บท
ตั้งค่า

4 จูบ

ตามหน้าที่ ฉันต้องเข้าไปช่วยน้องกินข้าวที่พวกเขากินไม่หมด ฉันทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าอย่างไม่ได้มองว่าจะต้องช่วยใครกิน

“มาพี่ช่วย” ฉันดึงเอากล่องข้าวมาจากมือน้องแล้วตักมันเข้าปาก

“แต่ผมยังไม่อิ่มเลยนะ”

ฉันมองคนตรงหน้า จึงได้เห็นว่าเขาคือพายุ คนที่เพิ่งทำฉันหน้าแตกไป เขามองหน้าฉันสลับกับกล่องข้าวในมือ นี่ฉันทำอะไร! แย่งน้องกินเข้าวงั้นเหรอ!

“พี่ขอโทษนะ” ฉันยิ้มเจื่อนๆแล้วเอากล่องข้าวคืนให้น้อง

“พี่คงหิวนะครับ” เขาไม่รับกล่องข้าวแถมยังดันให้ฉันกิน

“ไม่หิวสักหน่อย” ฉันโกหก แล้วเขาก็ยิ้มออกมาอีกครั้ง

“ปีสองปล่อยน้องกลับบ้านได้แล้วไป จะสองทุ่มแล้ว” พี่คินพูดขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินเข้ามาหาฉัน

“หอม… ทำไมใส่กระโปรงเข้ารับน้องล่ะ” เขาถาม

“คือหอมลืมเอากางเกงมาน่ะค่ะ” ฉันยิ้มตอบ

ในระหว่างที่ฉันกำคุยอยู่กับพี่คิน น้องปีหนึ่งก็ถูกพี่ปีสองจัดแถวพาเดินออกไปเพื่อปล่อยกลับบ้าน ในตอนนั้นจุนก็เดินเข้ามาหาฉัน เขาหยุดมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะเดินออกไปอย่างไม่พูดไม่จา… เป็นประจำ เขาไม่เคยทำเหมือนฉันเป็นน้องต่อหน้าคนอื่นหรอก

การไปส่งน้องๆจะถูกแบ่งออกไปหลายทาง หน้ามาลัยสำหรับคนที่กลับรถโดยสาร หอในสำหรับคนพักหอใน ลานจอดรถสำหรับคนที่ขับรถมาเอง การที่พี่ๆต้องไปส่งน้องแบบนี้มันมีที่มานะ ไว้ฉันจะเล่าให้ฟัง

ฉันเดินตามน้องๆมาส่งที่ลานจอดรถลงตึกเรียน พอเห็นว่าน้องๆขึ้นรถของตัวเองจนหมดฉันก็ถอนหายใจออกมา เหนื่อยชะมัด หิวก็หิว อยากนอนจะตายอยู่แล้ว

“พี่น้ำหอมกลับยังไงครับ” เสียงหนึ่งถามขึ้นมา

“พายุ” ฉันเลิกคิ้วมองคนที่ยังไม่ขึ้นรถ

“พี่กลับกับพี่ชายน่ะ” ฉันยิ้มมองเขา

“อ๋อครับ… งั้นผมกลับก่อนนะครับ” พายุเดินผ่านฉันไปขึ้นรถของตัวเอง เขาไม่ได้ยกมือขึ้นไหว้ฉันแต่อย่างใด…

ฉันเดินคอตกกลับมาที่ลานศิลป์ เพื่อนๆกำลังเก็บของโดยมีพี่ปีสามยังอยู่ พวกเขาไม่ได้สนใจเราขนาดนั้น การมาลงวินัยของเขามันเหมือนกิจกรรมแก้เบื่อที่ทำให้พวกเขาได้มารวมตัวกับเพื่อนๆมากกว่า

“กลับกันไปได้แล้วไป! จะนอนนี่กันหรือไง” พี่ต้นไม้ตะโกนบอกพวกเรา ก็ใครล่ะที่ทำให้เป็นแบบนี้!

“กลับ” จุนเดินเข้ามาหาฉันแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ไข่หวานและแพรวพราวหันมองเขาพร้อมรอยยิ้มเพ้อฝันอีกแล้ว

“เค้ายังเก็บของไม่เสร็จเลย” ฉันตอบไปแบบบึ้งตึง

“ให้เวลาห้านาที ถ้ายังไม่มาที่รถก็กลับเอง” จุนทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไป…

Namhom End

Jun’s Part

ผมเดินมาที่ลานจอดรถ ถ้ายัยหน้าม้าแหว่งไม่มาภายในห้านาทีผมจะกลับจริงๆ วันนี้ผมต้องใช้ความพยายามแค่ไหนเธอคงไม่รู้ ผมต้องทนมองยัยบ้านั่นคุยกับรุ่นน้องปีหนึ่งแบบใกล้ชิด แถมยังมายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่ไอ้คินเพื่อนผมอีก มันใช่เรื่องที่ผู้หญิงควรจะทำไหม น่าโมโหที่สุดคือใส่ประโปรงมารับน้อง… คิดได้ยังไง รู้ไหมตอนหมอบเพื่อนผมพูดกันว่าไง… ‘จุนน้องมึงได้ว่ะ… จุนน้องมึงขาสวยฉิบหาย… จุนน้องมึงใส่กางเกงในสีดำ’

แล้วรู้ไหมว่าผมตอบกลับพวกมันไปว่าไง… ผมบอกไปว่าถ้าไม่เลิกมองน้ำหอมผมจะไปตัดสายเบรกรถพ่อแม่พวกมัน เท่านั้นแหละ… ไม่มีใครพูดถึงน้ำหอมอีกเลย

“จุน”

เสียงหวานใสดังมาจากด้านหลังของผม… รู้ดีว่าไม่ใช่น้ำหอมแน่ๆและพอผมหันไปมองก็ได้เห็นอินดี้ เพื่อนในกลุ่มของผมเอง

“ว่าไงอินดี้”

“รอน้ำหอมอยู่เหรอ”

“อืม” ผมตอบพลางควานหาบุหรี่ในกระเป๋ากางเกงขึ้นมากะจะสูบ

“อย่าเพิ่งสูบได้ไหม มีเรื่องจะคุยด้วย” อินดี้เข้ามาดึงบุหรี่ออกจากปากผม

“มีเรื่องอะไรเหรอ”

“จุนรู้ใช่ไหมว่าเรารู้สึกยังไง” อยู่ๆอินดี้ก็ถามคำถามแปลกๆออกมา

“รู้สึกอะไร” ผมถามกลับ

“รู้สึกชอบจุน… เราชอบจุนมากนะแล้วก็คิดว่าจุนก็รู้”

ผมเงียบ… ไม่รู้จะตอบอะไรกับอินดี้ มันไม่ใช่คำถาม แต่เธอแค่กำลังบอกว่าชอบผมเท่านั้น แล้วผมควรจะตอบอะไรดี…

“จะไม่พูดอะไรเลยเหรอ” เธอถามเสียงสั่น

“ไม่มี” ผมตอบกลับไปสั้นๆ

“จุน” อินดี้ยิ้มออกมา ผมไม่แน่ใจเลยว่ารอยยิ้มนั้นหมายความว่ายัง ผมไม่เคยเข้าใจอารมณ์ของผู้หญิงคนไหนทั้งนั้นนอกจากน้ำหอม… คนที่ดูง่ายเสียเหลือเกิน

“งั้นช่วยบอกมาหน่อยได้ไหมว่าจุนรู้สึกยังไงกับเรา”

“เฉยๆ” ผมตอบออกไปความจริง ก็เธอเป็นเพื่อนผมนี่จะให้รู้สึกอย่างอื่นได้ยังไง

“ถ้าอย่างนั้นเราขอจูบได้ไหม เผื่อไอ้คำว่าเฉยๆมันจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น”

ไม่พูดเปล่า… อินดี้โน้มตัวเขย่งเท้าเข้ามาเอาปากแตะริมฝีปากผม ผมไม่ได้ถอยห่างออกจากเธอ… แต่ในตอนนั้นสายตาของผมกำลังประสานกับสายตาที่สั่นเครือคู่หนึ่ง… น้ำหอมกำลังมองมาที่ผม

ผมผลักอินดี้ออกอย่างรวดเร็ว เธอหันไปมองน้ำหอม ก่อนจะหันกลับมากระซิบอะไรบางอย่างกับผมจากนั้นก็เดินออกไป… ผมไม่ได้สนใจอะไรอินดี้ ตอนนี้คนที่ผมสนใจคือน้องสาวที่กำลังยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงหน้า

Jun End

Namhom’s Part

เต็มสองลูกตา… ฉันเห็นจุนจูบพี่อินดี้ด้วยตาของตัวเอง อยู่ๆก็เหมือนจะหายใจไม่ออก อยากจะร้องไห้ให้ได้ อยากจะแหกปากตะโกนว่าพวกเขาจูบกัน! ภายในอกมันแน่นเหมือนมีก้อนแข็งๆมากระจุกอยู่ ที่อยากทำที่สุดตอนนี้คือเอื้อมมือไปเช็ดรอยลิปสติกที่ปากของจุน!

จุนเดินเข้ามาหาฉัน เขาไม่พูดอะไร เอาแต่มองหน้าฉันอยู่แบบนั้น ทำไม! หน้าฉันมีอะไรติดหรือผมแหว่งอีกหรือไง ทำไมถึงเอาแต่จ้องอยู่ได้!

“กลับบ้านกัน” เขาพูดขึ้น

“หน้าไม่อาย!” ฉันจ้องหน้าเขานิ่ง

“อะไรนะ” เขาหันมาถามเหมือนว่าไม่ได้ยิน ทั้งๆที่ฉันก็พูดออกไปเสียงดัง

“หน้าไม่อาย จูบกันต่อหน้าคนอื่น หน้าไม่อาย!” น้ำตาจะไหลออกมาทำไมตอนนี้ ฉันไม่ได้อยากจะร้องสักหน่อย

“ฉันไม่ได้เป็นคนจูบก่อนสักหน่อย” จุนเริ่มหัวเสีย ทุกครั้งที่ฉันร้องไห้เขาจะเริ่มโมโหและทำตัวไม่ถูก

“ไม่สนหรอก จูบกันในที่สาธารณะคือพวกหน้าไม่อาย!” ฉันกัดปากมองเขา ไม่สนใจน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม

“หยุดพูด เช็ดน้ำตาเดี๋ยวนี้เลย” เขาสั่งฉัน

“ไม่! เค้าจะบอกแม่ว่าจุนจูบกับผู้หญิง จะบอกว่าจุนสูบบุหรี่ด้วย จะบอกทุกอย่างเลย!”

“น้ำหอม! มันใช่เรื่องเดียวกันหรือไง บอกให้เช็ดน้ำตาไง!”

“อยากเช็ดก็เช็ดเอาเองสิ!” ฉันตะโกนใส่หน้าเขาอีกครั้ง

ในตอนนั้นเอง… จุนเอื้อมมือมาประคองหน้าฉันไว้… เขาใช้นิ้วโป้งปาดเช็ดน้ำตาให้ฉันอย่างแผ่วเบาแล้วจ้องเข้ามาในดวงตาของฉัน เราสบตากันอยู่นาน… นานพอที่ใจของฉันจะเต้นแรง แรงจนคิดว่าตัวเองต้องเป็นโรคหัวใจแน่ๆ

“จูบกันแสดงว่าชอบกัน… ชุนคบกับพี่อินดี้ใช่ไหม” ฉันถามออกไปขณะที่จุนกำลังประคองหน้าฉันอยู่

“เปล่า” เขาตอบสั้นๆ

“ถ้าไม่ชอบ ไม่ได้คบแล้วจะจูบกันได้ยังไง”

“ไม่รู้”

“แล้ว… อุ๊ปส์!”

ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดอะไรต่อ จุนก้มลงมาประกบปากฉันเอาไว้… ฉันถลึงตาโตออกย่างตกใจ เขากำลังจูบฉันและกำลังพยายามดันลิ้นเข้ามา… ไม่นะ! เราจูบกันไม่ได้!

Namhom End

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel