บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 : ไม่เรียนแล้ว

[มาสเตอร์สายฟ้า ระบบ WIND01 ขอแนะนำ... มาสเตอร์ไม่ควรปรุงยาสำเร็จ]

ตลกแล้วระบบ เรื่องแบบนี้จำเป็นต้องแนะนำ?

สายฟ้ายิ้มขณะเผชิญหน้ากับดีลักซ์ซึ่งจ้องเขาเขม็ง โฮสต์แสยะยิ้มกระซิบกับเขาอย่างมีชั้นเชิงให้ได้ยินกันแค่สองคน

“อย่าถ่วงมือถ่วงเท้าผมล่ะท่านเฟรย์”

“ใครกันแน่เป็นตัวถ่วง” สายฟ้าเลิกคิ้วท่าทางดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ แต่นี่เป็นการแสดง สายฟ้าจะไม่สบอารมณ์แค่ปรุงยาไม่เป็นแล้วถ่วงชาวบ้านงั้นเหรอ? คิดผิดแล้ว!

ถ่วงความเจริญของพี่น้องเขาก็เคยทำมาแล้ว กับแค่ปรุงยามันจะไปรู้สึกอะไร

“ผมรู้ว่าคุณปรุงยาไม่เป็น เฟรย์ มาริสฟิลล์ นอกจากความสามารถทางเวทมนต์แล้วเรื่องอื่นคุณก็ไม่ได้เก่งเลย!”

“ปากดีนี่ไอ้ลูกหมา”

“ฮึ! ไม่เท่าท่านหรอกครับท่านเฟรย์ผู้สูงส่ง”

เพี๊ยะ!

เสียงฝ่ามือตบกระทบใบหน้าดังขึ้น สายฟ้าตบไปที่หน้าของอีกฝ่ายเต็มแรงจนล้มลงกับพื้น ร่างกายที่ถูกปรับค่าให้เท่ากับอัศวินระดับสูง แรงตบนั้นทำให้คนล่มกลิ้งไปไกลได้เลย

“งั้นก็สำเนียงในความต่ำต้อยของตัวเองด้วย ดีลักซ์ ดูรัมเฮล อย่าได้มาปากดีกับฉัน มีความสามารถปรุงยาก็ปรุงไปเงียบๆ ถ้าไม่มีปัญญาก็อยู่เฉยๆ ฉันไม่ว่าอะไรนายหรอก”

ดีลักซ์กุมแก้มที่โดนจบไว้แล้วลุกขึ้นยืนอย่างทุลักทุเล เลือดไหลออกจากมุมปากดูน่ากลัว ดวงตาจับจ้องสายฟ้าอย่างกรุ่นโกรธแต่ก็ไม่ได้เข้ามาตบตี สายฟ้าเองก็จ้องกลับไปอย่างท้าทายเช่นกัน เสียงระบบดังแจ้งคะแนนขึ้นมาในหัวด้วย

[มาสเตอร์สายฟ้าได้รับคะแนนปากร้ายใจทรามฝ่ามือหนัก 3 คะแนน ยินดีด้วยความในที่สุดก็ลงมือสักที เอาอีกครับมาสเตอร์เพื่อคะแนนของเรา ตบอีกสักฉาดสองฉาดเลย]

ไอ้ระบบนี่ก็ช่างยุ...

“เกิดอะไรขึ้น” อาจารย์ผู้คุมสอนเข้ามาถามอย่างรีบร้อน พอเห็นว่าใครก็เรื่องก็ตีหน้านิ่งขึงทันที “เกิดอะไรขึ้นคุณมาริสฟิลล์ คุณตบเพื่อนทำไม”

“เพราะเพื่อนของเราคนนี้ไม่ยอมปรุงยาเอาแต่พูดไร้สาระ ด้วยความรำคาญผมจึงลงมือ ทำไมครับอาจารย์ไม่พอใจ?”

สายฟ้ายกยิ้มชั่วร้ายแต่เพราะอยู่ในสภาพองนักเรียนหญิงมันเลยดูนุ่มนวลลง เป็นความชั่วร้ายที่เย้ายวนเกินไป ขนาดว่าอาจารย์เป็นผู้หญิงยังรู้สึกเคลิ้มแปลกๆ

นี่แหละสกิลมหาเสน่ห์ที่สายฟ้าคู่ควร

[แต่มาสเตอร์สายฟ้า ร่างนี้ไม่ได้สกิลมหาเสน่ห์นะครับ มีแต่ค่าความหน้าตาดี...]

มันเป็นสกิลติดตัวฉันไหมล่ะ หุบปากได้แล้วระบบ เดี๋ยวก็ตบให้เป็นผุยผง

[...]

โหดร้ายใส่แม้กระทั่งระบบ สายฟ้ายังคงความโฉดได้มาตรฐานเกินไปแล้ว

“การปรุงยาไม่ควรใช้ความรุนแรง ท่านเฟรย์ทำเกินไปนะครับ” คนที่เอ่ยตำหนิคือเซริก เขาดูไม่ชอบใจพฤติกรรมของเฟรย์มาตั้งแต่แรกแล้ว

สายฟ้าปรายตามองแล้วยิ้มหยัน ตอบกลับไปให้อีกฝ่ายสะอึก

“นี่มันข้อพิพาทของฉันกับดีลักซ์ ดูรัมเฮล คนนอกอย่ามาสะเออะ พวกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ทำงานของตัวเองไป อาจารย์ไอริสจะเป็นผู้ไกล่เกลี่ยใช่ไหม? อยู่ก่อนนะครับ ส่วนคนอื่นไปได้!”

สายฟ้าไล่ด้วยสีหน้ารำคาญอย่างวางอำนาจแต่คำพูดไม่มีช่องโหว่สักนิด เขาจัดการปิดปากคนอื่นที่จะต่อว่าทั้งยังบีบให้เหลือแค่คู่กรณีและผู้ไกล่เกลี่ยเท่านั้น คนนอกที่ไม่มีความสัมพันธ์อยากจะเข้าไปช่วยเหลือคงทำไม่ได้แล้ว

ยกเว้นก็แต่ออทัม

“นั่นเป็นลูกน้องของฉัน คงต้องขอมีส่วนร่วมในข้อพิพาทนี้ด้วย”

“คุณได้สิทธิ์นั้น” สายฟ้าไม่ห้ามปราม แต่หันไปปรามสมุนตัวเองแทน “พวกนายก็ไม่ต้องเข้ามายุ่ง ตรงนี้ฉันจัดการเอง”

“แต่ว่าท่านเฟรย์...”

“ไม่ได้ยินที่ฉันพูด?” สายฟ้าเลิกคิ้วมอง ไม่ได้คุกคามแต่ท่าทางก็เรียบนิ่งไร้อารมณ์เกินไปจนทำให้คนทั้งสองรู้สึกกลัว พวกเขาถอยกลับไปอย่างว่าง่าย สายฟ้าเลยยิ้มพึงพอใจออกมาให้เห็น

เด็กดี อย่ามาขัดขวางการล่าแต้มของฉันเลย

“เอาล่ะ จะไกล่เกลี่ยตรงนี้หรือข้างนอก?”

“ข้างนอกดีกว่า เชิญคุณมาริสฟิลล์ คุณดูรัมเฮลและท่านเฟลกังฟอสค่ะ” อาจารย์สาวดูมีไหวพริบอยู่บ้างเชื้อเชิญทั้งสามคนออกไปคุยกันข้างนอก และไม่ลืมหันมากำชับกับนักเรียนทั้งหมดให้ปรุงยากันต่อไปซึ่งครั้งนี้มีคะแนนให้ด้วยหากสำเร็จ

ส่วนคนมีข้อพิพาททั้งสามเหมือนจะอดคะแนนไปอย่างช่วยไม่ได้ สายฟ้าหัวเราะในใจ เขาไม่สนใจคะแนนอยู่แล้วนี่นา

“ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันคุณมาริสฟิลล์” อาจารย์เอ่ยถามอย่างจนใจ ปกตินักเรียนที่มีศักดิ์ฐานะมักควบคุมยากและลงมือเมื่อเกิดความไม่พอใจ แต่กับการลงมือแล้วจัดการให้เกิดการไกล่เกลี่ยเองแบบนี้ก็เพิ่งเคยเจอ

“เพราะเขาพูดจาดูหมิ่นผมอย่างก้าวร้าวผมเลยต้องสั่งสอน เรื่องมันก็เท่านั้น” มีเท่านั้นจริงๆ สายฟ้าไม่ได้โกหก แต่ท่าทางเบ้ปากแล้วหลบตาอย่างมีความหมายนั่นก็ชวนให้เข้าใจผิด

มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่ๆ แต่เขาไม่พูด

“นายพูดความจริงเถอะ” ขนาดออทัมยังคิดอย่างนั้น ดูแล้วความน่าเชื่อถือที่มีต่อโฮสต์จะมีน้อยจนสายฟ้ายังสะพรึง ขนาดแสดงท่าทางซั่วๆ เขายังเชื่อว่ามันมีซัมติง

นี่โฮสต์ บางทีนายอาจจะออกไปเองได้โดยไม่ต้องให้ SST ช่วยเหลือแล้วกระมัง ขนาดทำให้พระเอกของตัวเองไม่เชื่อใจไปด้วยอย่างนี้แชนเนลนี้คงล่มสลายด้วยตัวเองแล้วล่ะ

“ก็ที่พูดไปนั่นแหละครับจริง ไม่เชื่อท่านออทัมก็ถาม ดีลักซ์ ดูรัมเฮลดูสิครับ”

“ดีลักซ์ มันเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า?” ออทัมหันกลับมามองลูกน้องตัวเอง องครักษืที่ใบหน้าบวดไปครึ่งเม้มริมฝีปาก ดวงตาแข็งกร้าว

“ไม่จริงครับ เพราะผมไม่ได้ดูหมิ่นท่านเฟรย์แม้แต่น้อยครับ”

“โอ้” สายฟ้าเบ้ปากอีกครั้ง หันหลังเดินหนีไปดื้อๆ ทั้งไอริสและออทัมตะลึง ไม่คิดว่าเขาจะเดินหนีหลังจากที่ได้ฟังคำตอบของดีลักซ์ ท่าทางดูผิดปกตินั่นทำให้ออทัมรู้สึกร้อนรน

“นั่นนายกำลังจะไปไหนเฟรย์”

“กลับห้อง วันนี้ไม่เรียนแล้วไม่มีอารมณ์”

“แต่ข้อพิพาทยังไม่จบ”

“มันจบแล้ว”

“ยังไง?”

“นั่นเพราะว่าท่านออทัม!” สายฟ้ามองเขาด้วยความเสียใจ เขาขบริมฝีปากอย่างฝืนทนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่น “เพราะเขาเป็นลูกน้องของท่านออทัม ท่านจึงน่าจะเชื่อถือเขามากกว่าผม เพราะฉะนั้นแล้วหลังจากนี้ผมพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์ แต่ผมไม่คิดขอโทษหรอกนะ เพราะผมไม่ผิด!”

พูดจบก็วิ่งหนีไปด้วยความเร็วสูง ความเร็วนั้นแม้แต่ออทัมก็ยังตามไม่ทันทำให้ชายหนุ่มยืนอึ้งอยู่กับที่ แม้แต่ดีลักซ์กับไอริสก็ยังอึ้งไม่คิดว่าเฟรย์จะถอยออกไปง่ายๆ อย่างนี้

เดี๋ยวนะ สถานการณ์ดำเนินถึงไหนแล้ว เหมือนมันจะไปเร็วเกินจนตามไม่ทัน

กว่าดีลักซ์จะได้สติเฟรย์ก็ออกไปไกลแล้ว เขารีบปั้นหน้าเศร้าและทุกข์ตรมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้รู้สึกสงสาร

“ท่านออทัม ผมไม่ได้พูดอะไรดูหมิ่นเขาจริงๆ นะครับ”

“นายไม่ได้พูดจริงๆ ?” ออทัมหันมามองอย่างสงสัย แต่พอเห็นท่าทางที่ดูน่าสงสารนั้นแล้วก็ใจอ่อนลงนิดหน่อย “จากนิสัยนายฉันรู้ว่านายต้องพูด นายเป็นพวกไม่ค่อยยอมใคร เฟรย์ลงมือกับนายหลายครั้งคงอัดอั้น”

“ผม...” ดีลักซ์รู้สึกเสียใจ เขาไม่น่าลงมือกับเฟรย์โจ่งแจ้งเลยและคิดไม่ถึงด้วยว่าเฟรย์จะฉลาดในการตอบโต้อย่างนี้ ท่าทางภาพลักษณ์ของเขาต่อออทัมจะแย่ลงนิดหน่อยแล้ว

“ไม่ต้องพูดอะไร ฉันเข้าใจ เขาเองก็ลงมือรุนแรงเกินไป” ออทัมพูดเสียงเรียบมากกว่าปกติ “ต่อไปก็อยู่ให้ห่างเขาหน่อย เฟรย์เป็นพวกอารมณ์รุนแรงตรงไปตรงมา การยั่วยุเขาไม่ใช่ความคิดที่ดี”

“ครับ”

“นายไปทำแผลไป ฉันจะไปเรียนต่อ... ขอบคุณอาจารย์ที่เสียเวลากับเรื่องนี้ครับ”

ออทัมหันไปขอบคุณอาจารย์ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ก็นับเป็นพยานบุคคลชั้นดี เธอพยักหน้ารับแนะนำดีลักซ์ให้ไปห้องพยาบาลก่อนจะกลับเข้าไปสอนนักเรียนต่อพร้อมกับออทัม

ดีลักซ์ขมวดคิ้วแน่นสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อไม่ให้ระบายเอาความโกรธเกรี้ยวออกมา ถ้าเล่นจบแชนเนลนี้เขาจะออกไปร้องเรียนกับผู้ดูแลเซิฟเวอร์ว่าวางแชนเนลนี้ไว้ผิดเซิฟเวอร์แล้ว นี่มันไม่น่าจะใช่ความยากระดับสามแล้ว มันระดับห้าได้เลยเนี่ย!

ตัวร้ายบ้าอะไรปราบยากเกิ๊น!

ทางด้านตัวร้ายผู้ปราบยากนั้นกำลังเดินทอดอารมณ์ชมวิวไปเรื่อยเปื่อยอย่างอารมณ์ดี ฟังระบบรายงานคะแนนที่ได้รับอย่างมีความสุข

[มาสเตอร์สายฟ้า ได้รับคะแนนจากการกดขี่ข่มเหงยัดเยียดความผิดและทำลายชื่อเสียงของโฮสต์ ทั้งยังทำลายภารกิจปรุงยาของโฮสต์ได้เป็นผลสำเร็จ 4 คะแนนครับ ยินดีด้วยมาสเตอร์ ความเลวทรามต่ำช้าของมาสเตอร์นี่เหนือชั้นจริงๆ เชื่อเลยว่ามีกี่คนใน SST ที่จะทำคะแนนเหนือล้ำมาสเตอร์ได้]

นายจะช่วยพูดชมอะไรดีๆ บ้างไม่เป็นเรอะระบบ ทำไมยิ่งฟังฉันยิ่งดูสารเลวขึ้นทุกทีเนี่ย

[เพราะผมคือระบบวายร้าย เพื่อให้มาสเตอร์เป็นวายร้ายทั้งกายใจและจิตวิญญาณจึงจำเป็นต้องใช้บทอะไรแบบนี้ครับ]

บทเทือกนี้ ฝีมือไอ้วายุแหง!

[ใช่ครับมาสเตอร์]

ออกไปได้แกตายแน่ไอ้วายุ!!

ระบบไม่ตอบแล้ว ได้แต่ไว้อาลัยให้กับผู้สร้างของตัวเอง ดันหาเรื่องใส่ตัวทั้งที่ก็รู้อยู่ว่าพี่สาวของตนเองนี่มันระดับไหนแล้ว

สายฟ้าที่กำลังอารมณ์ดีเริ่มอารมณ์บูดนิดๆ เปลี่ยนเส้นทางไปนั่งหย่อนอารมณ์บนต้นไม้แทน ร่างสูงโปร่งชุดนักเรียนหญิงกระโดดครั้งเดียวก็ขึ้นไปบนกิ่งไม้ได้แล้ว ทั้งยังนั่งหย่อนอารมณ์แบบไม่สำรวมอีกด้วย คนที่มองดูตั้งแต่เขามาถึงต้นไม้ถึงกับมุมปากกระตุก พยายามเก็บสายตาไม่ลงไปที่ขาขาวๆ นั่นอย่างสำรวจก่อนจะเดินไปเตือนอีกฝ่ายอย่างอดไม่ได้

“ท่านเฟรย์ มาริสฟิลล์ กรุณาลงจากต้นไม้ด้วยครับ เครื่องแต่งกายของท่านตอนนี้ไม่เหมาะที่จะขึ้นต้นไม้”

น้ำเสียงทุ้มเย็นเอ่ย มีกระแสของความร้อนรุ่มที่แผ่วเบา สายฟ้าก้มลงมองแล้วยิ้มให้กับชายหนุ่มที่เหมือนจะไม่เห็นอยู่ในสารบบตัวละครหลัก

ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลากับเส้นผมสีน้ำเงินเข้มเป็นประกาย ดวงตาสีฟ้าคมกล้า ริมฝีปากสีพีชน่าบดขยี้ สวมชุดสูทสีน้ำเงินขาวขับเน้นสรีระอันแสนสมส่วนดุจราชาผู้สง่างาม อายุของเขามากเกินกว่าจะเป็นนักเรียน คาดว่าน่าจะเป็นอาจารย์สักคนหนึ่งภายในรั้วโรงเรียนแห่งนี้

อืม... ใครวะ?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel