บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เมื่อคืนที่บอกว่าชอบกู มึงพูดจริงหรือแค่เมา?

สวยสุดในโลกหล้า (4)

Susan : พวกมึง กูมีเรื่องฮาๆ มาเล่าว่ะ

Cello : เรื่องไรวะ ดึกดื่นป่านนี้แล้ว

Jelly : กูอยู่ลานเบียร์ ออกมาดิ

Cello : เอ้า อีเยลลี่แดกเบียร์ไม่ชวนเพื่อน

Jelly : กูชวนแล้วมึงบอกไปกินข้าวกับผัวไงอีเวร

Susan : เดี๋ยวๆ อย่าเพิ่งกัดกัน กูมีเรื่องมาเล่าไงเพื่อน จะฟังกูกันไหมอีพวกแรด

Jelly : รออีนี่ @Sin ก่อนป่ะ

Susan : มันปิดเครื่องหนีไปแล้ว ที่จะเล่าก็เรื่องมันนี่แหละ

Cello : มีไรวะ

Jelly : มึงนี่ถามเก่งเนอะอีเชลโล่ รอไอ้ซานมันเล่าไหมล่ะ

Cello : เอ้า มึงก็ขัดเก่งเหมือนกันแหละอีเยล ชาติก่อนเป็นคนใช้เหรออีหลอกดูก

Susan : พอ! จบ! พวกมึงเลิกกัดกันแล้วฟังกู! อีซินมันชอบไอ้เชี่ยขุน แล้วมันก็เพิ่งสารภาพไปเมื่อกี้ แล้วตอนนี้มันก็กำลังเป็นบ้า นอนกระดกเบียร์กระป๋องอยู่ที่ห้องกูเนี่ย

Cello : ชิท!

Jelly : ฟัค! เชี่ยเอ้ย! เสียเชิงชิบหาย อีซาน มึงปล่อยให้เพื่อนเราทำเรื่องน่าอายแบบนี้ได้ไง บอกชอบผู้ชายก่อนแม่งโครตเสียเชิงเลย

Cello : เอ้าอีเยล กูก็บอกชอบผู้ชายก่อน ไม่เห็นจะน่าอายตรงไหนเลย สุดท้ายผู้ชายก็ขอกูคบอยู่ดี

Susan : กูบอกให้มันทำเองอ่ะ ก็เพื่อนมันไม่เคย กูก็เลยสอนมันสักหน่อย ไอ้เชี่ยขุนก็สนิทกับอยู่ เผลอๆ มันอาจจะได้คบกันก็ได้

Cello : ได้ข่าวว่ามันก็โสดตั้งแต่เกิดพอๆ กับซินเลยอีซาน

Jelly : นั่นดิ เสียรมย์ เป็นกูหน่อยไม่ได้ ไอ้เชี่ยขุนนั่นแหละที่ต้องคลานเข่ามาบอกชอบเพื่อนเราเอง

Cello : จ่ะ แม่คนสวย เก่งนักเรื่องปั่นหัวผู้ชาย ว่าแต่อีซินมันชอบขุนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ

Susan : มันบอกกูว่าตั้งแต่ปีหนึ่ง ก็ที่พวกเราเคยสงสัยว่าเหมือนมันชอบใครสักคนในรุ่นเราอ่ะ สุดท้ายเป็นเชี่ยขุนคนใกล้ตัวเลย

Jelly : บัดซบมาก! มึงรู้แค่นี้ก็บอกให้มันไปบอกชอบเลยเนี่ยนะ เวรเอ้ย! แล้วนี่ซินมันเป็นไงบ้าง แล้วเชี่ยขุนตอบว่าไง

Cello : พวกมึง เดี๋ยวกูตามอ่านนะ ผัวโทรมา

Jelly : เชลโล่ ไม่ต้องเสือกไปเล่าให้ผัวมึงฟังล่ะ แม่งยิ่งเป็นเพื่อนกันอยู่ด้วย

Cello : จ่ะแม่ รู้แล้วรู้แม่

Susan : มันนอนกอดกระป๋องเบียร์อยู่ ไม่ได้ร้องไห้นะ แต่เหมือนจะช็อคๆ ว่ะ ไอ้ขุนมันยังไม่ทันตอบอะไรหรอก เพราะอีซินวางสายก่อน กูว่าฝั่งโน้นก็ช็อคไม่ต่างกันหรอก 55555

Jelly : มีหน้ามาหัวเราะนะมึงอ่ะ เห้ยๆ ไอ้เชี่ยขุนมาลานเบียร์ว่ะ

Susan : ใช่เหรอวะ ไหนแม่งบอกนอนไง ตอแหลเพื่อนกูเหรอไอ้สาดดด

Jelly : Sent Photo เดี๋ยวกูไปสืบให้ พรุ่งนี้เช้ารู้เรื่องแน่พวกมึง

Susan : โอเค เดี๋ยวกูเข้าไปดูไอ้ซินหน่อย

ซูซานเดินเข้าไปหยุดยืนมองซินที่กำลังนอนมองเพดานห้องในดวงตาเหม่อลอย หญิงสาวกอดอกมองเพื่อนก่อนถอนหายใจออกมา

“กูถึงได้ไม่เสียเวลาไปรักไปชอบใคร ดูมึงสิ... ทำหน้าเหมือนหมดอาลัยตายอยากสุดๆ”

“กูไม่น่าเลย... ไม่น่าไปบอกชอบมันเลย เพราะมึงเลยไอ้ซาน มึงยุกูอ่ะ!”

“เอ้าโทษกูอีก!”

“เออ เพราะมึงนั่นแหละที่เอามือถือกูโทรหามันอ่ะ โอ๊ย! กูคงไม่กล้าไปเจอมันอีกแล้ว!” ซินพลิกตัวไปมาดิ้นพล่านเหมือนคนเป็นบ้า

“โอ๊ยอีบ้านี่! มันยังไม่ทันได้พูดอะไรเลย มึงยังไม่โดนมัยปฏิเสธสักหน่อย จะกลัวเชี่ยไรไปถึงไหนเนี่ย!” ซูซานส่ายหน้าไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะกระดกเบียร์กระป๋องในมือ

“รอข่าวจากอีเยลลี่เอาแล้วกัน มันบอกว่าไอ้ขุนไปที่ลานเบียร์เมื่อกี้ กูว่ามันก็คงว้าวุ่นอยู่ไม่น้อยหรอก”

“จริงเหรอ?!”

At Beer Courtyard

เยลลี่ยกแก้วเบียร์ของตัวเองไปนั่งที่โต๊ะของเพื่อนในสาขา ซึ่งเป็นโต๊ะที่ขุนเขาเพิ่งเดินเข้ามานั่งได้เพียงชั่วครู่ หญิงสาวยิ้มหวานส่งสายตาอ้อร้อให้เพื่อนๆ ก่อนจะหยุดลงที่ขุนเขา เป้าหมายของเธอ

“เยลลี่ เพื่อนไปไหนหมด ทำไมมาคนเดียววะ” ดนัย เพื่อนคนหนึ่งในสาขาเอ่ยถาม

“เพื่อนกูเหรอ? มึงถามถึงคนไหนอ่ะดนัย ถ้าไอ้ซานมันอยู่คอนโด สายนั้นไม่ชอบนั่งแดกเบียร์กับคนอื่น ส่วนเชลโล่ มันไม่ออกไปไหนหรอกถ้าผัวมันไม่ไปด้วย แต่ถ้าเป็นอีซิน...” เยลลี่ลากเสียงยาวปรายสายตามองขุนเขาที่กำลังยิ้มคุยกับเพื่อนคนอื่นอยู่ที่นั่งตรงข้าม

“เออ ซินอ่ะ ปกติมันชอบมาลานเบียร์กับมึงนี่” ดนัยเอ่ยถาม

“นั่นดิ ไม่รู้ป่านนี้มันทำอะไรอยู่เหมือนกัน หรือกูจะโทรชวนมันมาดีวะ ดีไหมไอ้ขุน” เยลลี่เลิกคิ้วถามชายหนุ่ม

“ถามกูทำไม เพื่อนมึงไม่ใช่เหรอ?” ขุนเขาตอบกลับเสียงเรียบก่อนจะฉีกยิ้มกวนประสาทใส่เยลลี่

“พูดเหมือนว่าอีซินไม่ใช่เพื่อนมึงด้วยงั้นแหละ” จะต่อปากต่อคำกับใครก็ได้ แต่จะมาลองดีกับเยลลี่เจ้าแม่ปั่นประสาทไม่ได้!

“มึงจะมาล้วงเอาอะไร คิดว่ารู้ไม่ทันเหรอเยลลี่” ขุนเขาหรี่ตามองเยลลี่

“อะไร มึงร้อนตัวหรือเปล่า? หรือร้อนใจ อยู่ๆ ก็มาลานเบียร์ตอนตีสองแบบนี้?” เยลลี่ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ

“ปากดีเหรอ? เดี๋ยวกูก็เรียกไอ้เสือออกมาเลย” ขุนเขาชิงขู่เยลลี่ เพราะรู้ว่าหญิงสาวตรงหน้ากล้ากับผู้ชายทุกคน ยกเว้นกับเสือ เพื่อนกลุ่มเดียวกับเขา

“เชี่ย! แน่จริงอย่าเอาเพื่อนมาขู่ดิ!” เยลลี่เชิดหน้าท้าทาย

“พวกมึงสองคนทะเลาะเชี่ยไรกันวะ คุยกันดีๆ ดิ เพื่อนกันทั้งนั้นอ่ะ” ดนัยส่ายหน้ามองเยลลี่กับขุนเขา

“กูไม่ได้ทะเลาะ แต่แค่อยากเช็คหน่อยว่าคนแถวนี้แม่งขี้อ่อยจริงหรือเปล่า?” เยลลี่เหยียดยิ้ม

“ใครขี้อ่อยวะ”

“มึงก็น่าจะรู้นะดนัย ใครที่แม่งชอบทำให้สาวตกหลุมรัก พอได้แล้วก็ทิ้ง อ่อยเรี่ยราดแบบนี้ในสาขาเขาแม่งมีอยู่คนเดียว” เยลลี่ว่าด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าปกติ

“ฮัลโหล ไอ้เสือเหรอ? กูอยู่ลานเบียร์หลังมออ่ะ มึงออกมาดิ... เยลลี่ก็อยู่ด้วย!” ขุนเขาเอามือถือขึ้นมาแนบหูแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปนรอยยิ้ม

“เชี่ยขุน!”

“อย่ากวนตีนกูให้มากเยลลี่ ไม่งั้นกูจัดส่งมึงให้ไอ้เสือถึงที่แน่!” พูดจบขุนเขาก็ยกแก้วเบียร์ขึ้นกระดกจนหมดแล้วลุกออกไปจากตรงนั้นทันที

“ไอ้เชี่ยขุน!!!” และเยลลี่ก็ทำได้แต่ตะโกนด่าไล่หลังเขาเท่านั้น

At Sin’ s Home

ซินงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะแสงจากดวงอาทิตย์ที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาถึงในห้องนอน หญิงสาวมองนาฬิกาที่โต๊ะหัวเตียงพอเห็นว่าเป็นเวลาสิบโมงก็รีบเด้งตัวลุกขึ้น คว้ามือถือมากดเปิดเครื่องจากนั้นก็ลุกไปเข้าห้องน้ำ

พออาบน้ำแต่งตัวเสร็จซินเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงหยิบมือถือขึ้นมาดู พอได้เห็นข้อความจากสายที่ได้รับหญิงสาวก็ใจเต้นแรงถี่ขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่จะนึกได้ว่าเมื่อคืนเธอทำอะไรลงไป

“ชิบหาย ขุนโทรมาตั้งสิบสาย” หญิงสาวบ่นพรึมพรำกับตัวเอง ก่อนจะโทรกลับไปหาชายหนุ่ม รอสายอยู่ไม่นานเขาก็รับ

“ฮัลโหล”

“ทำไมมึงไม่รับสายกูเลยวะ แล้วเมื่อคืนปิดเครื่องทำไม ตั้งใจจะหนีกูเหรอวะ” เขาร่ายชุดใหญ่ใส่ซินทันที

“เอ่อ... มือถือ กูแบตหมด” เธอโกหก

“แบตหมดแล้วทำไมไม่ชาร์ต”

“เออน่ะ! แล้วมึง... โทรหากูมีอะไร...” ถึงแม้จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ลึกๆ แล้วเธอคาดหวังมากมายหลายสิ่งจากเขา

“เมื่อคืนที่มึงบอกว่าชอบกู พูดจริงหรือแค่เมา?”

ตึกตัก! ตึกตัก!

เสียงจังหวะการเต้นของหัวใจดังขึ้นมาจนหญิงสาวได้ยินมันอย่างชัดเจน เธอกัดปาก หลับตาและใช้ความคิดว่าจะตอบคำถามนั้นว่ายังไงดี

“ทำไมอ่ะ ถ้ากูพูดจริงไม่ได้เมา มันจะมีอะไรเกิดขึ้น?”

“ป่าว กูแค่จะบอกว่า...” ขุนเขาเว้นช่องว่างไม่ยอมพูดต่อให้จบ

“ว่า?” ซินรอแทบไม่ไหว ที่จะได้ยินประโยคต่อไปของเขา

“ไปกินข้าวกัน กูหิว”

“ไม่! กูไม่หิว แล้วกูก็ไม่ว่างด้วย มีเรียน!”

“ก็เรียนคลาสเดียวกันอ่ะ ไปกินข้าวกัน แล้วค่อยเข้าเรียน” เขาทำเสียงยืนยานใส่เธอ

“ก็บอกว่าไม่เอาไง แค่นี้นะ กูจะออกไปเรียนแล้ว” ว่าแล้วซินก็กดตัดสายนั้นทิ้ง หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ นี่มันอะไรกัน... เขาไม่ได้ปฏิเสธเธอ แต่ก็ไม่ได้ยอมรับการสารภาพ เขาแค่ชวนเธอไปกินข้าวมันหมายความว่ายังไงกันแน่?!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel