บท
ตั้งค่า

Type 18: ผู้เป็นที่รักของเทพเจ้า(แห่งความซวย)

Type 18: ผู้เป็นที่รักของเทพเจ้า(แห่งความซวย)

กฎข้อที่ 15 ของนักต้มตุ๋น จงตรวจตราสถานที่ให้ดี อย่าพูดอะไรลอยๆออกมาโดยไม่คิด หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง ผิดพลาดนิดเดียว อาจหมายถึงหายนะ

กลายเป็นว่าการที่เมฆาเรียกทั้งชินและเบ๊นซ์มาพร้อมกันนั้นทำเอาห้องเขาเละไปเป็นแถบๆ ถึงขนาดต้องระเห็จออกมาหาที่นอนใหม่กันเลยทีเดียว เมฆาครุ่นคิดอย่างสำนึกเสียใจว่าเรียกมาคนเดียวก็เหลือแหล่ เขายอมรับว่าชินกับเบ๊นซ์มันพวกเหนือมนุษย์ และยืนกรานให้พวกนั้นรับผิดชอบการกระทำของตัวเองโดยการหาที่นอนให้เขาให้ได้ในคืนนี้

“โนเวย์ ฉันอยู่บ้านสองคนกับน้อง ไม่ยอมให้แกมาอยู่ด้วยเด็ดขาด ห้องก็เล็กยังกะรูหนู ขืนมาอยู่อีกคนได้กลายเป็นปลากระป๋องพอดี” ชินปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย เมื่อนึกถึงห้องเล็กๆที่อยู่กันสองคนก็แทบไม่ได้ ห้องพักโกโรโกโสของพนักงานในโรงเรียนที่เขาอาศัยอยู่เพราะไม่มีเงินค่าหอพัก ที่ได้อยู่และอาศัยเล่าเรียนเป็นเพราะอาศัยความเมตตาของผู้อำนวยการโรงเรียนรับอุปการะ เลยทำงานเล็กๆน้อยๆอย่างเปิดปิดไฟตรวจตราความเรียบร้อยในโรงเรียนเป็นการตอบแทน

แต่ถึงจะอ้างยังไง แกก็แค่หวงน้องนั่นแหละวะ เมฆากับเบ๊นซ์คิดในใจ

เบ๊นซ์เองก็ไม่ได้ดีไปกว่าชินเท่าไหร่ เจ้าตัวแค่แบมือแล้วบอกว่าคนทำห้องพังไม่ใช่มัน แล้วใช้ไซต์สายฟ้าเพิ่มความเร็ววิ่งแผล็วหายไปไวกว่าแมวผี

“เฮ้ย!” เมฆาร้อง แต่เมื่อหันมามองด้านข้างก็ต้องสบถอย่างหัวเสีย เพราะไอ้ชินก็หายวับไปกับสายลมเรียบร้อยแล้ว

เออ เจริญ

เมฆาพึมพำแล้วเริ่มครุ่นคิดทางเลือกระหว่างการกลับไปนอนให้ห้องที่เละไม่มีชิ้นดี การงัดห้องว่างที่ยังเหลือ หรือตามไปเผาบ้านมันสองคนดู ซึ่งทางเลือกที่สามดูจะเย้ายวนใจกว่าเพื่อน มือข้างหนึ่งวางลงบนบ่าของเมฆาหยุดความคิดอันตรายลง เมฆาหันกลับมามองมองดวงตาสีดำสนิทอันเรียบเฉยหนาวเหน็บของยูกิ

“คุณไปขอเปิดห้องชั่วคราวที่อาจารย์ดูแลหอพักได้ค่ะ” เธอบอก เมฆาเอียงคอคิดแล้วคิดว่าน่าจะเป็นหนทางที่เข้าท่าที่สุด

“ก็ดีครับ ว่าแต่อาจารย์ดูแลหอพักเขาอยู่ไหนกันล่ะ?”

ถึงเขาจะเป็นพวกไม่กลัวฟ้าเกรงดิน แต่เมื่อมายืนอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ก็อดกลืนน้ำลายอย่างหวาดๆไม่ได้ นึกปวดหัวเมื่อหัวหน้าผู้ดูแลหอพักนั้นเกิดมีธุระด่วน รู้สึกจะไปงานวันเกิดหลานสาวหรือยังไงนี่แหละ ทำให้ไม่มีคนดูแลหอพัก จนเขาต้องมาหารองอาจารย์ผู้ดูแลหอพัก มันไม่น่าสนุกเลย เพราะที่นี่คือ

หอหญิง

เอ่อ... ต้องเข้าไปจริงๆน่ะเหรอ?

ยูกิไม่ได้ให้เวลาเขาทำใจมากนัก แต่ก้าวฉับๆเดินนำไปโดยไม่รอรี สีหน้าของเธอนั้นเรียบเฉยเหมือนกับว่าการพาผู้ชายทั้งแท่งเดินฝ่ากลางหอพักหญิงนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา เมฆาจ้ำอ้าวตามไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็แอบสำรวจไปรอบๆอย่างอดไม่ได้

เมื่อเทียบกับหอพักชายแล้ว ดูเหมือนที่นี่จะมีบรรยากาศอบอุ่นกว่า อาจจะเป็นเพราะกลิ่นหอมที่ลอยอบอวลอยู่ในอากาศก็ได้ เมฆากวาดตามองดูผู้หญิงที่มองมาทางเขาเหมือนเป็นตัวประหลาดแล้วอดขำไม่ได้ พวกเธอพากันหยุดการกระทำที่ไม่อยากให้ผู้ชายเห็นเช่นการอวดชุดชั้นในใหม่ หรือการหยอกล้อแบบถึงเนื้อถึงตัวที่ผู้ชายไม่สมควรดู ดูเหมือนว่าเธอจะตกใจปนไม่พอใจทีเดียว แต่เห็นได้ชัดว่ายูกิมีน้ำหนักมากพอที่จะทำให้พวกเธอไม่ตรงเข้ามาฉีกเมฆาเป็นชิ้นๆ

ยูกิเคาะประตูห้องที่เขียนไว้ว่า ‘ผู้ดูแลหอพักหญิง’ ไม่กี่อึดใจประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นหญิงสาวในชุดนอนลายหมีสีชมพูดกอดตุ๊กตากำลังทำหน้างัวเงียอยู่ หลังจากแจ้งความจำนงแล้วเธอจึงหาวหวอด

“ครูที่ดูแลหอไม่อยู่น่ะจ้ะ เห็นบอกว่าออกไปธุระ ยังไงก็นอนที่นี่ไหม?” เด็กสาวที่เมฆาเพิ่งรู้ว่าชื่อไลล่าพูด เมฆาอ้าปากค้าง นั่นเป็นคำพูดของผู้ดูแลหอหญิงหรือ?

ก่อนที่จะมีใครโวยวายเรื่องนี้และจับเขาโยนออกไป หญิงสาวคนหนึ่งก็เดินเข้ามาในหอพักด้วยอาการโทรมสุดขีด ร่างกายมอมแมมไปด้วยคราบฝุ่นผง ตาปรืออย่างคนเมา บนตัวยังมีกลิ่นเหล้าคลุ้ง เธออยู่ในชุดราตรีสีแดงสด เขาสังเกตว่าที่ซอกแขนเธอหนีบเหล้าเอาไว้หนึ่งขวด

“มีอารายกาน” เธอถามเสียงยานคาง ต้องขอบคุณฟ้าดินที่เธอไม่อ้วกออกมาบนพรม ยูกิหันไปเล่าสถานการณ์ด้วยความใจเย็นและรวบสั้นสุดขีด ครูสาวผู้เมาแอ๋ปรือตามองเมฆานิดหนึ่งอย่างประเมิน

“อีกเดี๋ยวครูต้องออกไปงานเลี้ยงข้างนอกนะ แต่ไม่ต้องห่วง ครูจัดการได้” พูดจบครูสาวก็เปิดประตูเดินเข้าไปในห้องผู้ดูแล เมฆาเดินตามเข้าไป มันเป็นห้องทำงานที่มีคอมพิวเตอร์หลายเครื่อง บอร์ดรายงาน ที่แขวนกุญแจ รวมไปถึงแฟ้มงานต่างๆอีกหลายชั้น ครูสาวเปิดลิ้นชักโต๊ะหนึ่ง หยิบกุญแจรถออกมาหนึ่งพวง คว้ากระเป๋าเงินแล้วทำท่าจะเดินออกนอกห้องไปโดยลืมเป้าหมายเดิมแล้วแหงแซะ

“อาจารย์มิเรียคะ แล้วเรื่องห้องพักล่ะคะ” ไลล่าทัก ครูมิเรียปรือตาร้องอ้อ

“ใช่แล้ว ลืมไปเลย ครูจะไม่อยู่อาทิตย์นึงนะ จะไปสัมมนาที่ฝรั่งเศส น่าเสียดายที่ไม่ใช่เยอรมัน” ครูสาวทำท่าแสนเสียดายประเทศแห่งเบียร์และไส้กรอกไม่น้อย “แต่ไม่ต้องห่วง ครูเตรียมทางแก้ไว้เรียบร้อยแล้ว”

ครูสาวพูดอย่างมั่นใจ เธอเดินโซซัดโซเซเดินไปที่คอมพิวเตอร์ตัวหนึ่ง นักเรียนหลายคนเดินเริ่มมามุงที่ห้องพักนี้แล้ว ดูท่าพวกเธอจะชินกับสภาพเมาแอ๋ของครูสาวกันหมดแล้ว ได้แต่มองเธอเปิดคอมอย่างเงอะงะ ครูสาวรันโปรแกรมบางอย่างขึ้นมาแล้วลากเมฆามา

“จิ้มนิ้วโป้งขวาลงไป” เธอพูดแล้วจับมือเมฆากดลงบนแป้นแสกนลายนิ้วมือ เมฆาย่นจมูกกับกลิ่นไวน์ที่ลอยมาจากตัวครูสาว เขาทำตามอย่างว่าง่าย

“เอาล่ะ ทีนี้ กรอกข้อมูลตัวเองลงไป อ้อ สอดการ์ดตัวเองลงในนี้ด้วยนะ” ครูสาวพูดแล้วผายมือไปยังหน้าจอที่เปิดค้างให้กรอกประวัติส่วนตัว เมฆากรอกชื่อนามสกุล รหัสนักเรียนลงไป แล้วสอดบัตรนักเรียนลงไปโดยระวังไม่ให้ใครเห็น ตัวเครื่องขึ้นหน้าจอกำลังเปรียบเทียบลายนิ้วมือ แล้วขึ้นว่าลายนิ้วมือตรงกัน ครูสาวสะอึกแล้วยิ้มแป้นอย่างพึงพอใจ เดินออกไปจากห้องพร้อมควงกุญแจในมือเล่น

“เอาล่ะ ฝากด้วยนะหนุ่มน้อย” แล้วโดยไม่ให้ความกระจ่างใดๆทั้งสิ้น ครูสาวแหวกฝูงชนแล้วหายไปจากหอพักอย่างรวดเร็วด้วยความไวแสง ไม่กี่วินาทีเสียงเครื่องยนต์ของรถสปอร์ตก็ดังขึ้นอย่างเร่งร้อนจนน่ากลัวว่าคนขับจะพาไปแหกโค้งที่ไหนซักที่

“เอ่อ... แล้วที่พักผมล่ะ?” เมฆาถามลอยๆหลังจากเสียงเครื่องยนต์จางหายไปแล้ว นักเรียนหญิงเกือบร้อยมองมาทางเขาเป็นตาเดียว เด็กหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวในหอหญิงรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแกะดำกลางฝูงหมาป่าขาว เมฆาแบมือยักไหล่เป็นท่าทางจนปัญญา

“อย่าเข้าใจผิดนะ ห้องพักของผมเละไปครึ่งแถบเพราะมีพวกนักเลงมาอาละวาด อาจารย์ผู้ดูแลหอพักของผมก็ไปงานวันเกิดลูกสาว แล้วพอผมมาหารอง... ก็อย่างที่เห็น” เมฆาแก้ตัวให้ตัวเองด้วยท่าทีจนปัญญา ดูเหมือนบรรดาเด็กผู้หญิงทั้งหลายก็เข้าใจถึงตัวครูผู้ดูแลหอพักของตัวเองดีพอควร

“เรื่องที่พักของคุณ เราจะลองหาทางออกดูนะ ว่าแต่คนที่พังห้องนายนั่นก็ไปพักห้องพวกนั้นเอาสิ” นิรมลกล่าว เธอเป็นหนึ่งในบรรดาคนที่มารับตัว 11 คนที่ห้องพักเขาเสนอขึ้นมา เมฆาลองนึกดูว่าคนเหล่านั้นจะโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแค่ไหนหากเขาเอาห้องของพวกเขามาใช้ ถึงมันจะน่าสนุกดีที่จะได้พังห้องของพวกนั้นเล่นๆก็ตาม เขาไม่คิดว่าเรื่องมันจะจบลงง่ายๆ

“ถ้าอาจารย์หัวหน้าหอพักไม่อยู่ ผมว่าผมก็เข้าห้องไม่ได้หรอก” เมฆาโกหก อันที่จริงเขาขี้เกียจไปบังคับเอารหัสกับกุญแจห้องของพวกนั้น และขี้เกียจเจาะระบบห้องพักของพวกนั้นมากกว่า นิรมลดูจะครุ่นคิดหาทางออกอย่างเอาจริงเอาจัง

“บางที...” เธอว่า “คุณน่าจะไปหาห้องที่แผนก ม.ต้นได้นะ” เธอแนะ เมฆารู้สึกว่าเธอสุภาพกับเขาแม้จะอายุน้อยกว่า เขาลองคิดดู และไม่เห็นเหตุผลที่ครูแผนก ม.ต้น จะยินดีต้อนรับเขา แต่ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

“นั่นสินะ คงจะต้องเอาอย่างนั้น” เมฆาตกลงใจ แต่ก่อนจะได้เดินออกจากห้อง เขาก็ถูกสะกิดโดยยูกิ เธอชี้ไปทางหน้าจอด้านหลังเขาอย่างเงียบเชียบ เมฆาสังหรณ์ร้ายเมื่อเห็นสีหน้าปั้นยากของทุกคนในห้อง เขาค่อยๆหันกลับมามองหน้าจอ ที่หน้าจอปรากฏตัวอักษรตัวใหญ่

ผู้ดูแลหอพักหญิงแผนกมัธยมปลาย

นายเอกนภา ปัญญาวิวัฒน์

นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน?

“ว้ายยย!!! ออกไปนะไอ้คนลามก!!!” เสียงกรีดร้องดังขึ้นพร้อมๆกับข้าวของที่ถูกปามาใส่ร่างของเด็กหนุ่มผู้เปิดประตูห้องเข้ามาอย่างกะทันหัน เมฆาหยิบผ้าที่อยู่บนหน้าลง ถอยหลังไปสองก้าวแล้วแหงนหน้ามองป้ายที่แขนอยู่เหนือห้อง

ห้องประชุมรวมกลาง

“แล้วทำไมต้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นี่ด้วยเล่า!!!” เมฆาตวาดออกมาอย่างเหลืออด กะอีแค่การหาที่สงบๆอ่านหนังสือนี่มันหนักหนาขนาดที่ต้องโดนไล่ออกจากห้องสามห้องติดด้วยเหรอ วันนี้เขาโดนผู้หญิงกรี๊ดใส่มากกว่าที่เคยโดยมาทั้งชีวิตด้วยซ้ำ

“อะ...ไอ้ลามก!!!” เด็กสาวคนหนึ่งพูดหน้าแดงก่ำ ยกมือสองข้างขึ้นกอดอกที่ไร้เสื้อผ้า ส่วนท่อนล่างก็มีเพียงชั้นในตัวเดียว เด็กสาวย่อตัวลงนั่งยองๆหน้าแดงก่ำ มองชี้มาที่มือของเขาปากคอสั่น ส่วนคนอื่นๆก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน เมฆามองของในมือแล้วพบว่ามันเป็นยกทรงสีชมพูเข้าชุดกับชั้นในที่เด็กสาวใส่อยู่พอดี เขาโยนกลับไปให้ด้วยใบหน้าขึ้นสีเล็กน้อย

“ใครเป็นคนโยนมาให้ผมกันเล่า!” เมฆาพูดเสียงหนักๆ แต่อย่างว่า การถกเหตุผลกับผู้หญิงที่กำลังโกรธไม่ต่างกับการพยายามถกปรัชญากับลิงบาบูน...

“ไม่ต้องมาพูดเลย! เห็นชัดๆว่านายเป็นไอ้โรคจิต กรี๊ดดด!!! ยังไม่หลับตาอีก!!!” เมฆายิ้มแหยๆพลางยกหนังสือในมือขึ้นปัดข้าวของที่ลอยเข้าใส่รวมทั้งลูกไฟ ผลึกน้ำแข็ง และแท่งเหล็กที่ลอยมาไม่หยุด อย่าล้อเล่นน่า ให้หลับตาเหรอ? เขาคงพรุนในไม่กี่วินาทีนั่นแหละ เมฆาขว้างหนังสือรับลูกเหล็กท่าทางอันตรายลูกหนึ่งแล้วถอยมาปิดประตู

“ล็อคประตูเซ่!!!” เมฆาแหกปาก แม้จะพอเข้าใจว่าไม่กี่ชั่วโมงก่อนหอพักนี้ไม่มีผู้ชาย แต่ก็อดรู้สึกว่าโลกนี้ช่างอยุติธรรม

“แกก็อย่าเข้ามาสิไอ้โรคจิต!!!” เด็กสาวหลายคนภายในห้องร้องใส่ เมฆาแทบอยากกลั้นใจตายให้มันรู้แล้วรู้รอดไป เรื่องอื่นเขารับมือได้ แต่เรื่องผู้หญิงนี่ ขอที!

“พวกเธอจะหาที่เปลี่ยนเสื้อให้เป็นที่เป็นทางบ้างไม่ได้รึไงนะ!” เมฆาบ่นอย่างหัวเสีย

“ปรกติเราก็เปลี่ยนที่ไหนก็ได้จนกระทั่งนายมานั่นแหละ... กรี๊ดดด!!! เข้ามาทำไม!!!” เด็กสาวภายในห้องกรีดร้องเมื่อเมฆาเดินเข้ามาอีกครั้ง เด็กหนุ่มหน้าแดงเรื่อขณะก้มลงเก็บหนังสือที่ตกอยู่ที่พื้น

“จะเอาของไง! ถ้าไม่ได้หนังสือนี่ผมก็ไปไหนไม่ได้นะ!” เมฆาหยิบหนังสือที่หน้าปกเขียนว่า ‘คู่มือครูผู้ดูแลหอพักหญิงแผนก ม.ปลาย’ ขึ้นมา “มีที่ไหนในหอนี้ที่ไม่มีผู้หญิงบ้างไหม!” เมฆาพูดอย่างคับแค้น

“ไม่มี!!!” เสียงประสานสะท้านแก้วหูทำเอาเมฆาผู้ไม่กลัวฟ้าเกรงดินแทบร้องไห้ด้วยความคับแค้น

โอ้พระเจ้า... ทำไมเขาต้องมาอยู่ในสภาพนี้ด้วย!!!

เมฆาเข้ามาตั้งหลักอยู่ในห้องน้ำ เขาดีใจแทบร้องไห้เมื่อสถาปนิกยังอุตส่าห์สร้างห้องน้ำชายเอาไว้ในหอพักหญิง เดิมทีแล้วอาคารนี้คงไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นหอพักหญิงแต่แรกเลยมีห้องน้ำชาย แต่มันถูกเอาป้ายลงแล้วติดป้ายผู้หญิงเข้าไปแทน แต่โถปัสสาวะที่ยังอยู่ภายในก็บอกสถานะเดิมของมันให้ได้เห็น เมฆาตบประตูห้องน้ำดังปังๆ

“ออกไปๆๆ!!! จากนี้ไปห้องน้ำนี้เป็นห้องน้ำชายเหมือนเดิมแล้ว!!!” เมฆาแหกปากอย่างไม่เกรงอกเกรงใจชาวบ้าน กระชากป้ายลงอย่างไม่กลัวใครจะด่าทอ เรียกร้องสิทธิเดิมของเพศชายคืนมา เด็กสาวสองสามคนรีบเร่งออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าตื่นๆ ถลึงตามองเมฆาด้วยแววตาอาฆาตแล้วจากไปโดยไม่พูดอะไรซักคำ เมฆาแทบหัวเราะออกมาเมื่อพวกเธอรีบเร่งเดินเข้าไปในห้องน้ำหญิงที่อยู่ติดๆกัน แต่เมื่อนึกว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาเข้ามาในห้องน้ำแล้วเจอผู้หญิงอยู่ การยึดห้องน้ำของทั้งชั้นเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียวก็ดูสมเหตุสมผลดี

เมฆาปิดประตูห้องน้ำลงกลอนแล้วเดินไปเลือกห้องห้องหนึ่ง ทรุดตัวลงนั่งบนโถส้วม กางหนังสือ ‘คู่มือครูผู้ดูแลหอพักหญิงแผนก ม.ปลาย’ เขานึกอยากแก้คำว่าครูบนหน้าปกเป็นนักเรียนตงิดๆด้วยความไม่สบอารมณ์ แต่ก็พลิกเปิดดูหน้าที่หลักคร่าวๆที่ตัวเองต้องทำ

หน้าที่หลักของครู... เอ่อ.. นักเรียนผู้ดูแลหอพักหญิงแผนก ม.ปลาย หลักใหญ่ๆแล้วต้องคอยตรวจตราความเรียบร้อยภายในหอพัก ควบคุมการเข้าออกของนักเรียน คอยดูแลให้นักเรียนอยู่ในกฎระเบียบ (ด้านหลังแนบกฎระเบียบภายในหอพักอีก 33 หน้าเต็มๆ) และเพราะหอพักนี้เป็นอาคารแบบเก่า เขาเลยต้องเป็นผู้ดูแลกุญแจ คอยควบคุมการเปิดปิดไฟ และรับจัดการงานจิปาถะตั้งแต่หม้อไหม้ ไฟดับ น้ำรั่ว ยันผู้ร้ายปล้น ให้ตายสิ นี่มันใช้แรงงานเกินสวัสดิการชัดๆ

“ให้ตายสิ เทพแห่งความซวยดูท่าจะถูกใจฉันเอามากๆเลยนะ โดนลากตัวเข้ามาในโรงเรียนพลังจิตทั้งๆที่ตัวเองไม่มีพลังอะไรซักนิด โดนไฟฟ้าช็อตหัว โดนไอ้บ้าดูดไฟจนไฟช็อตแทบตาย บ้านโดนพังยับ เลยต้องมาใช้ชีวิตแบบผู้มีพลังจิตสุดเก๋าทั้งๆที่ตัวเองไม่มีอะไรเลย ห้องโดนงัด โดนรุมอัด เสียหายจนนอนไม่ได้ คนต้นเหตุไม่รับผิดชอบ โดนครูผู้ดูแลเมาแอ๋โยนงาน โดนผู้หญิงผู้ตกใจดุจกวางน้อยมีเขี้ยวเล็บแหลมคมกรี๊ดใส่แถมประทุษร้าย ยังมีอะไรอีกไหม?” เมฆาประชดอย่างหงุดหงิด

ตุบ

เสียงเบาๆนั้นทำให้เมฆาแข็งทื่อ รับรู้ได้ว่าดังมาจากห้องข้างเคียงดูเหมือนว่าจะยังมีคนอยู่ข้างๆ คราวนี้สมพรปาก ซวยของแท้และแน่นอน

“เอ่อ... ขออภัยนะครับ พอดีว่าผมเป็นคนที่โดนครูมิเรียโยนหน้าที่ผู้ดูแลหอพักใส่ หากเป็นการรบกวนก็ขออภัยอย่างสูง” เมฆาเหงื่อแตก เพิ่งรับรู้ว่าตัวเองพล่ามไปซะหมดเปลือก

กริ๊ก

เสียงปลดกลอนเบาๆดังขึ้นพร้อมกับประตูห้องที่ค่อยๆเปิดออก เด็กสาวคนหนึ่งก้าวมายืนตรงหน้าห้องของเขา เธอเป็นเด็กสาวตัวไม่สูงนัก ไว้ผมยาวถึงกลางหลัง ผมและตาสีดำสนิท ที่ซอกแขนของเธอมีคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเหน็บอยู่ เธอมองเขาด้วยแววแบบเดียวกับที่เขามองคนอื่นเวลากุมจุดอ่อนเอาไว้ได้ และเขาเพิ่งนึกออกว่าเธอเป็นเพื่อนร่วมห้องของเขา นั่งอยู่หลังห้องสุดมุมริมหน้าต่างและไม่สะดุดตาใครเลย เธอดันแว่นหนาขึ้นแล้วแสยะยิ้มมองเมฆา

“ดูเหมือนนายจะประมาทไปหน่อยนะที่คิดว่าทุกคนออกไปหมดแล้วโดยไม่ตรวจตราให้ดีน่ะ” เธอพูดเนิบๆ เมฆาไม่ตอบอะไร ทบทวนความทรงจำแล้วนึกออกว่าเธอชื่อเอมิลี่ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกหมดท่าต่อหน้าใครซักคน เด็กสาวแสยะยิ้มอย่างลำพองใจ กอดอกมองเขาด้วยแววตาประเมินค่าว่าจะใช้งานได้แค่ไหน

“คุณเอกนภา ดูเหมือนคุณจะต้องทำตามฉันอย่างไม่มีทางเลือกนะ”

เมฆาแยกเขี้ยว ดูเหมือนว่าเทพแห่งความซวยจะรักเขาเข้าแล้วจริงๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel