บท
ตั้งค่า

EP06 น้ำผึ้งหวาน

โรซารี่ก้าวเดินมาในงานเลี้ยงอีกครั้งผู้คนมากมายกำลังเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน เพราะมีดนตรีขับกล่อมให้เพลิดเพลิน บางตนก็รับแก้วเงินที่มีไวน์แดงอยู่ในแก้วนั้น นางก้าวเดินมาหาพ่อของนางที่กำลังพูดคุยกับริชาร์ดด้วยรอยยิ้ม แต่ทว่าเขากลับมองมาที่นางด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“ท่านพ่อ” นางเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“อีกห้าวัน ฤกษ์งามยามดี วันอภิเษกสมรสด้วยข้าและนาง ท่านพอใจกับวันที่ข้ากำหนดหรือไม่” ริชาร์ดเอ่ยถามพ่อของนางทันที

“ทำไมถึงรวดเร็วยิ่งนัก” โรซารี่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตกใจ นางคิดว่าหนึ่งถึงสองเดือนคงจะได้อภิเษกกับเขา แต่เขากับรีบอภิเษกเช่นนี้

“เพลานี้เป็นฤกษ์ดีอย่างยิ่งแล้ว ถ้าไม่แต่งงานวันนั้น ฤกษ์จะเกิดขึ้นอีกร้อยสามปี” ริชาร์ดเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“ริชาร์ด ข้าต้องการคุยกับท่าน” นางเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง และก้าวเดินออกจากงานไปทันที เขาจึงส่งแก้วไวน์ให้กับปีเตอร์ ปีเตอร์รับแก้วไวน์ไว้ เขาจึงก้าวเดินตามนางไปทันที

โรซารี่ก้าวเดินออกมาที่ระเบียงอีกครั้ง แล้วหันกลับไปมองเขาทันที ขณะที่เขาเดินมาเชื่องช้า สีหน้าเรียบเฉยราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกินขึ้น

“ข้ายังไม่ใช้คำตอบท่านเลย ท่านกลับรีบบอกท่านพ่อข้าเช่นนั้นได้อย่างไร ท่านบอกกับข้าไม่ใช่หรือว่า รอให้ข้าตัดสินใจด้วยตนเอง แต่ท่านกลับไปบอกท่านพ่อแบบนั้น” นางเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง และหันหลังทันที เพราะนัยน์ตาที่จับจ้องมาที่นางนั้น ทำให้นางเองหวั่นไหวในใจ เขาไม่ใช่แค่ชายที่หล่อเหลา แต่นัยน์ตาขั้นแฝงไปด้วยอำนาจอันเปี่ยมล้น เกินต้านทานไหว

แต่แล้วมือทั้งสองของเขาที่แสนอบอุ่น กลับจับเรียวแขนให้หันกลับมามองใบหน้าอันหล่อเหลาอีกครั้ง

“ข้าเป็นพวกที่ไม่ชอบรอสิ่งใดนานๆ เมื่อข้าปักใจที่เจ้าแล้ว ข้าก็อยากอภิสมรสกับเจ้าเสียเลย และข้าขออยู่ด้วยเจ้าไปชั่วนิรันดร์” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม แต่ทว่าเป็นยิ้มที่เทิดทูน ทำให้ใจของนางนั้นสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ข้าเป็นคนรักเดียวใจเดียว ข้าเองก็อยากให้คู่ครองของข้ารักเดียวใจเดียวเช่นข้า ถ้าท่านจะมาแค่หวังได้ตัวข้าเพียงชั่วข้ามคืน ท่านก็จงไปเสียเถิด อย่ามาเสียเพลากับข้าอีกเลย” นางเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ด้วยอุปนิสัยของแวมไพร์ จะรักเดียวใจเดียว เมื่อปักใจรักแล้ว ก็ไม่สามารถรักใครได้อีก เมื่อตนใดตนหนึ่งจากไปแล้ว เขาจะอยู่แต่เพียงผู้เดียวไม่คิดแต่งงานใหม่ บ้างตนอาจจะตายตามคนรักไปก็มี” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง นางมอบใบหน้าของเขาที่สายตาอันแน่วแน่ ทำให้นางคลายกังวลมาบ้าง

“ริชาร์ด ข้าเองก็ไม่สามารถเช่นท่านได้ และเราสองคนรู้จักกันเพียงแค่วัน ท่านอาจเพียงหลงใหลใบหน้าและเรือนร่างของข้าก็เป็นได้ ตระกูลวูล์ฟปกครองครองเขตตอนเหนือ ใต้การปกครองของท่าน พวกเราเป็นหมาป่า เมื่อท่านสมรักด้วยข้า แล้วท่านจะสูบเลือดสูบวิญญาณของข้าหรือไม่ ข้าเองก็ไม่อาจรู้ได้” นางเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“ข้าไม่มีความคิดที่จะกลืนกินเลือดของเจ้า อาจเป็นเพราะข้ารักเจ้า ข้าอยากที่จะอยู่กับเจ้าเพียงเท่านั้น เจ้าเพียงคนเดียว โรสของข้า” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“วาจาท่านนั้นดุจราวน้ำผึ้งหวานกลางป่าไพร ในคำพูดนั้น จะมีความจริงอยู่กี่ประการ ข้าเองก็ไม่อาจรู้ได้”

“โรซารี่ ทูนหัวของข้า เจ้าให้ข้าพิสูจน์ในรักครั้งนี้เถิด ข้าจะทำให้เจ้าได้รู้ว่า ข้ารักเจ้าเพียงใด” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง และเผยยิ้มกว้างแล้วประทับจูบลงที่หน้าผากของนาง แล้วโอบกอดนางไว้ด้วยความรักไม่ใช่ความลุ่มหลงแต่อย่างใด

แม้จะเจอกันครั้งแรก...แต่มันเป็นความรักชั่วนิจนิรันดร์

หญิงสาวได้ยินเสียงรถม้าดังสนั่นหวั่นไหวราวกับว่าตนเองได้นอนอยู่บนรถม้า นางจึงลืมตาขึ้นช้าๆ ใช้มือขยี้ตาตนเองทั้งสองข้าง มองออกไปเห็นทิวต้นสน ทอดสายตามองไปยังปราสาทหลังใหญ่ มีกำแพงทอดยาวไกลปิดกั้นปราสาทเอาไว้ อีกทั้งรถม้าสีดำตรงเข้าไปในปราสาท นางหันมามองด้านข้างของนาง นางกลับเห็นริชาร์ดนั่งด้านข้างมองตรงไปทางด้านหน้า ไร้ความรู้สึกใดบนใบหน้าที่แสนเย็นชาดุจน้ำแข็ง

“ริชาร์ด...ทำไมท่านลักพาตัวข้ามาเช่นนี้ แล้วท่านพ่อของข้า...”

“พ่อของเจ้ารู้เรื่องนั้นแล้ว” เขาเอ่ยบอก และหันมามองใบหน้าของนางที่มีสีหน้าตกใจ

ทันใดนั้นประตูบานใหญ่เปิดออกให้รถม้าเข้าไป เมื่อมองผ่านหน้าต่างนั้น นางทอดสายตาเป็นทะเลสาบสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่สองฝั่ง รถม้าเบี่ยงขวา

พอสุดทะเลสาบเป็นเขาบงกชสองฝั่งรถม้าขับผ่านตรงกลาง แล้วเลี้ยวขวาไปเบี่ยงเขาบงกช บ่อน้ำขนาดใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมตรงกลางของบ่อมีน้ำพุ แล้วรถม้าขับอ้อมไปทางขวาเช่นเดิม มองเห็นสวนแอปเปิลที่มีหลายร้อยต้นยืนต้นเรียงรายกันมากมาย และผลเป็นสีแดงสดพร้อมทาน

รถม้าตรงเข้าจอดหน้าประตูทางเข้าปราสาท ปีเตอร์ยืนรอต้อนรับพร้อมกับผู้หญิงวัยกลางคน และหญิงสาวอีกคน ริชาร์ดลงจากรถม้า แล้วหันไปมองหญิงสาวที่กำลังลง เขาจึงยืนมือให้เธอประคอง เธอกลับลงด้วยตัวเอง

“ฝ่าบาท” หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ย่อเข่าลงให้ความเคารพเจ้าเหนือหัวของนาง

“เลอาร์น่า คาวาลาส นางคือแม่นมของข้า และ ราเซีย คาวาลาส นางจะมาเป็นสาวใช้ของเจ้าตลอดไป หญิงตรงหน้าของคือก็ว่าที่พระราชินีของข้า โรซารี่ คาร่า วูล์ฟ” ริชาร์ดเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย

“หม่อมฉันเลอาร์น่า คาวาลาส ทรงเรียกหม่อมฉันว่า เลน่า เพคะ”

“ส่วนหม่อมฉัน ราเซีย หลานสาวของนาง” ราเชียมองเลอาร์น่า อาของนาง

“มีสิ่งใดที่ข้าทำผิดพลาด ขอให้พวกท่านทั้งสองตักเตือนข้าด้วย ในฐานะผู้มาใหม่” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม พวกนางจึงใช้มือซ้ายกำไว้ประทับอกด้านขวา ให้ความเคารพว่าที่พระราชินีห้าอาณาจักรด้วยเช่นกัน

“เข้าไปด้านในเถิด” ริชาร์ดเอ่ยบอกกับโรซารี่ที่ยืนข้างๆ นางจึงก้าวเดินนำหน้าเข้าไปด้านในห้องโถงของปราสาท แต่ก่อนที่จะข้ามธรณีประตูทันใดนั้น

“ท่านอุ้มข้าด้วยเหตุใด ข้าเดินเองได้” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเขินอาย เมื่อเขาช้อนหลังและเรียวขาทั้งสองข้างขึ้นมา เขาเผยรอยยิ้มกว้างกว่าครั้งไหนๆ ทำให้พวกนางทั้งสองคนแปลกใจที่ริชาร์ดเผยยิ้มทั้งที่ไม่เคยเห็นมาประมาณสี่หมื่นกว่าปี

“ธรรมเนียมเมื่อแต่งงานเข้ามาแล้ว เจ้าบ่าวนั้นต้องอุ้มเจ้าสาวข้ามธรณีประตูด้วยตนเอง” ริชาร์ดเอ่ยบอกเช่นนี้ เขาอุ้มนางก้าวข้ามธรณีประตู และวางลงให้นางยืนด้วยตนเอง

“ข้ายังไม่ได้อภิเษกสมรส ข้าเป็นเพียงผู้อาศัย” โรซารี่เอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาด้วยความเขินอาย ราเซียช่วยนางจัดกระโปรงด้วยเช่นกัน

“ต่อจากนี้ไปน้องหญิงคือว่าที่ราชินีแห่งเหล่าแวมไพร์ และเหล่าปีศาจทุกตัวตน” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย และมองไปยังราเซียที่ยืนด้านข้างของโรซารี่

“ราเซียพานายหญิงของเจ้าไปพักผ่อนเสียเถิด” ริชาร์ดเอ่ยบอกเช่นนี้ และมองไปยังโรซารี่ที่ไม่ยอมมองใบหน้าของเขา เขาจึงถือวิสาสะจับมือเรียวของนาง

“เดี๋ยวคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้าที่ห้อง” เขาเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แล้วเลือนหายไปทั้งใด โดยที่นางไม่ทันตั้งตัว โรซารี่ถอนหายใจยาวๆ

“เชิญทางนี้เพคะ” ราเซียเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้ม และผายมือให้โรซารี่ก้าวเดินไปก่อน นางก้าวเดินตามหลังไป

..........................................

ไม่เม้นท์ก็ส่งหัวใจมาก็ได้คร้า

ไรท์ชอบอ่านคอมเม้นท์ของทุกท่าน และพยายามตอบกลับทุกคอมเม้นท์

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel