บทที่ 3
วันนี้จะเป็นวันที่แอลจะต้องเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่น พ่อกับแม่และเรียวสึเกะต่างก็พร้อมใจพากันมาส่งเธอที่สนามบิน แม่กอดทอฝันไม่ยอมปล่อยและรู้สึกใจหายที่ลูกจะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเป็นเวลานาน ๆ แบบนี้ ถึงแม้ว่าการเดินทางไปในครั้งนี้จะเป็นการไปเรียนต่อเพื่ออนาคตของลูก แต่เธอก็ยังอดใจหายไม่ได้อยู่ดีทอฝันเข้าไปกราบที่ไหล่ของท่านทั้งสองเป็นการบอกลา ก่อนที่จะเดินไปไหว้ลาลุงเรียวสึเกะ
“หนูแอลไม่ต้องเป็นห่วงนะเมื่อหนูไปถึงที่โน่นจะมีคนของลุงขับรถมารับหนูที่สนามบิน”
“ค่ะขอบคุณมากนะคะที่คุณลุงจัดเตรียมทุกอย่างไว้ให้แอล”
“ลุงยินดี” เรียวสึเกะยื่นกระเป๋าใบขนาดกระทัดรัดใบหนึ่งให้ทอฝัน และบอกว่านี่คือสิ่งที่เธอจำเป็นต้องใช้เมื่อไปอยู่ที่โน่น อย่าเพิ่งเปิดดูจนกว่าจะขึ้นเครื่องทอฝันรับไว้และกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปเพื่อขึ้นเครื่องเพื่อเดินทางไปสนามบินนาริตะ เมื่อหญิงสาวนั่งอยู่บนเครื่องบินชั้นเฟิรสคลาสเธอก็เปิดกระเป๋าที่คุณที่
ลุงเรียวสึเกะใ ห้และก็พบว่าในกระเป๋าใบนั้นจะมีบัตรเครดิตจำนวนสี่ใบ ที่มีโน้ตเขียนติดมาด้วยว่าไม่จำกัดวงเงินรวมไปถึงโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดอีก 2 เครื่อง โดยเครื่องหนึ่งนั้นไว้ใช้เมื่อต้องการที่จะโทรติดต่อกับเขาโดยตรง ส่วนอีกหนึ่งเครื่องก็ไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน หญิงสาวเก็บทุกอย่างไว้ในกระเป๋าอย่างเดิม ก่อนที่จะรัดเข็มขัดตามที่กัปตันประกาศเพราะได้เวลาเครื่องจะออกแล้วนั่นเอง
เรียวสึเกะขับรถไปส่งพ่อกับแม่ของแอลที่บ้านพัก ในขณะที่นั่งอยู่ในรถนั้นเขากล่าวขอบคุณบุคคลทั้งสองที่ยอมให้ทอฝันไปอยู่ที่บ้านพักของเขาที่โตเกียว ซึ่งทั้งคู่ต่างก็บอกว่าไม่ต้องเกรงใจพวกเขาต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายขอบคุณที่ส่งลูกสาวไปพักอยู่ที่โน่นด้วย
“พวกคุณสองคนโชคดีที่มีลูกสาวอย่างหนูแอล เธอเป็นเด็กน่ารักและนิสัยดี ตัวผมเองมีแต่ลูกชายแต่เราสองคนก็ไม่ได้สนิทกันมากนัก ผมรู้สึกหลงรักหนูแอลตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ และอยากที่จะได้หนูแอลมาเป็นลูกสะใภ้ของผม”
“ลูกสะใภ้เหรอคะ!? แอลยังเด็กอยู่เลยค่ะและเธอก็เพิ่งจะเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัย คุณเรียวสึเกะมาพูดเรื่องนี้ตอนนี้ฉันว่ามันเร็วไปนะคะ”
“ผมทราบครับ...ผมเพียงแต่บอกพวกคุณไว้ว่าผมพึงพอใจลูกสาวของคุณ และอยากที่จะให้เราสองตระกูลเกี่ยวดองกันโดยให้ลูกของเราแต่งงานกัน”
“ผมกับภรรยาไม่เคยบังคับจิตใจลูกโดยเฉพาะเรื่องนี้ ก็คงจะต้องให้ลูกเป็นคนเลือก เพราะเขาจะต้องอยู่กับผู้ชายคนนั้นไปตลอดชีวิต”
“ผมเข้าใจครับและผมมั่นใจว่าริวจะต้องชอบลูกสาวของคุณ เพราะใครก็ตามที่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับหนูแอลก็จะอดที่จะหลงรักเธอไม่ได้ ถ้าถึงตอนนั้นผมหวังว่าคุณสองคนคงจะไม่รังเกียจลูกชายของผม”
“ไม่รังเกียจหรอกครับถ้าเด็กสองคนเขารักกันจริง ๆ พวกเราก็ไม่ขัดข้อง และยินดีที่จะทำทุกอย่างให้มันถูกต้องก็เท่านั้นเอง” รถมาจอดส่งพ่อกับแม่ของทอฝันที่หน้าประตูบ้านจากนั้นก็เลี้ยวรถออกไปอย่างรวดเร็ว
เช้าวันต่อมา...ที่บ้านพักของพวกหนุ่มหล่อทั้งสี่คน
เมื่อสมาชิกทุกคนลงมารวมตัวพร้อมกันที่โต๊ะอาหารในตอนเช้า ลุคซึ่งทำหน้าที่พ่อบ้านกลาย ๆ ก็แจ้งข่าวให้พวกเขาทั้งสี่คนรู้ว่าวันนี้จะมีสมาชิกใหม่มาเพิ่มอีกหนึ่งคนและพวกเขาควรจะอยู่เพื่อที่จะทำความรู้จักกันเอาไว้
“สมาชิกใหม่!? พ่อของฉันเขายังไม่หยุดที่จะหาสมาชิกเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้อีกเหรอ อยู่กันแค่สี่คนนี่ก็น่าจะเพียงพอแล้วนี่นา”
“คุณแอลน่าจะเป็นคนสุดท้ายแล้วล่ะครับคุณริว”
“สมาชิกใหม่ของเราชื่อแอลเหรอครับ”
“ใช่ครับคุณคิระ”
“หล่อสู้พวกเราได้ไหมครับ” รันซึ่งนั่งเงียบอยู่นานก็ถามเพื่อให้ลุคไขข้อข้องใจให้เขา
“เดี๋ยวเย็นนี้พวกคุณก็จะได้รับคำตอบเองล่ะครับ” ริวยักไหล่พร้อมกับทำสีหน้าเบื่อหน่าย
“เรื่องที่จะบอกมีแค่นี้ใช่ไหม”
“ใช่ครับและพวกคุณทั้งสี่คนอย่าลืมกลับมาให้ทันอาหารเย็นด้วยนะครับ จะได้ทำความรู้จักกับคุณแอลเอาไว้เพราะจะต้องอยู่ร่วมกันอีกนาน” จุนหนุ่มหล่อที่ดูจะนิสัยดีที่สุดถามขึ้นมาบ้าง
“แอลจะพักอยู่โซนเดียวกับพวกเราด้วยหรือเปล่าครับ” เนื่องจากคฤหาสน์หลังนี้ใหญ่มากจึงต้องแบ่งเป็นโซน ๆ เพื่อง่ายแก่การจดจำ โซนทางปีกซ้ายจะเป็นที่อยู่ของพวกเขา ซึ่งก็จะมีตัวเขารันและคิระ ส่วนริวนั้นจะแยกไปอยู่โดดเดี่ยวต่างหากทางด้านปีกขวา ลุคตอบด้วยน้ำเสียงนอบน้อม
“คุณแอลจะถูกจัดให้อยู่ทางปีกขวาครับ” ริวหันมามองลุคด้วยความไม่พอใจ
“ทำไมจะต้องจัดให้มาอยู่ปีกขวาด้วยล่ะ คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าผมไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามน่ารำคาญ อีกอย่างห้องทางปีกซ้ายก็เหลืออีกตั้งหลายห้อง จัดให้ไอ้บ้านั่นสักห้องจะเป็นอะไรไป”
“นี่เป็นคำสั่งของคุณท่านครับคุณริว ผมเป็นแค่ลูกจ้างมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งเท่านั้น”
“จุ้นจ้านไม่เลิกสินะ” เขาพูดอย่างโมโหพ่อของตัวเองและเดินออกไปจากห้องนั้นด้วยความไม่พอใจ ปล่อยให้อีกสามคนที่เหลืออยู่ได้แต่มองหน้ากันไปมา พวกเขาเคยชินกับอารมณ์ของริวเพราะอยู่ร่วมกันมานาน ทำให้รู้ว่าริวเป็นคนขี้หงุดหงิดและฉุนเฉียวง่าย เมื่อใดก็ตามที่เขาอารมณ์เสียก็ควรที่จะอยู่ให้ห่างอย่าไปยุ่งได้จะดีที่สุด
“ริวมีอคติตั้งแต่ยังไม่ได้เจอหน้ากัน เห็นทีแอลคงจะอยู่ที่นี่ด้วยความลำบากใจซะแล้วล่ะมั้ง” คิระพูดเปรย ๆ ให้อีกสองหนุ่มฟัง
“คิระนายสนใจเรื่องนี้ด้วยเหรอ ปกตินายไม่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นไม่ใช่เหรอ”
“ฉันไม่เหมือนนายนะรันที่ดูจะสนใจไปซะทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องผู้หญิง”
“อ้าว!! ถามดี ๆ ทำไมต้องมาพูดแขวะกันด้วยพิลึกคนแบบนี้ถึงเข้ากับริวได้”
“วันนี้ฉันต้องรีบไปเข้าเวรขอตัวก่อนนะ” จุนซึ่งทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยก็เดินออกไปพร้อมกับตำราเรียนปึกหนา ที่รันมักจะค่อนขอดเขาอยู่เสมอว่าอ่านเข้าไปได้ยังไงแค่เห็นก็เอียนแล้ว
“แล้วนายไม่ต้องไปเรียนหรือไง” คิระถามรันเพราะช่วงนี้เพิ่งจะเปิดเรียนเทอมใหม่
“วันนี้ฉันมีคลาสตอนบ่ายแล้วนายล่ะ” รันตอบพร้อมกับถามกลับไปด้วยเช่นกัน
“วันนี้อาจารย์งดก็เลยไม่มีคลาส แต่ว่าจะไปห้องสมุดซะหน่อยเพราะต้องทำรายงานอีกตัวหนึ่ง แล้วเจอกันเย็นนี้ที่โต๊ะอาหาร” คิระลุกขึ้นแต่เมื่อเขาเดินผ่านรันชายหนุ่มก็ยกมือขึ้นสัมผัสกับมือของรันแบบ
Give me five แล้วก็เดินจากไป
รันลุกจากเก้าอี้เขามีความคิดที่จะไปว่ายน้ำ แต่ไม่ใช่สระว่ายน้ำที่นี่ รัรเลือกที่จะไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำของสปอร์ตคลับชื่อดังที่พวกเขาเป็นสมาชิกอยู่ เพราะที่นั่นจะมีสาวสวยหุ่นดีใส่ชุดว่ายน้ำทูพีสมากมายให้เขาได้มอง ชายหนุ่มเดินฮัมเพลงขึ้นไปหยิบอุปกรณ์สำหรับการว่ายน้ำใส่กระเป๋า และบอกให้รถขับไปส่งเขาที่สปอร์ตคลับชื่อดังแห่งนั้น เมื่อไปถึงรันก็เข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำและเดินออกมานั่งที่เก้าอี้ข้างสระน้ำ เมื่อเขาย่างกายเข้ามาที่บริเวณสระน้ำก็มีสายตาของสาว ๆ ที่อยู่ในบริเวณนั้นมองตามเขาด้วยสายตาชื่นชม ถึงแม้ว่าหุ่นของรันจะไม่ดีเหมือนริวกับจุน แต่เขาก็มั่นใจว่าหน้าตาของเขาสามารถดึงดูดสาว ๆ ให้หันมาสนใจเขาได้ไม่ยาก
รันลุกขึ้นไปพุ่งตัวลงสระว่ายน้ำด้วยท่วงท่าที่สวยงาม เขาว่ายกลับไปกลับมาอยู่หลายรอบโดยไม่มีการหยุดพักเริ่มจากว่ายท่าฟรีสไตล์ กบ และผีเสื้อ เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากสาว ๆ ที่อยู่ในสระขณะนั้นได้เป็นอย่างดีรันบริหารเสน่ห์อยู่สักพักก็กลับแต่ก่อนที่เขาจะเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เขาก็หันไปยักคิ้วหลิ่วตาให้สาวสวยที่เดินผ่านเขาไปโดยไม่ลืมที่จะส่งจูบให้เธออีกด้วย สาวคนนั้นถึงกับตกตะลึงและไม่หายตื่นเต้นที่เขาส่งจูบให้เธอ
