5
ตอนที่ 5
ณ โรงแรมควีนลอนดอนเซนต์เจมส์ที่ห้องสวีทหรู ราคาสูงลิบลิ่ว น้ำตาลยืนรับลมโดยมีไอแพดคู่กายเคียงข้าง
“ซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ดูผลงานหน่อยแล้วกัน”หญิงสาวตามงานขณะมองทัศนียภาพและจิตกรรมต่างๆ ที่ออกแบบอย่างงดงาม
เพียงไม่นาน ข้อมูลการวิเคราะห์ตัวเลขตลาดหลักทรัพย์ทั่วโลกก็ถูกส่งมาให้เธอ
“ว้าว!!! กวาดเงินมาได้ห้าล้านเหรียญ สมแล้วที่เป็นมือขวาของฉัน”แววตาส่องประกายความพอใจ แม้จะอยู่ที่ใดก็สามารถทำงาน สร้างรายได้
“อิจฉาคนที่อยู่ที่นี่จังเลยคนอังกฤษนี่ชอบอยู่กับธรรมชาติซะจริง ความงามอยู่คู่กับจิตใจที่สงบสินะ” นี่เป็นสิ่งที่น้ำตาลสัมผัสได้
“โรงแรมกลางเกาะ แวดล้อมด้วยต้นไม้ใบหญ้า น้ำพุเต้นรำ”หญิงสาวมองไปยังลานน้ำกว้างโดดเด่นหน้าโรงแรม
“ทะเลสาบสวยจัง เล่นได้น้ำตอนกลางคืนคงมีความสุขดี” น้ำตาลดวงตาเป็นประกายแววตาเพ้อฝันสุขใจ
“ฉันต้องเป็นเจ้าของมันให้ได้” เธอเดินออกมามองนอกหน้าต่างบานใหญ่ในระดับสายตาสระน้ำลดเลี้ยวไปตามถนนภายในโรงแรม ทางเดินปูด้วยอิฐแดงลาดยาว
“เห็นแล้วชื่นใจจังเลย”
ต้นหญ้าเขียวขจีท่ามกลางธรรมชาติ อาคารออกแบบลงตัวสวยงาม ใช้งานได้จริง
“ว้าว!! สมกับราคาเลยมันจะสร้างรายได้ ฉันจะทำให้มันกลายเป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในอังกฤษ มันต้องทำเงินได้” น้ำตาลยิ้มหวานอย่างมีความหวัง
ขณะที่หญิงสาวกำลังยืมมองดูวิวทิวทัศน์อย่างอารมณ์ดี ข้อความจากเอม่าก็เด้งขึ้นมา
[เจ้านาย มีคนติดต่อขอซื้อบอทค่ะ]
หญิงสาวแสนสวยยิ้มมุมปาก แววตาหยิ่งผยอง
[ตอบไปเลยไม่ขาย] น้ำตาลพิมพ์ตอบกลับไป และเกือบจะในทันทีที่มีข้อความตอบกลับมา
[ไม่ฟังราคาก่อนหรือคะ] เอม่าถามอย่างรู้สึกเสียดายตัวเลขที่อีกฝ่ายเสนอมา
น้ำตาลไม่โต้ตอบอะไรกลับไปอีก แต่ปิดไอแพดและชื่นชมธรรมชาติรอบตัว ต้นสนสูงใหญ่ที่มีใบเขียวสลับเหลืองยืนต้นเรียงรายริมทะเลสาบ มันช่างเป็นโรงแรมในฝันของเธอจริงๆเลย ร่างบางสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะผ่อนออกช้า ๆ
“อยากอยู่กับธรรมชาติมานานแล้ว”
นึกถึงเมื่อคืน ระหว่างที่น้ำตาลกำลังช็อปปิงภาพในจอประชาสัมพันธ์เสนอโรงแรมที่ต้องพักในมหานครลอนดอน
แวบแรกที่เธอเห็นโรงแรมแห่งนี้ เธอรู้สึกอยากไปพักผ่อนให้ได้ และเมื่อได้มาจริง ๆ แล้ว ก็ยิ้มอย่างดีใจที่ตัดสินใจมาพัก
“ทุกอย่างไม่ผิดหวังเลย”
น้ำตาลที่กำลังเพลิดเพลินกับบรรยากาศแห่งธรรมชาติ หลุดเข้าไปในภวังค์จนเกือบจะไม่ได้ยินเสียงพนักงานโรงแรมเคาะประตูเรียกเบาๆเธอเดินไปเปิดประตูให้พนักงานที่ยืนรออยู่หน้าประตูอย่างสุภาพ
“ขอโทษค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ”น้ำตาลมองหน้าพนักงานที่มาเคาะประตูห้องเธอ บนใบหน้าประดับรอยยิ้มน้อย ๆ
“คุณผู้หญิงถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมสามารถแจ้งได้ตลอดเวลาเลยนะคะ หรือถ้ามีอะไรขาดตกบกพร่องสามารถบอกพวกเราได้เลยคะ” คนตรงหน้าแจ้งอย่างนอบน้อม
เป็นเรื่องยากสำหรับใครที่มีโอกาสเห็นเธอในระยะประชิดแล้วจะไม่อิจฉา รูปร่างหน้าตาของเธอคือความลงตัว สวยงามไปถึงกิริยามารยาท
“ที่นี่บริการดีมากเลยนะคะ”
พนักงานหญิงตาโต ไม่เคยมีแขกคนใดที่มาพักค้างคืนแล้วพูดเช่นนี้
“ขอบคุณค่ะ”
“ฉันเห็นการตกแต่งห้องพักให้ความรู้สึกเหมือนห้องนอนตัวเองเลยนะคะ” สายตากวาดมองไปรอบตัวเมื่อการพูดคุยเริ่มต้นขึ้น
“พนักงานทุกคนสุภาพเป็นกันเอง”
คู่สนทนายิ้มอย่างภูมิใจโรงแรมเมื่อได้รับคำชมจากลูกค้าวีไอพีจึงถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
“คุณดำเนินการได้เลยครับ”ชายชราบอกความต้องการ
“ผมชื่นชมกับสิ่งที่คุณคิดมาอย่างดี”เสียงแหบแห้งดังขึ้น
“เธอเก่งเหมาะสมกับค่าแรง ดีมาก ๆ เลย” เบนจามินมองตัวเลขในกระดานซื้อขายหุ้นบริษัท ราคาพุ่งขึ้นเป็นสองเท่าตัว
“ดิฉันจะตกงานไหมคะ”เลขาฯ ถามนายอย่างเป็นกังวลใจ
“น้ำตาลเก่งมากๆ”
เจ้านายหัวเราะชอบใจ
“ผมควรจ้างคุณต่อดีไหม” ชายชราหลับตานิ่งอย่างใช้ความคิด
“คุณทำงาน กับผมมานาน ไม่ต้องกังวลใจหรอก”
“ถ้าหล่อนยอมขายบอทให้ฉัน จะฟันกำไรขนาดไหน”ยิ้มที่มุมปากถูกจุดขึ้น ตัวเลขบนกระดานซื้อขายเป็นเครื่องยืนยัน
“เมื่อวานเราลองติดต่อไปขอซื้อบอทจากบริษัทของเธอแต่เธอไม่ยอมแพ้”น้ำเสียงของเลขาฯ มีความกังวล กลัวนายไม่พอใจในผลตอบรับที่ได้มาเพราะเบนจามินไม่พูดอะไร
“คุณออกไปก่อน”ผ่านไปอึดใจหนึ่งกว่าเสียงของชายชราจะดังขึ้น ถึงแม้ท่าทางการตอบสนอง คำพูดของเขาดูเหมือนไม่คิดอะไร แต่ในสมองเบนจามิน ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาอย่างแจ่มชัด
ใครมันจะโง่ขายตัวทำเงินให้เรา
หลังจากที่น้ำตาลส่งแผนงานให้คุณเบนจามิน วันนี้จึงกลายเป็นวันพักผ่อนของเธอ
“เรียบร้อยไปอีกงานแล้วเรา” หญิงสาวบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจแต่งตัวเพื่อออกไปเดินเล่นข้างนอก
พนักงานโรงแรมมองน้ำตาลในชุดกระโปรงสีขาวยาวกรอมเท้าตาไม่กระพริบร่างบางสวมหมวกใบใหญ่ เธอเลือกที่จะเดินเล่นในบริเวณใกล้ๆ
“สวยมากเลยนะคะ” เสียงของพนักงานสาว ๆ ในบริเวณนั้นที่พากันกระซิบกระซาบด้วยความชื่นชม ส่วนพนักงานหนุ่ม ๆ มองตามจนคอแทบพลิก
“แถมเก่งและรวยมากๆด้วย”ทุกสายตามองหน้าคนพูดอย่างสงสัย
“สังเกตุได้จากที่เธอต้องการความเป็นส่วนตัว เหมาโรงแรมทั้งชั้นยังไงล่ะ ” ทุกคนพยักหน้ารับ
“จริงด้วย ๆ”
“ห้องพักราคาแพงมาก แถมจ่ายเป็นเงินสดอีกต่างหาก”คนที่พูดสิ่งนี้เป็นฝ่ายการเงิน มันทำให้ทุกคนทึ่งในตัวหญิงสาวเพิ่มขึ้น
“น้ำตาล รุ่งเรืองพาณิชย์ไง”ทุกคนตาโตปนตกใจ
“เห็นในข่าวว่าท่านเบนจามินเชิญเธอมาเป็นที่ปรึกษาธุรกิจไหม”
ไม่มีใครในลอนดอนที่ไม่รู้จักเบนจามิน เขาคือหนึ่งในผู้ที่ร่ำรวยและมั่งคั่งที่สุดในเมือง
“ความรวยล้นฟ้า อิทธิพลคับเมือง”
น้ำตาลเดินเล่นไปเรื่อย ๆ จนไปเจอแปลงกุหลาบสีขาวขนาดใหญ่ เธอมองอย่างไม่วางตา
“ไง มาแอบปลูกไว้ในสวนเสียลึกเชียว”
เธอก้าวเท้าเดินไปใกล้ๆเพราะสิ่งดึงดูดสายตาคือดอกกุหลาบดอกใหญ่ที่กำลังส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ กลีบเรียงเป็นชั้นอย่างน่าดู
“สวยจังเลย”
“อย่ายุ่งกับมัน”มือเรียวยาวที่กำลังจะจับชะงักกลางอากาศร่างบางหันไปทางเสียงตะโกนบอก
“ผู้หญิงนี่จริงๆ เลย”เสียงที่ดังขึ้นบ่งบอกถึงความไม่พอใจที่กำลังก่อตัวตามมาด้วยเสียงบ่นอย่างไม่เกรงใจที่เมื่อได้ยินแล้วถึงกับระคายหู ขุ่นเคืองในอก
“ผู้หญิง ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควรเลยมารยาทไม่มี”
“นี่นาย!!!”หญิงสาวโกรธกับคำพูดของชายหนุ่มแปลกหน้า ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเธออย่างนี้มาก่อน
“นายเป็นพนักงานที่นี่ใช่ไหม”
ไม่มีคำตอบออกมาจากปากชายหนุ่มตาฟ้า ผมยาวสีน้ำตาลประบ่า เนื้อตัวรวมถึงกางเกงยีนส์และรองเท้าบูทส์เปื้อนดินโคลนไปหมด
“ลูกค้า! เป็นพระเจ้า!”น้ำตาลว่าพลางยืดตัวตรง แต่ในจังหวะนั้นเอง รองเท้าส้นสูงคู่สวยราคาแพงของเธอดันติดหล่มโคลนใกล้ต้นกุหลาบ
“อุ๊ย!!!”
“คุณทำอะไรลงไป!” ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็ร้องขึ้นด้วยความโมโห แต่หญิงสาวไม่สนใจ พยายามก้าวเดินแต่รองเท้าที่ติดโคลนทำให้ก้าวขาไม่ได้แถมแปลงกุหลาบก็พังไม่เป็นท่า
“นายๆมาช่วยดึงฉันหน่อยซิ” น้ำตาลวิงวอนขอร้องชายหนุ่มตรงหน้าแบบวางอำนาจ ชายหนุ่มอดขำกับกิริยาหญิงสาวไม่ได้
“มาผมช่วย” เขาฉุดมือหญิงสาวขึ้นมา
“ว้าย!!!” กระโปรงสีขาวเปรอะเปื้อนไปด้วยดิน รองเท้าอยู่ในโคลน สภาพเธอดูแทบไม่ได้
“ไปๆ ล้างเนื้อล้างตัวก่อน”ชายหนุ่มเดินนำหน้าเทพธิดาตกโคลน ในขณะที่เธอก็เดินเท้าเปล่า มือหิ้วรองเท้า อีกข้างถือหมวกใบใหญ่เดินตามเขาไปอย่างกะปลกกะเปลี้ย
เมื่อเดินมาได้สักพัก ทั้งคู่ก็มาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่งท่ามกลางต้นไม้ มีต้นสนสูงใหญ่อยู่หน้าบ้านไม้สีขาวหลังเล็ก มันบอกถึงความเป็นคนโรแมนติกของเจ้าของ
“สวยจังเลย”สายตาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความชื่นชม ดอกไม้ที่ปลูกอยู่ทั่วบริเวณส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ
“อิจฉาเจ้าของบ้านจัง”
น้ำตาลก้มหน้าก้มตาล้างเท้าอย่างขะมักเขม้น เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งก็ไม่เห็นชายหนุ่มแล้ว
“ไปไหนแล้วของเขาแล้วล่ะ”
ระหว่างที่เธอกำลังสอดส่ายสายตามองหาคนที่หายไปตอนไหนไม่รู้ ก็มีพนักงานผู้หญิงเดินเข้ามาหาเธออย่างรวดเร็ว
“คุณผู้หญิงมาที่นี้ได้ยังไงคะ”
“ทำไมฉันถึงเข้ามาไม่ได้คะ” หญิงสาวถามอย่างสงสัยขณะเดียวกันก็เดินตามคนพูดมาติดๆ
“ที่นี้เป็นที่ส่วนบุคคล ไม่อนุญาตให้แขกเข้ามาค่ะ”
