บทย่อ
ลีออง“บอดี้การ์ด” หนุ่มสุดหล่อกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากเพื่อนรัก ให้คุ้มกัน น้ำตาลลูกค้าสาวระดับวีไอพีที่ถูกไล่ล่าจากมาเฟียใหญ่ เขามีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับเธอหากแต่ความรัก ความผูกพันธ์ได้ก่อตัวขึ้นท่ามกลางการเดินทางหลบหนี และเพราะ ความแค้นของเขาและมาเฟียใหญ่รอวันสะสาง เขาและเธอจะหลุดพ้นจากการตามล่าพร้อมกับพลิกเกมส์มาเป็นผู้ล่าได้อย่างไร บทสรุปความรักของบอดี้การ์ดหนุ่มกับลูกค้าวีไอพีแสนสวยอีกทั้งเบนอดีตคนรักของเธอ จะกลับมาอยู่ในหัวใจได้หรือไม่ มาเป็นกำลังใจให้ลีอองและน้ำตาล จากการตามไล่ล่าของ มาเฟียใหญ่ ความแค้นของเขาที่รอวันสะสาง ความรักของเขาและเธอ เบนอดีตคนรักของน้ำตาลที่ต้องการกลับมาหาเธอใน The Bodyguard Jg==น้ำตาล ใกล้มด
1
ตอนที่ 1
ณ สนามบินกรุงลอนดอน ชายชราวัยเจ็ดสิบปีนั่งรอใครบางคนด้วยใจจดจ่อ สายตามองตรงไปด้านหน้าด้วยความคาดหวัง ข้างกายมีบอดี้การ์ดรายล้อมนับสิบคน
ในระหว่างที่กำลังนั่งรออยู่นั้น เสียงเรียกจากด้านหลังดังแหวกอากาศขึ้นพร้อมกับที่ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยอาการรีบร้อน ลุกลี้ลุกลนจนเหนื่อยหอบ
“ท่านเบนจามินครับทำไมท่านไม่ใช้ผมกับไอ้พวกนั้นมารับ...”
ชายหนุ่มเว้นช่วงขณะมองข้ามไปยังเหล่าชายหนุ่มร่างกายใหญ่โตที่ยืนโอบล้อมเรียงรายก่อนจะพูดต่อ
“...แค่ผู้หญิงคนเดียว”
ชายชรานิ่ง ไม่ตอบคำถามของผู้ที่มาใหม่ประหนึ่งไม่ยินดียินร้ายอะไร หากแต่แววตาฉายแววดีใจอย่างไม่ปิดบัง
“ระดับท่าน จะมาเองเพื่ออะไรครับแล้วทำไมต้องมาก่อนเวลาตั้งหนึ่งชั่วโมงด้วย”
ชายหนุ่มถึงแม้ไม่ได้คำตอบ ก็ยังคงรัวคำถามใส่ชายชราไม่หยุด
เฮ้อ คนหนุ่มสมัยนี้ มีแต่คำถามและความสงสัย
ชายชราคิดในใจพลางยิ้มอย่างอารมณ์ดี
“ใจมันสั่งมาน่ะ”ชายชราตอบอย่างนึกสนุก แต่ชายหนุ่มประหลาดใจกับคำตอบที่ออกมาเพราะไม่ได้ฟังคำพูดแบบนี้จากชายชรามานานแล้ว
“เธอคนนี้เท่านั้นที่จะรักษาบริษัทและอาณาจักรของฉันเอาไว้ได้”
มันเป็นความต้องการที่เขารอคอยมานาน
“ขอร้องให้เธอมาสัก...อืม...ร้อยครั้งได้มั้ง เธอพึ่งยอมมาก็ครั้งนี้”
“ใครกันครับท่าน ควีนอลิซซาเบ็ธเหรอครับ” ลูกน้องคนสนิทหยอกล้อเจ้านายอย่างสนิทสนม หากแต่ท่านเบนจามินสวนขึ้นมาทันควัน
“ถ้าเป็นควีนอลิซซาเบ็ธ ฉันก็ใช้พวกแกมาแล้วซิ”
ระหว่างที่คนหนุ่มและคนสูงวัยกำลังประลองริมฝีปากกันอย่างสนุกสนาน เลขาฯ สาวใหญ่ผู้ไร้รอยยิ้มก็รีบแทรกตัวเข้ามาเพื่อรายงานบางสิ่งอย่างรวดเร็ว
“เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของเธอลงจอดแล้วค่ะ”
เบนจามินรีบพาขบวนลูกน้องกับกองคาราวานรถโรลส์รอยซ์ที่จอดรอบริเวณลานกว้างเคลื่อนเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็วปานสายฟ้า
ลูกน้องคนสนิทของเบนจามินลงมาจากรถพร้อมทั้งพูดกับตนเองว่า
“ต้องดูให้ได้ ว่าเป็นใครปกตินายท่านไม่เห็นคนสำคัญมากกว่าเงินทองอยู่แล้ว”
ทุกคนเฝ้ารอ ต่างอยู่ในความคิดของตนเอง
ประตูเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นสาวสวยหุ่นดี หน้าตางดงามทุกองศาดุจนางอัปสรในวรรณคดีไทย
เธอค่อย ๆ ก้าวขาออกมาจากประตูเครื่องบินที่เปิดรอไว้อยู่แล้ว เดินอย่างสง่างามลงมาจากตัวเครื่องพร้อมรอยยิ้มที่สะกดหัวใจทุกดวง มันทำให้คนมองแทบลืมหายใจ
เบนจามินเข้ามากล่าวทักทายและรีบเข้าไปจับมือแสดงการต้อนรับเธออย่างเป็นปลื้มสุดๆ
“น้ำตาลรุ่งเรืองพาณิชย์...ในที่สุด ได้เจอตัวจริงสักที”เลขาหน้านิ่งของเบนจามินได้แต่พูดกับตัวเอง
เธอดูสง่างาม น่าเกรงขามและสวยหวาน แม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังอดชื่นชมไม่ได้
“นายท่านบอกว่าหากเธอลงมาพลิกธุรกิจไหน ธุรกิจนั้นได้กำไรเป็นหมื่นล้าน”
เธอถอนหายใจเบาๆ
อย่าให้ฉันต้องตกงานตอนแก่เล้ย เพี้ยง!!!
เลขาฯ สาวใหญ่ได้แต่ภาวนาในใจ
“สวย เก่ง มันคือเธอชัดๆเลย”
เบนจามินเปิดประตูรถโรลส์รอยซ์ให้หญิงสาวด้วยตนเอง น้ำตาลยิ้มและตอบปฏิเสธว่า
“ฉันขอไปที่พักเองแล้วกันค่ะ”
และก่อนที่เธอจะเดินจากไป น้ำตาลหันมายิ้มให้กับชายชราและกล่าวว่า
“ขออนุญาต !! บอกนัดหมายของเราคืนนี้อีกครั้งนะคะ”
เมื่อสิ้นเสียงของหญิงสาว ทันใดนั้น เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของเธอก็ค่อย ๆ ลงจอดอย่างช้า ๆ น้ำตาลรีบขึ้นนั่งก่อนที่มันจะบินหายลับไปพร้อมกับรอยยิ้มสดใสของเธอ
“กลับ!!”
เบนจามินเมื่อเห็นว่าเฮลิคอปเตอร์ของหญิงสาวหายลับไปจากครรลองสายตาแล้วก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงอันดังพลางเดินไปขึ้นรถอย่างรวดเร็ว
“มาเพื่อรอรับ แค่เนี้ยะ” ลูกน้องคนเดิมพูดขึ้นเบา ๆ พร้อมทั้งเกาหัวตนเองด้วยว่ารู้สึกงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเหลือเกินเขามองตามหลังนายอย่างไม่เข้าใจ
“เธอสำคัญกับเจ้านายมากเลยเหรอ”
เฮลิคอปเตอร์ที่ลอยลำอยู่บนท้องฟ้าสลับเมฆขาวเคลื่อนไปด้วยความเร็วคงที่ น้ำตาลนั่งเงียบมาตลอดทาง เธอมองวิวทิวทัศน์เบื้องล่างที่โอบล้อมไปด้วยน้ำสีเขียวและภูเขาทั้งสองด้านเป็นระยะ ๆ
เมื่อใกล้ถึงที่หมายเฮลิคอปเตอร์ก็ลดความเร็วลงบนเรือสำราญสีเทาที่ลอยลำอยู่
“ทุกอย่างสวยงามเสมอ”
ฟั่บ ฟั่บ ฟั่บ ฟั่บ
เสียงใบพัดเฮลิคอปเตอร์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบ มันลงจอด บนลานที่มีอักษรตัวH อย่างปลอดภัยในขณะที่เครื่องยนต์เสียงเบาลงเรื่อย ๆ
นักบินนำเครื่องลงจอดอย่างนิ่มนวล น้ำตาลเมื่อออกมาพ้นจากรัศมีใบพัดก็หยุดยืนนิ่งหยุดและมองอาณาจักรอันใหญ่โตที่เธอทุ่มเทสร้างมันขึ้นมา
มันเป็นสำนักงานที่ไม่มีคนรู้จัก
ระหว่างที่น้ำตาลกำลังอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง หญิงสาวผมยาว สวมชุดสูทสีดำก็วิ่งมาต้อนรับเธออย่างกระตือรือร้น
“เจ้านาย!!!ดีใจจังเลยค่ะ เจ้านายมา”
“ขอบใจ”
หญิงสาวเอ่ยตอบรับผู้มาใหม่ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยกับความเอ็นดู
คำนี้เป็นคำพูดที่หญิงสาวเรียนรู้เป็นอย่างดีในการอยู่ที่อังกฤษ การกล่าวขอโทษขอบคุณขอร้องอยู่เป็นประจำ ทำให้น้ำตาลติดปากใช้กับคนที่นี้
“ไม่เป็นไรคะ” กล่าวเพียงเท่านั้นเอม่าก็เดินหายไปอย่างรวดเร็วเพราะเธอตัวเล็กจึงทำให้ทำอะไรคล่องตัวไปเสียทุกอย่าง
“เงียบสงบดีจัง”
น้ำตาลยิ้มให้สรรพสิ่งรอบตัว เธอสร้างอาณาจักรแต่ละแห่งที่เดินทางไปด้วยมันสมองและสองมือ
น้ำตาลสอดส่ายสายตามองไปทั่วเรือซุปเปอร์ยอร์ช สุดหรูของตนเองที่แสดงถึงความร่ำรวยฟุ่มเฟือยคนเป็นเจ้าของ
คนที่เห็นมักจะคิดว่ามันเป็นเรือท่องเที่ยวพักผ่อนของเหล่าอภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย
เจ้าของต้องรวย และขาดสติด้วย
เพื่อนรักเหน็บแนมเธอตอนซื้อใหม่ๆ
ประตูกระจกเลื่อนออกช้าๆ หญิงสาวเดินเข้ามาสายตาเปี่ยมไปด้วยความสุขเหมือนทุกครั้งที่มาเยือนที่นี้
น้ำพุที่รอคอยเจ้าของ เคลื่อนตัวขึ้นลงช้า ๆอย่างอ่อนช้อยตามจังหวะดนตรีบรรเลงเบาๆ
“มันทำให้รู้สึกผ่อนคลาย”
ทุกสิ่งอย่างถูกตกแต่งอย่างลงตัว โซฟารับรองแขกได้รับการจัดเรียงให้เข้ารูปทรงห้องเรียบง่ายแต่ดูหรูหรา
แชนเดอเลียร์เรียงรายอยู่บนเพดานขาวมันสวยงามอ่อนช้อยและถูกออกแบบจากมัณฑนากรชื่อดังค่าตัวแสนแพง
“สวยงาม เหมาะสมกับราคา”
หญิงสาวอดขำให้กับตนเองไม่ได้เมื่อเห็นตัวเลขเฉพาะค่าออกแบบ ไม่รวมค่าตกแต่ง
“ความสุขในชีวิต”
เธอยิ้มให้กับทุกอย่างรอบตัว ผลงานออกมาตามที่เธอต้องการ ทุกอย่างเลย
“มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ต้องสมบูรณ์แบบ เหมาะสมกับความเป็นเจ้าของบริษัทผลิตระบบหุ่นยนต์ช่วยเทรด ”
หญิงสาวก้าวขาขึ้นบันไดช้าๆ เธอหยุดที่ชั้นบน ลานกว้างถูกใช้เพื่อจัดงานเลี้ยงสำหรับเธอและเพื่อนๆ ถ้าเวลามีโอกาสมาที่นี้
“น้อยครั้งที่จะมีคนมา”
สายลมอ่อนๆ ปะทะใบหน้าสวย ผมปลิวสยาย ลมช่วยลดความร้อนอบอ้าว
สิ่งที่ปรากฏต่อสายตาเธอคือ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่เลื่อนเก็บได้ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่มองเห็นบาร์เครื่องดื่ม โต๊ะอาหารขนาดใหญ่ สำหรับรับรองแขกวีไอพีในการจัดเลี้ยงสังสรรค์ แต่แขกที่ได้รับเชิญมาที่นี้มักจะมีไม่เกินสามหรือสี่คน
มันเป็นอาณาจักรเคลื่อนที่ ถึงแม้เธอต้องใช้เงินหลายสิบล้าน ในการสร้างมันขึ้นมา
ยังไม่รวมค่าดูแลเดือนละประมาณหนึ่งล้านเหรียญอีกต่างหาก
“แต่มันคุ้มค่ากับเงินที่ลงไป”เธอบอกตนเอง
รูปหล่อสำริดชายหญิงกลางลานกว้างที่ถือเป็นแรงบันดาลใจ บ่งบอกความเป็นตัวตนของเธอ
ภาพหญิงสาวนอนเหยียดกายตรงบนหลังชายหนุ่ม ที่กำลังใช้สองแขนในการทรงตัว ลำตัวตรงขนานพื้น
“ฉันคบหาผู้ชายทุกคนที่สามารถช่วยเหลือการทำงาน”
เธอยิ้มให้กับความคิดของตนเอง
“วิน-วิน”
แต่มันเป็นเรื่องจริงทุกครั้ง เธอเลือกที่จะหาข้อมูลสำคัญจากชายหนุ่ม
“ไม่ได้หลอกใช้ใครได้ด้วยกัน..ทุกคน”
หญิงสาวสลัดความคิดบางอย่างออกจากหัว
“ฉันต้องการพักผ่อนนี่นา”
เธอนั่งเอนกายนอนบนเตียงใหญ่ ผ่อนคลายร่างกายสายตามองท้องฟ้านกนางนวล บินไปมา
“ชีวิตพวกเจ้า มีความสุขดีไหม”
รอยยิ้มแห่งมิตรภาพถูกส่งไปให้ แม้พวกมันจะไม่สามารถรับรู้ ได้ก็ตาม
“พวกเจ้า..เหมือนฉันไหม ทำงานอย่างหนัก”
เธอถอนหายใจเบาๆ
“หาเงิน!! ใช้เงินหาความสุขใส่ตัวเอง”