆ นะคะว่าคำตอบของยัยเจ้นั่นทำให้ฉันรู้สึกว่าตัวเองพบเจอคนหวงก้างแล้วหนึ่ง ท่าทางพี่ชายเพื่อนจะฮอตแล้วก็เป็นที่หมายปองของสาว ๆ ในไร่เอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย แล้วเด็กฝึกงานสวย ๆ อย่างมิ้งค์ที่อยู่บ้านเดียวกันกับคุณแทนคุณจะโดนเพ่งเล็งจากสาว ๆ มากแค่ไหนกันนะไม่อยากจะคิดเลย -_-! “เสียดายเนอะเลยไม่ได้แนะนำให้ว่าที่พี่สะใภ้เจอพี่ชายเลย” “หืม~ เรียกซะ เดี๋ยวเจ้มิลินอะไรนั่นก็มาแหกอกเพื่อนหรอก” “ฮ่า ๆๆ ไม่ใช่แค่คุณมิลินหรอกที่จะแหกอกแกแกเชื่อฉันสิ” “ฉันก็ว่างั้นเพราะฉะนั้นมิ้งค์ขอบายจ้ะเพื่อนรัก” “อย่าเพิ่งพูดแบบนี้รอเจอพี่แทนก่อนสิ” “ฉันไม่ได้คลั่งคนหล่อนะแก ฉันคลั่งคนดีจ้ะคนสวย” “พี่ชายฉันก็ดีไง” “เชียร์เก่งจัง เป็นไรเนี่ยพี่ชายแกหล่อมากจนหาแฟนไม่ได้รึยังไง” “เปล่า~ แค่เห็นแกสวยเลยอยากได้มาเป็นพี่สะใภ้ อิอิ” “ฮ่า ๆๆ เจ้มิลินนั่นก็สวยไม่เชียร์เหรอจ้ะ” “ไม่เอาอ่ะ ละไว้ในฐานที่เข้าใจเนอะ เจอหน้าไม่กี่ครั้งก็รู้แล้วว่าเป็นยังไง” ขวัญเอยยิ้มแห้งฉันเลยขำเบา ๆ จากนั้นรถก็พาเราไปหยุดที่บ้านหลังใหญ่ที่...สวยมาก~ อ้อ! ไร่ก็สวยนะคะ โคตรสวยเลย สวยมาก ๆ เหมือนอยู่ในวิมานไม่มีผิดคิดไม่ผิดเลยที่มาฝึกงานที่นี่ เราสองคนเข้าไปในบ้านแม่บ้านก็พาฉันไปที่ห้องพัก ห้องสวยค่ะแต่เปิดไปที่ระเบียงสวยมากกว่าเพราะเห็นวิวที่มองไปเห็นไร่ตรงหน้าได้ชัดเจน บ้านอยู่บนเนินเขานี่สวยจริง ๆ เลยนะ อิจฉาเจ้าของบ้านจังที่มีบ้านสวยขนาดนี้ส่วนฉันคงได้แค่ฝัน สิบปีคงไม่มีแม้แต่ปัญญาจะซื้อที่ตรงตีนเขา แหะ ๆๆ “อยู่ตรงไหนนะ” ฉันพึมพำออกมาคนเดียวตรงริมระเบียงหลังจากที่ยืนกวาดสายตามองวิวตรงหน้าแล้วหาอะไรบางอย่าง “ตรงนั้นรึเปล่า” น่าจะใช่รึเปล่านะเพิ่งมาถึงเลยยังไม่ค่อยรู้ทิศรู้ทางเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรหรอกมิ้งค์อีกสักพักเดี๋ยวก็รู้เอง ฉันนอนพักผ่อนเพราะเพิ่งมาถึงไม่ได้มีอะไรให้ทำจนถึงช่วงบ่ายคล้อยเลยออกมาเดินเล่นส่วนยัยเอยน่าจะนอนอยู่นะคะเลยไม่ได้กวนเพื่อน “สวยจัง” ฉันเดินเล่นมาเรื่อย ๆ ออกจากตัวบ้านเดินลัดเลาะมาตามเนินเขาด้านหลังแล้วมองวิวที่หาซื้อไม่ได้ ธรรมชาตินี่สวยมากเลยเนอะมองตอนไหนก็เพลินตาไปหมด “คิดถึงมากเลยค่ะ” “...” หือ ใครคุยโทรศัพท์กับแฟนแถวนี้? “เมื่อเช้าก็เจอกันแล้วไง” อ้าว! ไม่ใช่เสียงคุยโทรศัพท์นี่คะมีเสียงผู้ชายด้วย “แต่มันไม่เหมือนกันนี่คะ” “เหมือนกันนั่นแหละ” “คุณจะไปรู้อะไร แล้วนี่ยังไงคะไปที่บ้านไม่ได้เลยเหรอ” “ไม่ได้ วันนี้ไม่ได้อยู่คนเดียว” “ก็แค่น้องสาวรึเปล่า พี่ชายจะพาผู้หญิงเข้าบ้านก็ไม่เห็นเป็นอะไรสักหน่อย” ฉันไม่ได้แอบฟังนะคะแต่บังเอิญว่าสองคนนี้คุยกันเข้าหูฉันเอง “บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้อย่าเซ้าซี้” เสียงผู้ชายเริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาฉันว่าฉันพาตัวเองไปจากตรงนี้ดีกว่ามันดูเสียมารยาทยังไงก็ไม่รู้ ฉันรีบขยับตัวมองซ้ายมองขวาหาทางที่จะเดินไปต่อให้พ้นจากตรงนี้ทันที “อย่าเข้าใจผิดสิคะไม่ได้เซ้าซี้ซะหน่อย ไม่เอาค่ะไม่อารมณ์เสียนะทำงานมาเหนื่อย ๆ อุตส่าห์มาเจอกันตรงนี้ทั้งที มาค่ะเดี๋ยวทำให้หายเหนื่อยดีกว่า~” ทำไมผู้หญิงต้องทำเสียงเซ็กซี่ด้วย ที่นี่มีคนงานในไร่มาพลอดรักกันแบบนี้บ่อย ๆ รึเปล่าเนี่ยไม่อายเจ้าป่าเจ้าเขาก็ช่วยเกรงใจเจ้าของไร่ไม่ได้รึ...ไง แกร็บ~ ขวับ! “ว้าย!” “เอ่อ...” “เธอเป็นใคร!” “คือ...สวัสดีค่ะพี่แทน” “ใครเป็นพี่เธอ? ลงไปก่อน” เขาถามฉันเสียงไม่สบอารมณ์แต่ยังไม่ได้คำตอบจากฉันก็หันไปบอกผู้หญิงคนนั้นที่ฉันจำได้ว่าคือยัยเจ้มิลินให้ลงไปจากการนั่งคร่อมตักเขา “มาทำอะไรของเธอ คิดว่าจะเดินเล่นตรงไหนก็ได้รึไง” ยัยเจ้มิลินขยับตัวลงพร้อมกับต่อว่าฉันด้วยเสียงที่เหวี่ยงมาก อารมณ์เหมือนเจ้านายด่าลูกน้องไม่มีผิด แต่ก็คงจะอย่างนั้นไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าทำไมถึงกล้าสั่งให้ยัยเอยไปพักที่บ้านแล้วตอบคำถามของยัยเอยแบบเมื่อกลางวันก็เพราะว่ายัยเจ้นี่ท่าทางจะเป็นว่าที่แม่เลี้ยงของไร่สิริภัคดิ์นี่ไง “ขอโทษค่ะ” ฉันได้แต่ก้มหน้าหลบสายตาแล้วขอโทษนี่ล่ะ ถึงจะเป็นเพื่อนของยัยเอยแต่จะไปมีเพาเวอร์สู้แฟนเจ้าของไร่ได้ยังไงจริงไหมคะ เป็นทั้งผู้จัดการเป็นทั้งแฟนเจ้าของไร่ กินรวบหมดเลยโชคดีเป็นบ้า “ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” เสียงเจ้าของที่นี่ถามขึ้นฉันก็ยิ่งก้มหน้า หล่อเกินคำว่าหล่อจริง ๆ นั่นแหละแต่น้ำเสียงไม่น่าสบตาคนหล่ออย่างเขาเลย “เพื่อนคุณขวัญเอยที่จะมาฝึกงานที่นี่ไงคะ เด็กเส้นของท่านประธาน” ฉันแค่เด็กติดสอยห้อยตามเถอะไม่ได้เป็นเด็กเส้นอย่ามาแอบแขวะ! “ไปก่อนไป” “...” “ไปสิ” เสียงแข็งจากยัยเจ้นั่นพูดออกมาเหมือนฉันฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องทำให้ฉันได้แต่ก้าวขาแล้วเก็บความโกรธไว้ในใจ นี่สินะชีวิตจริงของการเป็นผู้ใหญ่ ชีวิตของการเป็นผู้น้อย! “ขอผมคุยกับเด็กคนนี้แบบส่วนตัว” ฉันก้าวขาได้ขาเดียวเสียงเขาก็พูดขึ้นทำเอาฉันแทบหลุดขำ นี่เขาบอกให้ยัยเจ้มิลินแฟนเขาไปหรอกเหรอ ฮ่า ๆๆ แอบสะใจมากเหมือนกันนะที่ยัยเจ้นั่นหน้าแตก “คะ?” นี่ยังต้องทำหน้างงอีกเหรอคะเจ้ขา~ “คุณกลับบ้านพักได้แล้ว” “แต่...ก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้เจอกันนะคะ” ยัยเจ้มิลินอะไรนี่พูดจบก็เขย่งปลายเท้าทำท่าจะหอมแก้มแฟนเพื่อประกาศความเป็นเจ้าของแต่อีกฝ่ายมองหน้าเธอนิ่ง สายตาเย็นชาพอสมควรทำให้อีกคนชะงัก ยัยเจ้มิลินหน้าเสียแต่สุดท้ายก็ยิ้มให้เขาแล้วไม่วายหันมามองจิกฉันแล้วเดินไปทางที่ฉันเพิ่งเดินมาพอยัยเจ้นั่นเดินห่างไปไกลฉันก็รีบปรับสีหน้าให้ดีขึ้นแล้วยกมือไหว้เจ้าของที่นี่ให้เป็นทางการ “สวัสดีค่ะ หนูชื่อมิ้งค์ค่ะเป็นเพื่อนของยัย... / ห้ามบอกเอยเด็ดขาด” “คะ?” ยังพูดไม่จบเลยมือก็ยกไหว้ค้างอยู่เลยเนี่ยแต่เขาก็พูดแทรกซะก่อน น้ำเสียงเต็มไปด้วยคำสั่งแกมข่มขู่ทำฉันใจไม่ดีขึ้นมา First Impression ของฉันกับเขาโคตรแย่เลยสินะ -_-! “ห้ามบอกเรื่องที่เธอเห็นให้เอยรู้เด็ดขาดไม่งั้นเธอฝึกงานไม่ผ่านแน่นอน” เขาไม่เป็นมิตรกับฉันเลย เพราะอะไรแค่เพราะฉันบังเอิญมาเห็นเขากำลังจะพลอดรักกับแฟนของเขาเนี่ยนะ? แฟน รึเปล่านะ? ไม่หรอกไม่ใช่แน่นอน อาการแบบนี้แอบแซ่บกันชัวร์ “หนู...มิ้งค์ไม่เอาเรื่องใครไปพูดหรอกค่ะโดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว” “ก็ดี อย่าให้รู้ว่าเอยรู้เรื่องนี้ก็แล้วกัน” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นี้แล้วเดินผ่านหน้าฉันไปอีกทางทิ้งไว้แค่ฉันที่ยืนงงเป็นไก่ตาแตก ก็เห็นยัยเอยเชียร์ฉันอยู่นะ คุยเรื่องพี่ชายก็คุยปกติไม่เห็นจะมีท่าทางเหมือนน้องสาวที่หวงไม่อยากให้พี่ชายมีแฟนเลยแล้วจะต้องกลัวยัยเอยรู้เรื่องนี้จนถึงขั้นขู่จะให้ฉันฝึกงานไม่ผ่านเลยเหรอ? ไม่เวิร์คว่ะมิ้งค์ การฝึกงานที่นี่แม่งไม่เวิร์คแน่ ๆ เพราะมาวันแรกแกก็ไม่เข้าตาคนที่มีอำนาจในนี้ซะแล้วทั้งยัยผู้จัดการตัวร้ายกับเจ้าของไร่หน้าหล่อ “เฮ้อ! เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่เจ้าทางเจ้าขา หนูแค่ตั้งใจมาฝึกงานแล้วก็มาดูแลเพื่อนของหนูเท่านั้นหนูไม่ได้มีเจตนาจะมารับรู้เรื่องส่วนตัวของใคร ขอให้การฝึกงานของหนูผ่านไปอย่างราบรื่นด้วยเถอะนะคะ หนูมาไกลหนูไม่มีที่พึ่งทางไหนเลยได้โปรดเมตตาหนูด้วยนะคะ” #MING END #TANKUN TALK “เฮ้อ! เจ้าป่าเจ้าเขาเจ้าที่เจ้าทางเจ้าขา หนูแค่ตั้งใจมาฝึกงานแล้วก็มาดูแลเพื่อนของหนูเท่านั้นหนูไม่ได้มีเจตนาจะมารับรู้เรื่องส่วนตัวของใคร ขอให้การฝึกงานของหนูผ่านไปอย่างราบรื่นด้วยเถอะนะคะ หนูมาไกลหนูไม่มีที่พึ่งทางไหนเลยได้โปรดเมตตาหนูด้วยนะคะ” ...ประสาท ผมไม่ได้จะแอบฟังเด็กคนนี้ยกมือไหว้สวดมนต์ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรอกแต่ผมแค่บังเอิญได้ยินเพราะเด็กคนนี้เปล่งเสียงพูดออกมาเองต่างหาก โคตรบ้าเลยว่ะแต่เห็นแบบนี้ก็อดขำไม่ได้ ไม่ได้ตั้งใจอยู่รอหรอกครับแค่เมื่อกี้เดินไปอีกทางแล้วกลัวว่ามิลินจะแอบดักรอขู่อะไรเธอเพราะผมพอจะรู้นิสัยของผู้จัดการของที่นี่ก็เลยเดินย้อนกลับมา ว่าจะเดินนำไปก่อนไปดูให้แน่ใจว่ามิลินไปแล้วแค่นั้นเอง ผมหยุดยืนมองท่าทางของเด็กคนนี้แล้วก็เผลอยิ้มขำแต่แทนที่จะกลับบ้านเธอกลับนั่งลงตรงม้านั่งที่มิลินเพิ่งนั่งคร่อมผมแล้วมองดูวิวจากภูเขาตรงหน้า “คิดถึงแม่มากเลยค่ะ อยากให้มาด้วยจัง” ยัยเด็กนี่ชอบพูดคนเดียวเหรอวะ? มันก็ไม่แปลกที่คนเราจะคุยกับตัวเองแต่ยัยนี่แม่งเล่นพูดออกมาเลยมันก็เลยแปลกกว่าคนปกติทั่วไปที่เขาจะคุยกับตัวเองในใจ “แต่ดีแล้วค่ะที่แม่ไม่ได้มาด้วย เพราะถ้าแม่มาด้วยแล้วมาเห็นภาพบัดสีแบบเมื่อกี้แม่เป็นลมแน่เลย” ??? นี่ผมโดนแอบเหน็บสินะ หึ ๆๆ ท่าทางจะแสบไม่ใช่เล่นแล้วล่ะเพื่อนขวัญเอยคนนี้ ผมปล่อยให้เธอนั่งเล่นต่อแล้วก็เดินอ้อมไปอีกหน่อยจากนั้นก็เดินกลับบ้าน ระหว่างที่เดินกลับก็โทรหามิลินเพื่อเช็คถึงได้แน่ใจว่าเธอถึงบ้านพักของเธอแล้ว “ไงคะพี่แทน” กำลังจะเดินเข้าบ้านก็เห็นคนคนหนึ่ง คนที่อยู่ในใจผมตลอดมาเดินมาทักทายพอดี “ไงเรา เดินทางเหนื่อยไหม” “นั่งเครื่องชั่วโมงเดียวคิดว่าจะเหนื่อยไหมคะ” ขวัญเอยแกล้งถามผมเลยได้แค่ยิ้มก่อนจะมองที่หน้าท้องของเธอที่ตอนนี้เริ่มนูนขึ้นมานิดหน่อย “รู้ว่านั่งเครื่องแป๊บเดียวแต่ห่วงหลานของลุงไง” ผมพูดจริง ๆ ผมเป็นห่วงหลานในท้อง ตอนที่รู้ว่าขวัญเอยท้องผมทั้งช็อคทั้งเสียใจมากแต่พอเวลาผ่านไปสักพักก็เริ่มทำใจได้ ก็จะให้ทำใจยังไงในเมื่ออีกคนไม่คิดที่จะกลับมาผมก็คงทำได้แค่ทำใจต่อให้ไม่อยากทำเลยก็ตามแล้วจากนี้ไปก็คงทำหน้าที่พี่ชายคิดไม่ซื่อคอยดูแลเธอกับหลานให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ “ขอบคุณนะคะแต่ไม่ต้องห่วงเลยหลานคุณลุงแทนแข็งแรงดีค่ะ” “หึ ๆๆ เก่งทั้งแม่ทั้งลูกนั่นแหละ โทษทีนะที่พี่ไม่ได้ไปรับวันนี้มีประชุมด่วนน่ะ” “ไม่เป็นไรค่ะแต่จะว่าไปก็เป็นนั่นล่ะค่ะ” ขวัญเอยพูดแล้วแอบทำหน้าเซ็งนิดหน่อย “เป็นอะไร มีอะไรเหรอ” “ก็พี่แทนพลาดการไปรับคนสวยน่ะสิคะ เซ็งมาก ๆ น่าจะได้เจอกันตั้งแต่แรกที่มาถึง” “เราหมายถึงเพื่อนเรา?” ผมถามตรง ๆ ขวัญเอยก็ยิ้มจนตาหยีแล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะ เอยเซ็งมากที่พี่แทนไม่ได้ไปรับเพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะว่าเพื่อนเอยสวยมาก~ รับรองว่าถ้าเห็นแล้วพี่แทนต้องอยากจองมาเป็นพี่สะใภ้เอยแน่นอน” “หึ ๆๆ พูดอย่างกับพี่เจอคนสวยแล้วต้องอยากได้มาเป็นเมียทันที” ผมหัวเราะส่ายหน้าเบา ๆ แต่ก็สวยมากอย่างที่ขวัญเอยบอกนั่นแหละผมไม่เถียงหรอก “รู้ค่ะว่าเจอคนสวยมาเยอะแต่เพื่อนเอยมีมากกว่าความสวยนะคะ ทั้งสวยแล้วก็น่ารักที่สำคัญนิสัยดีมาก ๆ เลยนะ” “อื้ม” ผมพยักหน้ารับแล้วก็ยิ้ม สงสัยจะนิสัยดีจริง ๆ ล่ะมั้งเพิ่งพูดคนเดียวแล้วแอบเหน็บผมอยู่เลย “ไม่เชื่อเหรอคะ” “คนเรามีหลายมุมอยู่ที่ว่าอยู่กับใคร อยู่กับเราอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีแต่ถ้าอยู่กับคนอื่นอาจจะไม่ดีก็ได้” “อะไรคะทำไมพูดแบบนี้ล่ะ ไม่ชอบเพื่อนเอยรึเปล่าเนี่ย” “เปล่า พี่แค่พูดไปงั้นไม่ได้ไม่ชอบอะไรสักหน่อยคนยังไม่เจอกันจะไม่ชอบได้ยังไง พี่แค่จะบอกว่าเรื่องนิสัยมันต้องดูเอง จะให้เชื่อคำพูดคนอื่นเลยมันก็ไม่ได้จริงไหมล่ะ” “ก็จริงค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงค่ะเพราะเดี๋ยวพี่แทนก็เชื่อคำพูดเอยเพราะเพื่อนเอยเป็นอย่างที่เอยอวยทุกอย่าง นั่นไงมาแล้ว ค่อย ๆ หันไปมองนะคะแล้วอย่าตะลึงในความสวยล่ะ อิอิ” หึ ๆๆ ตลกขวัญเอยว่ะแต่ผมก็ทำตามนะครับ หันไปมองเด็กคนนั้นที่กำลังเดินกลับมาที่บ้านแต่ก็ไม่ได้ตะลึงหรอกจะตะลึงได้ยังไงในเมื่อเพิ่งคุยกันได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เธอสวยมากอย่างที่ขวัญเอยบอกแต่ชื่ออะไรผมจำไม่ได้แล้วตอนนั้นมัวแต่โมโหที่มีคนไปเห็นแล้วก็กลัวว่าเรื่องจะถึงหูขวัญเอยผมเลยลืมสนใจความสวยกับชื่อของเธอไปเลย “เป็นไงคะ สวยใช่ไหมล้า~” เสียงสดใสจากคนข้างหลังทำให้ผมยิ้ม ดีนะที่ขวัญเอยยืนอยู่ข้างหลังเลยไม่เห็นหน้าผมไม่งั้นเธอคงผิดหวังน่าดูที่ผมไม่ตะลึงอย่างที่เธอคิด “อื้ม” “อะไรอ่ะ ตอบแค่นี้เองเหรอพี่แทน” “ก็สวยไงจะให้พูดอะไรล่ะ” ผมหันกลับมามองขวัญเอยส่วนเด็กคนนั้นเมื่อกี้ก็ทำหน้าลำบากใจนิดหน่อยตอนที่เห็นหน้าผม “ชิส์! มิ้งค์จ๋า~ มานี่เร็วมารู้จักคุณแทนคุณพี่ชายเพื่อนเลย~” ขวัญเอยเรียกเพื่อนของเธอด้วยท่าทางตื่นเต้น นี่คงอยากจับคู่ให้ผมกับเพื่อนรักของตัวเองสินะ หึ ๆๆ ความหวังที่มีแค่ริบหรี่ในใจไอ้แทนดับมอดลงไปแล้วล่ะครับ “สวัสดีค่ะ” ยัยเด็กคนนี้เดินเข้ามาแล้วยกมือไหว้ผมอีกครั้ง ก็ดีที่ทำเหมือนเราเพิ่งเจอกันไม่งั้นขวัญเอยถามต่อแน่ว่าเจอกันเมื่อไหร่แล้วคุยอะไรกันบ้าง บอกตรง ๆ ว่าไม่อยากโกหกคนท้อง “ครับ” ผมยกมือรับไหว้ทำให้คนที่ไหว้ผมเผลอทำหน้ากระอักกระอ่วนใจออกมา อ่าส์! ฉันก็ไม่อยากแกล้งทำเป็นมีมารยาททั้งที่เพิ่งขู่เธอไปเมื่อกี้เหมือนกันนั่นล่ะวะ “พี่แทนคะนี่มิ้งค์คนสวยของเอยเองค่ะ ดูแลดี ๆ นะคะไม่งั้นร้องไห้กลับบ้านตั้งแต่ยังฝึกงานไม่เสร็จแน่เลย” “ครับ ตามสบายนะที่นี่อยู่กันเหมือนพี่น้องอยู่กันแบบครอบครัวไม่ต้องเกร็ง ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองได้เลย” “...ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณแทนคุณ” “แก~ ไม่ได้อยู่ที่ออฟฟิตเรียกธรรมดาก็ได้คุณเคินอะไร” “ไม่ดีกว่าแกเดี๋ยวไม่ชินขอเรียกแบบนี้ดีกว่า” “แต่... / อย่าบังคับเพื่อนเลยเอยเอาตามที่เพื่อนสะดวกดีกว่า หิวรึยังแม่บ้านน่าจะทำอาหารเสร็จแล้วมั้ง” ผมก็ไม่อยากให้เด็กคนนี้เรียกผมว่าพี่เหมือนกัน ไม่รู้ว่ะ ไม่ใช่ไม่ชอบหน้าแต่ไม่อยากให้เรียกเฉย ๆ หรือถ้าจะเรียกก็คงไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน “โอเคค่ะถ้างั้นไปกินข้าวกันดีกว่าเอยก็เริ่มหิวแล้ว ไปกันแกแม่ครัวที่นี่ทำอาหารเหนืออร่อยมาก~” ขวัญเอยเดินผ่านผมไปเกาะแขนเพื่อนแล้วพาเพื่อนของเธอเดินเข้าไปในบ้านพร้อมกับโม้เรื่องอาหารไปด้วย ผมได้แต่ยืนมองผู้หญิงสองคนที่จะมาอยู่ด้วยอีกหลายเดือน สวยเหมือนกันทั้งคู่แต่นิสัยจะเหมือนกันไหมผมไม่รู้หรอก แต่ต่อให้เหมือนก็ไม่มีทางมีใครมาแทนที่เธอได้เพราะขวัญเอยก็คือขวัญเอย #TANKUN END #MING TALK ...ตามสบายนะที่นี่อยู่กันเหมือนพี่น้องอยู่กันแบบครอบครัวไม่ต้องเกร็ง ครอบครัวแบบไหนเหรอ ครอบครัวเลือดข้นคนจางเหรอ? ใช่แน่นอนเพราะดูจากยัยเจ้มิลินของเขาแล้วก็น่าจะเป็นแบบนั้นจริง ๆ ...ทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้านตัวเองได้เลย ใครจะไปทำตัวตามสบายได้ถามจริงในเมื่อเจ้าของบ้านเพิ่งขู่คนที่มาขออาศัยไปหยก ๆ ที่พูดเมื่อกี้แค่เอาใจน้องสาวตัวเองเท่านั้นแหละ ท่าทางอีตาแทนคุณอะไรนี่จะเกรงใจน้องสาวตัวเองมากน่าดู เฮ้อ! ท่าไม่ดีตั้งแต่วันแรกแต่ก็ทนหน่อยนะมิ้งค์เอ้ยมาถึงขนาดนี้แล้ว อย่างน้อยยัยเอยก็น่าจะคุ้มกะลาหัวแกได้บ้างไม่มากก็น้อยล่ะวะ “แก” ฉันบอกเพื่อนดีไหมนะ “ว่า~” เห็นเพื่อนมีความสุขฉันก็ไม่กล้าพูดอะไรเลยค่ะ ฉันรู้นะว่ายัยเอยชอบไปแอบร้องไห้เวลาอยู่คนเดียวเพราะฉะนั้นเรื่องที่อึดอัดใจเก็บไว้ก่อนก็ได้มั้งมิ้งค์ อย่างน้อยก็ช่วยให้คนท้องมีสุขภาพจิตดีตอนที่อยู่กับแกเถอะนะ “ไม่มีอะไรแค่จะบอกว่าหิว” “อ้อ ถ้างั้นรีบมาเลยจ้ะมิ้งค์เดี๋ยวเพื่อนพาไปกิน” ขวัญเอยลากฉันให้เดินเร็วกว่าเดิมจนต้องห้ามให้เดินช้าลงเผื่อเพื่อนลืมว่าตัวเองท้องอยู่ พอมาถึงโต๊ะอาหารเจ้าของบ้านก็เดินตามมาฉันถูกจัดให้นั่งตรงข้ามยัยเอย แน่นอนว่าเจ้าของบ้านนั่งหัวโต๊ะและใช่ค่ะฉันกับยัยเอยนั่งขนาบเขาซ้ายขวา เกร็งเป็นบ้าเลยอาหารที่จัดไว้บนโต๊ะน่ากินแต่ไม่รู้ว่าตัวเองจะกล้ากินเยอะรึเปล่า “น่ากินมาก~ อาหารของที่นี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เอยเลือกมาฝึกงานที่นี่เลยนะคะ” “หึ ๆๆ ถ้างั้นก็กินเยอะ ๆ ทั้งคุณแม่แล้วก็คุณลูกล่ะ” “ค่า~” ฉันนั่งฟังสองพี่น้องที่ไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดแต่ดูสนิทสนมกันดีแล้วก็เกร็งไปอีกเพราะรู้สึกเหมือนตัวเองจมหายไปจากโต๊ะอาหารในชั่วขณะหนึ่ง ชิส์! คนก็อุตส่าห์คิดว่ามาแล้วจะต้อนรับกันแบบน้องนุ่งที่ไหนได้ไม่ใกล้เคียงเลยสักนิด ก็อุตส่าห์จะฝากตัวเป็นน้องสาวเพราะเห็นเป็นพี่ชายของเพื่อนรักแต่บอกตรง ๆ นะคะตอนนี้ในสายตาฉันเขาเป็นแค่เจ้าของบริษัทที่ฉันมาฝึกงานแล้วฉันก็ต้องวางตัวให้นอบน้อมที่สุดก็เท่านั้น ถ้าคลานเข่าเป็นทาสในเรือนเบี้ยได้ก็คงทำไปแล้ว -เวลาต่อมา- “มาทำอะไรทำไมไม่เข้านอน” “อุ้ย!” ฉันสะดุ้งแล้วรีบหันไปตามเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง “ว่าไงทำไมไม่เข้านอน” เสียงเจ้าของบ้านโคตรดุเลย นี่เพิ่งสี่ทุ่มเองนะจะรีบไล่ไปนอนถึงไหน “พอดีเห็นตรงนี้วิวดีค่ะเลยออกมานั่งเล่น” “นี่ไม่ใช่เวลามานั่งเล่น” ฉันพยายามจะสร้างมิตรภาพเพื่อให้ตัวเองอยู่ที่นี่ได้อย่างไม่ยากลำบากแต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ชอบเท่าไหร่ -_-! “...ทราบค่ะ” “ขึ้นนอนซะแล้วคราวหลังอย่าทำอะไรตามใจตัวเองอยากออกไปไหนทำอะไรก็ทำแบบนี้อีก มันไม่ใช่บ้านของเธอ” โห~ อาการออกขนาดนี้ทำไมไม่ให้ฉันไปนอนบ้านพักคนงานล่ะยะไปได้นะแบบนั้นน่าจะสบายใจกว่า “ค่ะ!” ฉันรับคำแล้วเดินหนีเขาทันที เผลอแสดงกิริยาไม่เหมาะสมใส่เขาด้วยนะ ฉันกระแทกเสียงใส่แล้วสะบัดหน้าหันหลังให้เขาทันที “เหอะ! กลัวฉันจะไปเห็นว่าแอบพลอดรักกับผู้จัดการอีกรึไงยะ!”

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

สะดุดรัก Lady cook. Series Follow you heart.

39.0K·ปีศาจชอนซา

"การแต่งงานมันต้องเกิดจากความรัก ไม่ใช่เหรอครับพ่อ เมื่อไหร่ที่การแต่งงานเกิดจากผลประโยชน์ทางธุรกิจ ผมคิดว่าชีวิตนี้มันมีแต่ขาดทุน เพราะสำหรับผมแล้วความรักมันคือกำไรของชีวิต ที่จะทำให้เราอยากตื่นขึ้นมามีลมหายใจอยู่ในโลกใบนี้ได้ในทุกๆ วัน" เมื่อได้ยินคำตอบของบิดา ซึ่งเป็นเหมือนสายฟ้าฟาดลงกลางใจตุลา ชายหนุ่มจึงรีบพูดปฏิเสธออกไป เพราะเขาไม่มีทางแต่งงานกับบุษบาต่อให้เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่บนโลกใบนี้ เขาก็ไม่มีทางรักลง เมื่อหัวใจของตุลามันพร่ำหาแต่ใครบางคนที่เขารอคอยมาแสนนาน ชายหนุ่มตัดสินใจลุกเดินออกมาจากห้องทำงานของบิดาในทันที ไม่ว่าชีวิตนี้จะต้องเผชิญกับปัญหาอะไร สิ่งเดียวที่เขาจะไม่ทำเด็ดขาด นั่นก็คือการฝืนใจให้รักใครสักคน

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

MY MAFIA ยอมจำนนให้นายมาเฟีย

47.0K·AngelBell

สัญญานั้นกลายเป็นสัญญาผูกมัดให้ 'แพรดาว' ต้องตกเป็นผู้หญิงของ 'เวลตัน' ไปตลอดชีวิต

นิยายรักโรแมนติกจบแล้ว

วิวาห์วุ่นอุ้มบุญรัก

34.0K·ปีศาจชอนซา

นายแพทย์จิรายุศัลยแพทย์หนุ่มผู้มีใบหน้าขรึมและเย็นชา แต่เขาพูดจาอ่อนโยนกับคนไข้เสมอ ฝนสุดาแอร์สาวเธอเทียวเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้งเพราะมีความผิดปกติของมดลูก คุณหมอจึงแนะนำให้เธอรีบมีบุตรก่อนจะถูกตัดทิ้ง ซึ่งหญิงสาวไม่ทันตั้งตัว เมื่อเธอกำลังจะกลายเป็นคุณแม่ ซึ่งแผนการของนายแพทย์จิรายุช่างแยบยล

หมอจบแล้ว

Mr. Cruel ร้ายรัก

56.0K·Phat_sara

เขาไม่เคยรู้สึกอะไรกับเธอเลย ไม่เลยจนกระทั่งถึงวันที่ไม่มีเธออยู่ในชีวิตแล้ว...

ประธานจบแล้ว