4.
ภัทรนั่งนิ่งอยู่แต่ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย เขายิ้มบางๆก่อนจะถามว่า
“คุณสองคนมาทำอะไรที่นี่ครับ วันนี้ไม่เข้าบริษัทใช่มั้ยครับ”
ภัทรค่อนข้างแปลกใจเมื่อเจอทั้งสองที่นี่เพราะที่เขาเจอล่าสุดคือทั้งสองไปทำงานด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลของบริษัทที่เขาเป็นพนักงานส่งของอยู่
พิซซ่ายิ้มก่อนจะตอบว่า
“จริงๆงานที่บริษัทเป็นงานpart time ของพวกเรา..”
ไม่ทันที่พิซซ่าจะพูดจบเธอก็ถูกศอกของพิมโรสกระแทกเบาๆแต่พิซซ่าก็พูดต่อว่า
“เอ่อ.. จะเริ่มเล่ายังงัยดีค่ะ คือจริงๆพวกเราตกงานค่ะ และเป็นความลับนะคะ เราเห็นว่าคุณภัทรช่วยชีวิตไว้เลยจะบอกค่ะ พวกเราตามอาจารย์ไปเก็บข้อมูล folkloreชาวมอแกน ก็เลยคิดว่าเป็นโอกาสได้ไปเที่ยวด้วยค่ะ จนเกิดเหตุการณ์นั้นค่ะ”
"อืม ... รับงานหลายจ็อบใช่ไหมครับ"
“ค่ะ ว่าพูดแบบนั้นก็ไม่ผิดค่ะ” พิซซ่าเลิกคิ้วเล็กน้อย
พิมโรสเปลี่ยนหัวข้อสนทนาจึงถามภัทรว่า
"เพิ่งเข้ามาทำงานหราค่ะ " พิมโรสพูดด้วยน้ำเสียงที่สงสัยจริงๆ
ภัทรยิ้มเบาๆ
"ครับ”
จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า
"อ๋อตอนนั้นที่ไปทะเลก็ไปหาข้อมูลใช่มั้ยครับ”
“ก็ไม่เชิงค่ะ” พิมโรสตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้
พิซซ่ายิ้มก่อนจะพูดเสริมว่า " ตอนนี้กำลังจะสอบหัวข้อค่ะ”
บทสนทนาในวงโต๊ะดำเนินไปอย่างเป็นกันเอง ทุกคนผลัดกันพูดคุยและทำความรู้จักกันมากขึ้น แม้ว่าภัทรจะมีภูมิหลังที่แตกต่างจากพิซซ่าและพิมโรส ความเป็นกันเองและความจริงใจของทุกคนทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยมิตรภาพที่อบอุ่น
พิมโรสวางช้อนส้อมลงบนจานอย่างอิ่มเอมกับมื้อกลางวันแสนอร่อยเป็นอาหารที่เธอโปรดปราน พิซซ่ายิ้มให้เพื่อนสนิทแล้วลุกขึ้น
"ฉันต้องไปรับหลานแล้ว เจอกันนะ"
"จ้ะ เดี๋ยวโทรหานะ" พิมโรสโบกมือลา
ภัทรที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็ลุกขึ้นบ้าง
"ผมก็ต้องไปส่งของแล้วเหมือนกัน ไว้เจอกันครับคุณพิมโรส"
"ค่ะ คุณภัทร" พิมโรสยิ้มบางๆ ให้เขา
พิมโรสก็เดินมาที่ลานจอดรถ ทันใดนั้นเอง เธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรถยนต์หรูสีดำเงาวับจอดอยู่ข้างๆ รถของเธอ
พิมโรสขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะคุ้นตาเหมือนรถของพี่แผ่นดินแต่เลขทะเบียนไม่ใช่เธอก้าวเข้าไปใกล้อีกนิด พลางก้มลงมองทะเบียนรถอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ มันไม่ใช่เลขของพี่แผ่นดินแน่นอน แต่ทำไมถึงดูเหมือนกันขนาดนี้
รถรุ่นเดียวกัน สีเดียวกันเธอเริ่มตั้งคำถามในใจ ขณะสายตาก็ยังจ้องเขม็งที่รถคันนั้นราวกับมันจะเฉลยคำตอบให้เธอเอง
