บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 ตัดใจ

เป็นเวลาห้าวันเต็มๆ ที่ซินไปเรียนด้วยร่างไร้วิญญาณและกลับมาเมาที่คอนโดของซูซาน เธอเชื่อว่าแอลกอฮอล์จะช่วยให้เธอลืมขุนเขาได้ ทว่ามันกลับตรงกันข้าม เพราะเธอคิดถึงเขาแทบทุกนาทีในตลอดห้าวันที่ผ่านมา แต่เธอไม่ได้ร้องไห้ออกมาอีกแล้ว

“มึงดูสภาพมันดิ” เยลลี่ยืนกอดอกมองดูเพื่อนที่มาเลิกเรียนก็กลับมานั่งกระดกเบียร์ทันที

“ช่วงตัดใจว่ะ ให้เวลามันหน่อย” เชลโล่ว่า

“หาผู้ชายให้มันสักคนดีไหมวะ สภาพนี้กูว่าปล่อยไปนานๆ ไม่ดีแน่ บทแม่งยังไม่เริ่มเขียน แล้วพรุ่งนี้ก็จะประชุมอยู่แล้ว ไอ้เชี่ยยีนส์แม่งก็จิกกูไม่พักเลย” ซูซานถอนหายใจออกมาด้วยละเหี่ยใจ

“นี่ขนาดแม่งแค่ไปบอกชอบนะ ยังหนักได้ถึงขั้นนี้ ดีแค่ไหนแล้วที่ไม่คบกันแล้วไปไม่รอด” เยลลี่ส่ายหน้า ไม่อยากนึกถึงสภาพตัวเองในอนาคตเลย

“ไปดึงสติมันได้แล้วอีเชลโล่ ทำยังไงก็ได้ให้มันสร่างเมาแล้วกลับมาเขียนบท ไม่งั้นบรรลัยกันทั้งกลุ่มแน่มึง” ซูซานออกคำสั่ง ก่อนจะไปยกแมคบุคขึ้นมาเปิดเครื่องรอให้ซินมาทำงาน

“ซิน... เลิกกินได้แล้ว มึงเมามาห้าวันติดแล้วนะ” เชลโล่เข้าไปเขย่าตัวซินที่นั่งก้มหน้านิ่ง

แหมะ!

อยู่ๆ น้ำตาก็หยดลงมาตกแหมะที่หน้าตักของซิน... ใช่ เธอไม่ได้ร้องไห้เลยตั้งแต่วันนั้น แต่อยู่ๆ เมื่อคิดได้ว่าถึงเวลาที่เธอต้องลุกขึ้นมาตั้งสติเสียที เธอควรตัดใจจากขุนเขาเสียที น้ำตาก็พลันไหลออกมาเสียอย่างนั้น

“นี่มึงร้องไห้เหรอ?” เชลโล่ตกใจที่ได้เห็นน้ำตาของซิน

“อือ... หลังจากนี้กูจะไม่ร้องอีกแล้ว ฮึก! กูจะตัดใจจากมันแล้วนะ”

“มึงเอ๊ย... มานี่มา” เชลโล่ดึงร่างสั่นเทาของเพื่อนมากอดไว้แน่นด้วยความเห็นใจ

“ดีอีซิน! มึงร้องไห้ได้ แต่แม่งต้องเป็นครั้งสุดท้าย ตัดใจจากไอ้เวรนั่นไปซะ แล้วปลุกความแรดในตัวมึงขึ้นมา หาผู้ชายดีๆ สักคนเว้ย! เชื่อกู... มึงน่ารักอยู่แล้ว ลองเปิดใจสักนิดมึงจะรู้ว่ามีคนมึงแล้วก็เห็นคุณในตัวมึงเยอะแยะจะตาย จะไปเสียใจให้คนที่มันไม่แคร์มึงทำไม” เยลลี่เข้ามากอดซินอีกคน

“มึงพูดดีก็วันนี้แหละเยลลี่!” ซูซานเข้ามาร่วมวงกอดเพิ่ม แล้วเพื่อนสามทั้งสี่ก็ร้องไห้ออกมาพร้อมกัน

“ฮือๆ สู้ๆ นะมึง มีพวกกูอยู่ตรงนี้ มึงจะต้องผ่านมันไปให้ได้ กับอีแค่ผู้ชายห่วยๆ คนเดียว!” เชลโล่เอ่ยด้วยน้ำเสียงฮึกเหิมที่คละคลุ้งไปด้วยน้ำตา

ปึง!

เสียงกด Enter ดังลั่นตรงกับที่เข็มนาฬิกาเลื่อนไปที่เลขห้า ซินยกยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่เธอสามารถเขียนบทเสร็จทันเวลา ถึงแม้ว่าเวลานี้จะเป็นเวลาตีห้าแล้วก็ตาม

หญิงสาวสั่งพิมพ์บทออกมาแล้วเลื่อนเก้าอี้ล้อหมุนไปที่เครื่องปริ๊น ดึงแผ่นกระดาษที่มีตัวหนังสือมากมายออกมาหอมอย่างชื่นใจจากนั้นก็คว้ามือถือไปกระโดดลงนอนบนโซฟา เธอลงรูปตัวเองในไอจี หลังจากที่ไม่ได้ลงมานานนับเดือน นี่เป็นครั้งแรกที่เธออยากจะบอกให้ทุกคนรับรู้ว่าเธอกำลัง Move on!

At Let’ s Go Coffee

เวลาบ่ายโมงซินลากสังขารตัวเองมาที่ร้านกาแฟที่ซึ่งยีนส์ได้นัดให้ทุกคนมาประชุมตอนบ่ายสอง ซินมาถึงก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมง เพราะหวังจะมานั่งหา Reference แล้วแอบงีบที่นี่เนื่องจากเธอยังไม่ได้นอน

พอได้แก้วกาแฟมาไว้ในมือหญิงสาวก็เดินตรงมานั่งในห้องสำหรับการประชุมที่ยีนส์จองเอาไว้ เธอเปิดแมคบุคขึ้นมาเสร็จสรรพ ทว่ากลับก้มหน้างีบหลับเสียอย่างนั้น

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนจากมือถือดังปลุกซินให้ตื่นขึ้น หญิงสาวงัวเงียทำหน้ามุ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะลืมตาเบิกโพรงด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าขุนเขากำลังนั่งเท้าคางมองเธออยู่

“ขุน!” เธอเอ่ยชื่อเขาออกมาเป็นครั้งแรกในห้าหกวัน

“กูเอง... เช็ดน้ำลายหน่อย” เขายิ้มมองเธอขณะที่ยื่นนิ้วจะไปชี้ที่มุมปากของซิน

“อื้อ! กูเช็ดเอง” หญิงสาวถอยหน้าหนี รีบหยิบทิชชู่มาเช็ดคราบน้ำลายของตัวเอง

“มานั่งหลับแบบนี้ ไม่ได้นอนอีกแล้วใช่ไหมมึงอ่ะ” เขาถามอย่างเคยชิน เพราะรู้ว่าซินมักจะอดนอนทุกครั้งที่เขียนบท

“เออดิ เพิ่งเขียนบทเสร็จตอนตีห้า”

“กูว่าแล้ว เวลามีตั้งเยอะแยะมึงไม่ทำวะ มาทำเอาตอนจะต้องส่งประจำ ได้ตรวจคำผิดป่ะเนี่ย เดี๋ยวไอ้ยีนส์แม่งด่าเอาอีก” เขายังคงยิ้มมองเธอไม่ยอมละสายตา

“ตรวจแล้ว แต่มึงช่วยตรวจอีกทีดิ กูหาเรฟก่อน เดี๋ยวไอ้ยีนส์ถามแล้วตอบไม่ได้ กูโดนด่าอีก” ซินหยิบบทที่ปริ๊นออกมายื่นให้ขุนเขา

ทุกอย่างที่ทั้งสองทำ เป็นสิ่งที่พวกเขาทำบ่อยๆ ในตลอดเวลาที่รู้จักันมา ทว่าครั้งนี้มันต่างออกไป คำพูดแสนธรรมดานั้นดูเหมือนเป็นปกติ แต่ใครจะรู้นอกจากเจ้าตัวว่าทั้งเขาและเธอกำลังพยายามอย่างมากที่จะทำให้มันดูเป็นธรรมชาติ

“Working Women” ยีนส์อ่านชื่อบทหนังสั้นที่อยู่ในมือ

“เออ... คิดชื่อไม่ออกว่ะ เดี๋ยวคงต้องลองให้ยีนส์มันช่วยคิด มึงอ่านไปก่อนนะ เดี๋ยวกูมา”

ซินเดินออกมาที่ด้านหน้าร้าน เธอหยุดลงที่สูบบุหรี่ หัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะของเธอกำลังทำงานหนัก จากที่คิดว่าจะตัดใจจากเขา พอได้มาเจอและได้กลับมาคุยกันในวันนี้มันทำให้เธออยากจะบ้าขึ้นมา

“ไม่ๆๆๆ อีซิน! ตั้งสติ!” หญิงสาวสายหน้ารัวเรียกสติตัวเองให้กลับคืนมาก่อนจะหยิบซองบุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกง

ซินกลับมาที่โต๊ะหลังจากที่สูบบุหรี่เสร็จ ทันทีที่เธอทิ้งตัวลงนั่ง ขุนเขาก็เงยหน้าขึ้นมามองด้วยใบหน้านิ่ง เขาได้กลิ่นบุหรี่ และเขาไม่ชอบ...

“สูบบุหรี่?” เขาเลิกคิ้วถาม

“อืม มึงอ่านจบยัง?” ซินรีบเปลี่ยนเรื่อง

“จบแล้ว บทดูโตกว่าตัวมึงนะ” เขาว่า พลางหยิบแก้วกาแฟดำขึ้นมาดื่ม

“อยากลองเขียนอะไรที่ดูเป็นผู้ใหญ่ดู มึงชอบไหม?” เธอมักจะถามความคิดเขาอยู่เสมอหลังจากที่ให้เขาอ่านบท

“ก็ดีนะ แต่ไม่ค่อยชินที่มึงเขียนแนวนี้”

ด้วยความที่เนื้อหาของหนังสั้นนั้นเกี่ยวกับหญิงสาววัยสามสิบที่เลิกคิดเรื่องความรักแล้วหันมาตั้งหน้าตั้งตาทำงานและเริ่มเข้าร่วมวิ่งมาราธอนและได้เจอกับรักครั้งแรกแต่กลับมารู้ตัวว่าตัวเองป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายหลังจากที่กลับไปตกหลุมรักเขาอีกครั้ง

“อย่ายึดติดกับกูคนเก่าดิ กูเปลี่ยนไปแล้ว” ซินเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้ม แต่ก็มานึกได้ว่าเธอไม่ควรเข้าประเด็นนั้น

“มึงโอเคแล้วใช่ไหม” เขาเอ่ยถาม เมื่อรู้สึกได้ว่าหญิงสาวมองเขาด้วยสายตายิ้มแย้ม

“โอเคดิ... กูฟื้นเร็วจะตาย” แต่เขาไม่รู้ว่าเธอแสร้งทำ

“เกือบลืมไปเลย กูเอาตั๋วหนังมาให้มึง” ว่าแล้วชายหนุ่งก็หยิบตั๋วหนังออกจากกระเป๋ากางเกงมาวางบนโต๊ะ

“ทำไมให้กูตั้งสองใบเลยอ่ะ” ซินเลิกคิ้วถามเมื่อเห็นว่าตั๋วหนังรอบเพลสที่เขามาให้นั้นมีสองใบ

“มึงหาเพื่อนไปเถอะ กูคงไม่ได้ไป” ขุนเขายกยิ้มขึ้นบางๆ

“โอเค” แม้จะอยากถามว่าทำไมเขาถึงไม่ไป แม้อยากบอกว่าเธออยากดูหนังเรื่องนี้กับเขา แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะไม่พูดออกไป... แล้วเธอคงไม่พูดมันอีกต่อไปแล้ว...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel