


นิยาย


ยั่วรักนักบิด
“เอาตัวมายั่วพี่ด้วยลีลาเด็กอนุบาลแบบนี้ ถามจริงเถอะเคยเสียมันรึยังซิงอะ” “ขอโทษนะครับ คนจะเป็นเมียพี่ได้ ลีลาต้องเด็ด เซ็กส์ต้องจัด เพราะพี่ไม่ถนัดสอนใคร” “พี่ว่าน้องเอาเวลาที่มายั่วยวนพี่ ไปขยันซ้อมดีกว่านะ ครั้งหน้าจะได้ชนะบ้าง” นั่นคือคำที่เขาเคยพูดกับเธอเมื่อ 2 ปีก่อน ยัยเด็กตื่นสนามที่อยากได้ชัยชนะครั้งแรกที่ลงแข่งรุ่นเดียวกันกับเขา แต่มีหรือที่แสบไร้พ่ายอย่างเขาจะยอม คนเดียวที่เขาจะยอมนั่นคือเมีย และที่สำคัญเมียเขาต้องเด็ด แล้วดูยัยเด็กที่มายั่วเขา เพื่อหวังให้เขาเอาเป็นเมียคนนั้นสิ นอกจากหน้าตาที่น่ารักแล้ว ไม่มีอะไรที่เขาถูกใจสักนิด 2 ปีต่อมา “พี่ไม่ชอบสอนงานใคร เพราะงั้นก่อนจะเป็นเมียพี่ ไปฝึกเป็นเมียคนอื่นมาก่อนก็ได้นะถ้าจะแรดขนาดนี้ หรือถ้าอยากมีผัวจนตัวสั่นพี่จะสอนให้ก็ได้ แต่พี่แค่เอานะ ไม่หวังคบ” ใครจะคิดละ ว่าหลังจากที่เขาว่าเธอคืนนั้น เธอจะเอาชนะเขาในการแข่งของสนามต่อมาได้ แถมยังเดินมาถางถางเขาถึงที่ “พี่แสบค่ะ ถ้าพี่อ่อนซ้อมขนาดนี้ อย่าว่าแต่เมียเลยค่ะ แม้แต่หมายังวิ่งชนะพี่เลย” เธอกลับมาทวงแค้นเขาแล้ว ด้วยการเป็นแชมป์นักบิดหญิงระดับประเทศ ส่วนเขาที่ห่างสนามก็ทำท่าว่าจะแพ้เธอทุกครั้งที่ลงแข่ง “ปากแซ่บจังเลยนะครับ แบบนี้ลีลาจะแซ่บเหมือนสกิวปากรึเปล่า” “ขอโทษนะคะพี่แสบ ถ้าพี่ต้องการผู้หญิงลีลาแซ่บ นั่นก็แสดงว่าพี่ไม่มีปัญญาทำเอง และพี่คงไม่เด็ดพอ พี่ถึงโสดมาจนถึงทุกวันนี้” “พี่ชอบจังเลยครับ สกิวปากแบบนี้ แต่พี่ว่าเก็บไว้ด่าพี่ตอนเอากันดีกว่า น่าจะมันส์กว่าเยอะเลย” “ขอโทษนะคะพี่แสบ ถ้าพี่ไม่เด็ด หนูก็เอาไม่ลงเหมือนกัน”


ใต้พันธนาการ
ในวันที่ถูกคนรักหักหลัง รุ่งทิวาได้รับความช่วยเหลือจากเจ้านายหนุ่มหล่อ ขวัญใจของสาวโสดทั้งบริษัท ไม่เพียงได้รับความช่วยเหลือจากเขา เธอยังร้องขอให้เขาทำเรื่องน่าอายให้ตัวเองด้วย นอกจากเจ้านายจะไม่ปฎิเสธแล้ว ตื่นมาเขายังทำเหมือนจะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย แต่เธอเป็นคนผิด ถ้าหากไม่ถูกฤทธิ์ยาที่ผสมในเหล้าคุมสติไว้ เจ้านายที่สูงส่งอย่างเขา คงไม่ต้องมาทำเรื่องแบบนี้กับเธอ รุ่งทิวาขอร้องให้เขาช่วยเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความลับ หวังคงสถานะเจ้านายกับลูกน้องไว้ดังเดิม เพราะเธอไม่อยากถูกคนในบริษัทเอาไปนินทา ว่าใช้เต้าไต่ขึ้นมา จนได้ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของเขา แม้วายุภักษ์จะยอมเออออ แต่ในหัวเขาไม่ได้คิดอย่างนั้น พยายามคิดหาวิธีเพื่อทำให้เธอมาอยู่ใต้พันธนาการของตัวเอง แต่ยิ่งรู้จักเธอนานเข้า กลับเป็นเขา ที่ตกอยู่ใต้พันธนาการนั้นซะเอง


Please ได้โปรด รักฉันซะ!
เพราะแม่ยื่นคำขาดให้หาแฟนแบบเร่งด่วน ไม่งั้นท่านจะจับแต่งงานกับลูกชายเพื่อนสนิทของท่านทันทีที่เรียนจบ ทำให้พริ้งพราว ต้องหาที่พึ่งให้ชีวิตโสดตัวเอง ด้วยการไปขอร้องให้อดีตคนที่เธอเคยหักอกช่วย เพราะเรื่องราวในอดีต ทำให้เธอไม่มั่นใจเลยว่าจะได้รับการช่วยเหลือ แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะช่วยเธอ โดยมีเงื่อนไขบางอย่าง และแล้วการเป็นแฟนที่ไม่ปลอมของเธอกับเขาก็เริ่มต้นขึ้น เธอจะห้ามใจตัวเองได้ไหม ในเมื่อเขาเสน่ห์เหลือร้าย และที่สำคัญกว่านั้น เขาคือคนที่เธอรัก


ฉลามคลั่ง
"จะหนีไปไหนแพร อยากไปหามันขนาดนั้นเลยเหรอวะ"ฉลามลุกขึ้นมาได้รีบจับเท้าของเธอที่กำลังหนีไปอีกฝั่งของเตียงทันที "กรี๊ดดดด หลามอย่านะ อย่าทำแบบนี้" เธอหวีดร้อง พลางสบัดขาออกจากการจับกุมของเขา แต่มีหรือที่จะหลุดจากคมเขี้ยวของฉลามได้ "อยากไปมากใช่ไหมแพร หลามไม่ปล่อยหรอก ไม่มันก็แพรนี่แหละที่ต้องตายกันไปข้าง" เพราะความหึงหวงเข้าครอบงำ ร่างสูงจึงทำกับคนตัวเล็กกว่าด้วยความแรง โดยไม่คิดจะห่วงเลยว่าคนตัวเล็กจะเจ็บหรือไม่ เขาถอดเสื้อของตัวเอง ออกมามัดขาเธอไว้ด้วยกัน แล้วขึ้นคร่อมร่างบางอีกครั้ง ร่างบางของเธอที่ตอนนี้กำลังร้องไห้อย่างบ้าคลั่ง ไม่ต่างจากอารมของเขาเลย เขากดจูบลงไปที่ปากเธออย่างแรง บังคับให้เธอรับสัมผัสของเขาอย่างหยาบโลน ด้วยการขบเม้มและกัดมันแรงๆ เพราะเธอไม่ยอมเขา เลือดไหลซึมออกจากปากเธอนิดๆ ก่อนมันจะหายไป เพราะเขาเลียมันออกด้วยลิ้นของเขา ร่างสูงชะงักนิดนึงที่เห็นน้ำตา และรับรู้กลิ่นเลือดที่เข้าปากไป แต่เพราะหึงหวงคนตรงหน้า จึงไม่อาจลดแรงทั้งหมดลง เพราะกลัวว่าถ้าเขาผ่อนแรงสักนิด ร่างของเธออาจหายไปจากสายตาเขา "แพร จะไปเป็นของคนอื่นไม่ได้" เขาบอกพลางก้มลงไปดูดที่คอ และหน้าอกของเธอที่มีบราเซียหุ้มอยู่ มือข้างนึงก็จับมือเธอที่ถูกมัดไว้อีกทีอย่างกลัวมันหลุด ขาก็ทับขาเล็กๆนั้นไว้ "แพรเกลียดสิ่งที่หลามทำกับแพรวันนี้ที่สุด" เธอบอกแค่นั้น โดยไม่หันมองเขาเลย "แพรเกลียดหลาม เพราะแพรรักคนอื่นรึเปล่า" เขาครางเบาๆอย่างเจ็บปวดชิดหน้าอกของเธอ ก่อนคลุกเข่าข้างๆกายเธอเพื่อหยัดตัวขึ้น ก่อนจะปลดกระดุมกางเกงเนื้อดีของตัวเองลง "หลามจะทำให้แพรเป็นของหลาม จนแพรไม่สามารถไปเป็นของใครได้อีกเลย" เขาบอกแต่ยังไม่ทันได้รูดซิบกางเกงลงด้วยซ้ำ ร่างของเขาก็ถูกเท้าของใครบางคนถีบอย่างแรงจนตกที่นอนไป


คุณพี่ที่(ร้าย)รัก
‘ ผู้หญิงปากร้ายๆอย่างเธอ แอบชอบน้องชายตัวเอง ถือว่าแย่แล้ว ยัง”แอบแซ่บ” กับเพื่อนสนิทของน้องชายอีก โคตรแย่เลยว่าป่ะ! แต่งานนี้ไม่ใช่ความผิดเธอทั้งหมดนะ ก็เด็กมัน “สมยอม” อะ ผิดทั้งคู่! ’ พราวนภา สาวสวยวัย 25 หลงรัก วินณภัทรน้องชายต่างสายเลือดของตัวเองมาแรมปี ทั้งๆที่รู้ว่าเขาไม่เคยคิดเกินเลย ซ้ำยังลากเพื่อนสนิทมานอนค้างด้วยประจำ จนเธอเผลอคิดไปว่าทั้งสองคนนั้นเป็นคู่เกย์ คิริว ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น อายุยังไม่ถึง 21 ปี เพื่อนสนิทของวิน คู่กัดตลอดกาลของเธอเอง เขาหล่อ หุ่นดี มาดนายแบบ แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงคิดว่าเขาแอบชอบน้องชายเธออยู่ ทั้งๆที่เขาก็ดูเป็นผู้ชายแท้ๆ ไม่เคยแสดงออกว่าเป็นแบบที่เธอคิดเลย ในคืนที่พ่อกับแม่เลี้ยงพาน้องชายอีกคนไปคัดตัวทีมชาติ พราวนภาดื่มหนักไปหน่อย จนเมากลับบ้าน โชคดีที่มีคนอุ้มเข้าบ้าน ซ้ำยังแอบจูบเธออีกต่างหาก ด้วยความเมา บวกกับความอยากรู้อยากเห็น ทำให้เธอแอบแซ่บกับเพื่อนสนิทของน้องชาย ตื่นมาหวังว่าจะจำอะไรไม่ได้ ไม่ใช่เลย! รสสัมผัสของเขายังตราตรึง ทุกอย่างที่เขากับเธอทำรวมกันนั้น ส่งผลต่อร่างกาย จนเธอลุกจากเตียงแทบไม่ไหว ตั้งใจจะทำเฉไฉปัดความรับผิดชอบ เด็กมันก็รู้ทัน ขู่สารพัด! “ริวทำอะไรพี่!” “พูดดีๆ นะพราว ใครทำใคร!” “พี่ทำ?” “ก็เออนะสิ แล้วนี่แตกในไปตั้งกี่รอบ พูดมาสิจะเอาไง จะปล่อยให้ท้อง หรือจะไปซื้อยาคุมด้วยกัน!” “ริวทำแบบนี้กับพี่ได้ไง ทำไมไม่ป้องกัน” หมับ! “กูบอกให้นึกดีๆ ไงพราว!” มือหนาคว้าหมับเข้าที่ใบหน้า บังคับให้แหงนเงยขึ้นสบตาดวงตาวาวโรจน์ “เจ็บนะ ไอ้เด็กเปรต!” ความอดทนขาดผึ่ง เมื่อโดนขึ้นเสียงและพ่นคำหยาบใส่ แค่เรียกชื่อห้วนๆ ยังพอทนนะเว้ย แต่นี่ขึ้นกูใส่เลยงั้นเหรอ นี่อายุมากกว่าตั้งสี่ปีเลยนะเว้ย “นึกให้ออกดิ ว่าเมื่อคืนพูดอะไรทำอะไรกับกูบ้าง บอกให้กูรับผิดชอบ แล้วดูตัวเองดิ รับผิดชอบคำพูดตัวเองบ้างไหม แค่นึกให้ออกยังทำไม่ได้เลย!” ดูดิ แบบนี้ใครจะอยากได้เป็นผัว แม่งไม่อ่อนโยนเลย !


ดวงใจคิมหันต์
อยู่ดีๆก็ถูกผู้หญิงที่ตัวเองสนใจ ชวนมีอะไรด้วย เขาไม่ติดปัญหาอะไร ออกจะเข้าทางด้วยซ้ำ แต่พอพามาถึงห้องจริงๆ กับไม่กล้าทำอะไรเธอเลย “ฉันนึกว่าคุณจะนำ ที่แท้ก็ทำไม่เป็น” ยี่หวาสรุปเสียงเบา ไม่ได้ตั้งใจดูถูกแต่คิดแบบนั้นจริงๆ เธอไม่เคยทำแบบนี้ ให้เริ่มเองคงทำไม่ถูก ถึงได้เลือกเขาที่ดูจะช่ำชองกว่า ที่ไหนได้ เขาก็คงไม่ต่างกัน ถึงยังนั่งนิ่งอยู่แบบนี้ “เดี๋ยวนะ!” คิมหันต์รู้สึกเหมือนถูกตบหนาด้วยคำพูดของคนที่ตัวเองสนใจ แค่ทำตัวไม่ถูก ไม่ใช่ว่าทำไม่เป็นซะที่ไหนละ “ต้องทำใจก่อนเหรอคะ” ถามเพราะไม่รู้จริงๆ เธอทำใจแล้ว ทำใจตั้งแต่อยู่ในร้าน ส่วนเขาต้องทำหรือเปล่า อันนี้ไม่รู้จริงๆ “ไม่ต้องก็ได้มั้ง” “อาบน้ำไหมคะ ฉันอาบแล้วนะ ก่อนที่จะมาดื่ม” “อ่า” คิมหันต์อยากจะบ้า นี่เขาต้องมานั่งฟังอะไรแบบนี้ด้วยเหรอ เธอควรจะรู้สิว่าต้องทำอะไร และควรพูดยังไง ทำไมถึงพูดและทำอะไรแบบนี้ จนเขาไปต่อไม่ถูกเลย แล้วนี่เขาต้องเริ่มยังไงวะ “คุณกลัวเหรอ” ยี่หวาถามเสียงเบา เขากลัวเหมือนที่เธอกลัวเหรอ “แยกย้ายกันเถอะ” คิมหันต์สรุปออกมา เขาไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามจริงๆ อาจจะเพราะอะไรหลายๆ อย่าง เธอเป็นดารา เขากลัวว่าเธอจะเสียใจกับเรื่องในคืนนี้ ถึงเขาจะอยากได้เธอ แต่เขาอยากได้ตัวพร้อมหัวใจต่างหาก


ของรักซาตาน
เมื่อสองปีก่อน เธอได้รับความช่วยเหลือจากหลงลี ผู้ชายที่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย รู้เพียงแค่ว่าเขาทำงานในคาสิโนที่สิงคโปร์ และดำรงความสัมพันธ์สึกซึ้งกับเขามาตลอดจนถึงตอนนี้ เธอหวังว่าสักวันตัวเองจะสามารถพัฒนาความสัมพันธ์จากของเล่นเป็นของรักได้ แต่เขาไม่มีความหวังอะไรให้เธอเลย เมื่อเขาเดินทางกลับสิงคโปร์อย่างกะทันหัน พร้อมข่าวที่ว่าเขามีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว เธอพยายามไถ่ถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอ เขากลับบ่ายเบี่ยงแถมยังพูดเหมือนไม่แคร์ รู้ว่าเมา แต่เธอจะไม่ยอมทนเป็นของเล่นเขาอีกแล้ว เธอขอจบความสัมพันธ์ที่มีมายาวนานถึงสองปีลง คืนทุกอย่างให้เขาทั้งหมด ยกเว้นหัวใจของเธอที่สลักชื่อเขาชัดเจน เธอไม่สามารถคืนมันให้เขาได้ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยความยากลำบาก ก่อนจะถูกผู้หญิงปริศนาว่าจ้างให้ไปทำงานด้วย ชีวิตช่างตลกร้าย เมื่องานที่เธอต้องทำ คือการดูแลไอ้ขี้เมาที่ชื่อลี ผู้ชายที่ทุกคนส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เพราะเมาอาละวาดเหมือนหมาบ้า ในวันแรกที่เธอรู้ว่าต้องดูแลเขา กลับได้รู้ความลับที่เขาเก็บซ่อนมาตลอด เธอไม่ใช่ของเล่นด้วยซ้ำ เป็นเพียงเงาของผู้หญิงคนอื่นในสายตาเขา มันแย่กว่าของเล่นที่ไร้สถานะซะอีก "รู้ไหมว่าสิ่งที่ลีทำกับโรส โรสเจ็บแค่ไหน” “ก็เห็นคราง นึกว่าชอบ” “ไอ้บ้า! ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น หมายถึงความรู้สึกอะ” ใบหน้าสวยแดงก่ำ มองคนที่ฉลาดเป็นกรดก่อนจะพ่นลมหายใจแรงๆ ไอ้นี่มันฉลาดจริงหรือเปล่าวะ “งี่เง่า!” “ลี!”


เมียเสี่ย
เพราะอายุต่างกันหลายปี จึงถูกคนภายนอกมองว่าเป็นเด็กเสี่ย ส่วนคนที่ได้ชื่อว่าสามี ก็ทำตัวเป็นเสี่ยจริงๆ ซ้ำยังจะทิ้งเธอไปหาเด็กใหม่อีกด้วย ไหนๆก็จะถูกหย่าแล้ว ขอกอบโกยหน่อยแล้วกันนะเสี่ย “ไม่อยากหย่า?” “ก็ใช่นะสิ!” อารยาตะโกนใส่หน้าหล่อเหลา ถามเหมือนคนเข้าใจอะไรยากอยู่ได้ ทำไมไม่เข้าใจตั้งแต่ตอนเช้าที่คุยกัน เธอไม่เคยทำท่าทีว่าจะทำตามที่เขาขอเลยสักนิด “ทำไม? เธอน่าจะอยากอยู่กับคนที่เธอรักไม่ใช่เหรอ” อัครราชปล่อยให้ความหวั่นไหวเข้าเล่นงาน ที่เขาอยากหย่ากับเธอไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่น เขาแค่ต้องการปล่อยเธอไปมีความสุขกับคนที่เธอรัก “ก็ยังไม่รู้ตัวอีก” ใบหน้าสวยงอง่ำ มือเล็กยกขึ้นตีมือหนาที่เชยคางตัวเองแรงๆ ถึงเธอไม่พูด เธอก็ไม่เคยแสดงออกว่ารังเกียจเขาเลย แม้จะไม่เคยทำหน้าที่บนเตียง แต่หน้าที่ภรรยาอย่างอื่น เธอก็ทำไม่ขาดตกบกพร่อง ดูแลเขาที่เป็นสามีมาตลอดหนึ่งปี ด้วยความรู้สึกที่เธอเพิ่งรู้ ว่ามันเรียกว่ารัก “ฉันไม่ได้ฉลาดทุกเรื่องนะ เรื่องบางเรื่องฉันก็แอบโง่” อัครราชมองใบหน้างอง่ำของภรรยาด้วยความรู้สึกเอ็นดู จับเส้นผมสีน้ำตาลทัดไว้หลังใบหู เมื่อมันบดบังทัศนียภาพอันสวยงามบนใบหน้าเธอ อารยาเป็นคนสวย ดวงตากลมโตสีน้ำตาลมีแววซุกซนต่างจากบุคคลิกนิ่งเงียบของเธอ จมูกเล็กๆ เชิ่ดรั้นยิ่งย้ำให้รู้สึกว่าเธอเป็นพวกดื้อเงียบ ร่างกายเล็กกว่าเขามาก นั่นยิ่งทำให้เขาอยากทะนุถนอม ทุกอย่างบนตัวเธอ ทำให้เขารู้สึกหวงแหนมากกว่าอยากทำลาย เขารักเธอ ไม่ใช่ในตอนที่ไปสู่ขอเธอแต่งงาน แต่มันเป็นก่อนหน้านั้นตั้งแต่พบเจอครั้งแรก “เสี่ยไม่ได้แอบโง่หรอกค่ะ โง่แบบโจ้งแจ้งเลย ไอซ์ไม่หย่าค่ะ เหตุผลเดียวของไอซ์คือเสี่ย” มือเล็กผลักสามีออกห่าง ใบหน้าสวยแดงก่ำเพราะพูดความรู้สึกตัวเองออกไปให้เขารับรู้ “แล้วจะทำยังไง ฉันทำผู้หญิงคนนั้นท้อง” อัครราชพูดอย่างจนปัญญา เขาอยากรับผิดชอบลูกที่เกิดมา แต่ถ้าไม่รับผู้หญิงคนนั้นเป็นภรรยา เขาจะไม่ได้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูก ไม่อยากฟ้องร้องกันไปมา แม้จะอยากจบปัญหาง่ายๆ ด้วยการจ่ายเงินชดเชยให้เธอคนนั้น เธอก็ไม่ยอมรับเงิน ได้แต่ยื่นคำขาดว่าต้องรับผิดชอบทั้งสองคนเท่านั้น เธอถึงจะยอม “ส่ำส่อน” อารยาพึมพำเบาๆ แต่สามีคงได้ยิน เพราะเขาดึงเธอมากอดไว้ พร้อมกระซิบเบาๆ ให้เธออาย “ก็เธอไม่ยอมนอนด้วย ฉันเป็นผู้ชาย” อัครราชขบเม้มใบหูเล็กเบาๆ โกรธนิดๆ ที่เธอหาว่าเขาส่ำส่อน แม้มันจะเป็นความจริงทั้งหมดแต่เขาไม่ได้ตั้งใจ เขาพูดไม่ออกบอกไม่ถูกว่า ว่าตัวเองโง่ถูกผู้หญิงพวกนั้นมอมเหล้า เพราะให้เกียตริผู้หญิงมาตลอด เขาจึงปล่อยเลยตามเลย รับดูแลเธอพวกนั้น ทั้งๆ ที่รู้ว่าโดนหลอก


เมียหรือหมา
ผมไม่น่าพลาดไปมีเรื่องกับจากัวร์เลย เพราะตั้งแต่วันที่มีเรื่องกัน ไอ้หมอนั่นก็ตามรังควญชีวิตผมยิ่งกว่าวิญญานตามติดเลยนะสิ จากัวร์เดือนวิศวะ ขาโหด ที่ชีวิตอยู่ในโหมดพร้อมรบตลอดเวลา เพลินเพลง แฝดน้องของเพลิงพิณเดือนบริหาร ที่ใช้ชีวิตเป็นเหมือนเงาของพี่ฝาแฝดเพราะไม่อยากมีเรื่อง แต่ใครจะรู้ละว่าไอ้จากัวร์ขาโหดจะเข้ามาวุ่นวายชีวิตที่สุขสงบของเพลินเพลง "มึงได้กูแล้วนะ" ร่างสูงตะคอกเสียงดังอย่างโกรธจัด " แต่มึงบังคับกู" ร่างที่สูงน้อยกว่าตะคอกออกไป "แต่กูเป็นเมียมึงแล้วนะ มึงจะทำแบบนี้กับกูไม่ได้" ร่างสูงของจากัวร์ทำหูลู่หางตกทันที "กูไม่ใช่ผัวมึงงงง"เพลงตะโกนเสียงดังใส่จากัวร์ทันทีที่เขาพูดจบ


เมียสมิง
คุณอยากแต่งงานกับฉันมันก็ได้อยู่ แต่ฉันไม่ยอมให้คุณใช้ชีวิตเสือแบบเดิมอีกต่อไปแล้ว ในเมื่อมีฉันเป็นเมีย ก็เลิกคิดที่จะเป็นเสือได้เลย เสือร้ายอย่างเขา เอาความดีไปหลอกพ่อกับแม่ ให้ท่านยกเธอให้เขา แต่เธอไม่ยอมแต่งแบบง่ายๆหรอกนะ เพราะเขาไม่ได้ดีอย่างที่พ่อกับแม่บอกยังไงล่ะ เขามันเสือสมชื่อ ทั้งยังเป็นเสือสมิงที่เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวอีกต่างหาก ..... “พูดมาสิ มาหาฉันถึงนี่ต้องการอะไร มาเร่งหรือมาเลื่อน” มือใหญ่ไล้ไปทั่วร่างกายขาวนวล เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วจึงได้หยุดมือลง และตวัดผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมร่างเธอไว้อย่างรวดเร็ว มองนิ่งๆ อย่างรอคำตอบ “ก็บอกว่ามาคุย ไม่ได้เร่งหรือเลื่อนทั้งนั้น” มายาลุกนั่งอย่างไม่เข้าใจ เมื่อกี้เขาทำท่าทาง ราวกับว่าจะเขมือบเธอลงท้อง แต่กลับปล่อยให้เธอรอด และใช้เพียงแค่มือสำรวจรูปร่างเธอเท่านั้น มันแปลกนิดๆ แต่มันก็ดีสำหรับเธอ เพราะเธอยังไม่อยากออกแรงในตอนนี้ เขาน่าจะฉลาดพอที่จะคุยกับเธอรู้เรื่อง “แสดงว่าจะแต่งจริงๆ” ร่างสูงกำยำเดินทิ้งห่างออกไป หยิบเหล้าในตู้เก็บออกมาเทใส่แก้ว แล้วกระดกรวดเดียวหมด “ก็แต่งไง แต่คุณไม่เห็นเหมือนที่แม่ฉันอวดสรรพคุณเลยสักนิด ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวกลางคืน แต่ฉันว่าคุณมันศูนย์รวมความชั่วชัดๆ” มายาเบะปากใส่คำพูดของคนเป็นแม่ มองคนที่ยกขวดเหล้าขึ้นดื่มเหมือนดื่มน้ำแล้วอดค่อนขอดไม่ได้ “ถ้าอยากได้ผู้ชายแบบนั้น ต้องไปบวชชีแล้วมีสามีเป็นพระแล้วล่ะมายา ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้จะมาเพราะเรื่องนี้” ร่างสูงหยิบขวดเหล้าไปด้วย เดินเลยออกไปนอกระเบียงร้าน แล้วเปิดประตูไว้กว้างๆ เพื่อฟังเธอพูด “คุณกลับมานั่งคุยกันดีๆ ได้ไหมคุณสมิง” มายาอยากจะลุกไปลากคอเขามาคุย แต่ตอนนี้ข้างล่างเธอมันยังไม่มีอะไรปกปิดไปมากกว่ากางเกงในสีหวานนั่นเลย จึงได้แต่ตะโกนคุยกับคนที่อยู่นอกระเบียง “ถ้าฉันกลับเข้าไปเธอจะไม่ปลอดภัยมายา พูดมาสักทีว่าต้องการอะไร” น้ำเสียงราบเรียบตะโกนตอบคนที่อยู่ในห้อง ยกขวดเหล้าที่ติดมือมาด้วยขึ้นดื่มช้าๆ อย่างเฝ้ารอสิ่งที่เธอต้องการ “แต่งแล้วห้ามหย่า ต่อให้เข้ากันไม่ได้ก็จะไม่มีการหย่าเด็ดขาด ฉันไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่ผิดพลาดเพราะชีวิตแต่งงาน ถ้าคุณให้สัญญามาได้ อาทิตย์หน้าเราจะแต่งงานกัน” มายาพูดเสียงเบาลง เพราะคนที่อยู่ข้างนอกนั่น ขยับมายืนพิงประตูระเบียง ตั้งแต่เธอบอกว่าห้ามหย่าแล้ว เธอไม่อยากเปลี่ยนคนใหม่อีกแล้ว คงไม่มีใครเลวร้ายเท่าคุณสมิงอีกแล้วแหละ ถ้าเธอทนตานี่ได้ คนทั้งโลกก็เป็นคนดีแล้วสำหรับเธอ แต่เธอไม่อยากตัดสินว่าเขาเป็นคนไม่ดีเพราะคำพูดของคนเป็นแม่หรอกนะ เธอจะลองใช้ชีวิตแต่งงาน มาค้นหาข้อดีของผู้ชายอย่างเขาดูละกัน เผื่อว่าเขามันจะมีดีบ้างอะนะ


Secret รัก(ลับ)
ชาเบล ลูกครึ่งไทย-เบลเยียม นิสัยภายนอกขี้เล่น อารมณ์ดี แต่มีบางมุมที่แอบนิ่ง และจริงจัง ควีน คณิตา บางแบบหน้าใหม่ ลูกครึ่งไทย-ฟินแลนด์ ที่กำลังมาแรงสุดๆ นิสัยเย็นชา ปิดกั้นตัวเอง ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ เพราะดื่มหนักไปหน่อย จึงเผลอลากผู้ชายเข้าห้องด้วย และมันไม่จบเพียงแค่ลากเข้าห้องเฉยๆ นี่สิ เธอกับเขารบกันอย่างดุเดือด แต่ทันทีที่ตื่นมาเจอหน้าผู้ชาย เธอก็อยากจะลืมทุกอย่างให้หมดสิ้น แล้วปล่อยให้ทุกอย่างเป็นแค่ความผิดพลาด ทั้งที่เรื่องเมื่อคืน เป็นครั้งแรกของเธอ เท้าเล็กๆ ถีบคนที่นอนอยู่บนเตียงแรงๆ ร่างเปลือยเปล่าสวยงามตามแบบฉบับผู้ชายรักสุขภาพ กลิ้งตกลงไปข้างเตียง แต่เขาไม่ยักกะจะตื่นแฮะ แสดงว่าเขาน่าจะเมาเหมือนกัน ร่างเล็กห่อตัวกับผ้าห่ม เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบกาย หยิบผ้าปูที่นอนใหม่มาเปลี่ยนให้เรียบร้อย ทำทุกอย่างเหมือนว่าเมื่อคืน ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ร่างสวยของนางแบบสาวเดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยสภาพเรียบร้อย ชุดเสื้อยืดกางเกงขายาว ไม่ได้ทำให้เธอดูดีน้อยลงเลย อะไรที่อยู่บนตัวเธอ มันยิ่งขับให้เธอดูสวยสะดุดตา ก็แหงละ เธอเป็นนางแบบหน้าใหม่ของเมืองไทย ที่เพิ่งจะดัง ถึงจะเพิ่งมีผลงาน แต่ทุกงานของเธอล้วนแต่ดังเปรี้ยงปร้าง เป็นพลุแตก ด้วยหุ่นที่สูงเพรียว ใบหน้าลูกครึ่งสวยหวาน กับตาสีฟ้าอ่อน ผมสีเทาเกือบขาวก็โดดเด่นสะดุดตา ทุกอย่างบนตัวเธอจึงดูสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ แต่ก็ยังมีส่วนที่เธอยังไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก นั่นคือหน้าอก ถึงปกตินางแบบจะไม่ค่อยเน้นเรื่องขนาดหน้าอกเท่าไหร่นัก แต่เธอไม่ชอบใจหน้าอกตัวเองเลย มันเล็กจนรู้สึกเหมือนไม่มี ครั้นจะไปเสริมให้มันใหญ่ เธอก็ไม่อยากจะทำเพราะความกลัว หรือเธอจะไปทำบ้าง มันจะดีไหมนะ คณิตา หรือควีน มองร่างตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่อีกครั้ง หลังออกมาจากห้องน้ำ เธอจะทำแบบนี้ทุกครั้ง เพราะเธอค่อยข้างที่จะอ่อนไหวเรื่องรูปร่าง เหมือนมันเป็นปมติดตัวไปซะแล้ว ส่วนไหนที่เธอไม่มั่นใจ เธอจะเข้าฟิตเนตจนกว่าส่วนนั้นจะถูกใจเธอ เพราะแบบนั้น เธอจึงมีหุ่นที่สวย และยอมรับว่ามันสวยด้วยน้ำแรงตัวเองทั้งนั้น คณิตา เดินมาหยุดปลายเตียง ดีที่ก่อนจะไปอาบน้ำ เธอหาผ้าห่มมาปิดร่างอันแสนอุจาตตาไว้ ไม่งั้นตาสีฟ้าสวยของเธอได้เจอภาพอันไม่น่ามอง ของผู้ชายที่กองอยู่ข้างเตียง เพราะผ่าเท้าเธอแน่ๆ “ตื่น!” คณิตาใช้เท้าถีบไปบริเวณที่คิดว่าน่าจะเป็นร่างสูงใต้ผ้าห่ม ถีบซ้ำแรงๆ อีกสองสามที ร่างสูงที่กองอยู่ก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่นสักนิด ตายแล้วหรือเปล่าว่ะ “ตื่นเลย ชาเบล” เสียงหวานก้มลงไปตะโกนข้างหู ผู้ชายหน้าหล่อที่เธอรู้จักดี “ไอ้เบล ตื่นสิวะ” เท้าเล็กๆ ยกขึ้นอีกครั้ง คราวนี้เปลี่ยนจุดหมายใหม่ ตั้งใจจะถีบท้องให้มันจุก ข้อหาแอบพรากทุกสิ่งของเธอไปตอนเมา “อ่า เหนื่อยแล้ว ค่อยต่อสิ” เสียงนุ่มทุ่มจากร่างสูงพึมพำเบาๆ ร่างบางที่กำลังยกเท้าขึ้นเตรียมถีบ ถึงกับชะงัก อะไร!! ต่ออะไรอีก ไม่ได้ปลุกมาต่อ เว้ย!! ตื่นมาคุยกันเดี๋ยวนี้ “ชาเบล ตื่น ถ้าไม่ตื่นควีนจะถีบลูกรักแกให้เป็นหมัน ใช้งานไม่ได้ตลอดชีวิต” คณิตาไม่ได้เบาเสียงลงเลย ก้มลงไปตะโกนข้างหูเขาดังๆ ตั้งใจเอาให้คนที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง หูดับไปทั้งสองข้าง “แม่ง รำคาญ!” น้ำเสียงติดรำคาญอย่างที่พูด ส่งผ่านริมฝีปากสีแดงสดของร่างสูงออกมา คนที่ก้มหน้าอยู่ใกล้ๆ จึงเอื้อมมือไปตีปากนั้นแรงๆ “โอ้ย!” ร่างสูงที่ถูกตีปากอย่างแรง ผุดลุกขึ้นนั่งด้วยความเร็ว หันมองคนที่หยัดตัวยืนตรง ด้วยความโกรธ “ตื่นแล้วสินะ งั้นมาคุยกัน ไม่ต้องใส่ คุยสภาพนั้นแหละ” ร่างสูงแบบบางเดินไปนั่งปลายเตียง ดุคนตัวสูงที่พยายามมองหาเสื้อผ้ามาใส่ เมื่อมองตัวเองแล้วเจอสภาพเปลือยเปล่า “ไม่อายเหรอควีน หรือตั้งใจอยากจะเห็นอะไรแบบนี้” ใบหน้าหล่อเหลามีแววขี้เล่น เอ่ยอย่างอารมณดีให้คนสวยที่นั่งหน้านิ่งตามปกติ นี่คือร่างจริงของเขาเวลาปกติ “เล็กแค่นั้น ดูไปก็ไม่ได้ทำให้มีอารมณ์หรอก” ใบหน้านิ่งเฉยพร้อมคำพูดเฉยชา ทำคนที่นั่งอยู่ที่พื้นเบ้หน้า อะไรที่ยัยนั่นว่าเล็ก มันแค่นอนหรอก ถ้ามันตื่นมันโตกว่านี้หลายเท่า “ดูตอนมันตื่นไหม ตอนนี้มันกำลังจะตื่นแล้วด้วย” พลั่กกกกก!! หมอนใบโตฟาดเข้าเต็มหน้าร่างสูง คนที่กระทำ มองทุกอย่างด้วยความเฉยชา ต่างจากคนที่ถูกกระทำ สีหน้าของเขายังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แค่นี้ไม่เจ็บหรอก หมอนไม่นุ่มเท่าตัวเธอด้วยซ้ำ “อย่าบอกเรื่องนี้กับใคร ปล่อยให้มันเป็นแค่ความผิดพลาด เรื่องเมื่อคืนจะไม่มีอะไรให้ไปต่อทั้งนั้น” ............ ตัวละครในเรื่อง เป็นเพื่อนของพระเอกจากเรื่อง Try Love ลอง(แล้วจะ)รัก แต่ไม่ค่อยมีบทบาทในเนื้อเรื่องสักเท่าไหร่ และเรื่องนี้ก็ไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับเรื่อง Try love เพราะฉะนั้น อ่านแล้วไม่งง แน่นอนค่ะ


Try Love ลอง(แล้วจะ)รัก
เขา เคยบอกเลิกเธอ เพราะเบื่อ เธอ ยอมเลิกกับเขา เพราะเงินพนัน แต่พอได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เขากลับขอร้องให้เธอช่วยคบกับเขา แล้วเธอควรจะทำยังไง ปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเสือร้ายแบบเขาอีกครั้ง หรือจะทำทุกอย่าง เพื่อพิสูจน์ความรู้สึกในอดีต ที่มันค้างคา “อ๊าย คชาแดกควายไปรึไง ทำไมหนักจังวะ” วาริชถึงกับต้องบ่นอุบอิบ เมื่อคนที่เธอแบกตอนนี้หนักกว่ามาดามเยอะเลย ดูเหมือนร่างที่เล็กกว่าของเธอจะรับน้ำหนักไม่ไหว เธอจึงพาร่างคนเมาชนนั่นชนนี่ ตลอดทางที่เดินไปขึ้นรถ ใบหน้าคมเผลยรอยยิ้มนิดๆ ให้คนที่ก้มหน้าก้มตาแบกเขา ใบหน้าเธอดูจริงจังจนเขาแอบขำ เธอจริงจังกับทุกอย่างแบบนี้เหรอ ดูไม่ออกเลยรึไง ว่าแกล้งเมา หลอกง่ายกว่าที่คิดอีกนะเนี้ย “โอ้ย!! เดินดีๆ ดิ วาหนัก ฮือ เดี๋ยวทิ้งไว้นี่ซะเลย” อีวาอยากร้องไห้ ทำไมแบกอิม๊าไม่หนักแบบนี้วะ แล้วมือที่พาดไหล่อยู่นี่ จะเลื่อนลงไปจับบั้นท้ายวาทำไม มันจักจี๋นะเว้ย “ยืนนิ่งๆ หากุญแจก่อน” จำได้ว่าคชาเก็บกุญแจใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงสักข้าง เธอจึงจับเขาให้พิงกับรถ ก่อนจะลงมือคลำไปตามกระเป๋าเกงเกงทั้งสองข้าง “อืม~” “จะครางทำไมวะคชา” “แล้ววาจับตรงไหนอยู่ละ” สายตาคมก้มมองลงไปตามแขนเรียวสวยของวาริช ก่อนจะมองมือที่กำลังลูบคลำบริเวณต้นขาของเขา อีกนิดเดียวยัยวาก็จะจับน้องชายเขาแล้วนะ ไม่ครางก็แปลกละ ใกล้จุดเสียวขนาดนี้ “อ๊ะ ก็วาจะหากุญแจไง” วาริชตอบเสียงเบา ใบหน้าสวยเห่อร้อนด้วยความเขินอาย เธอหากุญแจจริงๆ แต่มันเฉียดเป้ากางเกงของเขาไปมาจนน่าหวาดเสียว “ไปหาต่อที่ห้องดีกว่า” คชากุมมือเรียวที่ยังขยับไม่หยุดอยู่ตรงกระเป๋ากางเกงของเขา อันนั้นเอาไว้ค่อยหาทีหลัง ตอนนี้กุญแจอยู่ในมือเขาแล้ว “เดี๋ยวสิ เดี๋ยว!!” วาริชเป็นงง อยู่ดีๆ เขาก็จับมือเธอมานั่งลงที่เบาะข้างคนขับ ก่อนที่ร่างสูงจะเดินวนไปนั่งประจำที่คนขับ แล้วออกรถไปด้วยความรวดเร็ว จนวาริชไม่ทันตั้งตัว ...........................-------................ “ปล่อยเลย เหนื่อยแล้ว” “ได้กันแล้ว ไม่เลิกแล้วนะวา” ใบหน้าคมวางคางไว้กับไหล่บอบบาง ทั้งยังกดริมฝีปากลงที่แก้มของเธอแรงๆ อยากจะหวงเธอไว้ข้างกาย ไม่อยากปล่อยไปไหนอีกแล้ว “ไม่ วาไม่เอา” วาริชรู้จักคชาดี จะให้ฝากความหวังไว้กับคนที่พร้อมจะมีใหม่ทุกเมื่อได้ไง แค่ได้กันเฉยๆ วาไม่อยากได้ความรับผิดชอบ “พูดดีๆ นะวา ก็ได้กันแล้ว อะไรคือไม่เอา” ร่างสูงถอดถอนตัวตนที่มันเริ่มสงบลงออก พลิกร่างเล็กๆ ที่พยายามขยับหนี ให้หันมามองหน้าเขาตรงๆ “วาไม่ต้องการความรับผิดชอบ วาเต็มใจ คชาไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ ได้กันแล้วก็ต่างคนต่างอยู่ ครบสามเดือนก็ต่างคนต่างไป” แม่ง!! ต่อยหน้าวาริชตอนนี้ได้ไหม ใบหน้าเชิ่ดๆ กับคำพูดที่ออกจากปาก มันน่ากดลงกับเตียงอีกสักรอบ ต่างคนต่างอยู่บ้าอะไร ได้กันขนาดนี้แล้ว .................


ไหนว่าไม่รักกัน
อมิตา เลิศพิทักษ์สินธุ์ หญิงสาวที่พร้อมไปด้วย รูป ทรัพย์ สมบัติ เพราะมีพ่อเป็นถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และแม่เป็นเจ้าของบริษัทนำเข้ากระเป๋าแบรนด์ดัง เธอเป็นผู้หญิงที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่เคยมีสักครั้งที่เธอจะปล่อยให้สิ่งที่ต้องการหลุดมือไป ยกเว้นหัวใจของเขา ที่ไม่ว่าเธอจะพยายามเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถเป็นเจ้าของหัวใจดวงนั้นได้ ภิภพ พรดำรงค์ อดีตเลขาคนเก่งของศิวะ ที่ตอนนี้เข้ารับตำแหน่งเป็นประธานบริษัทเต็มตัว แทนศิวะที่ผันตัวไปช่วยธุรกิจของที่บ้าน ผู้ชายที่เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้หัวใจของเขามาตลอดสองปี จนเมื่อสี่เดือนก่อน ความพยายามของเธอก็สิ้นสุดลง เมื่อเขาพบคนที่หัวใจเขาต้องการ


หลงใหล ได้รัก
ไม่เคยคาดคิดว่าชีวิตจะสิ้นไร้หนทาง จนต้องขายตัว แต่เพราะเธอต้องการใช้เงิน จึงแอบแต่งตัวจัดเต็มไปขายตัวให้เขา ผู้ชายที่เธอเองก็รู้จักเป็นอย่างดี ในวันที่เงินจากเขาก็ไม่สามารถแก้ปัญหาให้เธอได้ จึงเลือกจบชีวิตลงเพราะความสิ้นหวัง แต่ไม่คิดว่าเขาจะช่วยเธอไว้อีกครั้ง ทั้งยังเสนอให้เธอไปอยู่ข้างเคียงในฐานะผู้หญิงของเขาอีก แล้วเธอจะข่มความรู้สึกที่มีไว้ยังไง ในเมื่อเขาขยันอ่อยเธออยู่ตลอด ทั้งที่เป็นคนอารมณ์ร้าย แต่กลับใจดีที่สุด แม้จะดุดัน แต่อ่อนโยนกับเธอเสมอ “ฉันโสด เผื่อเธออยากรู้” ศิวะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก้าวเท้าออกเดินมาหยุดลงตรงหน้าผู้หญิง ที่ไม่เข้าใจสถานะตัวเอง ต้องให้เขาย้ำทุกวันรึไง ว่าเธอคือผู้หญิงของเขา “คะ?” “แล้วฉันคิดว่าฉันมีสิทธิในตัวเธอทุกอย่างนะหนึ่ง ไม่ว่าจะในฐานะเจ้านาย หรือสามี” มือหนาช้อนใบหน้าเล็กขึ้นเบาๆให้เธอมองสบตา เห็นหน้าแดงๆนี่แล้วรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมานิดๆ “คะ?” หนึ่งนภางงกับคำพูดของเขามาก เธอกับเขาไม่ได้แต่งงานกัน แล้วเขามาเป็นสามีเธอตอนไหน “อ้อ! เอากันแค่ครั้งเดียว ไม่ได้เรียกแบบนั้นสินะ” ศิวะพูดด้วยรอยยิ้ม “ต้องเอากันบ่อยกว่านี้เหรอ?” “หรือต้องแต่งงาน” .................. จากเด็กสาวที่ถูกเขาช่วยไว้ กลายมาเป็นผู้หญิงของเขาเพียงชั่วข้ามวัน เธอจะหนีไปไหนรอด เมื่อเขาหยอดเก่งขนาดนี้ แม้จะรู้ดีว่าผู้หญิงของเขา หมายถึงอะไร แต่เธอเป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดา ที่ไม่มีค่าพอที่จะยืนข้างเขา จึงได้แต่เก็บความรู้สึกตัวเองไว้เงียบ เพื่อรอวันที่เขา จะพบเจอผู้หญิงที่คู่ควร


ยั่ว
แค่เมาแล้วพลาดท่า ไม่ได้หมายความว่าง่ายซะหน่อย เพราะสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนตอนเมา ที่ทำให้เธอตกเป็นของเขาแบบไม่รู้ตัว ~เพราะเมาเธอเลยยั่วเขาแบบไม่รู้ตัวเลยสักนิด~ แต่ใครจะคิดละ ว่าเขาจะเป็นเจ้านายหมาดๆ ในวันรุ่งขึ้น หลังจากสอนบทรักร้อนแรงให้เธอ แล้วเธอจะทำยังไง ในเมื่อเขามีคู่หมั้นแล้วด้วย เธอจะยั่วให้เขาเป็นของเธอ หรือหอบหัวใจหนีไปแบบคนแพ้ดี “ไม่เอากับคนเมา” นั่นคือสิ่งที่เขาทำมาโดยตลอด แต่ทุกสิ่งก็ต้องพังลง เมื่อเจอคนเมาขี้ยั่วแบบเธอ “ยั่วไม่เป็น” นี่คือร่างปกติของเธอ ที่เขาเห็นอีกครั้งในห้องทำงานของตัวเอง แต่มันไม่จริงสักนิด เธอนะยั่วเขาเก่งจะตาย แต่เป็นยั่วโมโหนะ