บทที่ 5 สวัสดีสหายบั๊ก
"ชายหนุ่มตรงหน้าเห็นสายฟ้ามองเขาอย่างฉงนและไม่มีทีท่าว่าจะทำตามคำแนะนำ เขาก็กระแอมไอแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง
“ท่านเฟรย์กรุณาลงจากต้นไม้ด้วยครับ”
“อ้อ เข้าใจแล้ว” สายฟ้าพยักหน้ารับแล้วกระโดดลงจากต้นไม้อย่างนุ่มนวลสวยงาม เสื้อผ้าแทบไม่พลิ้วตามแรงลมจนกระทั่งมาถึงพื้น ที่เป็นการใช้เวทมนต์อันนุ่มนวลเรียบง่ายที่สุดเท่าที่เคยเจอมา
สายฟ้าไม่ได้สนใจบทเวทนักเนื่องจากความเคยชินจากการมีน้องชายเป็นแฮกเกอร์ เขาก็ค่อนข้างติดเกมด้วยเช่นกันทำให้พี่คนนี้ต้องตามไปเล่นเป็นเพื่อนทุกเกมตั้งแต่เกมพัซเซิลไปจนกระทั่งเกมออนไลน์ระดับโลกที่มีวิทยาการล้ำหน้า เป็นตั้งแต่ฝ่ายตั้งรับยันฝ่ายรุก เป็นทั้งซัพพอร์ตยันหน่วยบุกทะลวง เป็นแม่ค้ายันเลขาหัวหน้ากิลด์ เป็น... เป็นทุกสิ่งให้เธอแล้ว... กับแค่เรื่องการใช้เวทมนต์ในเกมก็เคยผ่านมาแล้วหลายเกม ความคุ้นชินในทักษะคาดว่าน่าจะเหนือความจอมเวทระดับห้าเสียอีก
“ขออภัยที่ขัดจังหวะสุนทรีของท่าน แต่เราคิดว่าด้วยเครื่องแต่งกายตอนนี้ไม่เหมาะจะอยู่บนที่สูงนัก” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างจริงจัง เขาพยายามจะควบคุมสายตาของตัวเองไม่ให้มองต่ำลง แต่มันก็เหมือนจะอดไม่ได้ ขาของเฟรย์ขาวเนียนมากจริงๆ
สายฟ้ายิ้มเรียบๆ มีความห่างเหินอยู่เจือจาง
“ขอบคุณที่เตือนครับ... ว่าแต่ท่านคือ?”
“เราคือจอมเวทระดับ 4 ผู้ฝึกสอนของนักเรียนชั้นปีที่สี่ นามว่า ชินเพ เซดัสท์”
“ยินดีที่ได้รู้จักอาจารย์ชินเพ”
แล้ว... ใครวะ?
สายฟ้ายังคงสงสัย หน้าตาอย่างนี้ไม่น่าจัดเป็นตัวประกอบข้างทาง ความสามารถเองก็ไม่ธรรมดาด้วย ระบบเซาน์ปล่อยตัวละครแบบนี้ไว้ได้ยังไงกัน ขนาดหน้าตาพื้นๆ บ้านๆ อย่างเซริกยังมีบทบาทมากกว่าเลยนะ
เห็นสีหน้าสงสัยของเฟรย์ชินเพก็รู้ว่าอีกฝ่ายไม่รู้จักเขา ชายหนุ่มค่อนข้างเก้อเขิน คิดว่าตัวเองค่อนข้างเป็นคนดังแล้วยังมีคนไม่รู้จักตัวตนเขาอยู่อีกหรือ
ชินเพเอ่ย “เราขอแนะนำอีกเรื่องท่านเฟรย์ควรเปลี่ยนชุดให้เหมาะสมด้วยนะครับ กระโปรงของท่านสั้นเกินไป”
“ท่านว่ากระโปรงไม่เหมาะกับผมหรือ?” สายฟ้าเลิกคิ้ว ยิ้มอย่างชั่วร้ายแวบหนึ่งเมื่ออีกฝ่ายหลบสายตา
“มัน... เหมาะกับสุภาพสตรีเช่นท่านมากครับ ท่านหญิงเฟรย์”
[มาสเตอร์สายฟ้า! เขาไม่ตาถั่ว เขามองเพศที่แท้จริงของมาสเตอร์ออกด้วยล่ะครับ ฉลาดผิดปกติแล้ว!]
ไม่ต้องรอให้ระบบเตือนอะไร สายฟ้าก็เปลี่ยนจากท่าทางห่างเหินเป็นคุกคามในทันที ดวงตาสีเขียวมรกตวาวแสงขึ้น ร่างสูงเดินเข้าไปกระชากอีกฝ่ายแล้วผลักติดต้นไม้ด้วยเรี่ยวแรงมหาศาล มือทางหนึ่งเท้าต้นไม้ไว้ไม่ให้เขาหลบหนี ใบหน้างดงามขยับเขามาใกล้ น้ำเสียงที่เคยนุ่มนวลตอนนี้เปลี่ยนเป็นดุดันก้าวร้าว
“ท่านรู้เพศที่แท้จริงของฉัน?” สรรพนามแทนตัวก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน “รู้ได้ยังไง เรื่องนี้ไม่เคยเปิดเผยออกไป คนที่บ้านหรือแม้แต่พี่ชายก็ไม่เคยพูดถึงเพศที่แท้จริงฉันสักครั้ง”
“เพราะพฤติกรรมแต่งหญิงของท่าน” แม้จะถูกคุกคามแต่ชินเพยังคงสงบ เขายิ้มเรียบๆ ออกมา ดวงตาสีฟ้าใสมองคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“แค่พฤติกรรมก็บอกแบบนั้นแล้วหรือ ไม่ใช่ว่าทุกคนเข้าใจว่าฉันเป็นพวกวิปริตหรือไง”
“ทุกคนอาจเข้าใจแบบนั้นแต่เราไม่... ไม่มีพ่อแม่ที่ไหนอยากเห็นลูกตนเองวิปริตหรอกหากไม่ใช่ว่ารู้อยู่แล้วว่าท่านเป็นเพศหญิง สุภาพสตรีมีข้อดีที่ใส่ชุดได้ทั้งชายและหญิงโดยไม่รู้สึกผิดแปลกอยู่แล้ว แต่กับบุรุษนั้นไม่ใช่ ต่อให้วิปริตแค่ไหนพ่อแม่ก็ไม่มีทางปล่อยให้ทำหรอก”
“นับว่าเป็นการประมวลผลที่ชาญฉลาด น่าเสียดายไม่มีรางวัลให้” สายฟ้าเอ่ยแล้วยิ้มเหยียด แต่ก็ผ่อนท่าทีคุกคามลง เปลี่ยนท่าทางสบายๆ ดูเกียจคร้านนิดๆ
เป็นตามที่ชินเพพูด ร่างนี้เป็นผู้หญิงจริงๆ การจะใส่เสื้อผ้าผู้หญิงบ้างผู้ชายบ้างไม่นับว่าแปลกอะไร เพราะบางครั้งสตรีชั้นสูงก็ใส่ชุดคล้ายบุรุษเพื่อออกไปข้างนอกบ้างแต่ไม่มีใครใส่เมื่อเป็นงานที่เป็นทางการ แต่สำหรับเฟรย์แล้วชุดทางการแค่เป็นชุดสุภาพก็พอ จะชายหรือหญิงก็ไม่เกี่ยง นี่คือรสนิยมส่วนตัวของเฟรย์เอง
แต่ยังไงร่างกายก็เป็นผู้หญิง เฟรย์จะชอบผู้ชายองอาจอย่างออทัมก็ไม่แปลก
“การรู้เพศของท่านเป็นปัญหาหรือ?” ชินเพมองหน้าสายฟ้า บอกไม่ถูกว่าทำไมเกิดสนใจความรู้สึกของอีกฝ่ายขึ้นมา ทั้งที่ถ้าใครได้รู้จักชินเพแล้วจะรู้ว่า พ่อหนุ่มจอมเวทคนนี้เย็นชาเข้ากระแสเลือดขนาดไหน
“ก็ไม่เป็นปัญหา” สายฟ้าทบทวนแล้วว่าเปิดเผยไปก็ไม่มีอะไร แต่นั่นมันไม่สนุกหรอก “แต่ถ้าเป็นไปได้ฉันก็ไม่อยากให้ใครรู้เพิ่ม เพราะมันไม่สนุกเลยและอดปั่นหัวคนอื่น”
อีกอย่างนี่มันแชนเนล BL เนื้อเรื่องควรเป็นชายรักชาย การที่อยู่ๆ ร่างกายของเฟรย์เป็นผู้หญิงนี่มันค่อนข้างขัดกับเส้นทางเนื้อเรื่องเกินไปหน่อย ถ้าเฉลยเร็วเกินไปเดี๋ยวโฮสต์จะรู้สึกได้ว่าเป็นบั๊ก
“ท่านเฟรย์ขี้แกล้งนะครับ” ชินเพอยากยิ้มขบขัน แต่ทำไม่ได้เพราะมันดูไร้มารยาท แค่คำกล่าวว่าขี้แกล้งก็ถึงความสนิทสนมก็ทำให้ตัวเขาเองรู้สึกผิดปกติแล้ว
คนขี้แกล้งไหวไหล่อย่างไม่ใส่ใจ รอยยิ้มเรียบเรื่อยส่งไปให้ มีความขอโทษขอโพยอยู่ในที
“ก็งั้นแหละ ขอโทษด้วยที่คุกคามท่าน”
“ไม่เป็นไรครับ เราเองก็ผิดที่เปิดเผยความลับของท่าน”
“ไม่เลยๆ ให้มีคนรู้ก็ดีเหมือนกัน” สายฟ้าโบกมือไปมา “ถ้ายังไงขอตัวก่อน ผมจะกลับไปนอนเล่นที่หอแล้ว ขอตัวนะครับอาจารย์ชินเพ”
ท่าทีห่างเหินกลับมาอีกครั้ง ซ้ำยังพูดในแบบฉบับของคุณชายอีก ชินเพรู้สึกใจเสียพิกลดูแล้วเขาชอบท่าทางสบายๆ พูดคุยง่ายของอีกฝ่ายมากกว่า และชอบท่าทางคุกคามนั่นอย่างบอกไม่ถูก
รู้สึกเหมือนอยากให้อีกฝ่ายข่มเหงมากกว่านี้
ชินเพคิดว่าตัวเองเริ่มจะจิตไม่ปกติแน่ พอหันไปมองอีกทีร่างสูงโปร่งของหญิงสาวที่หน้าระบุเพศไม่ได้ก็หายไปแล้ว เขาถอนหายใจด้วยความเสียดาย ยกมือขึ้นลูบผมครุ่นคิดอยู่ครู่แล้วพึมพำออกมา
“เอ๊ะ? ไม่ใช่ว่ายังอยู่ในชั่วโมงเรียนหรือ ทำไมท่านเฟรย์ถึงกลับห้องแล้วล่ะ”
หรือเกิดอะไรขึ้นในห้องเรียน?
ชินเพผู้ไม่ค่อยสนใจใครเริ่มรู้สึกอยากรู้เรื่องของคนอื่นขึ้นมาเป็นครั้งแรกในชีวิต
สายฟ้าที่หนีกลับห้องมาได้อย่างแนบเนียนไม่มีใครจับพิรุธได้พ่นลมหายใจออกอย่างโล่งอก เมื่อได้ดื่มน้ำลดความกระวนกระวายลงก็นั่งสงบอยู่บนเตียง
[ตรวจสอบมาแล้วครับมาสเตอร์สายฟ้า นี่คือข้อมูลของชินเพ เซดัสท์ครับ]
เสียงของระบบดังขึ้น สายฟ้ากำลังรอคอยอยู่พอดี แต่ยังไม่ทันได้เปิดอ่านก็ถูกระบบเอ่ยขึ้นมาทำให้ชะงักไป แล้วเหลือกตาใส่อย่างอดไม่ได้
[ไม่น่าเชื่อว่าจะมีใครในแชนเนลที่สามารถมองเห็นถึงความเป็นสุภาพสตรีของมาสเตอร์สายฟ้าได้ ขนาดมาสเตอร์วายุยังมองไม่ออกเลย ร้ายกาจ!]
ระบบ นายอยากถูกตบใช่ไหม?
[มาสเตอร์โปรดอภัยและไว้ชีวิตระบบวินด์ด้วย...]
สายฟ้าเบ้ปาก เรื่องเพศที่แท้จริงของร่างเฟรย์นั้นไม่ได้ทำให้สายฟ้ารู้สึกแย่อะไรมาตั้งแต่แรกแล้ว ตรงกันข้ามกลับรู้สึกโชคดีด้วยซ้ำไป เพราะสายฟ้าตัวจริงก็เป็นผู้หญิงแท้ๆ !
ย้ำอีกที ผู้หญิงแท้ๆ ชอบผู้ชายนะจ๊ะ
ที่ผ่านมาไม่รู้มีคนโดนตบตาไปแล้วเท่าไหร่ หลอกสำเร็จไปเกือบทั่วราชอาณาจักรแล้วกระมัง ไม่นึกว่าจะมีคนระแคะระคายเพราะหน้าตาอันระบุเพศที่แท้จริงไม่ได้นี้ด้วย ที่จริงต่อให้จับสังเกตได้ว่าเธออาจจะเป็นหญิงก็ไม่น่าจะพูดชัดถ้อยชัดคำว่าเป็นหญิงเลย ขนาดพระเอกที่ว่าแน่ยังลังเลที่จะเชื่อเลยนะ
ชินเพ เซดัสท์ไม่ธรรมดา
และประวัติของเขาก็ไม่ธรรมดาจริงๆ จอมเวทอัจฉริยะที่มีพลังระดับจอมเวทขั้นหนึ่งเมื่อเรียนครบสามปี ทั้งที่คนที่จะมีถึงระดับนั้นได้ต้องเรียนอยู่ในโรงเรียนถึงห้าปีด้วยซ้ำ หลังเรียนจบก็ถูกส่งไปยังมหานครกลางของเหล่าจอมเวทสองปีก็ได้รับตำแหน่งระดับสูงของสภาจอมเวทแห่งทวีปที่แม้แต่ราชวงศ์ยังต้องเกรงใจ ฐานะทางบ้านเป็นจอมเวทในสภาประเทศทั้งสิ้น เป็นบุตรชายคนเดียวของตระกูล ไม่มีคู่หมั้นคู่หมาย ไม่ค่อยสนใจใคร ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นเท่าไหร่เอาแต่ทำงาน
คนมีสถานะขนาดนี้ที่มาอยู่ในโรงเรียนเพราะได้รับการขอร้องจากคนในครอบครัวมาเป็นอาจารย์สอนแทนอาจารย์ท่านหนึ่งที่บาดเจ็บจากภารกิจ เขาเห็นว่าไหนๆ ก็ว่างและได้อยู่บ้านเป็นเวลาสามเดือนเลยยอมรับงานนี้ สอนวิชาหลักอย่างวิชาการใช้เวทมนต์ชั้นสูงเสียด้วย
แต่เดี๋ยวนะ ไม่ค่อยสนใจใคร ไม่มีปฏิสัมพันธ์เท่าไหร่... แล้วไอ้ที่พูดคุยกับเธออย่างเป็นธรรมชาตินั่นมันอะไรไม่ทราบ ดูยังไงก็เป็นคุณชายผู้ดีมีความเอาใจใส่ชัดๆ
ถ้าดูมนุษย์สัมพันธ์น้อยมันต้องแบบออทัมต่างหากถึงจะเข้าเค้า
เรื่องฐานะและประวัติอะไรดูไม่มีอะไรผิดปกติ ค่าความสามารถที่แสดงออกมาถึงจะสูงก็ยังไม่ใช่ขั้นสุดด้วย เรียกว่าเป็นตัวละครที่เก่งแต่ไม่ได้มีบทบาทเกี่ยวข้องกับเหล่าตัวเอกเลย
คนแบบนี้ไม่เกี่ยวข้องกับพวกตัวเอกได้เหรอ ประหลาดไปไหม
หรือเขาก็เป็นบั๊ก?
[มีความเป็นไปได้ครับมาสเตอร์ แต่ไม่น่าจะเป็นเหมือนพวกเราที่แทรกแซงเข้ามา เพราะตัวของเขายังมีระบบเซาน์สนับสนุนอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นบั๊กที่ตัวระบบเซาน์เองมากกว่า]
“อ้อ ระบบเซาน์เองก็มีบั๊กสินะ” สายฟ้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ ตัวระบบเครือข่ายอันยิ่งใหญ่ที่รองรับข้อมูลมหาศาลการที่จะพบบั๊กบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่น่าจะแปลกประหลาดอะไร
โปรแกรมขนาดใหญ่นี้ต่อให้ผู้ดูแลสมบูรณ์แบบราวกับพระเจ้าสร้างขนาดไหนมันก็เกิดบั๊กได้ทั้งนั้น เพราะบนโลกนี้เมื่อเกี่ยวข้องกับมนุษย์จะมีสิ่งที่เรียกว่าความบังเอิญอยู่มากมายยังไงล่ะ
เมื่อเป็นอย่างนี้สายฟ้าจะอ่อนโยนกับเขาสักหน่อยแล้วกัน
ในฐานะสหายบั๊ก
วันเวลาแห่งการกลั่นแกล้งรังแกข่มเหงและอื่นๆ อีกมากมายที่ทำให้โฮสต์ระทมผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความชั่วร้ายเหนือธรรมดาของสายฟ้ายังคงเส้นมาตรฐาน นอกจากเสียดสีอีกฝ่ายด้วยคำพูดและลงมือเองบ้างเป็นบางครั้งก็ไม่เคยที่จะเล่นงานอีกฝ่ายลับหลังแต่อย่างใด
เพราะมันไม่ได้คะแนน
แม้แต่แฟนคลับไร้สติของเฟรย์จะช่วยแกล้งก็ยังไม่ได้คะแนนเลย ระดับความงงคะแนนของระบบวายร้ายนี้คงทำให้ทีมปฏิบัติการ SST ต้องซีดเซียวกันแน่ในช่วงแรกของการดำเนินเนื้อเรื่อง
แต่ไม่ใช่กับสายฟ้าผู้มาถึงก็ฉกคะแนนรัวๆ ประหนึ่งเป็นมารร้ายที่ไร้ซึ่งความเป็นคนดีตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ ในสัปดาห์แรกก็กวาดคะแนนไปเกือบยี่สิบคะแนนแล้ว
ถ้ามีการจัดอันดับความวายร้าย สายฟ้าน่าจะอยู่ในสิบลำดับแรกของทีม
ช่วงเวลาหนึ่งปีกับการทำตัวเป็นตัวร้ายสุดเคะ1 ที่จ้องจะงาบพระเอกของโฮสต์ผ่านไปไวมาก ถึงจะดูเหมือนความสัมพันธ์ของเฟรย์กับออทัมจะดูคืบหน้าแต่ก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไร เฟรย์จะไม่เข้าหาออทัมบ่อยนักเมื่อไม่มีดีลักซ์อยู่ในรัศมี ทั้งยังทำเป็นมองไม่เห็นเหมือนตัวร้ายเรดาห์พังที่จับรังสีพระเอกไม่ได้ จนบางครั้งออทัมยังต้องเป็นฝ่ายทักก่อน
บุตรชายดยุกผู้องอาจค่อนข้างหงุดหงิดและตะขิดตะขวงใจทุกครั้งเวลาเฟรย์ทำดีและแสดงความรักต่อหน้าได้อย่างแนบเนียนจนจับพิรุธไม่ได้ ไม่รู้เลยว่าคนๆ นี้รักจริงหรือหลอก
แต่กับอีกคนที่ดูเหมือนจะไม่มีใครรู้จักอย่างสหายบั๊กชินเพ สายฟ้าค่อนข้างสนิทกับอีกฝ่ายมากกว่าถึงจะติดฉงนที่อีกฝ่ายไม่ยอมกลับไปยังสภาจอมเวทแห่งแผ่นดินก็เถอะ ทั้งยังมีการติดต่อทางจดหมายกันบ้างเป็นบางครั้ง ถึงขั้นชวนกันออกไปนั่งดื่มชากันนอกโรงเรียนแบบเปิดเผยด้วย แต่ข่าวนั้นไม่ได้เข้าหูออทัมเพราะระบบวายร้ายสุดโกงกรองข้อมูลออกและพ่อสหายบั๊กนี้ที่ทำการปิดข่าวด้วยตัวเอง
ถึงจะเป็นการคบหากันแบบลับๆ ล่อๆ แต่ทั้งสองฝ่ายต่างเข้าใจกันได้ ด้วยฐานะของพวกเขามีคำว่าผลประโยชน์ผูกมัดการจะคบหากันแบบจริงใจได้มีแต่ต้องเก็บแบบหลบๆ ซ่อนๆ ไปก่อน ไม่อย่างนั้นจะมีคนแทรกแซงความสัมพันธ์เพื่อผลประโยชน์แน่
