รักสามเศร้า

ดั่งเล่ห์มายา
เมื่อคิดจะมีความสัมพันธ์แบบ FWB (เพื่อนนอนเพื่อเซ็กส์) ก็ให้ทุกอย่างมันจบลงที่เตียงเท่านั้น ห้ามรัก...ห้ามรู้สึก แต่ความผูกพันที่เกิดขึ้นมันก็ยากจะห้ามใจ และมันจะจบลงเช่นไร เมื่อคนหนึ่งเกิดรักขึ้นมา.. การัน วานิชกุลพงษ์ อายุ 32 ปี “การัน” หนุ่มลูกครึ่งอังกฤษ-ไทยที่มีหุ่นล่ำบึกขยี้ใจสาวๆ แต่กลับชอบใช้ชีวิตแบบเงียบๆ และเขาก็เลือกที่จะซื้อผู้หญิงกิน เพื่อปลดปล่อยความต้องการของตัวเองมากกว่ายุ่งเกี่ยวกับพวกดารานางแบบที่พยายามจะเข้าหาเขาเพื่อผลประโยชน์ แต่แล้ว “อนิสา” ก็ทำลายกฏของเขาจนไม่เหลือชิ้นดี ใครจะคิดล่ะว่าเด็กสาวหน้าใสๆซื่อๆอย่างเธอจะมีความต้องการที่รุนแรงมากๆ และมันก็ทำให้เขานั้นยอมคบกับเธอแบบ Friends with benefits (เพื่อนนอน) แบบที่เขาไม่คิดว่าจะคบกับใครแบบนี้มาก่อน เพียงเพื่อจะมีเซ็กส์กับเธอ และเธอก็ทำให้เขาได้เจอกับเซ็กส์ที่แปลกใหม่จนมันกลายเป็นการเสพติดเซ็กส์ของเธอไปโดยไม่รู้ตัว และนั่นก็ทำให้เขาข้ามเส้นของคำว่าเพื่อนนอนกับเธอ เมื่อเขาเกิดชอบเธอขึ้นมาจริงๆ แต่เธอกลับไม่ได้ชอบเขา เธอดันไปชอบผู้ชายอีกคน...แล้วเขาจะทำอย่างไรกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้ เมื่อเขาต้องการที่จะครอบครองเป็นเจ้าของเธอทั้งตัวและหัวใจ อาย อนิสา อรุณตระการ อายุ 22 ปี “อาย อนิสา” สาวน้อยหน้าหวานที่ซ่อนความเร่าร้อนเอาไว้ข้างในจนยากที่ใครจะรู้ได้ เพราะโลกมายาที่เธออยู่นั้นไม่สามารถที่จะแสดงความต้องการของเธอได้ จนกระทั่งเธอก็ได้พบกับ “การัน” ผู้ชายที่มาปลุกความเร่าร้อนและความต้องการของเธอให้มันพลุ่งพล่าน และเธอก็ได้เรียนรู้การมีเซ็กส์สุดเร่าร้อนกับเขา จนเธอนั้นลุ่มหลงมัวเมาในเรื่องเซ็กส์ถึงขั้นยอมตกลงเป็น Friends with benefits (เพื่อนนอน) ของเขาเพื่อและกับการมีเซ็กส์แบบมันๆกับเขาได้ทุกที่..ทุกเวลา..ตามที่เธอต้องการ แต่แล้วความสนุกของเธอก็ต้องจบลงเมื่อเธอรักเขา...ซึ่งมันเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับความสัมพันธ์นี้ ดังนั้นเธอจำเป็นต้องหยุดความสัมพันธ์นี้ก่อนที่เธอจะถลำลึกไปมากกว่านี้ แต่เธอกลับท้องกับเขาขึ้นมา ทำให้เรื่องราวของเธอและเขาไม่สามารถที่จะจบลงได้..และเธอจะไม่ยอมเสียพ่อของลูกไปให้ผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น... เรื่องย่อ “คุณจูบเก่งจัง...อือ...ฉันหายใจแทบไม่ทันเลย...” “ผมไม่ได้เก่งแค่จูบนะ..อย่างอื่นผมก็เก่งเหมือนกัน...” “อย่างอื่นที่คุณบอกนี่อะไรเหรอคะ..บอกฉันหน่อยได้ไหมคะ” “นอกจากผมจะจูบเก่งแล้ว ผมก็ยังเอาเก่งอีกด้วยนะ คุณอยากจะลองไหมล่ะ...” .........โปรดติดตามอ่านในเรื่อง......

คลั่งรักน้องเมีย (NC20+)
"บอส" เป็นแฟนกับ "มิน" ได้ไม่นานก็ถูกพาไปแนะนำให้รู้จักกับน้องสาวแสนสวย "นุช" ผู้ที่เคยมีความลับอันแสนสนุกกับเขามาก่อน

ข้ากลายมาเป็นนางร้ายที่ถูกฆ่า
‘สวรรค์หรือโชคชะตาที่เล่นตลก คนอื่นทะลุมิติมามีแต่คนรุมรัก ทว่าตั้งแต่ข้าฟื้นมามีแต่คนอยากจะฆ่า ในเมื่อข้าอยากเป็นเพียงคุณหนูเสพสุขไปวัน ๆ แต่บารมีไม่ถึงวาสนาไม่อำนวย เช่นนั้นข้าจะทำตามลิขิตฟ้า กลายเป็นนางร้ายอย่างที่สวรรค์ต้องการ’

บำบัดรักคุณอา
เธอรักและเทิดทูนเขามาตั้งแต่จำความได้ และแปรเปลี่ยนไปตามการเติบโต ต่างจากเขาที่เลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เด็ก ความรู้สึกเลยไม่เคยมากไปกว่าหลาน แม้ว่าความสัมพันธ์จะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม

มารยารัก
ความเข้าใจผิดทำให้เธอกับเขาเลยเถิดไปอย่างยับยั้งไม่ได้ แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอกับเขาได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวด้วยกัน และค่อยๆ กลายเป็นความรัก เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์จนน่าอิจฉาด้วยคำว่าพ่อแม่ลูก แต่ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป เมื่อแฟนเก่าของเขากลับมา เมื่อระยะห่างที่เราอยู่กันคนละประเทศ เขาทำผิดต่อภรรยาอย่างเธอ นอกกายนอกใจอย่างเห็นแก่ตัวเพียงเพราะความสุขของตัวเอง หลอกลวงปิดบังเธอมาตลอด กระทั่งเธอจับได้ คนสำนึกร้องขอโอกาส พยายามอย่างสุดความสามารถจนได้มันไปอีกครั้ง และเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งเขาก็รับปาก จะแก้ไขทุกอย่างให้เรียบร้อยและไม่ทำผิดต่อเธออีก แต่การเริ่มใหม่ในก้าวแรกของชีวิตสามีภรรยา มันก็มาพร้อมกับข่าวที่ว่าผู้หญิงอีกคนท้อง

สายใยในวันวาน
เรื่องนี้เป็นเรื่องของเฮียกานต์ เรื่องสุดท้ายของเซ็ตเฮียเฟยค่ะ ทั้งที่เธอมาก่อน แต่มักเป็นคนที่ถูกทิ้งให้รอเสมอ บางคนก็คิดว่าเธอเป็นชู้ เธอเหรอชู้ เธอถูกแย่งนะ หากเขารู้เรื่องลูก ลูกเธอจะกลายเป็นลูกนอกสมรสของเขา หากลูกต้องแบ่งพ่อกับเด็กคนอื่นแล้วต้องหลบซ่อนเหมือนเดิม ก็คงไม่ต่างกับตอนไม่มี ถ้างั้นก็ไม่ต้องมีดีกว่า ‘เรื่องที่ผ่านมาเฮียขอโทษ’ ‘ขอโทษเรื่องอะไร’ มีหลายเรื่องที่เขาควรขอโทษฉัน เขาจะรู้บ้างไหมว่าฉันลำบากแค่ไหน ‘เรื่องที่ทำกับพริกทุกอย่าง ตอนนั้นเฮียยังเด็ก ขอโทษที่ทำแบบนั้น’ ‘หมายถึงเรื่องที่มีอะไรกันเหรอ’ ‘อือ นั่นก็ด้วย’ ‘แล้วยังไงต่อ ไหนเคยบอกว่าพริกสำคัญกับเฮียที่สุด ทำไมวันนี้เฮียมาขอโทษพริก รู้บ้างไหมคำขอโทษเป็นสิ่งสุดท้ายที่พริกอยากได้ยินจากปากเฮีย ถ้าเฮียไม่ทำผิดคำนี้ไม่มีทางจะออกจากปาก’ ‘หมวยยังเป็นคนที่สำคัญ’ ‘แล้วยังไง ไหนบอกว่าแก้แค้นเสร็จจะกลับมา ตอนนี้ทำไมมาขอโทษ นี่ทำอะไรอยู่รู้ตัวบ้างไหมเฮีย’ ‘ใช่ เฮียอยากแก้แค้นที่โดนแบบนั้น แต่กล้วยหอมกับเฮียมีลูกด้วยกัน ลูกของเรากำลังน่ารัก กล้วยจะแต่งงานกับเฮีย… เฮียอยากแต่งงานกับกล้วย’ ‘…อะไรนะ อยากแต่งานกับมันเหรอ’ ‘…’ ‘เฮียทำพริกหายใจไม่ออกเลยว่ะ นี่เฮียรักมันแล้วใช่ไหม ไม่สิ เฮียรักมันมาตลอด คนที่เฮียไม่รักคือพริกต่างหาก’ ‘...’ ‘พูดอะไรบ้างสิ’ ---- สายใยในวันวานเป็นเรื่องสุดท้ายของแก๊งเฮียเฟยค่ะ เรื่องของแก๊งเฮียเฟยมีดังต่อไปนี้... Lie ซ้อนรักลวง (เฮียเฟย สไปรท์) บ่มรักผูกใจ (พี่ซัน เฌอปราง) PLEASE โปรดรักกันอีกครั้ง (พี่นิก เจี๋ย) ก็ไม่ได้คิดอะไร (เฮียหิน อาอี้) สายใยในวันวาน (เฮียกานต์ พริกหวาน)

เด็กคุณเจ
"ถ้าคุณเจจีบแม่ซีของพีพีพีพีจะเป็นลูกคุณเจหรือเปล่าครับ" "ต้องดูก่อนว่าแม่ซีจะชอบคุณเจหรือเปล่านะครับ" "ถ้าแม่ซีชอบคุณเจละครับ พีพีจะเรียกคุณเจว่าพ่อไหมครับ" "ไม่ครับ" "ทำไมครับ" "คุณเจคือคุณเจครับ" "ทำไมถึงเป็นคุณเจคือคุณเจครับ" พีพีปล่อยมือซีและกวักมือเรียกให้ผมนั่งลง ผมนั่งตามที่พีพีต้องการ พีพีขยับมาใกล้ ๆ กระซิบข้างหูผมว่า "เพราะพีไม่ต้องการพ่อเหมือนกันครับ พ่อไม่ต้องการพีพีก็ไม่ต้องการพ่อ" "..." ทำไมตัวผมวันนี้ถึงรู้สึกถือสาคำพูดของเด็กคนนี้

Last Love รักสุดท้ายขอเพียงเธอ
ชีวิตที่เกือบจะสิ้นหวังของ "ชาลิสา" กลับถูกเหนี่ยวรั้งเอาไว้ด้วยความรัก เพียงเพราะจดหมายที่เขียนอย่างไม่ตั้งใจฉบับนั้นสร้างความผูกพันให้สองหัวใจกอดเกี่ยวกันไว้ "ธีระเดช" ชายหนุ่มแปลกหน้าที่เข้ามาเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย ต่อให้โลกใบนี้ใจร้ายกับเธอเพียงใด แต่หากมีเขาอยู่เคียงข้าง เธอก็พร้อมจะกุมมือเขาเอาไว้ให้แน่น ทว่าปัญหาที่ถาโถมนั้นหนักหนาสาหัสนัก และเวลาของเธอที่เหลืออยู่ก็ยิ่งน้อยลงไปทุกที ทำให้ชาลิสาไม่กล้าผูกมัดหัวใจเขาเอาไว้ เธอควรเลือกปล่อยมือจากเขา หรือโอบกอดเอาไว้เพียงความทรงจำครั้งสุดท้าย

ซ่อนเงารัก ใต้แรงปรารถนา
นางรักเพียงเขามาหลายปี แต่เขากลับรักเพียงพี่สาวแท้ ๆ ของนางเพียงคนเดียว ในวันที่คิดจะตัดใจ เขากลับพึ่งรู้ตัวว่า หัวใจของเขาปรารถนาแต่เพียงนาง “ฟางเยว่ เจ้าเป็นของข้า… ของข้าเท่านั้น” "กู้ฟางเยว่" บุตรีคนเล็กของเสนาบดีกู้ฮ่วน สตรีที่รักมั่นเพียงแค่ชายคนเดียว เขาเป็นสหายสนิทของพี่สาวแท้ ๆ ของนาง "เฉินตงหยาง" องค์ชาย 9 หรือ "ฉีอ๋อง" แห่งซานโจว ท่านอ๋องเย็นชา สุขุม สันโดษ และรักสงบ แต่กลับชื่นชอบพี่สาวนาง "กู้อันหลิน" บุตรีคนโตของเสนาบดีกู้ นางงดงาม มากไปด้วยความรู้ เป็นที่หมายปองของบุรุษทั้งแคว้น จนกระทั่ง... "ลูกตัดสินใจอภิเษกกับอวี้อ๋องเจ้าค่ะท่านพ่อ" พี่สาวของนาง ตัดสินใจแต่งงานกับ อวี้อ๋อง "ฟ่านเยี่ยนหรง" ซึ่งทูลขอนางกับฮ่องเต้ และนั่นทำให้ ฉีอ๋องอย่าง เฉินตงหยาง รู้สึกราวกับบรรพตถล่มลงมาทับหัวใจของเขา ฟางเยว่รู้ว่า ตัวเองมิอาจสู้พี่สาวของนางได้ ในหัวใจของเขา จึงเลือกที่จะถอยออกมา แต่ทว่า.... ท่านอ๋องกลับพึ่งรู้ใจตัวเองว่า คนที่พระองค์รัก และปรารถนาจะครอบครอง มิใช่พี่สาวของนาง.... “ท่านอ๋อง…” "ข้าขอโทษ ข้าผิดไปแล้ว ข้าทำร้ายเจ้ามาโดยตลอด ข้าขอโทษ" “ท่านกำลังขอโทษข้า เรื่องอันใดกัน” “ทุกเรื่อง ทุกอย่างที่เคยทำ ข้าทำร้ายเจ้า” “ท่านเมาแล้วท่านอ๋อง ข้าต้องรีบกลับไปที่ห้องโถง” “ไม่! อย่าไป ข้าไม่ให้เจ้าไปฟางเยว่” “ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ นี่ท่านกำลังสับสน ได้โปรดเถิดเพคะท่านอ๋อง ปล่อยข้า อย่า…” เขาปล่อยนางไปไม่ได้ หากปล่อยนางไปวันนี้ ก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อใด ที่ฟางเยว่จะยอมพบเขาอีก ตอนนี้เขาต้องการให้นางเข้าใจ แม้ว่าจะช้าเกินไป ก็ไม่อยากเสียนางไป “ท่านอ๋องปล่อยข้า กรี๊ด!” ฝากติดตามเรื่องราวความรัก ของทั้งคู่กันด้วยนะคะ นิยายแนวรัก โรแมนติก มีดราม่าเพียงเล็กน้อย เน้นความสัมพันธ์ของตัวละคร ยังคงเป็นแนวสุขนิยม รักเดียวเช่นเดิมค่ะ *** นิสัยของตัวละคร เป็นเหมือนคนทั่วไป ไม่ได้แสนดี นางเอกจ๋า พระเอกตลอดกาล แต่เป็นไปตามสิ่งแวดล้อมและความคิดในเวลานั้นที่พบเจอ ในนิยายมีฉากบรรยายบทอีโรติกค่อนข้างละเอียด ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ

ภรรยาที่ไร้ตัวตน
'สำหรับเธอเขาคือคนสำคัญ แต่สำหรับเขาเธอเป็นแค่คนไร้ตัวตน'

กับดักรักคุณพ่อสามี
ในคืนหนึ่ง หลังจากมีนาออกจากโรงพยาบาลเธอเองก็เกิดน้ำนมคัด แถมยังมีไข้อ่อน ๆ มันสร้างความเจ็บปวดและทรมานให้เธอเป็นอย่างมาก แผลผ่าคลอดก็ยังไม่หายดี มีนาไม่มีทางเลือกเมื่อเธอต้องเผชิญกับความทรมานอย่างแสนสาหัส น้ำนมที่คั่งค้างทำให้เต้านมอวบใหญ่ของเธอหนักอึ้ง มันเจ็บปวดราวกับจะระเบิดออกมา ไหนจะพิษไข้ที่รุมเร้าจนร่างกายร้อนรุ่มราวกับเปลวไฟ เด็กสาวพยายามประคองร่างอันอ่อนเพลียเดินไปหน้าห้องนอนของพ่อสามี ก่อนจะเคาะประตูห้องนอนเพื่อขอความช่วยเหลือจากเขา ไม่นานนักเมื่ออินทัชได้ยินเสียงเคาะห้องก็ตื่นขึ้นจากการหลับใหล เขารีบเปิดไฟห้องนอนจนสว่าง ก่อนจะรีบเดินออกมาเปิดประตู แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นใบหน้าซีดเผือดและเหงื่อที่ผุดพรายของมีนา ฉับพลันความงัวเงียของเขาก็หายไป “มีนา....หนูเป็นอะไร!!!” อินทัชถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย “หนู... หนูไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่รู้เป็นไรมันร้อนหนาว ๆ แล้วก็ปวดเต้านมไปหมดเลย” มีนาพูดเสียงสั่นเครือ อินทัชรีบประคองร่างเด็กสามเข้ามานั่งในห้อง เขารับรู้ได้ถึงความร้อนรุ่มในร่างกายของเธอ ก่อนจะเห็นน้ำตาคลอเบ้าของเด็กสาว และความทรมานที่ฉายชัดอยู่บนใบหน้า มีนาในชุดในชุดนอนบางเบาที่ไม่มีบราสวมอยู่ด้านใน เผยให้เห็นทรวงอกอวบอิ่มที่เต่งตึงหนักอึ้งและหยาดน้ำนมที่ซึมเป็นดวง ๆ กระจายอยู่เต็มเนื้อผ้า ยอดปทุมถันสีชมพูเรื่อที่ชูชันท้าทายสายตาของพ่อสามี จนเขาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “สงสัยหนูจะน้ำนมคัดแล้วล่ะ ดูสิ!!!! มันซึมออกมาเต็มเลย” เขาเอ่ยเสียงพร่า แต่สายตาก็อดไม่ได้ ที่จะจ้องมองไปยังยอดปทุมถันสีชมพูเรื่อของเด็กสาว “ต้องเอาน้ำนมที่คัดออก หนูถึงจะหายปวด” “มันเจ็บไปหมดเลยค่ะ...” มีนาครางบอกเสียงแผ่วเบาพร้อมแสดงสีหน้าเจ็บปวด อินทัชมองเด็กสาวด้วยความสงสาร ก่อนจะตัดสินใจช่วยเหลือมีนาอย่างไม่ลังเล เขาพอจะรู้วิธีบรรเทาความเจ็บปวดที่เธอกำลังเผชิญอยู่ “ไม่เป็นไรนะมีนา เดี๋ยวฉันจะช่วยหนูเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น ก่อนจะค่อย ๆ ยื่นมือมาปลดประดุมเสื้อของเธอออก หญิงสาวจับมือเขาเอาไว้แน่น ก่อนจะทำหน้าลังเล “ฉันไม่คิดอะไรกับหนูหรอกน่า แค่จะช่วยเฉย ๆ” อินทัชรีบบอก “แถวนี้เราพอจะหาซื้อที่ปั๊มน้ำได้มั้ยคะ” “กลางดึกเช่นนี้จะไปหาที่ปั๊มนมจากไหนกันล่ะ” “อื้มมม....อย่าค่ะพ่อเลี้ยง อร๊ายย!!! เบาๆ ค่ะ อื้มมม”

สามีหัวใจน้ำแข็ง
การสูญเสียเมียและลูกในท้อง ทำให้ชีวิตชรัยภัทร์เปลี่ยนไป เขาจมดิ่งอยู่ในห้วงความทุกข์ ความเสียใจ ไม่พยายามดึงตัวเองออกมา และเก็บความเคียดแค้นตัวต้นเหตุไว้ เพราะเขาทำอะไรนางไม่ได้ จนกระทั่ง...โสภิตาเข้ามาในชีวิต

ข้าไม่เป็นแล้วภรรยาผู้แสนดี
หลิวเยว่ชิง สาวงามของเมืองหลวง บุตรสาวของท่านหมอหลวงหลิว ความงามของนางเป็นที่ประจักษ์ ทั้งเรื่องความสามารถเรื่องการรักษานางก็เก่งไม่แพ้ผู้เป็นบิดา แต่เพราะด้วยที่นางเป็นสตรี นางจึงมิอาจเดินตามรอยเท้าของบิดาได้ ทำได้เพียงรักษาให้กับสตรีที่ต้องการความช่วยเหลือจากนาง นางยังคิดจะเปิดโรงหมอ เพื่อรักษาให้กับสตรีโดยเฉพาะ แต่เพราะคู่หมั้นของนาง กงหลี่เฉียงมิเห็นด้วย นางจึงได้เลิกล้มไปเสีย นางแต่งให้กงหลี่เฉียงท่ามกลางความเสียดายของบุรุษมากมายในเมืองหลวง งานมงคลของนางเป็นที่พูดถึงนานหลายเดือน เพราะสินเดิมที่บิดาจัดเตรียมให้ เรียกได้มามากมายจนไม่ต้องทำสิ่งใดอีกแล้ว นางใช้ชีวิตเป็นฮูหยินของกงหลี่เฉียง ดูแลจวน ทั้งยังดูแลแม่สามีที่เจ็บป่วยอยู่เสมอ จนมีแต่คนเอ่ยชมกงหลี่เฉียงที่ได้ภรรยาเช่นนางไปครอบครอง ในวันแต่งงาน เรื่องที่ไม่อาจไม่พูดถึงไม่ได้คือเรื่องคำสาบานของกงหลี่เฉียง “ข้ากงหลี่เฉียง ขอสาบานต่อฟ้าดิน ว่าชีวิตนี้จะมีเพียง หลิวเยว่ชิงเป็นภรรยาเพียงผู้เดียว” เรื่องนี้ยังสร้างความอิจฉาให้กับเหล่าสตรีในเมืองหลวงอยู่นานหลายเดือน หากบุรุษบ้านใดที่รับอนุเพิ่ม จะถูกเปรียบเทียบกับกงหลี่เฉียงในยามนั้นทันที แต่แล้วความสุขของนางก็อยู่ได้ไม่นาน หลังแต่งงานได้เพียงสองปี กงหลี่เฉียงที่เพิ่งจะได้รับตำแหน่ง รององครักษ์เสื้อแพรมาหมาดๆ ก็พาญาติผู้น้องของเขา ตู้ซิงเยียน เข้าจวนในตำแหน่งฮูหยินรอง เรื่องนี้สร้างข่าวลือไปทั่วเมืองหลวง เพราะไม่คิดว่า กงหลี่เฉียงที่กล้าเอ่ยคำสาบานในวันงานแต่งเช่นนั้น จะกล้ารับสตรีเข้าจวนได้อีก “ท่านทำกับข้าเช่นนี้ได้อย่างไร” หลิวเยว่ชิงดวงตาแดงก่ำ มองกงหลี่เฉียงประคองตู้ซิงเยียนอยู่หน้าเรือนของนาง น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาจากดวงตาคู่งามของนาง บ่าวไพร่ที่รู้จักฮูหยินน้อยว่านางแสนดีเพียงใด ก็อดจะเห็นใจนางไม่ได้ “บุรุษใดเล่าในเมืองหลวงที่ไม่มีสามภรรยา สี่อนุ” กงหลี่เฉียงเอ่ยออกมาอย่างหน้าด้านๆ โดยที่ตัวเขาก็หลงลืมเรื่องคำสาบานในวันแต่งงานไปแล้ว “หึ เช่นนั้นรึ ท่านคงหลงลืมไปแล้วกระมังเรื่องคำสาบาน” “แล้วอย่างไรเล่า ชิงชิง เจ้าแต่งเข้าจวนข้ามาสองปี ท้องเจ้ายังมิได้เรื่อง หากข้ารับเยียนเออร์เข้าจวนจะผิดอันใดเล่า” “อ้อ เพราะเรื่องนี้อย่างนั้นรึ” นางยิ้มเยาะตนเอง เป็นนางที่คิดแทนผู้เป็นสามี ไหนจะเรื่องภายในจวน ที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดล้วนต้องควักมาจากสินเดิมของนาง ไหนจะเรื่องของอาการป่วยของแม่สามีที่แทบจะเรียกหานางทุกหนึ่งชั่วยาม นางและเขาจึงคิดตรงกันเรื่องที่ยังไม่อยากมีบุตร ทุกครั้งที่ร่วมรักกันนางจึงกินยาห้ามครรภ์มาตลอด แต่การที่หวังดีต่อเขาเช่นนี้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าหักหาญน้ำใจของนาง “หากท่านดึงดันจะรับนางเข้าจวน เช่นนั้นก็หย่าขาดจากข้าเสีย” “เพ้ย ไม่หย่า เจ้าอย่าได้ใจแคบนักเลย เยียนเออร์ย่อมเชื่อฟังเจ้าอย่างดี ไม่ดีหรือที่จะมีคนมาช่วยดูแลเรือนเพิ่มอีกคน” “วาจาของท่านช่างน่าขันนัก หากข้าไม่รับน้ำชาของนาง นางรึจะเข้ามาอยู่ในจวนได้” “หึ ต่อให้เจ้าไม่รับน้ำชาของนาง นางก็เข้ามาอยู่ในจวนได้ เพราะเยียนเออร์นางตั้งครรภ์แล้ว” คำพูดของกงหลี่เฉียง เหมือนฟ้าผ่าลงมากลางศีรษะของเยว่ชิง นางเกือบจะล้มไปกองกับพื้น ยังดีที่สาวใช้ของนางเข้ามาประคองนางไว้เสียก่อน เขาให้นางกินยาห้ามครรภ์มาโดยตลอด แต่กลับพาญาติผู้น้องที่ตั้งครรภ์กลับเข้ามาในจวน นางจะทนฟังเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร “อาอิง เจ้าไปเก็บของข้าจะกลับจวนตระกูลหลิว” นางเอ่ยสั่งสาวใช้ที่ติดตามนางมาจากบ้านเดิม “หยุด!!! หากเจ้าจะไปก็กลายเป็นศพออกไปเสีย แต่งเข้าตระกูลกงแล้ว ถึงตายก็ต้องเป็นผีตระกูลกง” กงหลี่เฉียงตวาดออกมาเสียงดัง แต่ที่น่าขันที่สุดเห็นจะเป็นแม่สามีของนาง กลับลุกออกมาจากเรือนของนางได้ ทั้งๆ ที่ในแต่ละวันล้วนแต่นอนป่วยอยู่บนเตียง “ใช่แล้ว อาเฉียงพูดถูก หากเจ้าจะออกไปก็ต้องกลายเป็นวิญญาณเท่านั้น” นางเดินเข้าไปจับมือของซิงเยียนราวกับปลอบใจนางที่ได้รับความไม่ยุติธรรม "หึหึ ท่านแม่ ท่านหายป่วยแล้วรึเจ้าคะ” นางจ้องมองพวกเขาอย่างโกรธแค้น ไม่ว่ายาดีอันใดที่นางเพียรหามารักษา สมุนไพรราคาแพงนางก็ยอมจ่ายเงินซื้อ ก็ไม่อาจทำให้แม่สามีของนางลุกขึ้นมาจากเตียงได้ เห็นทีคงเป็นเพียงละครงิ้วบทหนึ่งเท่านั้น “ข้าเป็นอันใดอย่างงั้นรึ” นางมองเยว่ชิงด้วยใบหน้าที่ใสซื่อ ราวกับว่ากำลังถูกเยว่ชิงใส่ร้าย “ข้าเข้าใจแล้ว เป็นข้าที่โง่เขลามาตลอด ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายในจวนที่มาจากสินเดิมของข้า และเรื่องรักษาท่าน เพื่อให้หลี่เฉียงมีเวลาไปอยู่กับแม่นางตู้ หึหึ ตัวข้าช่างน่าขันนัก” ใบหน้าของสองแม่ลูกเบ้อย่างไม่น่ามอง เมื่อถูกเยว่ชิงเปิดโปงเรื่องที่พวกเขานำสินเดิมของนางมาใช้จ่าย นางหัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ ก่อนจะกระซิบสั่งสาวใช้ที่อยู่ข้างกาย “ฮูหยิน” นางเอ่ยเรียกเสียงสั่น “ไปเอามา” นางเอ่ยเสียงเบา พร้อมกับผลักสาวใช้เบาๆ อาอิงรู้ดีว่าคุณหนูของนางใจกล้าเพียงใด แต่ไม่คิดว่านางจะเลือกหนทางนี้ แต่ก็ยังไปทำตามคำสั่งอยู่ดี ทั้งสามไม่รู้ว่า สองนายบ่าวกระซิบกระซาบอันใดกัน ได้แต่มองอาอิงหมุนตัวกลับเข้าไปในเรือนอย่างสงสัย เมื่อนางกลับมาพร้อมมีดสั้นในมือ ทั้งสามก็มีใบหน้าที่ซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด “เจ้าจะทำอันใด” กงหลี่เฉียงดันตัว">ตู้ซิงเยียนไปไว้ด้านหลัง ยิ่งทำให้เยว่ชิงปวดใจมากกว่าเดิม บุรุษที่นางเลือกเองกับมือ กล้าทำร้ายจิตใจของนางมากถึงเพียงนี้ แต่เรื่องนี้จะโทษใครได้ หากเขาไม่เอาใจใส่นางตลอดหลายปีก่อนที่จะแต่งงาน นางจะเลือกเขาได้อย่างไร ทั้งหน้ากากบุรุษแสนดีที่เขาสวมไว้ ทำให้นางเชื่อหมดใจว่าเขารักนางมากจริงๆ เยว่ชิงเดินเข้าไปหาทั้งสามคนช้าๆ พร้อมทั้งกำมีดในมือแน่น “กง หลี่ เฉียง ท่านฟังคำข้าให้ดี” นางยิ้มเย็นออกมาอย่างน่ากลัว “เจ้า เจ้า อย่าได้คิดบ้าๆ เด็ดขาด” ต่อให้เขาจะได้เป็นรององครักษ์เสื้อแพร แต่ทั้งหมดก็เป็นเพราะบารมีของพ่อภรรยา เรื่องวรยุทธ์ของเขาก็เรียนรู้มาเพียงงูๆ ปลาๆ เท่านั้นจะไปสู้ผู้ใดได้ “ข้า หลิวเยว่ชิง ชาตินี้คิดผิดที่เลือกบุรุษเช่นท่านเป็นสามี หากมีชาติหน้าจริง ขออย่าได้พบเจอท่านอีก หากพบเจอก็ให้นึกรังเกียจราวกับพบเดรัจฉาน ข้าขอให้ท่านมิได้สิ่งใดหรือสมหวังเรื่องใดอีกเลย” เยว่ชิงใช้มีดสั้นในมือของนางปักเข้าที่หัวใจของนางทันที เลือดจำนวนมากพุ่งเข้าไปโดนใบหน้าและลำตัวของคนทั้งสามที่ยื่นตกตะลึงอยู่กับที่ เสียงกรีดร้องของบ่าวในจวนดังกึกก้องไปทั่วจวนตระกูลกง เยว่ชิงล้มทรุดตัวลงช้าๆ ก่อนที่นางจะจบชีวิตลง ได้ยินเสียงร้องเรียกราวกับจะขาดใจของผู้เป็นบิดา ที่รู้เรื่องกงหลี่เฉียงรับสตรีเข้าจวน จึงได้รีบเร่งรุดมาหาบุตรสาว และอีกเสียงที่นางได้ยินไม่ชัดเจน เขากำลังจัดการกับกงหลี่เฉียง นางรับรู้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ทุกอย่างจะจบสิ้นลง

กลับมาครานี้ขอใช้ชีวิตแบบสงบ
ซูเหมยฮวา ใช้อำนาจของบิดาเสนาบดีซูเหลียง ขอพระราชทานสมรสระหว่างแม่ทัพใหญ่เซี่ยซีฮั่น ด้วยความรักที่นางมีคิดว่าแต่งไปแล้วท่านแม่ทัพจะสนใจตัวนางบ้าง แต่นางคิดผิด ท่านแม่ทัพไม่แม้แต่จะเข้าหอ ไม่เคยก้าวเท้าไปที่เรือนของนางเลย เพราะท่านแม่ทัพมีหญิงในดวงใจอยู่แล้วคือ แม่นาง หลันเฟยหย่า สาวงามผู้เพียบพร้อมแห่งเมืองหลวง หลันเฟยหย่ามักจะตั้งโรงทานบ่อยครั้ง จนชาวบ้านทั่วเมืองเรียกขานว่าคุณหนูใหญ่หลันผู้ใจบุญ ซูเหมยฮวา แต่งเข้าจวนท่านแม่ทัพได้เพียงเดือนเดียว เซี่ยซีฮั่นก็แต่งหลันเฟยหย่ามาเป็นฮูหยินรองที่ใช้เกี้ยวแปดคนหามเทียบเท่าซูเหมยฮวา งานแต่งครั้งนี้เป็นการตบหน้าจวนเสนาบดีซูอย่างแรง ซูเหมยฮวา ได้แต่เก็บความเจ็บช้ำเพราะทุกสิ่งที่นางได้รับนางเป็นคนเลือกเอง ในเมื่อไม่เป็นที่โปรดปรานของท่านแม่ทัพบ่าวไพร่ก็ไร้การเหลียวแล มีแค่บ่าวที่มาจากบ้านเดิมสองคน อาหารการกินก็โดนกลั่นแกล้งจากหลันเฟยหย่า ข้าวของที่ฮูหยินเอกสมควรได้ก็ไม่เคยมาถึง ซูเหมยฮวาโดนหลันเฟยหย่าส่งมาอยู่ท้ายจวน หลันเฟยหย่าแจ้งท่านแม่ทัพว่าซูเหมยหย่าอยากอยู่สงบๆ ท่านแม่ทัพไม่เคยสนใจเลยให้ทุกอย่างในจวนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหลันเฟยหย่าทั้งหมด ทุกครั้งที่ซูเหมยฮวาพบหน้าท่านแม่ทัพ หลันเฟยหย่าจะหาเรื่องบ่าวทั้งสองคนของซูเหมยฮวาต้องเจ็บตัวทุกครั้งและไม่ให้ทางห้องครัวส่งข้าวมาให้ บ่าวในจวนไม่มีคนใดกล้าปากมากบอกท่านแม่ทัพเพราะจะโดนโบยแล้วขายออกไป ตั้งแต่แต่งเข้าจวนแม่ทัพ ซูเหมยฮวาได้พบหน้าท่านแม่ทัพแค่เพียงนิ้วมือนับได้ หลังจากแต่งเข้ามาสองปี ชีวิตของซูเหมยฮวามีแต่ความทุกข์นางร้องไห้จนไม่มีน้ำตาให้ไหลอีกแล้ว วันหนึ่งได้ข่าวร้ายของจวนเสนาบดีซูถูกกล่าวหาเข้าร่วมกบฏกับเฉิงอ๋อง โดนโทษประหารทั้งตระกูล ระหว่างที่นางเสียใจ หลันเฟยหย่า มาหาที่เรือน กล่าวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพราะความโง่ของซูเหมยฮวาที่คิดอยากจะแย่งท่านแม่ทัพจากนาง การที่จวนเสนาบดีซูโดนโทษประหารเพราะถูกใส่ร้ายจากเสนาบดีหลัน บิดาของ หลันเฟยหย่า หลังจากจวนเสนาบดีซูถูกประหารได้ สามวัน หลันเฟยหย่าให้มือสังหารมาจัดการกับซูเหมยฮวา จิตสุดท้ายก่อนตายซูเหมยฮวา วิงวอนต่อสวรรค์ขอโอกาสกลับมาอีกครั้งนางจะไม่โง่เลือกเซี่ยซีฮั่นแน่นอน ซูเหมยฮวา "ข้าแต่สวรรค์ ข้าขอโอกาสอีกสักครั้ง ข้าทำผิดต่อตระกูลซูนัก ผิดต่อท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่ทั้งสอง ข้าผิดที่เลือกเซี่ยซีฮั่น ข้าขอโอกาส" "เซี่ยซีฮั่น แม้กระทั่งเกิดเรื่องกับตระกูลข้า ท่านไม่เคยถามความรู้สึกข้าสักคำ จนวันที่ข้าจะตายหน้าท่านข้าก็ไม่ได้พบ ถ้าได้โอกาสกลับมาอีกครั้ง ขออย่าได้พบกันอีกเลย" "หลันเฟยหย่าผู้ใจบุญ ถ้าขอได้โอกาสกลับมา ขอสาบานว่าข้าจะฉีกหน้ากากใจบุญของเจ้าออกมาให้คนทั้งแคว้นฉีได้รู้"

เมื่อข้าหมดรักสามีไร้ใจ
เขาชังน้ำหน้านางหนักหนากระทั่งนางใกล้ตายยังไร้การเหลียวแล บุรุษเช่นเขาน่ะหรือที่นางยอมถวายหัวใจมอบให้ได้แม้แต่ชีวิตตัวเอง ครั้นรอดตายมาได้เว่ยซูเหม่ยยอมจำนนต่อเขาเพราะรู้ดีว่ายิ่งพยายามเท่าใดยิ่งไร้ประโยชน์เท่านั้น แต่ก่อนคอยไล่ตามร้องขอความรักจากเขา ต่อแต่นี้มีเพียงความเฉยชามอบกลับคืน...

เรา(สอง)สามคน
เขา ต้องการ เพียง ร่างกายของเธอ แต่เธอ ต้องการ ความรักจากเขา เขา มีผู้หญิงข้างกาย ที่เหมาะสมและคู่ควร เธอจึงต้องไป จบเรื่องราว ของเรา สองสามคน

ใจข้าสิ้นรักในตัวท่านแล้ว
โอกาสแก้ไขชะตาใช่ว่าทุกคนจะได้พานพบ สำหรับเหอหลันถิง เมื่อนางได้รับมันแล้ว หญิงสาวจะขอรักษาเอาไว้ให้ดี จะไม่ให้เรื่องเลวร้ายในชาติภพก่อน หวนกลับมาทำร้ายนางได้อีก คำโปรย... “ใจข้าสิ้นรักในตัวท่านแล้ว" ถ้อยคำนี้ เหอหลันถิงได้กลั่นมันออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ทุกสิ่งอย่างระหว่างนางกับเขามันจบสิ้นลงแล้ว นับตั้งแต่สามีอันเป็นที่รัก ใช้หมอนปลิดชีพนาง แววตาเย็นชาไร้ความปรานีนั้น นางยังจดจำได้ดี จากนี้ไป... ท่านและข้าจะไม่ข้องเกี่ยวกันอีก

วิวาห์ไร้รัก
คนเรามักจะมีใครสักคนที่สำคัญที่สุดในชีวิต เหมือนที่สามีของเธอ ไม่ได้มีภรรยาคนนี้เป็นคนนั้นที่สำคัญ

คำว่าไม่รักที่ท่านมีต่อข้า ยิ่งจืดจางยิ่งชัดเจน
ความสัมพันธ์ของเราก็เหมือนน้ำหมึกบนผ้าไหม ยิ่งจืดจาง ยิ่งชัดเจน… เห็นทุกสิ่งที่เคยมองข้าม ไม่รักแล้วอย่างไร รักแล้วอย่างไร

“Be With Me…รักนี้มีเพียงเธอ”
“เค้าคิดถึงอัญนะ…” คำพูดนั้นยังคงดังก้องอยู่ในหัวใจของชยานนท์…ชายผู้ครองตัวเป็นโสดเพราะในหัวใจมีเพียงผู้หญิงคนเดียวคือ…อัญมณี ย้อนกลับไปในปี 1998… อัญสาวน้อยผู้เปรี้ยวซ่าแต่เปราะบางด้วยความลับในร่างกายอย่าง “ลูคีเมีย”…เธอกล้าที่จะเปิดใจให้รักครั้งแรกกับชยานนท์…ชายหนุ่มใจดีแต่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ทั้งสองใช้เวลาที่เหลืออยู่ด้วยกันอย่างเต็มหัวใจ บันทึกทุกเสียงหัวเราะ ทุกน้ำตา ทุกความทรงจำไว้ในไดอารี่… ความรักของพวกเขาเป็นทั้งความหวานและความเจ็บปวด เป็นทั้งความสุขและความเศร้า แต่เหนือสิ่งอื่นใด…เป็นความรักที่ เต็มไปด้วยความจริงใจและความอบอุ่น แม้เวลาจะจำกัด แม้ต้องเผชิญความสูญเสีย…พวกเขาก็เลือกที่จะอยู่ด้วยกัน…จนวินาทีสุดท้าย
