บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 แอลกอฮอล์ทำพิษ

At Mute Pub&Bar

ซินเดินมานั่งที่โต๊ะหน้าเวทีซึ่งมีเพื่อนๆ นั่งอยู่กันครบ เว้นแต่ขุนเขาที่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น เธอรู้ในทันทีว่าเขาคงไม่มาแล้ว รู้โดยไม่ต้องถามใครทั้งนั้นว่าไม่พ้นเขากลับไปคบกับมินตรา

“เชี่ยขุนเบี้ยว” ร็อกเก็ตเอ่ยขึ้นขณะที่โอบไล่เชลโล่แล้วล็อคคอเรียวเล็กไปกดปากจูบที่ผิวแก้มแดงฉ่ำของเธอเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของต่อหลายสาบตาที่มองมา

“ร็อก... อย่าทำแบบนี้ต่อหน้าเพื่อน” เชลโล่ยิ้มเขิน ไม่รู้ว่าการชายหนุ่มไม่พอใจกับการแต่งตัวแสนโชว์เนื้อหนังของเธอในคืนนี้นัก

“ทำไมอ่ะ จูบเมียผิดเหรอวะ?” ร็อกเก็ตจะแข็งกระด้างขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อเหล้าเข้าปาก

“อย่าเริ่มนะ เค้าไม่อยากทะเลาะด้วย” เชลโล่เริ่มทำหน้าบูดบึ้ง

“นี่ไง! กูรู้แล้วทำไมมันเบี้ยว” ว่าแล้วยีนส์ก็โยนมือถือของตัวเองที่เปิดไอจีของมินตราลงบนโต๊ะ

“มันกลับไปคบกันเหรอวะ?!” ซูซานเลิกคิ้วถามก่อนจะหันไปมองซินที่มองภาพนั้นด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

“สัด! ไอ้เชี่ยนี่แม่งเลวกูบอกแล้ว!” เยลลี่สบถคำหยางคายออกมาขณะที่มองซิน อย่างนึกเป็นห่วงความรู้สึกเพื่อน

“ปากเก่ง สงสัยอยากโดนดูดปากนะมึงอ่ะ” เสือหยิบแก้วเหล้าขึ้นดื่มก่อนจะแสยะยิ้มมองเยลลี่

“เสือก!” คนปากดีถลึงตาใส่คนกวนประสาท

“มึงสองคนเลิกทะเลาะกันสักทีดิ๊ ตอนนี้กูอยากรู้ว่าไอ้เชี่ยขุนมันกลับไปคบกับมินหรืออีมั่นหน้านี่แม่งอารูปเก่ามาลง” ซูซานเอ่ยเสียงดัง

“มึงจะอยากรู้เรื่องคนอื่นไปทำไม เอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อนไหม งานอาจารย์แก้วที่ส่งไปคัลเลอร์เกรดสีอ่ะ เสร็จหรือยัง กูบอกให้ตามหลายรอบแล้วนะ” ยีนส์มองหน้าซูซาน สองคนนี้จะทะเลาะกันเรื่องงานอยู่ตลอด

“นี่มันเวลาแดกเบียร์ มึงจะเอาเรื่องงานพูดเพื่อ?” ซูซานทำหน้าเบ้ใส่ยีนส์

“เดี๋ยวกูโทรเอง กูก็อยากรู้เหมือนกัน” ว่าแล้วร็อกเก็ตก็ยกมือถือขึ้นมากดโทรออกหาขุนเขา ไม่นานปลายสายก็รับ

“มึงเบี้ยวเหรอไอ้สาดดด”

“เออ... ตกลงยังไง กูเห็นไอจีมิน”

“เชี่ย อีกแล้วเหรอวะ เออๆ ยังไงก็ช่าง แต่คืนนี้มึงจะเบี้ยวไม่ได้ กูเสียตังจองโต๊ะแล้วต้องมาให้ครบ”

“โอเคๆ”

ทุกคนบนโต๊ะจับจ้องไปที่ร็อกเก็ตเป็นตาเดียวเมื่อเขาวางสายจากขุนเขา แต่เมื่อสามหนุ่มสบตากัน พวกเขาก็รู้ได้ในทันทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น

“เหมือนเดิม” ร็อกเก็ตเอ่ยด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

“อะไรเหมือนเดิม” เยลลี่เลิกคิ้วถาม

“ไม่เสือกดิ ถ้าไม่อยากโดน...” เสือเลียลิ้นแดงฉานรอบริมฝีปากของตัวเองขณะที่พูดกับเยลลี่

“มึงเป็นเชี่ยอะไรกับกูนักวะ น่ารำคาญชิบหายเลย!” เยลลี่ยกแก้วเบียร์ขึ้นกระดกจนหมด เธอคว้ากระเป๋าแล้วลุกออกไปจากโต๊ะอย่างไม่สบอารมณ์และไม่คิดจะบอกเพื่อนว่าเธอจะกลับ เพราะรำคาญเสือ

“ตามดิครับ รออะไร” ร็อกเก็ตยักคิ้วแล้วยิ้มมีเลศนัยให้เสือ และไม่รอช้าเสือยกยิ้มแล้วตามเยลลี่ออกไปทันที

“หึ! ตามกันเป็นหนังอินเดียเลยมึง” ยีนส์นึกแล้วขำ

“แต่กูก็อยากรู้นะว่าเหมือนเดิมคืออะไร พวกมึงไม่คิดจะเล่าจริงดิ” ซูซานหรี่ตาจับผิดสองหนุ่มที่ยังนั่งอยู่

“มึงไม่ต้องรู้หรอก มันไม่ใช่เรื่องที่พวกมึงต้องเสือกว่ะซาน” ร็อกเก็ตว่า

“แต่เค้าก็อยากรู้นะร็อก” เชลโล่ทำเสียงออดอ้อนแฟนหนุ่ม

“พวกมึงเลิกถามสักที! รู้ไปแล้วมันได้อะไรวะ! แม่งจะกลับไปคบกันหรือจะตายห่าที่ไหนก็เรื่องของแม่งเหอะ!” ซินที่นั่งเงียบอยู่นานตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวก่อนจะกระดกเหล้าแล้วตามด้วยเบียร์จนหมดขวด

“เชี่ย... แม่มาว่ะ แดกเหล้าตามด้วยเบียร์ กลัวไม่เมาเหรอวะซิน” ร็อกเก็ตที่ไม่รู้เรื่องราวยกยิ้มชอบใจ

“ร็อก!” เชลโล่แอบหยิกแขนแฟนหนุ่มเพื่อส่งสัญญาณให้เขาหยุดพูด

“โอ๊ย! ที่รักหยิกเค้าทำไมเนี่ย?!”

การแสดงออกของซินทำให้ยีนส์ผู้ที่มักจะสังเกตอยู่เสมอยกยิ้มขึ้นมา เขาคิดว่าเขาเดาไม่ผิดแน่ว่าซินไม่พอใจที่ขุนเขากลับไปคบกับมินตรา แต่มันเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วย เลยทำนิ่งไว้

“มึงไหวป่ะเนี่ย” ซูซานเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าซินเริ่มทำตัวอ่อนเพราะความเมามาย เนื่องจากเธอดื่มเบียร์สลับกับเหล้าไปแล้วหลายแก้ว

“ไหวดิ... กูไม่เมาหรอก” ซินยกยิ้มแสนเศร้าหมองไปให้เพื่อน

“มันเมา เห็นยิ้มแบบนั้กูรู้เลย” เชลโล่เอ่ยบอกซูซาน

“เออ เดี๋ยวกูดูมันเอง” ซูซานตอบเชลโล่แล้วหันกลับมามองซินด้วยสายตาเป็นห่วง

“เชี่ยขุนมาโน่นแล้ว” ยีนส์หันไปเห็นขุนเขาที่กำลังเดินเข้ามาก็โบกมือเรียกเพื่อน

“ไอ้เสืออ่ะ” ขุนเขาเอ่ยถามเมื่อเข้ามานั่งที่โต๊ะ สายตาจับจ้องที่ซินซึ่งนั่งโยกหัวไปตามเสียงเพลงแสดงอาการเมาออกมาอย่างชัดเจน

“กลับไปแล้วมั๊ง” ยีนส์ว่า

“แล้วเยลลี่ไม่มาเหรอ” ขุนเขายังคงถามต่อ ทำเหมือนว่าเขาไม่ได้สนใจซิน ทั้งๆ ที่สาวตายังมองหญิงสาวอยู่ และมีเพียงยีนส์เท่านั้นที่ดูออกถึงท่าทีนั้น

“กลับไปแล้วเหมือนกัน”

“นี่กูมาช้าหรือพวกมันอยากกลับไปสานต่อความหลังกันวะ” ขุนเขาแสร้งยกยิ้ม

“มึงมาช้า! เพราะมึงอ่ะ! มัวแต่ไปอยู่กับเมียมึงไง!” ซินเงยหน้าขึ้นมาเอาแขนขึ้นเท้าคางแล้วยกมืออีกข้างเอาแก้วเหล้ามากระดกดื่ม

“เมาแล้วใช่ไหมเนี่ย?” ขุนเขามองซินแล้วถามขึ้น

“เสือก! บอกมา! มึงกลับไปคบกับมินแล้วใช่ไหมล่ะ! เชี่ยขุน!!! มึงแม่งเชี่ยยยยยว่ะ!” คนเมาลากเสียงยืดยาว

“พอก่อน... อีซิน อย่าลั่นกูขอ” ซูซานรีบห้ามเพื่อน

“มึงไม่ต้อง! กูรู้ตัวว่าทำเชี่ยไรอยู่! ไอ้ขุน... มึงตามกูออกมาคุย!” ว่าแล้วซินก็ลุกขึ้นอย่างซวนเซ มือเล็กกระชากคอเสื้อของชายหนุ่มให้เดินตามเธอออกไปที่โซนสูบหรี่ด้านนอกร้าน

“กูตามมันออกไปดี...” ซูซานหันมาบอกเชลโล่ แต่ก็ไม่ทันได้พูดจบประโยคก็ต้องเงียบลงทันควัน เพราะภาพที่เธอเห็นคือร็อกเก็ตที่กำลังประคองใบหน้าเชลโล่มาประกบปากจูบอย่างดุเดือด โดยไม่สนใจว่าเพื่อนนั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย

“เชี่ยไรวะเนี่ย!” ซูซานอึ้งกับสิ่งที่เห็น

“หึ! มึงยังไม่ชินอีกเหรอ”

“ไม่ชินอ่ะ เดี๋ยวกูไปดูไอ้ซินก่อน” หญิงสาวทำท่าจะลุกออกจากโต๊ะ แต่อยู่ๆ ยีนส์ก็คว้าแขนเธอไว้ จนทำให้เธอตกใจรีบสะบัดแขนออกจากมือเขาอย่างรวดเร็ว

“ไม่ต้องตามไปหรอก มึงไม่ต้องอยู่ด้วยทุกสถานการณ์ก็ได้”

“จับตัวกูทำไม!”

“โทษที กูลืมไปว่ามึงไม่ชอบให้ผู้ชายโดนตัวเพราะมึงเป็นเลสเบี้ยน” ยีนส์ยกยิ้มมองซูซานไม่วางตา

“เลสเบี้ยนพ่อง กูไม่ชอบผู้ชายก็ไม่ได้หมายความว่าชอบผู้หญิงปะวะ”

“ยังไม่เคยลองเลย มึงรู้ได้ยังไงว่าไม่ชอบ” เขาหรี่ตามองหญิงสาว

“ของแบบนี้ไม่ต้องลองก็รู้ มึงดูรอบข้างเราสิ มีคู่ไหนปกติบ้าง!”

“ก็จริงของมึงนะ... เพราะงั้นอย่าคิดชอบกูเด็ดขาด กูไม่นิยมคนกันเองว่ะ”

“เหอะ! เห็นนิ่งๆ ก็หลงตัวเองใช้ได้นะมึงอ่ะ กูก็ไม่เน้นเพื่อนเหมือนกัน ไม่ใช่ดิ... กูไม่สนความรักว่ะ” ซูซานทำหน้าเบ้ใส่ยีนส์ก่อนจะหยิบแก้วเบียร์ขึ้นมาดื่ม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel