Casanova' Boss บอสหนุ่มคาสโนว่ากับเลขาตัวร้าย

74.0K · จบแล้ว
Lai LA FuN / เฉิงเอ๋อร์ / มอ.อาร์.ยอ
63
บท
393
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

'พาขวัญ' ถูกแฟนที่กำลังจะแต่งงานกันนอกใจ เธอจึงไปดื่มเหล้าที่ผับแห่งหนึ่งเพื่อย้อมใจ ทว่าด้วยความเมาจนไร้สติเธอเข้าห้องผิด พอเห็นคู่รักคู่หนึ่งกำลังทำกิจกรรมบนเตียงจึงขัดขวางโดยไม่ตั้งใจและเผลอทำร้ายลูกรักกลางหว่างขาผู้ชายคนนั้นจนเกือบสูญพันธ์ เหมือนกรรมลิขิต พาขวัญมาสมัครงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง พอถูกเรียกตัวกลับโลกกลมเจ้าของบริษัทคนนั้นคืแคนที่ทำร้ายเมื่อคืน 'ศิลา' เจ้าคิดเจ้าแค้นจึงวางแผนรับพาขวัญเข้าเป็นเลขา เขากลั่นแกล้งเธอพร้อมยื่นข้อเสนอ 'ภายในสิบวันถ้าเธอไม่ลากเขาขึ้นเตียงจะให้เงินเดือนสองเท่า' ใครไม่เอาก็บ้าแล้ว! พาขวัญเป็นผู้หญิงหัวโบราณรักนวลสงวนตัวขนาดนั้น ต่อให้เงื่อนไขเป็นเดือนเป็นปีเธอก็ชนะชัวร์ ทว่าทุกอย่างกลับตาลปัด เมื่อความใกล้ชิดเป็นบ่อเกิดของความรู้สึกที่ไม่รู้ตัวของพวกเขาทั้งสองคน

นิยายรักนิยายปัจจุบันประธานเลขา21+แฮปปี้เอนดิ้งเจ้าเล่ห์

บอสหนุ่ม : 1

ตุบ!

ตุบ!

ผลัวะ...

เสียงนวมกระทบกระสอบทรายขนาดสูงเมตรกว่า ๆ ดังขึ้นกลางห้องสี่เหลี่ยมที่ล้อมรอบไปด้วยกระจกใส

ใช่! ที่นี่คือห้องฟิตเนสส่วนตัวที่อยู่บนชั้นสามของ Sila group บริษัทยักษ์ใหญ่ที่รวบรวมบอดี้การ์ดมากฝีมือมาอยู่รวมกันภายใต้หลังคาเดียวของตึกห้าชั้น

โดยมีผู้บริหารเจ้าของบริษัทเพียงผู้เดียวคือ ศิลา มหาธนทรัพย์ บอสหนุ่มวัยสามสิบต้น ๆ ใบหน้าที่เรียบนิ่งตลอดเวลาทว่าจริง ๆ แล้วเขาคือเสือซุ่มเงียบ หลอกล่อเหยื่อด้วยสายตา เจ้าของฉายา 'สายตาห้าวิก็ได้เสียว'

"บอสครับ วันนี้มีคนมาสมัครยี่สิบคน บอสจะคัดเองหรือให้ผมคัดเลือกให้เลยครับ"

เสียงลูกน้องคนสนิทมือขวาอย่าง 'กระทิง' เอ่ยถามเจ้านายของเขาที่ยังคงวาดลวดลายเตะแข้งลงกลางกระสอบทรายพร้อมเม็ดเหงื่อที่ผุดพรายขึ้นตามลำตัวที่เปลือยท่อนบน

อา...หากคนที่ยืนคุยกับเขาคือสาว ๆ ในสต็อก คาดว่าคงได้กัดปากบิดหว่างขาไปมากับภาพสุดเซ็กซี่นี้ไปแล้ว

"ทำไมคนมาสมัครเยอะจังวะ"

เสียงทุ้มติดหอบหน่อย ๆ สนทนาตอบแต่ไม่ได้หยุดการออกกำลังกายเพื่อหันมามองหน้าลูกน้องคนนี้สักเสี้ยววินาที ภายในหัวเขาครางแครงใจกับการรับสมัครในครั้งนี้

ปกติศิลาการ์ดขึ้นชื่อด้านความดิบ เถื่อน งานหนัก เจ้าของบริษัทเคร่งกฎระเบียบบ้างละ ทำให้แต่ละครั้งที่เปิดรับสมัครพนักงานมักจะมีคนมาสมัครไม่ถึงสิบคน

"อ้อ พอดีผมลงคุณสมบัติไว้ดีละมั้ง"

"คุณสมบัติอะไรของมึง"

ศิลาขมวดคิ้วมองทางหางตาเห็นใบหน้าหล่อทะเล้นของกระทิงฉีกกว้างก่อนเอ่ยขึ้น

"นมธรรมชาติ มีความดึงดูดสายตา ห้ามโบกหน้าหนา เรียกหาได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง"

ผลัวะ!

เสียงเตะกระสอบทรายดังขึ้นอย่างหนักหน่วงกว่าปกติ ก่อนที่ร่างกำยำเหงื่อท่วมตัวจะวางขาแตะพื้น ค่อย ๆ เอี้ยวใบหน้าอันหล่อเหลาราวลูกรักพระเจ้าหันมองจิกคนที่เพิ่งตอบคำถามจบ

"นี่มันคุณสมบัติพนักงานฝ่ายไหนของมึงวะ ทำไมฟังดูทะลึ่งตึงตังแบบนั้น"

"เอ้า! ก็บอสให้ผมหาเลขาบนเตียงให้ไม่ใช่เหรอ?"

ศิลาแทบจะอยากกระโดดขาคู่ใส่ลูกน้องคนสนิท สายตาเขาจ้องมองกระทิงที่ยืนเกาหัวแกร็ก ๆ ใช้สายตางงงวยเหมือนลูกหมากำลังวิเคราะห์ว่าตัวเองทำผิดอะไร

"กูเนี่ยนะให้ประกาศรับเลขาบนเตียง?""

บอสหนุ่มพยายามคิดแล้วคิดอีกว่าไปเผลอบอกลูกน้องมือขวาคนนี้แบบนั้นตอนไหน หากแต่คิดให้ตายเขาก็คิดไม่ออก จะว่าตอนเมาคนอย่างศิลากไม่เคยเมาจนหัวราน้ำจำอะไรไม่ได้

"บอสไม่ได้บอกผมฉลาดหัดสังเกต เพราะคนก่อนที่บอสเพิ่งไล่ออกสาเหตุเพราะเธอนมเล็ก ไม่ใช่สเป็กแถมไม่ดึงดูดสายตาบอสไม่ใช่เหรอ"

ศิลาถึงกับตบหน้าผากดังป้าบใหญ่เมื่อฟังสิ่งที่กระทิงร่ายออกมาจนหมดเปลือกถึงสถานการณ์ก่อนหน้าในวันนั้น

"มึงแสนรู้มากไอ้กระทิง แต่วันนั้นที่กูคุยกับเลขาคนเก่าเรื่องนม หมายถึงนมในกาแฟเว้ย!"

"อ้าว..."

กระทิงถึงกับอ้าปากทำหน้าเหวอเมื่อความจริงปรากฎ

หลายวันก่อน...

'เข้ามาหาฉันในห้องสิ"

ศิลาเข้าออฟฟิศในเช้าวันหนึ่ง กิจวัตรประจำวันยามเช้าของเขาคือจะต้องมีกาแฟวางอยู่บนโต๊ะทำงาน โดยจะชงสำเร็จรูปใส่ไว้ในกาเก็บความร้อนขนาดกะทัดรัดให้เขาเทดื่มเอง

ทว่าวันหนั้นพอศิลาเทกาปฟลงแก้วแล้วดื่มตามปกติ รสชาติกลับต่างออกไปจากเลขาคนก่อนทำอย่างสิ้นเชิง

'คุณศิลามีอะไรเรียกใช้เกรซคะ'

เลขาหุ่นแซ่บ หน้าตาพอไปวัดไปวาได้เพราะเครื่องหน้าที่โบกหนาราวกับจะสร้างตึกเอ่ยถามขึ้น

'กาแฟในนี้เธอเป็นคนชง?'

ศิลาเลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ขัดกับสีหน้าที่กำลังเก็บซ่อนอารมณ์บางอย่างเอาไว้

'ค่ะ อเมริกาโน่ หอม เข้ม บอสชอบไหมคะ"

ตุ้บ!

ทันทีที่เกรซพูดจบเสียงทุบโต๊ะก็ดังลั่นห้องทำเอาเลขาสาวที่เพิ่งมาทำงานไม่เท่าไรสะดุ้งในลุคนี้ของเจ้านายเธอ

'ใครบอกว่าฉันกินกาแฟอันนี้?'

ดวงตาสีเข้มจ้องหน้าเลขาสาวอย่างดุดัน ทำเอาเกรซปากสั่นหดคอค่อย ๆ ตอบเสียงสั่น

'เอ่อ ไม่มีค่ะ เกรซคิดเอาเอง'

'เธอเป็นเลขาฉันมากี่วันแล้ว' เสียงถามแบบข่มอารมณ์เดือดตามวุฒิภาวะของเขาดังขึ้น

'อะ...อาทิตย์นึงค่ะ'

'สิ่งแรกที่ต้องเรียนรู้งานคือความอะไร?'