บท
ตั้งค่า

บทที่3 เลขาคนใหม่ของ CEO

คาริสาหันไปทางต้นเสียงโดยอัตโนมัติ ก็เห็นร่างสูงสง่าก้าวเข้ามาในห้อง ศรุตเป็นลูกติดคุณอุสามารดาเลี้ยงของเธอ และยังดำรงตำแหน่ง CEO รุ่นใหม่ไฟแรงของบริษัทแห่งนี้อีกด้วย

“ริสาไม่เข้าใจค่ะพี่ศรุต”

“ริสาคงไม่รู้ว่าคุณนัทต้องการย้ายไปอยู่ต่างประเทศกับสามี เลยมาขอลาออกสักพักแล้ว พี่จึงแทงเรื่องไปทางแผนกบุคคลให้หาคนมาทำหน้าที่แทน” ศรุตเกริ่นถึงต้นสายปลายเหตุอย่างใจเย็น

“หวยเลยมาออกที่ริสา?” ว่าพลางยกมือขึ้นชี้หน้าตัวเอง

“จะเรียกว่าบังเอิญก็ได้ละมั้ง” ศรุตยิ้มกริ่ม เดินเข้าไปหยุดยืนไม่ไกลจากคาริสา

“พี่ศรุตอย่าเพิ่งล้อเล่นสิคะ ริสากำลังจริงจังอยู่นะ!” คาริสาไม่รู้สึกขำขันกับคำพูดหยอกเอินของพี่ชายต่างมารดาเท่าใดนัก

“ใครว่าพี่ล้อเล่น แล้วเรื่องแบบนี้ใครจะไม่จริงจัง การหาเลขาสักคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จะรับสมัครสุ่มสี่สุ่มห้าก็ไม่ได้ นอกจากต้องใช้ภาษาจีนและภาษาอังกฤษได้ในระดับดี คนคนนั้นจะต้องซื่อสัตย์ สามารถเก็บความลับของบริษัทได้ ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ คุณพรรณเขาถึงเลือกเรามาให้พี่ยังไงล่ะ”

“คุณพรรณเสนอชื่อริสาเองจริง ๆ เหรอคะ” คาริสาถามย้ำอีกหน แต่น้ำเสียงอ่อนลงมาก เพราะที่ผ่านมาศรุตไม่เคยโกหกเธอเลยสักครั้ง

“ริสาก็น่าจะรู้จักพี่ดี พี่คงไม่เสี่ยงให้งานต้องเสียหาย เพียงเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัว แน่นอนว่าภายในสามเดือนถ้าเราไม่ผ่านทดลองงาน พี่ก็คงต้องให้ฝ่ายบุคคลเฟ้นหาคนที่เหมาะสมกว่ามาทำหน้าที่นี้แทน” แม้มุมปากจะปรากฏรอยยิ้มน้อย ๆ แต่แววตาของศรุตกลับจริงจังเป็นที่สุด ทำให้คาริสารู้สึกว่าทั้งหมดคือความจริง

“แต่พี่ศรุตก็รู้ว่าริสาไม่ได้จบด้านเลขานุการมาโดยเฉพาะนะคะ” ริมฝีปากสีชมพูยังคงส่งคำท้วงติงออกมาอีกหน

“ถ้าคนที่ได้เกียรตินิยมอันดับสองอย่างเราจบสายตรงมาตั้งแต่แรก พี่กับคุณพ่อคงไม่ปล่อยเราไปทำงานในแผนกล่ามให้เสียเวลาหรอก ริสา...พี่เชื่อว่าเราสามารถรับมือกับตำแหน่งนี้ได้” ศรุตให้ความเชื่อมั่นกับคาริสาด้วยน้ำเสียงมั่นคงหนักแน่น

“ก็ได้ค่ะ ริสาจะลองดูสักตั้ง แต่ถ้าริสาทำไม่ได้จริงๆ ก็อย่ามาว่ากันทีหลังแล้วกันนะคะ” หลังจากนิ่งคิดถึงเหตุผลทั้งหมดอยู่ครู่หนึ่ง คาริสาก็เลือกคว้าโอกาสที่จะเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานเอาไว้ อย่างไรเงินเดือนของเลขา CEO ย่อมดีกว่าพนักงานแผนกล่ามตัวเล็ก ๆ

“เอาละ ในเมื่อตกลงใจได้แล้วก็รีบไปเคลียร์งานที่เหลือให้เสร็จ อาทิตย์หน้าก็ย้ายไปอยู่หน้าห้องพี่เขาได้เลย” ศรันย์กล่าวสรุปด้วยใบหน้าอาบรอยยิ้ม

“ค่ะคุณพ่อ” คาริสาตอบรับเสียงหวาน สีหน้ากลับมาแช่มชื่น “เอ่อ... มีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ริสาขอโทษนะคะ ที่บุ่มบ่ามเข้ามา”

“ไม่เป็นไร มาตาเขารู้ว่าควรทำยังไง ไม่ต้องกังวลไปหรอก” ศรันย์ย่อมรู้ว่าลูกสาวคนสวยกลัวว่าจะมีข่าวลือไม่ดีออกไป

“ขอบคุณค่ะพ่อ งั้น ริสาขอตัวก่อนนะคะ” ว่าแล้วคาริสาก็หันหน้าไปหาพี่ชายต่างสายเลือด พร้อมเอ่ยลาด้วยรอยยิ้ม “ริสากลับก่อนนะคะพี่ศรุต”

“จ้ะ” นัยน์ตาสีเข้มติดตามเงาร่างในชุดกระโปรงชาแนลสีขาวพอดีตัวไปจนลับตา

“ลูกสาวคนนี้ก็เหลือเกิน พ่ออธิบายยังไงก็ไม่ฟัง กลับฟังแกซะอย่างนั้น” ศรันย์พูด ขณะที่จับสังเกตลูกติดของภรรยาที่มองตามลูกสาวของตนเองตาไม่กะพริบ

“จริง ๆ ริสาเขาเป็นคนมีเหตุผล ถึงผมไม่เข้ามา ยังไงคุณพ่อก็จัดการเรื่องนี้ได้ไม่ยากอยู่แล้วครับ” ศรุตหันกลับมาหาศรันย์ กล่าวตอบด้วยรอยยิ้ม

“เรื่องนั้นมันแน่อยู่แล้ว” ศรันย์หัวเราะหึ ๆ ในลำคอ ก่อนจดจ้องไปทางศรุตด้วยสายตาจริงจัง “แต่ต่อจากนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแกแล้ว เพราะพ่อคงไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของหนุ่มสาว”

“คุณพ่อ...” ศรุตไม่เคยปิดบังความรู้สึกที่เขามีต่อคาริสาก็จริง แต่ไม่คิดว่าศรันย์จะพูดตรงไปตรงมากับตนเองขนาดนี้ จึงอดเลิ่กลั่กไม่ได้

“คุณพง คุณพ่ออะไร! แกอย่ามาทำเหมือนเด็กหนุ่มอายุสิบแปดหน่อยเลย นี่สามสิบสองเข้าไปแล้ว ยังไปไม่ถึงไหน มัวแต่ชะล่าใจ ระวังเถอะ สุนัขจะคาบไปรับประทาน” ศรันย์ส่ายหัวดิก เขาลุ้นอยู่นานแล้ว แต่ศรุตกลับเดินเกมช้าเสียยิ่งกว่าช้า ใจเย็นจนเขาต้องคิดแผนการส่งคาริสาไปเป็นเลขาส่วนตัวให้ หวังว่าคราวนี้พ่อเจ้าประคุณจะสามารถชนะใจลูกสาวคนสวยของเขาได้ เพราะถ้าเด็กสองคนลงเอยกัน ตนเองก็คงหมดห่วงเรื่องผู้สืบทอดกิจการ

“ขอบคุณครับคุณพ่อ” มุมปากของศรุตโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง เขารู้สึกมานานแล้วว่าตนเองโชคดีที่มารดาแต่งงานกับศรันย์ เพราะบนโลกใบนี้จะมีพ่อเลี้ยงสักกี่คนที่ดีกับลูกติดภรรยาอย่างจริงใจเหมือนกับคนตรงหน้า

“เอาไว้จีบน้องให้ติดก่อนเถอะ ค่อยมาขอบคุณ” พอพูดจบ ศรันย์ก็คว้าสมุดรอเซ็นที่มาตาวางไว้ให้นานแล้วขึ้นมาอ่าน

“งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ”

ศรุตคิดว่าควรจะกลับห้องทำงานของตนเองเสียที พอกล่าวอำลาเสร็จก็เดินออกจากห้องไปพร้อมกับความรู้สึกยินดี คราวนี้เขาตั้งใจจะเดินหน้าเต็มสูบ

ริสา พี่จะไม่รีรออีกแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel