Why so serious? อย่าเครียดดิ กูก็แค่ชอบมึง

78.0K · จบแล้ว
ผืนแพร
42
บท
5.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะทนความอึดอัดที่แอบรัก ‘ขุนเขา’ ซึ่งเป็นเพื่อนไม่ไหว ‘ซิน’ จึงสารภาพรัก! ทว่าเธอยังสงสัยอยู่ว่าเพื่อนเธอคนนี้มีเหตุผลอะไรที่มาทำเหมือนว่าชอบและเป็นห่วงเธอ ทั้งๆที่ปากก็บอกให้เราเป็นเพียงเพื่อนกัน SET - WHY - เรื่องที่ 1 Why so serious? เมื่อคืนที่บอกว่าชอบกู... มึงพูดจริงหรือแค่เมา? ทำไมอ่ะ ถ้ากูบอกจริงไม่ได้เมา แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้น?

นิยายรักนักศึกษาวงบันเทิงฟินๆโรงแรม/มหาลัยดราม่าโรแมนติกตลก18+

บทที่ 1 กูชอบมึง!

At The Rich Condominium

“เฮ้อ!”

หญิงสาวใบหน้ากลมเจ้าของผมหน้าม้าแสนน่ารัก ถอนหายในออกมาเป็นรอบที่สิบสามตั้งแต่ที่เธอมานั่งตรงริมระเบียงห้องของหนึ่งในเพื่อนสาวคนสนิท

“ถอนหายใจซะ”

“เอาเบียร์หน่อยป่ะ?” ซูซาน เจ้าของห้องยื่นเบียร์ในมือไปตรงหน้าเพื่อนผู้ขณะนี้ทำหน้าเหนื่อยหน่ายเต็มทน

“หึ!” เธอส่ายหน้าตอบ

“สาดดด มาหลอกให้กูแดกเบียร์คนเดียว แล้วมึงก็แดกแต่โค้กอะนะ? อีคนใจบาป!” ซูซานต่อว่าเพื่อนเชิงหยอกล้อด้วยใบหน้าและน้ำเสียงเรียบนิ่งตามสไตล์ของเธอ

“กูบอกตอนไหนว่าจะแดกเบียร์” เจ้าของผมหน้าม้าเลิกคิ้วถามเพื่อน ชื่อของเธอคือ ซิน ซินที่ย่อมาจากชื่อเต็มว่า ซินเซียร์ ซึ่งแปลว่าจริงใจ

“อีห่า! มาเคาะห้องกูแล้วทำหน้าเหมือนหมาหงอย ใครจะคิดล่ะว่าจะแค่มานั่งถอนหายใจทิ้งแล้วแดกน้ำอัดลม” ซูซานยกกระป๋องเบียร์ขึ้นกระดกดื่มก่อนจะส่ายหน้าให้เพื่อนเป็นเชิงว่าไม่เอาไหน

“กูนอนไม่หลับ แล้วคอนโดมึงก็อยู่ใกล้บ้านกูที่สุด” ซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงพารานอยด์ขณะที่หยิบขนมมันฝรั่งทอดเข้าปาก

“ไหนๆ มีอะไรเล่าให้หมอฟังสิ” หัวโจกของแก๊งสี่สาวผู้ที่มักจะคอยให้คำแนะนำเพื่อนในเรื่องบ้าๆ เริ่มทำงานของตัวเองแล้ว... และความบรรลัยกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

“ที่มึงเคยคุยกับเชลโล่แล้วก็เยลลี่อ่ะ เรื่องที่พวกมึงสงสัยว่ากูแอบชอบใครสักคนในรุ่นเรา” ซินนิ่งไป เธอกำลังคิดหนักว่าจะพูดออกไปดีหรือไม่

“เออ ทำไมล่ะ มึงก็เล่าสิ” ซูซานอยากรู้ อยากก็ยังทำหน้านิ่งอยู่

“กูชอบไอ้เชี่ยขุน!”

เธอยอมพูดมันออกไปในที่สุด ถึงแม้จะไม่ได้บอกกับเจ้าตัว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เธอกล้าพูดความลับที่เก็บไว้นานถึงสามปีกับบุคคลอื่น

ซูซานยังคงตีหน้านิ่ง หญิงสาวยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่ม ใบหน้าสวย ดวงตากลมโต กำลังให้ความคิดอยู่ไม่น้อย เธอคิดอยู่ว่าจะช่วยเพื่อนอย่างไรดี

“มึงอย่าเงียบดิซาน” ในขณะที่ซินกำลังกระวนกระวาย

“กูกำลังใช้ความคิดอยู่”

“คิดเชี่ยไรวะ กูป่ะที่ต้องคิดอ่ะ!” ซินทำหน้าย่นจนเหมือนสุนักพันธุ์ปั๊กเพราะความเครียดกำลังทำงานหนัก

“ไอ้เชี่ยขุนมันมีเมียอยู่แล้วไม่ใช่เหรอวะ”

“เลิกแล้ว เพิ่งเลิกไปเมื่ออาทิตย์ก่อน... เดี๋ยวๆ กูแค่บอกว่ากูชอบมัน ไม่ได้บอกว่าจะไปเอามันมาเป็นแฟนสักหน่อย”

“อีควาย! ถ้ามึงจะแค่ชอบก็หยุดเลย เสียเวลาชีวิต ถ้าคิดจะชอบมึงต้องมั่นใจดิว่ามึงจะเอามันทำผัวให้ได้ ชอบก็บอกชอบไปเลย กลัวเชี่ยไร มึงจะคิดเยอะแยะทำไมเนี่ยอีซิน!” ซูซานเปรียบเสมือนเจ้าป่าผู้ไม่เคยกลัวสิ่งใด เธอลุยได้หมด ออกหน้าแทนเพื่อนมาตลอด ครั้งนี้เธอก็คิดจะช่วยให้ซินสมหวัง ทว่ามันอาจจะไม่ง่ายอย่างที่เธอเข้าใจ

“ถ้ามันง่ายอย่างที่มึงพูด กูคงไม่ต้องมานั่งถอนหายใจฟังมึงด่าเอาๆ หรอก เฮ่อ!” แล้วซินก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

“แล้วมึงจะทำให้มันยากทำไมวะ เรื่องแค่นี้เอง อ่ะนี่! มือถือมึง!” ว่าแล้วซูซานก็โยนมือถือไปลงที่หน้าตักของซิน

“เชื่อกู... โทรไปบอกชอบมัน”

“หึ! กูไม่กล้า” ซินส่ายหน้ารัว

“โอ๊ะ! มึงจะรอให้หมาคาบไปแดกหรือไงอีซิน! เชี่ยขุนมันเคยโสดนานที่ไหนล่ะ นี่ปีสามแล้วนะเดี๋ยวจบไปก็ต้องแยกไปทำมาหาแดกแล้ว หรือมึงจะรอให้มันตายก่อนแล้วค่อยไปเคาะฝาโรงบอกชอบมัน?”

“มึงก็เวอร์ไป... คนเราไม่ตายกันง่ายๆ หรอก”

“พักก่อน... กูไปขี้เดี๋ยวมา มึงเอาเวลานี้คิดไปก่อน ถ้ากูกลับมา มึงมีทางเลือกแค่สองทาง คือหนึ่ง โทรไปบอกไอ้เชี่ยขุนว่ามึงชอบมัน หรือสอง หยุดคิดเรื่องนี้แล้วเตรียมตัวครองโสดถือพรหมจรรย์ไปยาวๆ แบบกู”

ว่าแล้วซูซานก็ลุกขึ้นเดินจากริมระเบียงเข้าไปในตัวห้องเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ซินมองท่าทางการเดินซวนเซของเพื่อนก็รู้ว่าเบียร์สี่กระป๋องทำให้ซูซานเริ่มเมาแล้ว

ลึกๆ แล้วซินก็อยากจะเป็นแบบซูซาน อยู่แบบสบายใจเพราะไม่สนใจเรื่องความรักหรือผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น ซูซานปักหมุดไว้ตั้งแต่ตอนที่พวกเธอทั้งสี่คนรู้จักกันตอนเข้ามาเรียนภาพยนตร์ปีหนึ่งว่าเธอจะไม่มีวันมีแฟน เพราะเธอรู้ว่าการมีความรักมันคือการสร้างความทรมานอย่างหนึ่งให้กับตัวเอง ซูซานพูดเสมอว่าสำหรับเธอผู้ชายก็เป็นเหมือนกับขยะเปียกที่ต้องทำลายไปให้หมดอย่างให้เหลือ ซินเองก็อยากจะเห็นด้วยแบบซูซานถ้าไม่ดันไปแอบชอบเพื่อนสนิทต่างกลุ่มเสียก่อน...

“เป็นไง... คิดได้ยัง อีเพื่อนโง่!” ซูซานเอ่ยถามขณะที่เดินกลับมานั่งที่ริมระเบียง

“มึงนี่ด่าเก่งเนอะ ทำไมตอนเรียนเสือกโง่วะ”

“กูด่าเก่งแล้วจะต้องเรียนเก่งอีกทำไมวะ มึงนี่ก็ถามประโง่ๆ อีกแล้วนะอีซิน!”

“หึ!” ซินยกยิ้มแล้วส่ายหน้าให้กับความบ้าบอของเพื่อน

“แล้วมึงก็ไม่ต้องทำเป็นเปลื่ยนเรื่อง เลือกมาเร็วๆ ว่ามึงจะโทรหรือจะหยุดคิดเรื่องนี้!”

“กูไม่กล้า กูกลัวเสียเพื่อน กูกับมันต้องทำงานด้วยกันตลอดมึงก็รู้”

“แล้วไงวะ?!”

“เชี่ยยย! ถ้ามันรับไม่ได้ที่กูชอบมันแล้วความเป็นเพื่อนจะเหลืออะไร” ซินคิดเรื่องนี้มาตลอด ถ้าไม่ติดว่าเป็นเพื่อนเขา เธอคงบอกชอบไปนานแล้ว

“นี่มึงชอบมันมานานแค่ไหนแล้ว” ซูซานเลิกคิ้วถาม

“ก็ตั้งแต่ปีหนึ่ง”

“อีห่าเอ้ย! กูก็ว่าทำไมใครเข้ามาจีบมึงก็ไม่สน ที่แท้เก็บซิงไว้ให้เชี่ยขุนนี่เอง”

“อีซาน! นี่กูเพื่อนมึงป่ะ? ให้มันน้อยๆ หน่อย!”

“ก็มันจริงอ่ะ ถ้ามึงจะชอบมันมานานขนาดนี้ก็บอกๆ มันไปเหอะ สุดท้ายถ้าเสียเพื่อนมึงก็ยังมีกู มีเชลโล่แล้วก็อีเยลลี่ มึงจะแคร์เชี่ยไรกับผู้ชายที่ไม่เห็นค่ามึง!” ที่ซูซานพูดก็ฟังดูมีเหตุผล ซินถึงกับนิ่งไป

“เอามือถือมึงมานี่!” ว่าแล้วซูซานก็คว้ามือถือของซินไปไว้ในมือ ก่อนจะเปิดหน้าจอเลื่อนหารายเชื่อของขุนเขา

“อย่า! อีซาน! กูไหว้!!!” ซินยกมือไหว้เพื่อน

“อ่ะ... ติดและมึงคุย” นอกจากซูซานจะไม่สนใจที่ซินร้องขอแล้ว เธอจะดกโทรออกหาขุนเขา แล้วยื่นสายของเขามาให้ซิน

ซินทำหน้าจะร้องไห้อยากตาย แต่ก็ยอมรับมือถือมาแนบหู ในตอนนั้นที่ได้ยินว่าปลายสายรับสาย หัวใจของเธอก็เนแรงไม่เป็นจังหวะขึ้นมา

“ฮัล... โหล”

“อื้อ! มีไรวะ โทรมาดึกดื่น” เขาเอ่ยถามเสียงงัวเงีย

“มึงนอนแล้วเหรอ? งั้น...” ในตอนที่ซินกำลังจะเลี่ยงไม่พูด เธออยากจะกดวางสาย ซูซานก็ทำถลึงตาใส่ก่อนจะยกเท้าขึ้นสูงหมายจะถีบซินหากเธอไม่ยอมบอกชอบขุนเขา

“เออ คุยได้...” ขุนเขาเอ่ยขึ้นมาในตอนนั้น

“ขุน... คือกู กู...” หญิงสาวอ้ำอึ้ง หัวใจของเธอเต้นถี่ขึ้นกว่าตอนแรกมากมาย

“มึงทำไม นี่กูตื่นมาฟังแล้วเนี่ย มึงมีอะไร”

“กูชอบมึง!” ราวกับโลกหยุดหมุนเมื่อเธอได้พูดคำนั้นออกไป

“...” ปลายสายนิ่งเงียบ

“แค่นี่นะ!” แล้วซินก็วางสายพร้อมกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่

ปัก!!

เธอโยนมือถือไปหน้าซูซานที่กำลังหัวเราะแล้วทำตัวโอนเอนอย่างชอบใจ

“ฮ่ะๆๆๆๆๆ อีเชี่ยยยย!!! มึงแม่งฮะว่ะ!”

“ฮาเชี่ยไร มึงปิดเครื่องให้กูที ถ้ามันโทรกลับมามึงไม่ต้องรับนะ ปิดเครื่องเดี๋ยวนี้เลย!”

“เออๆ ปิดอยู่ๆ ฮ่ะๆๆๆ” ซูซานยังคงหัวเราะไม่เลิก

“เชี่ยมึงแม่งได้ว่ะไอ้ซิน เรื่องนี้กูขอเล่าให้อีสองตัวนั้นฟังนะ กูว่างานนี้มีฮาแน่ๆ” ซูซานว่าพลางหยิบมือถือของตัวเองมากอดเข้าแชท

“ตายๆ งานนี้กูต้องตายแน่ๆ กูคงไม่กล้าไปเจอหน้ามันอีกแล้ว”

“ใจเย็นๆ มึงไม่ตายเพราะแค่บอกชอบผู้ชายหรอก”

“เอาเบียร์มาดิ๊”

“ไหนว่าไม่กิน? ไปหยิบเอง อยู่ในตู้เย็น ฝากเอามาให้กูกระป๋องนึงด้วย เดี๋ยวกูรายงานงานหยาบให้สองคนนั้นฟังก่อน”