บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 เพื่อน...

At University

ซินขับรถเข้ามาจอดที่ลานจอดรถหลังตึกนิเทศศาสตร์ เธอลงจากรถก่อนจะมองเห็นไกลว่ามีมอเตอร์ไซค์ของใครบางคนกำลังขับเข้ามาหาเธอ

เอี๊ยด!

เสียงเบรกดังขึ้นก่อนที่ขุนเขาจะถอดหมวกกันน๊อคออกมาพร้อมรอยยิ้มทรงเสน่ห์ที่ใครได้เห็นก็ต้องใจเต้นแรง เพราะดาเมจอันรุนแรงที่เขาฟาดใส่

“ไปแดกข้าวกัน” เขาเอ่ยขึ้น

“กูกินแล้ว อีกครึ่งชั่วโมงก็ถึงเวลาเรียนแล้ว มึงยังจะกินอีกเหรอ” ซินพยายามกดอาการใจเต้นแรงของเธอให้ลึกสุดใจ

“อย่าหืออือดิ๊! ขึ้นรถมา! ไม่งั้นกูจับปล้ำนะ!” ขุนเขาว่าพลางคว้าแขนซินแล้วดึงเข้ามาใกล้

“ปล้ำพ่อง! อย่ามาทะลึ่งนะไอ้ขุน!” คนถูกคุกคามแก้มแดงออกมาด้วยความเขินอาย

“เขินทำไม?” ชายหนุ่มยิ้มถาม

“ใครเขิน?!”

“มึงไง... เขินกูอ่ะ ชอบดิที่กูบอกจะปล้ำอ่ะ” เขาหรี่ตามองหญิงสาวอย่ารู้ทัน ก่อนจะยัดหมวกกันน๊อคไปสวมให้เธอ

“อื้อ! กูบอกไม่ไปไง!”

“ต้องไป! กูไม่ชอบกินข้าวคนเดียว”

“แล้วเพื่อนมึงอ่ะ? ทำไมไม่ชวนเพื่อนมึงไปวะ”

“ก็มึงไงเพื่อนกู... ขึ้นรถ ไม่งั้นกูปล้ำมึงจริงๆ นะซิน”

สุดท้ายหญิงสาวก็จำยอมต้องขึ้นไปนั่งซ้อนท้ายดูคาติของขุนเขา ไม่ใช่ว่าเธอกลัวเขาจะปล้ำ แต่เพราะคำว่าเพื่อนมันทำให้เธอพูดไม่ออก... ใช่ เธอเป็นแค่เพื่อน เพื่อนที่เพิ่งบอกว่าชอบเขาไป

ด้วยความที่ขุนเขาคือหนึ่งในกลุ่มชายสี่ที่ทรงเสน่ห์อันดับต้นๆ ของมหาวิทยาลัย จึงไม่แปลกเลยสักนิดที่เวลาเขาไปไหนมาไหนก็จะมีสาวน้อยใหญ่จับตามองเขา ต่างกับซิน... เธอไม่ได้ดังเหมือนขุนเขา แต่เธอก็เป็นที่รู้จักเพราะเป็นเพื่อนกับสาวสวยคนดังอย่างเยลลี่

“เดี่ยวนี้กูเห็นพี่ขุนอยู่กับพี่คนนี้บ่อยมาก เขาชื่อไรนะ” เสียงกระซิบกระซาบดังมาจากโต๊ะด้านหลังจนซินได้ยิน

“ชื่อซิน เพื่อนพี่เยลลี่ไง”

“เออ... นั่นแหละ เขากับกันเหรอวะ พี่ขุนเพิ่งเลิกกับมินเองไม่ใช่เหรอวะ”

“คบไหมไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ได้กันแล้วชัวร์ ไม่งั้นคงไม่ได้มานั่งกินข้าวกันหรอก”

“เชี่ย! กูอยากพลีกายให้พี่ขุนบ้าง ขอสักครั้งแล้วกูจะตั้งใจเรียนเลย”

ซินถอนหายใจออกมาก่อนจะยกมือขึ้นกอดอกแล้วทิ้งตังพิงพนักเก้าอี้ สายตาของเธอจับจ้องไปยังขุนเขาที่อยู่ตรงหน้า อยากรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ อยากรู้ว่าเขาได้ยินที่รุ่นน้องกลุ่มนั้นคุยกันไหม ทำไมเขาถึงเอาแต่นิ่งเงียบแบบนั้น

“มึงกินไร” ขุนเขาเงยหน้าขึ้นมาจากเมนูอาหารแล้วถามหญิงสาว

“หึ” เธอส่ายหน้าเป็นคำตอบ

“ต้องกิน ผอมจะตายห่าอยู่แล้ว หัดกินๆ เข้าไปบ้าง” เขาทำเสียงเข้ม

“ก็กูไม่หิว มึงบังคับให้กูมาเป็นเพื่อนแล้วยังจะมาสั่งให้กูกินอีกเหรอวะ?”

“เร็ว ไม่งั้นกูไม่พาไปรอบเพลสหนังพี่แฟรงค์นะ” ขุนเขายกยิ้มขณะที่หยิบตั๋วหนังรอบเพลสขึ้นมา

“ขุน! มึงได้มาแล้วเหรอ มี Q&A ด้วยป่ะ?” ซินทำหน้าตาตื่นเต้น เมื่อถามถึงการถามตอบช่วงท้ายหลังจากดูหนังรอบสื่อเสร็จ

“มีดิ... ถ้ามึงอยากไป ก็สั่งอาหารซะ ไม่งั้นก็อด” ขุนเขาดันเมนูอาหารตรงหน้ามาให้ซิน

“เอาเฟรนช์ฟรายด์ก็ได้” ซินสั่งโดยไม่ได้เปิดเมนู

“สั่งข้าวดิ เฟรนช์ฟรายด์กินไม่อิ่มแล้วก็ไม่มีประโยชน์ อย่าดื้อ... ไม่งั้นกูเอาตั๋วนี่ทิ้งแน่” เขาขู่เพราะรู้ว่าซินชอบผู้กกับที่เป็นรุ่นพี่สถาบันเดียวกันคนนี้มาก

“งั้นเอาแบบมึงอ่ะ มึงกินอะไรกูเอาแบบนั้นเลย”

“พี่ครับ” ขุนเขาโบกมือเรียกพนักงาน

“รับอะไรดีครับ”

“ผมขอข้าวไข่ข้นต้มยำกุ้งสองที่ครับ”

“ถามจริง...” ซินมองหน้าขุนเขาแล้วเอ่ยขึ้นมา เธออยากถามเขาอยู่คำถามหนึ่ง แต่ก็กล้าๆ กลัวๆ ที่จะถามออกมา

“ถามจริงอะไร?” เขาทวนคำถามของเธอขณะที่ก้มหน้าเล่นมือถือ

“มึง... มึง... เชี่ย! ช่างแม่งเหอะ!” ซินบอกปัดอย่างร้อนใจ เธอไม่กล้าถามเพราะกลัวจะรับคำตอบของเขาไม่ได้

“อะไรของมึง อยากรู้อะไรก็ถามมา” คราวนี้เขาเลิกสนใจหน้าจอมือถือแล้วเงยหน้าขึ้นมามองหญิงสาวด้วยรอยยิ้มที่เดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไร

มึงคิดยังไงกับกู? นั่นคือคำถามที่ซินอยากจะถามขุนเขา แต่เธอไม่กล้า เธอจึงเลือกที่จะสร้างคำถามโง่ๆ ออกไปโดยไม่ทันคิดไตร่ตรองให้ดี

“มึงเลิกกันน้องมินทำไม” ซินถามถึงมินตรา รุ่นน้องต่างสาขาที่คบกันขุนเขาก่อนหน้านี้

“หึ!” เขาแสยะยิ้มออกมา

“ถ้าไม่อยากตอบไม่เป็นไรนะ”

“มึงไม่ได้อยากรู้เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถาม ในตอนนั้นอาหารสองจานก็ถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะ

“กูอยากรู้ แต่ถ้ามันไม่อยากตอบกูก็เข้าใจ” ซินแสร้งทำเหมือนว่าเธออยากรู้

“มินแม่งงี่เง่า กูเบื่อ” เขาตอบออกมาสั้นๆ

“ผู้หญิงแม่งก็งี่เง่าทุกคนปะวะ?”

“แต่มึงไม่งี่เง่านะ”

คำตอบของขุนเขาทำเอาซินถึงกับนิ่งไป เธอหลบสายตาที่มีพลังทำลายล้างสูงของเขาแล้วตักข้าวเข้าปากด้วยท่าทางเก้กัง

“ทำไม... เขินเหรอที่กูบอกว่ามึงไม่งี่เง่า” เขายกยิ้มถาม

“หน้ากูเหมือนเขินอยู่เหรอวะ” ซินรีบทำหน้าให้ปกติที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้

“แก้มมึงแดงอ่ะ”

“กูปัดแก้มมา”

“มึงไม่ได้แต่งหน้า”

“กูแต่ง มึงจะมารู้ดีกว่าตัวกูได้ไง”

“นี่ไง... มึงไม่ได้แต่ง ไม่มีสีติดมือกูเลย” ขุนเขาเอ่ยบอกขณะที่ยื่นมือไปสัมผัสแก้มแดงของซินแล้วแบให้เธอดูว่าเขารู้ว่าเธอไม่ได้แต่งหน้า

หญิงสาวนิ่งไปถนัดตาอีกครั้ง แก้มที่แดงอยู่แล้วค่อยๆ แดงขึ้นเรื่อยๆ เพราะการกระทำของเขา หัวใจส่งเสียงตึกตักจนเธอแทบทนไม่ไหว

“เชี่ย! เลยเวลาเข้าเรียนแล้วเนี่ย! รีบกินเหอะ!” ซินรีบปลี่ยนเรื่องทันควัน เพื่อกลบเกลื่อนความขวยเขินของตัวเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel