กลอุบายในวัง

เซี่ยชิงหลี ดรุณีเปลี่ยนชะตาพลิกอนาคต
หลายปีที่ใช้ชีวิตเป็นสายลับ หลังจากตายเซี่ยชิงหลีได้เข้าไปอยู่ในร่างหญิงใบ้ในยุคโบราณ ทั้งชีวิตไม่เคยได้อยู่ดีๆ หลังจากนี้เธอจะทำให้ครอบครัวใหม่มีแต่ความสุข เซี่ยชิงหลี สายลับที่แฝงตัวในนามหมอเถื่อนได้รับมอบหมายให้เจาะเอาข้อมูลลับของกลุ่มวิจัยมนุษย์ จากสถาบันวิจัยเถื่อน ทว่าเกิดการทรยศขึ้นภายในองค์กรทำให้สถานะตนเองถูกเปิดโปง การทรมานทุกรูปแบบได้เริ่มขึ้นเพื่อรีดเค้นเอาความลับ กว่าครึ่งปีที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ทว่าฝ่ายศัตรูก็มิได้สิ่งใดจากปากของตน สองศูนย์แปด คือรหัสของเซี่ยชิงหลี พวกมันได้ไปเพียงเท่านั้น ทว่าต่อมาเธอได้ถูกส่งตัวไปยังห้องทดลองวิจัยเพื่อทดลองยาพิษ สามปีที่ติดอยู่ที่นั่นกว่าจะหลบหนีออกมาได้ ภายหลังจากส่งข้อมูลลับให้กับทางองค์กร ที่อยู่ของตนกลับถูกถล่มด้วยละเบิดนาปาล์มลูกใหญ่ เสียงสุดท้ายที่เซี่ยชิงหลีได้ยินคือคำบอกลาจากหัวหน้าครูฝึกของเธอ ตนถูกทิ้งแล้วสินะ... ********************************************* ม่านหมอกยามเช้าลอยอ้อยอิ่งอยู่เหนือพื้นดินและยอดไม้ ละอองน้ำค้างยัง เกาะพราวอยู่บนใบหญ้า เปล่งประกายระยิบระยับเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์ดวงน้อยที่กำลังคลี่แสงออก แม้รอบกายจะดูสวยงามจนมิอาจละสายตา ทว่า...ที่นี่คือที่ไหน! ดวงตาดำขลับสำรวจรอบกายอย่างระมัดระวังตามความเคยชินที่ฝึกเป็นประจำ ทำให้ร่างกายจดจำและกลายเป็นสัญชาตญาณ ไร้แผ่นดินที่แห้งแล้ง ไร้การต่อสู้ ไร้เสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ไร้เสียงปืนและระเบิด ************************************************* ร่างบางพึมพำเสียงเบา สมองยังไม่ทันได้ประมวลผลว่าเหตุใดตนเองยังคงมีชีวิตอยู่ วินาทีต่อมากลับมีผู้หญิงคนหนึ่งพุ่งตัวเข้าหาอย่างรวดเร็วจนไม่อาจหลบได้ทัน เซี่ยชิงหลีตกอยู่ภายใต้อ้อมแขนของหญิงสาวแปลกหน้า ท่าทางที่ดูเป็นกังวลและซุ่มเสียงที่เหมือนกำลังตำหนิตนเองทำให้คนพูดไม่ออก ดวงตากลมโตจดจ้องใบหน้าของหญิงสาวผู้นั้นด้วยท่าทีงงงัน พลันเสียงอื้ออึงก็ดังขึ้นในหัวราวกับประทัดแตก ความเจ็บปวดบางอย่างกรีดแทงเข้าไปในส่วนลึกของประสาท เซี่ยชิงหลียกมือขึ้นกุมหัวของตนด้วยสีหน้าเจ็บปวด แต่แล้วเสียงนั้นก็หายไป ความโล่งสบายเกิดขึ้นในชั่วขณะ ในหัวราวกับถูกกระชากบางอย่างออกไป “....เจ้าได้ยินที่แม่พูดหรือไม่!! หลีเอ๋อ!! เกิดอะไรขึ้น ลูกไม่สบายหรือเจ็บตรงไหนบอกแม่มา” ฟังออกแล้ว!! ในที่สุดตนเองก็สามารถฟังผู้หญิงตรงหน้าเข้าใจ มหัศจรรย์จริงๆ “ชิ! คนก็หาเจอแล้วยังต้องร้องไห้คร่ำครวญอันใดอีก” จางซุนโหรวที่ตามขึ้นเขาในตอนเช้าเพื่อดูลาดเลาเอ่ยเหน็บแนม หญิงสาวหันขวับไปในทันที ความทรงจำหนึ่งพลันแล่นเข้ามาในหัว ทว่าครั้งนี้กลับต่างออกไปเพราะมันคือความทรงจำของคนอื่น และนั่นทำให้ร่างกายของเซี่ยชิงหลีทำไปตามสัญชาตญาณเดิม หญิงสาวพุ่งเข้าคว้าลำคอสตรีนางนั้นด้วยใบหน้าสงบนิ่ง ดวงตาเย็นชาจ้องมองไปยังนางราวกับกำลังมองคนตาย หลายปีที่ต้องคุกคลีอยู่กับความตาย ทำให้กลิ่นอายที่แผ่ออกมาดูน่าพลั่นพรึง บัดนี้เซี่ยชิงหลีรู้แน่ชัดแล้วว่าตนไม่ได้อยู่ที่โลกเดิมที่คุ้นเคย และร่างที่ตนมาอาศัยอยู่เจ้าของเดิมถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมจากคนในครอบครัว ชีวิตที่สองนี้ต้องมาอยู่ในยุคโบราณที่แสนแปลกประหลาด แต่นางก็สามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ทว่า...หากไม่แก้แค้นใจดวงนี้คงมิอาจสงบได้ หญิงสาวออกแรงอีกครั้งใบหน้าของคนที่ตกอยู่ภายใต้กรงเล็บของเธอ เริ่มบิดเบี้ยวเขียวคล้ำเพราะขาดอากาศหายใจ เซี่ยชิงหลีรู้ดีว่าหากออกแรงเพิ่มอีกเล็กน้อย คอเล็กๆ ที่แสนบอบบางคงจะหักอย่างง่ายดาย “หลี่เอ๋อ!! หยุดเดี๋ยวนี้!! ปล่อยป้าสะใภ้ของลูกเร็วเข้า!!” ราวกับได้รับคำสั่งจากผู้บัญชาการ หญิงสาวปล่อยมือโดยอัตโนมัติ แม้จะรู้สึกมึนงงในปฏิกิริยาของตนและเหมือนการควบคุมร่างกายนี้ช่างเป็นไปอย่างยากลำบาก เห็นทีในอนาคตต้องฝึกฝนให้ร่างกายนี้สามารถตามทันความเร็วที่เคยฝึกในชีวิตก่อน “แค่ก!! แค่ก!! แค่ก!!” หญิงผู้เคราะห์ร้ายรีบสูดอากาศเข้าปอดเพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่ แม้จะถูกทำให้เกือบตายทว่าก็ยังไม่รู้สึกสลด นางชีนิ้วมายังเซี่ยชิงหลีด้วยท่าทางเอาเรื่อง หลังจากกลับมาเป็นปกติจึงร้องโวยวายด้วยสีหน้าเดือดดาล

นางคือ...บุตรีเอกสารพัดพิษลิขิตสวรรค์
หยิ่นซู่ฮั่ว อัจฉริยะคู่ขนานทั้งแพทย์แผนจีนและตะวันตก ข้ามภพไปอยู่ในร่างของบุตรีเอกที่ไม่ได้รับการโปรดปราน แม้แต่งานสมรสก็ยังถูกกลั่นแกล้งขวางอยู่หน้าประตูจวนอ๋อง “อยากก้าวเข้าประตูจวนอ๋อง ก็ต้องตัดสัมพันธ์กับจวนเฉิงเซี่ยงเสียก่อน” “อยากได้มันก็ไม่มา แต่ถ้าซื่อจื่ออยากแต่งงานกับข้า จะมีสนมไม่ได้เด็ดขาดตลอดชีวิต” เข้าจวนเพียงลำพัง แต่งงานเพียงลำพัง เข้าห้องหอเพียงลำพัง หยิ่นซู่ฮั่วแสดงความในใจออกมา มันมีเรื่องดีอย่างนี้เชียวหรือ? ในมือมีห้องปฏิบัติการทางการแพทย์อยู่ นางยิ้มอย่างร้ายกาจ จัดการกับทาสบริวารที่ร้ายเล่ห์อวดดี พร้อมแผนการที่เด็ดขาดเฉียบแหลม และเขามองดูซื่อจื่อเฟยที่เหมือนเป็นเป็นอีกคนด้วยสายตาเยือกเย็น เพียงแต่ว่าแต่งงานไม่กี่วัน ทั้งตี้ตูก็พูดกันหนาหูว่าซื่อจื่อจวนหนิงอ๋องร่างกายอ่อนแอขี้โรค ในห้องหอมีใจไร้แรง น่าสงสารเยี่ยงนัก แต่หยิ่นซู่ฮั่วผู้ใส่ไฟแต่แรกกลับถูกซื่อจื่อบางคนโอบตัวเอาไว้ แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น:ได้ยินว่าซื่อจื่อเฟยพูดว่าข้าเสียๆหายๆกับคนไปทั่วงั้นรึ?

ชายาผู้มากพรสวรรค์ เป็นหนึ่งในบัลลังก์
ฉู่จิงกั๋วในฐานะผู้นำสูงสุดแพทย์ภาคสนามที่ทะลุมิติมา นางมีฝีมือในการผ่าตัด ทำการผ่าตัดคลอดด้วยตนเอง ราชาสงครามกลับเกลียดชังอย่างสุดขีด:“นังสัตว์ประหลาด!เทียบกับเหลียนเอ๋อไม่ถึงหนึ่งในสิบเลยด้วยซ้ำ!” ฉู่จิงกั๋วยกเท้าเข้าให้:“งั้นข้าก็สมหมายพวกเจ้า ขอให้พวกเจ้า น้องโสฯกับหมาวัด รักกันไปตราบฟ้าจะหาไม่!” นางอุ้มเด็กทารกและจากไปอย่างสง่า นับแต่นี้ไปข้าจะทำให้ใต้หล้าต้องสะเทือนกับความงามและความสามารถอันยิ่งยอด หมอมหัศจรรย์เป็นนางซะได้!เจ้าสัวหญิงวงการค้าอันดับหนึ่งเป็นนางซะได้!นางบรรเลงขิมผู้ลึกลับยังคงเป็นนาง!เทพสงครามหญิงยอดแกร่งก็ยังคงเป็นนางอีก! ราชาสงครามเสียดายสุดๆ:“กลับมาเถิด มาเป็นพระชายาของข้า” ฉู่จิงกั๋วแสยะยิ้ม:“ขออภัยด้วย ตอนนี้ข้าเป็นฮองเฮา!”พอสิ้นเสียง จักรพรรดิก็อุ้มเด็กน่ารักเยื้องกราย:“ยังไม่เคารพพี่สะใภ้เจ้าอีกรึ?”

เกิดใหม่ในฐานะคุณหนูตระกูลพาน
จะมีสิ่งใดน่าทุกข์ใจไปมากกว่าการถูกคนในครอบครัวรังเกียจ ภายหลังจากมารดาเสียชีวิต เด็กน้อยอายุห้าขวบต้องพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปให้ได้พร้อมกับน้องสาวที่พึ่งลืมตาดูโลก อีกทั้งน้องชายฝาแฝดที่พึ่งเกิดมายังถูกจับแยกออกไป หลี่อันหนิง เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับโชคชะตาที่ไม่เหมือนผู้ใดนอกจากต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากคนในครอบครัว ตลอดชีวิตนางยังไม่เคยได้รับอุ่นไอจากผู้เป็นบิดาที่ยังเหลืออยู่ จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของชีวิต นางก็ยังไม่รู้เลยว่าเหตุใดสวรรค์ถึงได้กำหนดชะตาชีวิตเช่นนี้ให้กับตน เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวพบว่าตนเองกลับมายังอดีตในช่วงเวลาที่ทุกอย่างสามารถแก้ไขได้ พร้อมกับความสามารถที่ไม่มีมนุษย์คนไหนทำได้เหมือนอย่างนาง หลี่อันหนิงได้เริ่มวางแผนแก้แค้นให้กับตนและช่วยเหลือน้องทั้งสองมิให้มีชะตากรรมดั่งชาติที่แล้ว ************************************************************ “ท่านแม่!! ท่านแม่!! ตื่นสิเจ้าคะ นอนที่นี่ไม่ได้นะเดี๋ยวจะไม่สบายเอา” ร่างเล็กแกรนแกะเอาเสื่อที่ห่อม้วนร่างของมารดาออก ก่อนจะเขย่ากายที่เย็นชืดไปนานแล้วของนาง ทว่าในระหว่างที่สายฝนกำลังเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เสียงร้องแผ่วเบาราวกับลูกแมวน้อยก็ดังขึ้น หลี่อันหนิงมองไปยังช่วงขาของมารดาเห็นบางสิ่งกำลังขยับไหว นางจึงเลิกชุดสีขาวที่เปรอะเปื้อนไปด้วยโลหิตของมารดาขึ้น บัดดลร่างเล็กของเด็กทารกที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดก็ปรากฏแก่สายตา ด้วยสัญชาตญาณ เด็กน้อยในวัยห้าขวบรีบถอดเสื้อคลุมด้านนอกอันเปียกชื้นไปด้วยละอองน้ำฝนออกมาห่อร่างเล็กของน้องสาวเอาไว้ ส่วนตนเองก็เอาแต่เอ่ยพึมพำว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พี่สาวจะดูแลน้องเอง หลี่อันหนิงกอดเด็กทารกเอาไว้ในอ้อมแขน ใช้ร่างกายเล็กจ้อยของตนกำบังลมฝนให้น้องน้อยอย่างกล้าหาญ ******************************************************** ร่างเล็กนั่งตากฝนอยู่บนเขาเป็นเวลาเนิ่นนาน เพราะหาหนทางกลับเรือนเฉกเช่นผู้ใหญ่ไม่ได้ กายของเด็กน้อยเริ่มสั่นสะท้านเสียงฟันของนางกระทบกันดังกึกกัก ก่อนสติสุดท้ายของเด็กหญิงจะดับวูบไป หลี่อันหนิงคล้ายมองเห็นมารดาของตนที่นอนอยู่เบื้องหน้าลุกขึ้นมาตระกองกอดนางเอาไว้แนบอก ก่อนกระซิบน้ำเสียงอ่อนโยนว่า ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แม่อยู่นี่แล้ว เสียงเพลงกล่อมเด็กที่มารดาเคยร้องกล่อมตนยามค่ำคืนยังคงดังก้องประทับในโสต หลี่อันหนิงหลับไปทั้งรอยยิ้มโดยไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นต่อจากนั้น

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว
หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้ว ทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++โปรย+++ “บอกมาเจ้าเป็นใครกันแน่!” หลินซือเยว่พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ หากไม่บอกความจริงไป เขาคงไม่ปล่อยนางไปง่าย ๆ “นายกองลู่ เจ้าบอกนายท่านผู้สูงศักดิ์ผู้นี้ทีว่าข้าเป็นใคร” “คุณหนูหลินเป็นนักโทษถูกเนรเทศมาอยู่ที่ค่ายทหารเมืองเหลียง นางออกมาทำงานนอกค่าย ตอนนี้ต้องกลับไปรับโทษที่ค่ายตามเดิม นายท่านโปรดอย่าขวางทางพวกเราเลย” นายกองลู่รู้สึกได้ว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เขาจึงเอ่ยอย่างนอบน้อมออกมา “หึ เป็นแค่นักโทษถูกเนรเทศ” นี่มันสายตาอันใดกัน หลินซือเยว่มองเห็นแล้วไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก นางมองดูโหงวเฮ้งของเขา ลองทำนายดูเสียหน่อยจะเป็นไรไป “นายท่านดวงชะตาของท่านช่างลำบากนัก เติบโตมาท่ามกลางการแก่งแย่งชิงดี สูญเสียมารดาไปแล้วมีบิดาก็เหมือนไม่มี แต่ปราณมังกรของท่านยังพอมีพลังอยู่บ้าง เลยทำให้ท่านมีชีวิตรอดมาถึงทุกวันนี้ ตอนนี้แม้แต่บิดาก็ไม่มีแล้ว จุ๊ ๆ ชะตาดอกท้อยิ่งน่าสงสาร สามปีนี้ท่านคงไม่อาจตบแต่งสตรีเข้าจวนได้ แต่ก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้าง สิ่งของที่ท่านตามหานั้น...อยู่ที่นี่” นางดึงเชือกบังคับม้ากลับคืนไป เซวียนหมิงยู่ไม่รู้ว่าตัวเองปล่อยเชือกในมือไปตอนไหน ราวกับถ้อยคำของนางมีมนต์สะกดตรึงให้เขาอยู่กับที่ เขาหันไปทางองครักษ์คนสนิท “เก็บนางไว้ไม่ได้!”

ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า
‘สวรรค์หรือโชคชะตาที่เล่นตลก คนอื่นทะลุมิติมามีแต่คนรุมรัก ทว่าตั้งแต่ข้าฟื้นมามีแต่คนอยากจะฆ่า ในเมื่อข้าอยากเป็นเพียงคุณหนูเสพสุขไปวัน ๆ แต่บารมีไม่ถึงวาสนาไม่อำนวย เช่นนั้นข้าจะทำตามลิขิตฟ้า กลายเป็นนางร้ายอย่างที่สวรรค์ต้องการ’

เกิดใหม่อีกทีขอไม่เป็นนางมาร
เมื่อนางมารกลับใจได้มาเกิดใหม่ในร่างเด็กสาวชาวบ้านธรรมดาหน้าตาอัปลักษณ์ นางคิดว่าชาตินี้จะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่ใครจะรู้ว่าฐานะของร่างเดิมกลับไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น ไม่เพียงเลิ่งยี่จะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบ ยังต้องเข้าไปผจญกับโชคชะตาของจางหวั่นอี้อย่างไม่มีทางเลี่ยง ไม่รู้ว่านางมารผู้ไม่อยากให้มือกลับไปเปื้อนเลือด จะอดทนอดกลั้นได้นานแค่ไหน จะมีใครบ้างที่บังอาจก้าวข้ามขีดความอดทนของนาง : : : หลี่มู่ฉีรับผ้ามาค่อยๆ บรรจงเช็ดไปตามแผ่นอก รอนหน้าท้อง เจตนาทำให้นางเห็น ซึ่งเลิ่งยี่ก็เห็นตามที่เขาต้องการจริงๆ เพียงแต่สายตาที่มองยังคงเรียบเฉย หลี่มู่ฉีเห็นแล้วหมดอารมณ์จะเช็ดตัวขึ้นมาทันที เขาส่งผ้าคืนให้นาง เลิ่งยี่รับมาอย่างมึนงง “เช็ดตัวให้เปิ่นหวาง!” “อ้อ” เลิ่งยี่ขยับเข้าไปใกล้ แต่ก่อนที่ผ้าในมือนนางจะสัมผัสโดนร่าง หลี่มู่ฉีพลันเอ่ยเสียงเย็นชา “นี่เป็นหน้าที่ของสาวใช้ ห้ามคิดเงินเพิ่ม” นางได้ยินก็ฉีกยิ้ม ค่อยๆ เช็ดตัวให้เขาอย่างอารมณ์ดี ชาติก่อนเลิ่งยี่อยู่เหนือผู้คนมาทั้งชีวิต ไม่เคยมีชายใดกล้าเฉียดเข้าใกล้ กระทั่งอายุสี่สิบสองนางยังครองความบริสุทธิ์จนกระทั่งตาย ไหนเลยจะเข้าใจเรื่องชายหญิง นอกจากฝึกวิชากับฆ่าคนแล้ว เรื่องอื่นไม่เคยอยู่ในหัว นางหาใช่ไม่สนใจรูปร่างของเขา เพียงแต่ ความสนใจของนางอยู่ที่... เจ้าหนุ่มนี่หน่วยก้านดีใช้ได้เลยทีเดียว หากฝึกวิชาในคัมภีร์สัจจะคงเป็นหนึ่งในใต้หล้าได้ไม่ยาก

หงส์กลางใจอสุรา
เพราะความรักมันบังตา เพราะความดีมันจอมปลอม เพราะเกิดมาบนกองเงินกองทอง นอนอยู่บนตั่งแห่งอำนาจ นางถึงไม่เคยคิดว่าตัวเองจะถูกล่อลวงและหักหลังจากคนที่นางทุ่มเททั้งชีวิต ทั้งอำนาจเพื่อส่งเขาถึงจุดสูงสุด

บทนางรองไร้ตัวตนในนิยาย ข้าไม่ได้ต้องการเสียหน่อย!
จากเดิมตั้งใจใช้ชีวิตคู่ไปอย่างไม่มีแบบแผนเพื่อรอวันหย่า ทุกอย่างกลับผิดคาดไปเสียได้ ไยเขาชอบยุแหย่ เห็นนางโกรธ เขายิ่งชอบ เห็นนางหนี เขายิ่งแกล้ง ก็แค่นางรองไร้ตัวตนในนิยาย เขาจะมาสนใจอะไรนักหนากัน!

ชายาข้าคือธิดามังกร
ธิดาพญามังกรหนันไห่ แอบหนีความผิดขึ้นมายังเมืองมนุษย์ นางได้พบกับองค์หญิงของแคว้นฝานหรง ในศาลเจ้าแม่หนวี่วา แต่องค์หญิงผู้แสนอ่อนแอกำลังป่วยหนัก และใกล้จะตาย ทั้งคู่มีหน้าตาที่เหมือนกันราวกับฝาแฝด ทั้งสองพูดคุยปรับทุกข์ให้กันและกันฟังอย่างถูกคอ ธิดามังกรถูกเจ้าแม่หนวี่วาสั่งให้เข้าร่างขององค์หญิง เพื่อทดแทนพระคุณแก่คนผู้หนึ่งเป็นเวลา 3 ปี ธิดามังกรจึงอยู่ในร่างองค์หญิงแคว้นฝานหรงนับแต่นั้น องค์หญิงต้องไปอภิเษกกับรัชทายาทหนุ่มรูปงามแห่งแคว้นฮุยหวง เขาคือผู้ที่นางต้องมาแทนคุณ 3 ปี ธิดามังกรหลงรักเขาทันทีที่เห็น นางต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งในวังหลวง แล้วแบบนี้นางจะทำยังไง คนกับมังกรจะลงเอยกันได้ไหม เชิญหาคำตอบได้ค่ะ...

องค์ชายเจ้าขาองค์หญิงเช่นข้ามิใช่กบฎ
องค์ชายเจ้าขาองค์หญิงเช่นข้ามิใช่กบฎ โดย แม่นางว่างจิงจิง ------------------------------- ตื่นมาก็กลายเป็นองค์หญิงที่ถูกหาว่า ‘กบฏ’ ทั้งยังเจ็บตัวปางตายตั้งแต่ยังไม่ทันหายงง นั่นองค์ชายหกมิใช่หรือ? เขาควรจะโกรธหรือไม่ก็เมินข้าไปเสีย เหตุใดจึงโผล่มาช่วยเล่า? แล้วข้าควรทำอย่างไรดี? หนี? สู้? หรือรักษาตัวให้รอดก่อน หากกลั้นใจตายแล้วจะเกิดใหม่อีกรอบไหม! ‘ห้ามแตะต้องนาง...นางเป็นของข้า’ -------------------------------

ชายาตัวร้ายของท่านอ๋องใบ้
เสี่ยวจิ่วฮวา นางได้ชื่อว่าเป็นสตรีที่มีจิตใจริษยา มักใหญ่ใฝ่สูง ไม่เห็นหัวใคร รังแกแม้กระทั่งพี่สาวของตนเอง จนกระทั่งวันที่นางตายอย่างน่าเวทนาทำให้นางได้รู้สำนึกรู้ผิดชอบชั่วดี รู้ถึงสัจธรรมของชีวิต ทว่าสวรรค์ยังมีเมตตาให้นางย้อนเวลากลับมาในร่างของตนเองตอนที่มีอายุเพียงสิบสี่ปี เสี่ยวจิ่วฮวารู้ว่าการจะเปลี่ยนสันดานเดิมนั้นไม่ง่าย แต่ก็ไม่ถือว่ายากเสียทีเดียว นางจึงปรับเปลี่ยนนิสัยตนเองเสียใหม่ ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปในทางที่ดี ชั่วชีวิตนี้ไม่ขอแต่งงาน เพียงเสพสุขกับอาหารตรงหน้าก็พอแล้ว แต่โชคชะตากลับเล่นตลก ทำให้นางไปยุ่งเกี่ยวกับ เติ้งหมิงซี ท่านอ๋องบ้าใบ้ผู้หนึ่งเข้า เรื่องราวจึงวุ่นวายไม่น้อย ไหนจะเรื่องที่ต้องแก้ไข เรื่องการเมือง เรื่องการกบฏ และการเอาตัวรอดจากฮ่องเต้จอมบ้าอำนาจ จึงเกิดขึ้น

เสน่หานางมารหน้าใส
“พี่สาวข้าไม่อยากแต่งกับไท่จือ”หลินเสี่ยวหลิน ทำสีหน้าเศร้าสร้อย เหมือนกับจะตายดับลงตรงหน้า “ ท่านพ่อหมายมั่นให้เจ้าจะต้องแต่งกับไท่จือ”หลินเจี้ยนหลิงเอ่ยเรื่องจริงที่ถูกวางไว้แล้วไม่มีทางเป็นอื่น “ท่านพ่อคงเห็นว่าข้าไร้ซึ่งปากเสียง ต่างจากท่านที่มักจะเก่งกาจเกินหญิง ท่านมีความสามารถรอบด้าน มีคนนับหน้าถือตามากมายอีกทั้งยังกล้าที่จะต่อคำท่านพ่อ ชีวิตท่านจึงไม่ต้องถูก ….กดดันเช่นข้า”

ดั่งบุปผา ดุจจันทรา
เพราะชาติก่อนโง่เขลา นางจึงไปตกหลุมรักองค์รัชทายาทผู้มีจิตใจชั่วร้ายเย็นชา เมื่อมีโอกาสได้ย้อนเวลากลับมาใช้ชีวิตใหม่อีกครา ชาตินี้นางจึงตั้งมั่นว่าจะไม่ทุ่มเทใจให้บุรุษใดอีก แต่ทว่าเหมือนสวรรค์ไม่เข้าใจคำขอของนาง อีกทั้งยังทำให้นางต้องเกี่ยวกพันกับบุรุษถึงสามคน เรื่องราวความรัก ความเสียสละ การแย่งชิง และความลับที่รอเปิดเผยจึงเริ่มต้นขึ้น ฝากนิยายเรื่องข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี เซตข้ามภพประสบรักนะคะ ซึ่งประกอบด้วย 1.ข้าจะเกี้ยวท่านมาเป็นสามี 2.ดั่งบุปผา ดุจจันทรา แนะนำตัวละคร หยางจิ่ง เขาคือองค์ชายใหญ่แห่งแคว้นเป่ยฉิน แต่เพราะความโง่เขลาจึงถูกคนสังหารจนตาย และได้โอกาสย้อนเวลามาเกิดใหม่ในตอนที่ตนเองยังมีอายุเพียงสิบหกปี เขาจึงทำทุกทางเพื่อล้มคว่ำหมากกระดานของคนชั่วให้ได้ แต่ยิ่งสืบลึกเข้าไปเท่าใด ก็ทำให้เขาได้รู้ถึงแผนการชั่วช้าที่เหล่าคนชั่วปิดบังเอาไว้ โจวหว่านหรู นางคือบุตรสาวแม่ทัพใหญ่แห่งแคว้นเป่ยฉิน เป็นสตรีที่เก่งกาจมีความสามารถ แต่กลับโง่เขลาเพราะความรักจนต้องตาย นางย้อนเวลากลับมาตอนที่ตนเองอายุเพียงสิบสามปี เพื่อหาหาทางรอดให้ตระกูลโจวของนาง แต่ทว่าโชคชะตากลับทำให้นางต้องเกี่ยวพันกับบุรุษถึงสามคน เจียงหมิงเจ๋อ องค์ชายตัวประกันจากแคว้นเยี่ยนผู้เย็นชา อำมหิต ในชาติก่อนเขาคือต้นเหตุแห่งการก่อกบฏในแคว้นเป่ยฉิน เขาไม่คิดที่จะรักสตรีใด เพราะไม่เคยสนใจในเรื่องรักใคร่ของบุรุษและสตรี แต่ทว่าเมื่อเขาได้พบกับโจวหว่านหรู ความคิดบางอย่างในจิตใจของเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไป เฉินป๋อเหวิน สหายรักของโจวหว่านหรู นางมองเขาเป็นสหายที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตของนาง ชาติก่อนเพียงเพราะช่วยนาง ตระกูลเฉินจึงล่มสลายตามตระกูลโจวไป ชาตินี้โจวหว่านหรูจึงยืดมั่นว่าจะต้องทำทุกทางให้สหายผู้นี้มีชีวิตยืนยาวราบรื่นไร้กังวลไปชั่วชีวิต

องค์หญิงอย่าคิดหนี
องค์หญิงหลิวอี้เฟยถูกส่งตัวไปแต่งงานกับอ๋องชราต่างแคว้นโดยไม่เต็มใจ ยังถูกคุมตัวโดยหัวหน้าองครักษ์ผู้เหี้ยมโหดที่คิดสังหารนาง เพราะนางดันไปรู้ความลับดำมืดของเขาโดยบังเอิญ ด้วยความกลัวตายนางจึงคิดหนี!

ยอดชายาจอมจักรพรรดิ
เมื่อหยางซินเยว่ถูกหักหลังจากคนที่ไว้ใจจนตัวเองต้องตายพอได้เกิดใหม่ในดินแดนที่แปลกประหลาดยังถูกน้องสาวต่างมารดารังแกแถมบิดาผู้ให้กำเนิดยังรังเกียจที่ไร้พลังทั้งยังต้องค้นหาชาติกำเนิดที่เเท้จริงของตน หยางซินเยว่ นักโจรกรรม สาวพราวเสน่ห์หลุดมาอยู่ในดินเเดนต่างมิติ ที่เรียกว่าทวีป 'ชิวหลิง' "แม้โลกนี้จะไม่เหมือนที่ที่ฉันจากมา แต่ฉันจะใช้ทักษะที่มีเอาชีวิตรอดให้ได้" ไป๋เยี่ยนหลง บุรุษผมสีเงินที่มีพลังยุทธ์ยากหยั่งถึงนิสัยเย็นชาเหี่ยมโหดไม่ไว้หน้า ใครใบหน้าหล่อเหลาที่ทำให้คนตลกตะลึง อวัยวะทั้งห้าราวกับ สวรรค์สรรสร้าง เฉยชาแต่ไม่สูญเสียความงดงาม ระดับพลังปราณแห่ง ทวีป ชิวหลิง ม่วง,คราม,น้ำเงิน,เขียว,เหลือง,ส้ม,แดง ยิ่งมีพลังยุทธ์แก่กล้าสีของพลังก็จะเลื่อนขั้นขึ้น สี แดง คือระดับต่ำสุด สี ม่วง คือระดับสูงสุด แต่ละระดับมีสามขั้นคือ ขั้นต้น,ขั้นกลาง,ขั้นสูง ยังมีระดับที่สูงขึ้นไปกว่าระดับพลังขั้นสีคือ ขั้นสร้างฐานราก ขั้นเจี๋ยตัน ขั้นหยวนหยิง ขั้นสร้างจิตวิญญาณ ขั้นแปลงจิต และถ้าหากฝึกถึงขั้นสร้างฐานราก ผู้ที่มีพลังมากกว่าระดับสีม่วงล้วนถูกขนามนามว่า ปรมาจารย์ยอดยุทธ

ลิขิตแค้นบัลลังก์เลือด
เมื่อแคว้นจิ้นที่รุ่งเรืองกลับต้องถูกทำลายย่อยยับเพียงเพราะความปรารถนาของบุรุษผู้หนึ่ง หลี่หลานฮวา องค์หญิงผู้สูญเสียทุกสิ่ง ยอมเดินเข้าสู่วังวนแห่งการล้างแค้น มีเพียงคำสาบานและการวางแผนเพื่อให้แคว้นหนานต้องพินาศในเงื้อมมือของนาง เมื่อแผนหญิงงามล่มเมืองถูกจัดฉากขึ้น พันธนาการระหว่างพวกเขาจึงถูกโยงใยจนไม่อาจถอนตัว และเมื่อรักกลายเป็นพันธนาการที่ล่ามทั้งผู้ล่าและผู้ถูกล่าไว้ด้วยกัน สุดท้ายแล้ว…ใครกันที่จะเป็นฝ่ายตกอยู่ในกับดักที่สร้างขึ้น

เสน่ห์รักข้ามศตวรรษ
เสน่ห์รักข้ามศตวรรษ...นิยายรักโรแมนติกที่นางเอกย้อนอดีตกลับไปในศตวรรษที่ 18 เพื่อช่วยเจ้าชายรัชทายาทแห่งชัยปุระได้รับสถาปนาเป็นรัชทายาทสืบต่อมหาราชา มีความพิเศษที่ผู้เขียนได้หยิบยกเอาอาหารอินเดียที่มีวัฒนธรรมหลากหลายและจุดเด่นเรื่องเครื่องเทศที่มีมานานกว่า 7,000 ปี มาเป็นตัวเชื่อมโยงการดำเนินเรื่องไปกับความรักซาบซึ้งของพระเอกในโลกอดีตและโลกปัจจุบัน และขาดไม่ได้ คือ...ดอกบัวหลวง...ดอกไม้ประจำชาติของประเทศอินเดียที่ผู้เขียนนำมาเป็นสื่อรักสร้างความประทับใจ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้ในนิยายโรมานซ์ คือ บทโรมานซ์ที่จัดให้แบบซ่านซึ้งตรึงใจ @@...การได้สัมผัสรสรักจากพระสวามีเป็นบทเรียนให้รู้ว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด คู่ครองสามารถเสพสุขได้ตามใจปรารถนาและพระสวามีที่รักก็มอบความสุขแก่เธอมากมายเหลือจะพรรณนา...เสน่ห์รักไร้พรหมแดนขวางกั้น แม้นานข้ามศตวรรษรักนั้นมิเลือนหาย ดั่งสัญญาจดจำรักเสน่หาไม่รู้คลาย ตราบฟ้าดินมลายไม่สิ้นรักเสน่หาในตัวเธอ....@@

ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด
เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว"

ผืนทราย ร่ายมนต์รัก
เมื่อสาวผู้พลัดถิ่นจากเมืองไทย ต้องพบเจอกับเจ้านายหนุ่มสุดหล่อหน้าคมที่หมายมาดเธอตั้งแต่แรกเห็นหน้า ว่าจะมอบหมายหน้าที่ให้มากกว่าเลขานุการ คำตอบรับจากเธอคือการปฏิเสธ ที่สุดแสนจะหยามหน้ากัน เสือร้ายจึงไล่ตาม ไล่ต้อน แม่สาวตัวเล้กพริกขี้หนู เข้ามาในอ้อมกอดให้จงได้! มนต์แห่งผืนทราย กำลังร่ายดลมนต์แห่งรัก อัสลานชายหนุ่มผู้มีปูมหลังเป็นปริศนา และ จันทร์กระจ่าง เลขานุการสาวชาวไทย ให้ติดกับด้ายแดงแห่งพรหมลิขิต เสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไปด้วยกัน จนกว่าจะพบรัก ก็ต้องฟาดฟันกับชะตากรรมที่โถมเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว “ขอบคุณนะครับ ที่ทำให้ผมรู้สึกคลายเครียดขึ้นบ้าง คาไลลา” อัสลานพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เมื่อหยุดหัวเราะได้แล้ว อารมณ์ปรับเปลี่ยนกะทันหันของเขาทำให้เธอค่อนข้างจะงงๆ อยู่สักหน่อย แต่ก็ยิ้มรับ พร้อมกับส่งมือให้เขาจับแถมท้ายอีกด้วย “ไม่เป็นไรหรอกค่ะเจ้านาย เราก็มาช่วยๆ กันไหนๆ เราก็ร่วมหัวจมท้ายกันแล้ว เฮ้อ...เรามาจับมือกันเป็นเพื่อนชั่วคราวดีไหมคะเจ้านาย เพื่อนตายกันเลยก็ได้นะคะเจ้านาย เพราะเราเฉียดตายด้วยกันมาแล้วทั้งคู่” คำพูดของเธอทำให้เขายิ่งยิ้มมากยิ่งขึ้น และยื่นมือของตนเองออกมาจับกับมือเธอแล้วบีบแน่น พลางเอ่ยเสียงทุ้ม “นั่นสิครับ เราเป็นเพื่อนตายกันแล้ว คุณอย่าทิ้งผมไปเสียกลางทางนะครับคาไลลา เราเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันมาแล้วแบบนี้ ห้ามทิ้งกันเด็ดขาด” “ค่ะ เราเป็นเพื่อนตายกันแล้ว แล้วเจ้านาย เอ่อ...” คนพูดแก้มแดงเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง “เพื่อนตายกันน่ะ เค้าห้ามลวนลามเพื่อนนะคะ แล้วก็ห้ามคิดร้ายกับเพื่อนด้วย” “หึๆ ครับ” ชายหนุ่มอมยิ้ม ก่อนจะพยักหน้ารับ นัยน์ตาคมกริบมองใบหน้าหวานด้วยประกายตาระยับยิ้ม เขาไม่เคยมีเพื่อนเพศหญิง ที่เรียกตัวเองว่าจะเป็นเพื่อนตายของเขามาก่อนเลยจริงๆ มีเธอเป็นคนแรก และเขาก็อยากให้เป็นเธอไปตลอดเสียด้วยสิ กับตำแหน่งเพื่อนหญิงคนเดียวของเขาแบบนี้
