บทที่ 4
ณ สนามบินนาริตะ...ลุคขับรถมารอรับทอฝันด้วยตัวเอง รอไม่นานหญิงสาวก็เข็นกระเป๋าสัมภาระ
เดินออกมาทางช่องของผู้โดยสารขาเข้า นับได้ว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สูงมากเลยทีเดียว ที่สำคัญเธอดูเหมือนเด็กหนุ่มหน้าสวยจัดได้ว่าหล่อเร้าใจสาว ๆ ได้ไม่แพ้คุณริวและสมาชิกอีกสามคนอย่างแน่นอน ทอฝันสอดส่ายสายตามองหาคนที่จะมารับ และก็เห็นผู้ชายวัยประมาณเกือบสี่สิบที่ใส่สูทดูภูมิฐานยืนรอเธออยู่เช่นกัน เมื่อทอฝันมั่นใจว่าบุรุษผู้นี้คือคนที่มารับเธอ ทำให้เธอเข็นกระเป๋าตรงไปหาเขาทันที พร้อมกับเป็นฝ่ายเอ่ยปากทักทายเขาก่อน
“สวัสดีค่ะลุคใช่ไหมคะ”
“สวัสดีครับคุณแอลการเดินทางเป็นยังไงบ้างครับ”
“ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”
“พร้อมหรือยังครับ”
“ค่ะ”
“ถ้างั้นเราไปกันเลยนะครับ คุณแอลอย่าลืมตัวหลุดพูดคำว่าคะออกมานะครับ เพราะตอนนี้คุณแอลเป็นหนุ่มน้อยคนหนึ่ง”
“รับรองได้ฮะว่าแอลไม่ลืมเพราะแอลฝึกพูดก่อนที่จะมาที่นี่” ลุคพาเธอเดินไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ ใช้เวลาไม่นานก็มาถึงบ้านที่เธอจะต้องพักอยู่อาศัยตลอดเวลาที่เรียนอยู่ที่นี่ และทันทีที่ทอฝันเห็นก็ต้องอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น
“โอ้โห...นี่มันบ้านหรือคฤหาสน์กันแน่ฮะลุค คุณแน่ใจนะฮะว่าพาผมมาถูกที่ ผมต้องอยู่ที่นี่ใช่ไหมฮะ”
“แน่นอนครับคุณแอลเชิญครับได้เวลาอาหารเย็นพอดี ตอนนี้คุณริวและสมาชิกคนอื่น ๆ คงจะพร้อมหน้ากันที่โต๊ะอาหารแล้วล่ะครับเชิญทางนี้เลยครับ” ทอฝันเดินตามลุคเข้าไปด้านใน แต่ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้องอาหารนั้นเธอก็ยืนนิ่งอยู่สักครู่เพื่อสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างแรงถึงสามครั้ง พร้อมกับบอกตัวเองให้สู้ ๆ หญิงสาวได้ยินเสียงโต้ตอบในห้องอาหารนั้นดังลอดออกมา
“ลุคไหนล่ะฮะสมาชิกใหม่ที่คุณพูดถึงเขายังไม่มาอีกเหรอฮะ” ริวไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใครที่เป็นคนถามคำถามนี้ จะเป็นคนอื่นไปไม่ได้หรอกนอกจากรัน
“มาแล้วครับผมเป็นคนไปรับคุณแอลที่สนามบินด้วยตัวเอง” คิระหันไปถามริวเมื่อเห็นเขานั่งนิ่งเฉย
“ริวนายไม่สนใจหรืออยากรู้จักสมาชิกใหม่บ้างเหรอ”
“ไม่อ่ะ...ใครจะไปหรือจะมามันก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”
“แล้วตอนนี้แอลอยู่ที่ไหนล่ะครับ” จุนซึ่งนั่งนิ่งเงียบมานานเอ่ยปากถาม วินาทีนั้นเองที่ทอฝันเดินตรงเข้าไปปรากฏตัวในห้องอาหาร
“ผมได้ยินว่ามีคนถามถึงผมเหรอฮะ” ทันทีที่สมาชิกใหม่เดินเข้าไปในห้องอาหาร ทุกสายตาต่างก็เพ่งมองมาที่เธอนั่นรวมไปถึงริวด้วย คิระรีบลุกจากที่นั่งไปยืนตรงหน้าทอฝันพร้อมกับเอ่ยปากแนะนำตัวเองก่อน
“ผมชื่อคิระนักศึกษาปี 2 คณะวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่” ในระหว่างที่เขาแนะนำตัวเองเขาก็มองสำรวจหนุ่มน้อยหน้าหวานตรงหน้าไปด้วย
“ผมแอลยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน” ลุคเริ่มแนะนำสมาชิกคนที่เหลืออยู่
“คุณแอลครับนี่คุณจุน” ทอฝันพยักหน้าให้จุนแทนคำทักทาย
“สวัสดีครับผมจุนนักศึกษาแพทย์ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ส่วนหนุ่มคนนี้ก็คือ...”
“รัน” ทอฝันชิงเอ่ยชื่อของรันก่อนที่ลุคจะแนะนำจบ และนั่นเองที่สร้างความแปลกใจให้กับรันจนถึงขั้นลุกขึ้นเดินเข้าไปประชิดตัวทอฝัน เขาทำทีจะเข้าไปกอดแต่อีกฝ่ายดันพูดดักคอขึ้นมาซะก่อน
“ไม่ใช่ตุ๊ดไม่ต้องมากอด” รันยิ้มมาดกวนพร้อมกับพยักหน้า
“อืม...ไม่ใช่ตุ๊ดแต่ทำไมหน้าสวยหวานขนาดนี้ ถ้าบอกว่าเป็นผู้หญิงก็เชื่อได้นะเนี่ย” ลุคส่งเสียงกระ แอมเบา ๆ เพื่อเป็นการขัดจังหวะ เพราะเขาเกรงว่าทอฝันจะเผลอทำพิรุธอะไรออกมา ที่จริงแล้วเขาคิดว่าคุณรันก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากมายขนาดนั้นหรอก เขาก็พูดไปอย่างนั้นเองเพราะหน้าของทอฝันก็ดูสวยหวานจริงอย่างที่คุณรันพูดซะด้วย
“และนี่คือคุณริวทายาทเพียงคนเดียวของคุณเรียวสึเกะครับ” ทอฝันเดินตรงไปยืนตรงหน้าเขาพร้อมกับยื่นมือออกไป
“ผมแอลนักศีกษาปีหนึ่งคณะวิศวะยินดีที่ได้รู้จัก”
“ใครอยากรู้จักกับนายไม่ทราบ” ริวพูดพร้อมกับปัดมือของแอลอย่างแรงพร้อมกับบ่น
“น่าเบื่อชะมัด!! ลุคสิ้นสุดการแนะนำตัวสมาชิกใหม่กันแล้วใช่ไหม จะได้ลงมือกินข้าวกันซะทีหรือว่าจะต้องรอให้สมาชิกใหม่อนุญาตก่อน” เขาพูดพร้อมกับตวัดสายตามองไปที่สมาชิกคนใหม่ล่าสุดที่เขาดูยังไงก็รู้สึกขัดหูขัดตายิ่งนัก หน้าของมันสวยหวานเหมือนกับผู้หญิงไม่มีผิด
“ถ้างั้นก็เริ่มลงมือทานอาหารกันได้เลยครับ” ลุคหันไปสั่งเด็กที่มาคอยรับใช้ให้เสริฟอาหาร และหันไปเชิญทอฝันให้มานั่งทานอาหารตรงข้ามกับคิระ ซึ่งปกติจะเป็นที่ของจุนแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา เพราะเขานั่งทานตรงไหนก็ได้
“เชิญครับคุณแอล คุณเพิ่งจะเดินทางมาถึงคงจะทั้งหิวทั้งเหนื่อย เชิญเลยครับ” จุนไปนั่งเก้าอี้ตัวถัดไปจากทอฝัน เขายิ้มให้ทอฝันอย่างเป็นมิตรและก็ได้รอยยิ้มเป็นมิตรกลับคืนไปเช่นกัน ส่วนรันก็นั่งติดกับคิระโดยมีริวนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ริวเริ่มลงมือทานอาหารมื้อนั้นโดนไม่สนใจสมาชิกใหม่อีกเลย ทอฝันหันไปถามรันว่าเขาเรียนคณะอะไร
“ฉันเรียนอยู่ปี 3 คณะสถาปัตยกรรม” แล้วทุกคนต่างก็ลงมือทานอาหารกันอย่างเงียบ ๆ จากนั้นก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน ลุคพาทอฝันเดินขึ้นไปที่ห้องชุดซึ่งใช้เป็นที่พักส่วนตัวของเธอ พร้อมทั้งมอบกุญแจห้องให้กับเธอ จากนั้นเขาก็พาเธอเดินชมบ้านเพื่อที่จะบอกว่าห้องอะไรอยู่ตรงไหน ช่วงจังหวะนั้นเองเขาก็มีโทรศัพท์สายด่วนจากคุณเรียวสึเกะโทรเข้ามา ทอฝันเอ่ยปากอนุญาตให้เขาคุยโทรศัพท์ตามสบาย ส่วนเธอจะเดินกลับไปที่ห้องพักเอง
เมื่อต้องเดินกลับไปห้องพักตามลำพัง ทอฝันรู้สึกงงกับการเดินกลับไปที่ห้องพักของตัวเอง เนื่องจากคฤหาสน์หลังนี้มันใหญ่โตมากซะจนทำให้เธอจำทางกลับห้องพักของตัวเองไม่ถูก และความผิดพลาดก็เกิดขึ้นเมื่อแอลดันเปิดเข้าไปผิดห้อง และห้องนั้นดันเป็นห้องของริวนั่นซะด้วย ทอฝันต้องรีบหาที่หลบซ่อนเพราะเธอได้ยินเสียงเขาเปิดประตูห้องน้ำ และกำลังจะเดินออกมาในไม่ช้านี้
หญิงสาวหนีเข้าไปหลบใต้เตียงของเขาโดยการนอนคว่ำ และเธอก็ต้องตกตะลึงตาค้างเมื่อหันไปเห็นร่างสูงเกือบเปลือยที่ก้าวออกมาจากห้องน้ำ เขามีผ้าเช็ดตัวสีขาวเนื้อนุ่มเพียงผืนเดียวเท่านั้นที่พันรอบกายท่อนล่างของเขาเอาไว้ ส่วนช่วงบนตั้งแต่เอวขึ้นไปไม่มีผ้าสักชิ้นห่อหุ้มเผยให้เห็นแผงอกล่ำสันที่มีละอองน้ำเกาะพราวไปทั้งตัว ท่อนแขนใหญ่เต็มไปด้วยมัดกล้ามข้างหนึ่งเลื่อนขึ้นสูงพร้อมกับขยุ้มผ้าขนหนูสีขาวอีกผืน ที่คลุมศีรษะที่เปียกอยู่แล้วเช็ดไปมา ทอฝันก็ต้องเอามืออุดปากของตนเองเอาไว้ เพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้องกรี๊ดออกมาก็นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นสรีระของผู้ชายตัวโต ๆ อย่างชัดเจนขนาดนี้
‘เขามีรอยสักรูปไม้กางเขนขนาดใหญ่ที่ด้านหลังของเขาด้วยเหรอเนี่ย ท่าทางจะเฮี้ยวเอาเรื่องแต่ก็ดูเท่ห์ดูแมนดีเหมือนกันนะ’ ทอฝันได้แต่เตือนตัวเองอย่ามัวแต่คิดเรื่องอื่นเพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดอะไรทำนองนี้ ควรจะต้องคิดว่าจะทำยังไงถึงจะออกไปจากห้องนี้ได้อย่างปลอดภัยถึงจะถูก และหญิงสาวก็ต้องจ้องมองชายหนุ่มด้วยอาการตกตะลึงพร้อมกับดวงตาเบิกโพลงอีกครั้ง ริมฝีปากของเธออ้าค้างก่อนจะรีบหลับตาลงทันที เพราะไม่อยากเห็นภาพของผู้ชายที่เพิ่งจะเคยรู้จักในสภาพที่ไม่เรียบร้อย เนื่องจากริวถอดผ้าเช็ดตัวที่พันเอวอยู่เพียงผืนเดียวนั้นออก
‘โอ๊ยอีตาบ้าอยู่ ๆ ก็มาแก้ผ้าให้ดูกันง่าย ๆ ซะงั้น แต่จะว่าไปนี่มันก็เป็นห้องนอนส่วนตัวของเขานี่นา เราซะอีกที่เผลอเดินหลงเข้ามาในห้องของเขา เลยได้เห็นอะไรที่ไม่ควรจะเห็นก่อนเวลาอันควรแบบนี้’ ทอฝันได้แต่นึกรำพึงรำพันกับตัวเองอยู่ในใจ และภาวนาให้เขาใส่เสื้อผ้าให้เสร็จโดยไว เมื่อเธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าเขาใส่กางเกงขายาวสีเทาโดยไม่สวมเสื้อ และในขณะที่ทอฝันกำลังคิดหาวิธีที่จะออกไปจากห้องนี้โดยไม่ให้ริวจับได้อยู่นั้น ก็ดูเหมือนโชคจะเข้าข้างเธอเพราะลุคเดินเข้ามาในห้องนอนของริวพร้อมกับส่งโทรศัพท์ให้เขา เธอได้ยินลุคบอกกับริวว่าพ่อของเขาต้องการที่จะพูดสายด้วย จากนั้นก็เดินออกจากห้องนั้นไปทิ้งให้ริวคุยโทรศัพท์กับพ่อตามลำพัง ริวเดินออกไปพูดสายกับพ่อของเขาที่ระเบียง ขณะนั้นเองทอฝันก็ได้คลานออกมาจากใต้เตียงที่เธอใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว ทันทีที่ลุกขึ้นยืนแต่ยังไม่ทันที่จะเดินออกจากห้องริวก็เดินกลับเข้ามาในห้อง เมื่อทั้งคู่สบตากันริวก็โวยวายใส่อีกฝ่ายเสียงดัง
“นายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไรแล้วเข้ามาทำอะไรในห้องนี้” แอลพูดติด ๆ ขัด ๆ
“ฉะ...ฉันเพิ่งจะเดินเข้ามาคือที่จริงฉันจะเดินกลับไปที่ห้องของฉัน แต่ว่าที่นี่มีห้องมากมายที่สำคัญมันเหมือนกันหมด ฉันก็เลยเข้าห้องผิดขอโทษด้วย” ทอฝันพูดพร้อมกับก้มหัวให้เขาเล็กน้อยเป็นการขอโทษ
“เมื่อรู้ว่าเข้าห้องผิดแล้วทำไมยังไม่รีบกลับออกไปอีก” ใบหน้าของทอฝันแดงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเธอคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาสักครู่นี้เอง
“เป็นอะไรทำไมต้องหน้าแดงด้วย” ริวถามทอฝันด้วยท่าทีกวน ๆ ดวงตาคมของเขาที่จ้องมองมานั้นมันมีแววบางอย่างที่ทำให้เธอร้อนวูบวาบ ริมฝีปากได้รูปของริงยังส่งยิ้มกวนให้เป็นของแถมอีกด้วย
“ว่าไงถามทำไมไม่ตอบแล้วจะจ้องอีกนานไหมหรือว่าอยากจะดูให้ชัด ๆ จะได้แก้ให้ดู”
“เปล่านะทำไมฉันจะต้องอยากดูของนายด้วย”
“ก็นั่นสินะเพราะของตัวเองก็มีเหมือนกันใช่ไหม แต่ว่ามันต่างกันที่ขนาดเท่านั้นแหละ”
“นายกำลังจะบอกฉันว่าของนายมันใหญ่ซะจนหุบขาไม่ลงเลยใช่ไหม” พูดจบทอฝันก็รีบเผ่นหนีออกจากห้องเขาไปทิ้งให้ริวโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่ในที่สุดเขาก็ต้องหลุดขำออกมา
“ไอ้บ้ารู้ได้ยังไงว่ามันใหญ่จนหุบขาไม่ลงไอ้นี่ท่าทางแสบไม่เลว”
