4
ตอนที่ 4
ท่านเบนจามินจิบชาร้อนๆ ขณะมองภาพข่าวบนจอขนาดใหญ่
“ทุกคนโทรมาถามข่าวกันใหญ่เลยครับ”ลูกน้องคนสนิทรายงานก่อนจะกลายเป็นเสียงหัวเราะดัง
“ออกข่าวไม่เกินชั่วโมงหุ้นบริษัทขึ้นพรวดๆ”
“มันแน่นอนอยู่แล้วแค่ลงนามสัญญาร่วมงานยังขนาดนี้”ชายชรายิ้มกริ่ม แผนการในใจผุดขึ้นมา ลูกน้องพยักหน้าเบา ๆ
“ถ้าเธอทำงานกับฉัน พวกแกคิดว่าเงินทองมันจะไหลมาเทมา ขนาดไหนเธอเป็นคนเก่ง มากความสามารถ” ชายชรากล่าวชื่นชมหญิงสาวที่แม้จะต่างเชื้อชาติศาสนาและภาษาพูดก็ตาม
แต่เธอสามารถสร้างผลประโยชน์มหาศาลให้กับเขาได้
“ถ้าเธอขายบอท ให้เรา มันจะดีขนาดไหน”
“จริงๆท่านต้องการบอทของเธอใช่ไหมครับ”
คนแก่ทั้งอายุและประสบการณ์หัวเราะชอบใจ
“เธอเป็นขุมทรัพย์ ที่ถ้าใครได้ครอบครอง รายได้จะเข้ากระเป๋าง่ายๆสักวัน...ฉันต้องได้เป็นเจ้าของบอท”
น้ำตาลที่กำลังนั่งในร้านอาหารดังของโรงแรมใหญ่ที่เอม่าจองให้เจ้านาย นึกชอบใจการเลือกของเลขาฯ สาว
“เป็นเลขาฯที่รู้ใจเจ้านาย อย่างเราตลอดเวลาเลย”
“แด่มหานครลอนดอน ที่ไม่เคยหลับใหล”สองสาวยิ้มให้แก่กันก่อนที่จะชนแก้ว
“เธอสวยมากเลย”น้ำตาลอดไม่ได้ที่จะชมเพื่อนชาย
ในอดีต เวลาไปไหนมาไหนด้วยกันทุกคนมักจะคิดว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน
“ที่บ้านว่าไงบ้างอ่ะ” หญิงสาวถามอย่างสงสัย
“เริ่มรับได้แล้ว” โอลิเวียตอบยิ้ม ๆ
“โชคดีนะที่น้องสาวเป็นหญิงเก่ง” น้ำตาลเสริมก่อนจะหัวเราะเบาๆ
“ใช่น่ะสิ ม่ายงั้นทุกคนคงฝากความหวังไว้ที่ฉัน” โอลิเวียตอบด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายใจเล็กน้อย พลางลากเสียงยานคาง
ครอบครัวของโอลิเวียทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่หนุ่มร่างบางหัวใจสาวกลับต้องการทำแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตนเองมากกว่า พ่อแม่ขัดขวางโอลิเวียทุกอย่าง แต่เธอไม่สนใจ
“ขอใช้ชีวิตแบบที่อยากเป็นบ้างเถอะ”มันคือคำพูดของนาง หลังจากที่เปิดตัวเป็นสาวข้ามเพศ ทางบ้านของโอลิเวียโกรธมาก
“เป็นอะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนดีก็พอ” คือเป็นคำปลอบใจง่ายๆของน้ำตาลในยามที่ชีวิตของโอลิเวียมีปัญหาเข้ามา
“ฉันพร้อมอยู่เคียงข้างเธอเสมอ”
“ขอบใจนะ คำพูดเธอในวันนั้น ทำให้มีฉันในวันนี้ ได้แต่งตัวแบบนี้ กลายเป็นผู้นำแฟชั่น” โอลิเวียยิ้มอย่างสบายใจ ยักไหล่อย่างไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น เห็นร่องรอยความสุขฉายชัดบนใบหน้า
“ว่าแต่เธอจะมาพักที่นี้กี่วัน จะพาไปเที่ยวที่ชอบกัน”โอลิเวียหัวเราะคึกคักอย่างถูกใจ
“มาแค่สองวัน เดี๋ยวจะกลับบ้านแล้ว” น้ำตาลพูดเหมือนการเดินทางสามารถขับรถมาได้อย่างนั้น
“บ้านที่ไหน”
คำถามนี้ของเพื่อนสาวทำให้น้ำตาลคิดหนัก ไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ประเทศไหน ต่างก็มีบ้านที่ประเทศนั้นทั้งนั้น
“ที่ไหนดีล่ะ”เธอมองหน้าเพื่อนสาวตรงๆ
“มันจริงไหมล่ะ หรือเป็นบ้านที่เมืองไทย”
คำว่าเมืองไทยทำให้น้ำตาลอดคิดถึงบ้านเกิดไม่ได้
“ไม่น่าจะใช่”หญิงสาวรีบสลัดความคิดถึงที่มันจะทำให้เธออ่อนแอออกไปอย่างรวดเร็ว
“คง...ในยุโรปนี่แหละ”
“แฟนหนุ่มคนล่าสุดไปไหนแล้วล่ะ” โอลิเวียถามประหนึ่งแฟนพันธ์แท้ที่ติดตามข่าวเพื่อนรักอย่างจริงจัง
“เป็นเพื่อนกัน” น้ำตาลตอบเบาๆอย่างสะเทือนใจ
“เราสองคนต่างกันเกินไป” เมื่อนึกถึงเขาความรู้สึกดีๆ ไหลย้อนกลับมาหาทุกครั้ง
“อะไรที่มันต่างกัน” สิ้นคำนี้ ทั้งสองคนมองหน้ากันและหัวเราะเบาๆอย่างทะลึ่ง
“ความคิด การใช้ชีวิต อย่าคิดมากหล่อน”
ขณะที่สองสาวกำลังคุยกันอย่างออกรสออกชาติ บริกรก็นำอาหารมาเสิร์ฟพร้อมกับเหล้ารัมที่ร้อนแรง
“วันนี้ขอเมาสักวันกับคนรู้ใจหน่อยแล้วกัน” โอลิเวียว่าพลางยกเหล้าขึ้นจิบช้า ๆ
“ไม่ใช่เมาทุกวันหรอกเหรอ” น้ำตาลอดแซวเพื่อนรักไม่ได้
“ช่วงนี้ไม่มีโอกาสสังสรรค์เลย”คนฟังตาโต ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน แต่แววตาของเพื่อนสาวที่ส่งประกายแห่งความสุขและความรักออกมา ทำให้รู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น
“คนที่คบอยู่ไม่ชอบดื่มชอบใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ”
“คนไหน ขอดูหน้าหน่อย” โอลิเวียยื่นโทรศัพท์ให้น้ำตาลดูรูปของชายหนุ่มหน้าตาดีที่ถ่ายคู่กับเธอให้ดู
“หล่อมากเลย” หญิงสาวชมไม่ขาดปาก
“เขาเป็นคนดีมากๆ ด้วย” น้ำตาลหันมามองหน้าแววตาชวนฝันเพื่อนสาว
“ฉันอยาก มีชีวิตที่เหลืออยู่กับเขา”
“แต่งงานเมื่อไรอย่าลืมบอกด้วยแล้วกัน”
ว่าที่เจ้าสาวคนใหม่หัวเราะยิ้มอย่างเอียงอาย
“หรือว่ากำลังจะมีข่าวดี”
“รอผู้ชายมาขอแต่งงานก่อนสิเธอ”
ในตอนนั้นเองที่เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะ
“โอ๊ะ โทรมาพอดีเลย” โอลิเวียขิงใส่เพื่อนด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
น้ำตาลยิ้มอย่างมีความสุขแทนเพื่อนสาว สายตาที่ทอดมองคนตรงหน้าอดอิจฉาไม่ได้
“ในที่สุด หล่อนก็ค้นพบตัวเองสักที ดีใจด้วยนะเพื่อน”
เห็นอาการตาเป็นประกายแล้วก็ทำให้อดมีความสุขไปด้วยไม่ได้
“ขอให้หล่อนมีความสุขกับสิ่งที่เลือกแล้วกัน”
“ฉันต้องไปก่อนแล้วนะ” โอลิเวียว่าพลางรีบเก็บของใส่กระเป๋าใบใหญ่
“ว่างๆแล้วโทรหาบ้างนะ” น้ำตาลเอ่ยขณะที่ลุกขึ้นหอมแก้มเพื่อนรักสองสาวโบกมือลากัน
“เธอก็เหมือนกัน ขอให้เจอความรักที่จริงจัง ไม่ใช่ใช้ชีวิตหาเงินอย่างเดียว”
“ปากดีนักนะหล่อน” หญิงสาวด่าเพื่อนที่เดินลิ่ว ๆ อย่างรีบร้อนตามหลังไปติดๆ
“แต่ก็จริงของมัน”ยามอยู่คนเดียวบางอารมณ์ก็อดคิดถึงการมีครอบครัวไม่ได้
“แต่ถ้าแต่งงานก็ทำงานที่รัก หาเงินขนาดนี้ไม่ได้น่ะสิ” น้ำตาลถอนหายใจยาว ๆ ความลังเลเกิดในใจ
“ใครเขาจะกล้ามาจีบ”หญิงสาวตัดพ้อกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไปเช่นกัน
รถสปอร์ตคันงามขับไปเรื่อยๆ น้ำตาลมองแสงไฟที่ประดับอยู่ตามห้างสรรพสินค้าและโรงแรมดังๆ
“สวยงามจริงๆเลย”หญิงสาวประคองพวงมาลัย สายตาก็มองไปข้างทาง
“เราก็ดันมาเที่ยวตอนที่คนอื่นเขาหลับกันหมดแล้ว” หญิงสาวว่าพลางตั้งค่าจีพีเอสไปที่สปาชื่อดัง
“ขอใช้เงินก่อนแล้วกัน”
น้ำตาลที่ทำงานกับบอทมากจนบางครั้งไม่รู้ว่าเธอกับบอทใครเป็นคน ใครเป็นหุ่นยนต์มากกว่ากัน
ขณะที่หญิงสาวกำลังเดินเข้าสปาชื่อดัง ก็มีเสียงแรกชื่อธอดังขึ้น
“ขอโทษค่ะ คุณน้ำตาล รุ่งเรืองพาณิชย์หรือเปล่าคะ”แทนคำตอบเธอพยักหน้ารับ
“เชิญด้านในเลยค่ะ”
หญิงสาวมองห้องที่ตกแต่งอย่างสะอาดตา
“มีแต่แขกวีไอพี คนดังทั้งนั้น” น้ำตาลอดที่จะมองอย่างชื่นชมไม่ได้
“เชิญห้องนี้เลยคะ” ขณะที่เดินตามพนักงานบริการ ร่างบางมองตารางบริการต่างๆอย่างไม่คิดมาก
“ขอเป็นนวดตัวแล้วกันนะคะ”
พนักงานคนเดิมยิ้มรับ
“เป็นขัดผิว อาบน้ำแร่ แช่น้ำนม พอกหน้า บำรุงผิวนะคะใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงค่ะ” น้ำตาลพยักหน้ารับรู้
เหนื่อยกับงานมาทั้งวันแล้ว
เธออดขำกับความคิดของตนเองไม่ได้
“ช็อปปิงก็เหนื่อยเหมือนกันเที่ยวก็เหนื่อยเหมือนกัน” น้ำตาลว่าพลางขยับตัวช้าๆ
ขณะที่น้ำตาลกำลังนอนผ่อนคลาย เสียงโทรศัพท์ที่มีเอม่าโทรตามก็ดังขึ้น
“คืนนี้เจ้านายจะพักที่ไหนคะ”คนที่กำลังแช่น้ำนมอดยิ้มไม่ได้ “ยังไม่ได้คิดเลย”
“ให้เอม่าจองที่พักที่ไหนดีคะ” ลูกน้องสาวน้ำเสียงกระวนกระวาย
“กลับไปนอนที่เรือดีไหม”ปลายสายรีบบอก
“มันดึกแล้ว เจ้านายเหนื่อยมาทั้งวัน” น้ำเสียงของลูกน้องสาวเป็นห่วงเหลือเกิน
“ขออนุญาติให้เอม่าจองโรงแรมในลอนดอนให้พักนะคะ”
“ตามใจเธอแล้วกัน” หลังจากวางสายไม่ถึงสิบนาที ก็มีข้อความจากลูกน้องคนสนิทเข้ามา
[เอม่าจองโรงแรมนี้ดีไหมคะ]
คนห่วงเจ้านายแชร์โลเคชั่นสถานที่และรูปภาพห้องพักมาให้เธอ
[แป๊บก่อนนะจ๊ะ] น้ำตาลพิมพ์ตอบกลับไปขณะเลื่อนมือถือดูไปเรื่อยๆ
หญิงสาวเลื่อนผ่านจนไปเจอกับภาพโรงแรมควีนลอนดอน เซนต์เจมส์มันเป็นโรงแรมที่เธอเพิ่งเห็นมาจากที่ใดที่หนึ่งมาก่อนแต่จำไม่ได้ว่าเห็นมาจากไหน
[คืนนี้ฉันต้องการพักโรงแรมนี้เอม่าโทรไปจองห้องพักให้ที]
[ได้คะเจ้านาย]
“พักในลอนดอน ช็อปปิงแบรนด์ดัง อาหารอร่อย เหล้าดีๆ พักผ่อนโรงแรมที่ใกล้ชิดธรรมชาติด้วย” น้ำตาลพูดกับตัวเองเบา รู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูก
