บท
ตั้งค่า

ตื๊อรัก 3

TRICK TO LOVE : STORY 3

ZHEN TALK

03.00 น.

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าตอนนี้คนอย่างไอ้เจินกำลังต้องมานั่งเฝ้าเด็กที่ไหนก็ไม่รู้นอนกรนเสียงดัง ซ้ำยังอ้าปากจนยุงเกือบจะบินเข้าไปวางไข่ได้อยู่แล้ว ผมนอนนิ่งๆ ทอดสายตามองร่างเล็กที่สะบัดตัวไปทางซ้ายทีขวาทีเพื่อหาอะไรสักอย่าง สุดท้ายจบลงที่เรียวขาสวยกระแทกพาดอยู่บนเอวผม

คนเมาส่งเสียงแจ๊บๆ พร้อมซุกใบหน้าตัวเองเข้ากับแผ่นอกของผมโดยไม่ได้รู้ตัวอะไรเลย เจ้าของลมหายใจสม่ำเสมอจัดได้ว่าสวยไม่หยอก ดวงหน้าหวานสวย จิ้มลิ้ม น่ารัก แบบพิมพ์นิยม หน้าหมวยๆ ผิวขาวๆ ตัวเล็กๆ นมโตๆ ใครเห็นก็ต้องจ้องตาเป็นมัน…

อือฮึ… โคตรสเป็กเลยแหละ…

แต่ก็เว้นอยู่อย่างถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองก็เชื่อไม่ลงเหมือนกัน… น้องมันแต่งตัวเซ็กซี่ชนิดที่ว่าผู้ชายเหลียวมองกันทั้งผับ ซ้ำยังทำท่ายั่วยวนใส่ผมสารพัด แต่กลับกำเดาไหลตอนเห็นกล้ามเนื้อหน้าท้อง ซ้ำยังเป็นลมตอนเห็นไอ้ยักษ์ของผมอีก...

ก็ไม่รู้จะขำหรือจะยังไงดี...

Rrrrrrrr

เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์แผดดังขึ้นทำให้ผมต้องละสายตาจากร่างบางที่ตอนนี้กำลังนอนหลับปุ๋ยเหมือนเด็กๆ ก่อนจะลุกจากเตียงไปรับสายคนที่โทรเข้ามาตอนกลางดึกกลางดื่น

ไม่ใช่ใครอื่นแต่เป็นไอ้ยักษ์หนึ่งในเพื่อนสนิทของผมเอง… ก็ไอ้คนที่ส่งสัญญาณเตือนผมตอนที่ยัยเปี๊ยกนี่กำลังแอบดูอยู่คนนั้นไง…

‘เป็นไงมั่ง?’

“ไม่เป็นไง”

‘ถุย! ไอ้เจิน… ถามจริงว่ายังไง?’

“ก็… รอดูไปก่อน” ผมพ่นลมหายใจเบาๆ สายตาชำเลืองมองคนตัวเล็กที่กำลังนอนดิ้นไปดิ้นมาเพราะไม่มีอะไรให้กอดก่าย

‘มึงก็รู้ว่าเขาเป็นพี่สาวไอ้หลิน…’

“เด็กนี่ไม่เกี่ยว” ผมตอบกลับไป พร้อมทั้งละสายตามาจากคนที่กำลังถูกเอ่ยถึงในบทสนทนา

‘ตามใจมึง เห็นสวยหน่อยไม่ได้เลย’ ปลายสายหัวเราะเสียงดังอย่างรู้ทัน

“แค่นี้แหละ กูจะนอน…”

‘นอนหรือทำอะไรเอ่ย? กิ๊วๆ’

“แค่นี้”

ติ๊ด!!

เพราะขี้เกียจจะคุยต่อผมเลยตัดสายแล้วโยนโทรศัพท์ไปไกลๆ ให้พ้นหูพ้นตา ตอนนี้ไม่มีอารมณ์จะคุยกับใครทั้งนั้น ขนาดสาวสวยเบอร์แรงทักมาอ่อยสารพัดผมยังขี้เกียจจะตอบเลย… สายตาผมมันเอาแต่มองไปที่น้องอ้ายไม่ได้หยุด

และก็ไม่รู้อีกเหมือนกันว่าทำไมตอนนี้ผมถึงได้รู้สึกผิดขึ้นมาเสียอย่างนั้นทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ก็พอจะรู้มาบ้างว่าคนที่กำลังนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรบนเตียงเป็นพี่สาวแท้ๆ ของผู้หญิงที่ผมเพิ่งจะมีประเด็นด้วยสดๆ ร้อนๆ ผ่านมาแค่ไม่กี่วันนี่เอง

ถ้าคนนอกฟังก็อาจจะตัดสินไปว่าผมเหี้ย… ที่ไปหลอกสาวให้รัก แล้วก็เททิ้งเป็นน้ำเปล่า…

แต่เรื่องมันก็ไม่ใช่แค่นั้น… ที่บอกว่าผมไปหลอกมันก็คือเรื่องจริง แต่เหตุการณ์นั้นมันคือปลายเหตุ และถึงเจ้าตัวเองก็คงจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรถึงได้โดนหักอก เรื่องมันซับซ้อน… แต่เด็กนั่นรู้แค่เรื่องที่ผมทำไง… เรื่องราวมันเลยมาลงอีหรอบนี้แทน

ลงเอยก็ตรงที่พี่สาวแท้ๆ ต้องมาออกโรงแทน… ด้วยการใช้วิธีเดียวกันกับที่ผมเคยทำ…

ตอนแรกก็กะว่าจะแกล้งเล่นๆ ให้ไม่กล้ามายุ่งกันอีก แต่ตัวผมเองก็ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่าจะได้เห็นคนที่หน้าตาน่ารักโคตรๆ แต่นิสัยประหลาดขนาดนี้ ทุกการกระทำของอ้ายผมมองออกหมดนั่นแหละว่าเป็นการฝืนใจทำ แต่เห็นแล้วมันก็ตลกดี เลยแกล้งแรงไปหน่อย… ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเป็นลมพับไปแบบนั้น

เอาเป็นว่าน้องมันดูซื่อบื้อเกินกว่าไอ้หลินหลายขุมก็แล้วกัน… จากที่เคยอยากจะทำให้กลัวตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ลงทั้งนั้นแหละ ไอ้เรื่องรูปร่างหน้าตาก็พอจะมีส่วนอยู่บ้างเพราะยังไงผมเองก็เป็นผู้ชายมีสาวเดินเข้าหาถึงที่ขนาดนี้ถ้าบอกว่าไม่คิดอะไรเลยมันก็คงจะเป็นการโกหกหน้าด้านๆ

แต่ใจจริงผมก็ไม่ได้คิดแค่เรื่องสิบแปดบวกอย่างเดียว… แค่รู้สึกว่านิสัยน้องมันตลกดี น่ารัก ไม่ค่อยเหมือนใคร... เอาตรงๆ ก็คือโดนแหละ! จะบอกว่าชอบก็คงใช่…

แต่เจ้าตัวเข้ามารูปแบบนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมควรจะต้องยังไงต่อดี? แกล้งทำเป็นไม่รู้ต่อไป หรือว่าจัดการให้สิ้นเรื่องไปเลย แบบไหนดีกว่ากัน? ถ้าเป็นก่อนหน้าที่จะได้คุยกันจริงๆ ผมคงเลือกแบบหลังไม่ต้องคิดให้เสียเวลา แต่ตอนนี้บอกตรงๆ ว่าไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ น้องมันก็น่ารักดีเก็บไว้ใกล้ๆ ตัวอีกสักพักก็คงจะทำให้ชีวิตมีสีสันมากขึ้น

คนเป็นน้องก่อเรื่อง แต่คนเป็นพี่ต้องมาออกโรงให้ น่าสงสารออก...

ผมถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจโยนความรู้สึกสองจิตสองใจทิ้งไป ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง และครั้งนี้ไม่ต้องรอให้คนข้างๆ ควานหาหมอนข้างอีกแล้ว แต่เป็นผมเองที่เสนอตัวเข้าไปให้ขาเล็กได้กอดก่ายเต็มที่

ไม่รู้เหมือนกันว่าผมกำลังทำบ้าอะไรอยู่… รู้อยู่หรอกว่าไม่ควรจะไปใจดีด้วย… แต่ดูท่าทางเด็กน้อยนั่นสิ จะให้ใจร้ายยังไงไหว?

“อึดอัด”

“...”

เสียงหงุดหงิดพึมพำเบาๆ จนผมต้องก้มลงมองคนในอ้อมแขนที่กำลังถีบตัวออกห่างพร้อมทั้งปลดสายชุดเดรสของตัวเองออกจากไหล่ทั้งสองข้างลงง่ายๆ ทั้งๆ ที่ยังนอนหลับตาอยู่แบบเดิม

และไอ้ชุดเวรนี่ก็ขยับไปกองอยู่ที่เอวคอดกิ่วแทน เรือนร่างขาวผ่องท่อนบนมีเพียงแค่บราเซียร์ปกปิดความใหญ่โตของทรวงอกเอาไว้เท่านั้น

“…”

ผมถอนหายใจเบาๆ มองสภาพคนกึ่งเปลือยด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด จะขำก็ขำไม่ออก รู้สึกสงสารด้วยซ้ำไปที่เด็กน้อยแบบอ้ายต้องเสี่ยงเข้าหาผู้ชายที่เจ้าตัวเองก็คงไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นคนยังไง เพื่อที่จะออกโรงทำเพื่อน้องสาวตัวเองแบบนี้

โคตรจะอันตรายเลยนะเอาจริงๆ ดูๆ แล้วน้องมันคงจะสดๆ ซิงๆ ไม่ต้องสืบเลย…

ผมทำได้แค่ลุกจากเตียงไปหาเสื้อยืดมาเปลี่ยนให้คนเมาโดยพยายามไม่สนใจสิ่งยั่วยวนตรงหน้า

ก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมาก… แค่สวมเสื้อให้แล้วดึงไอ้เศษผ้าชุดเดิมออกทางเรียวขาแค่นั้น…

กางเกงไม่จำเป็นเท่าไหร่เพราะดูจากขนาดเอวเล็กๆ นั่นแล้วถ้าต้องใส่จริงๆ คงเสียเวลาม้วนเอวกันอีกหลายตลบ ไม่ใส่คงง่ายกว่า… แต่เพราะไอ้ชั้นในลูกไม้ตัวเล็กจิ๋วนั่นมันยั่วยวนสายตาเหลือเกินทำให้ผมต้องรีบดึงผ้าห่มมาห่มให้น้องมันจนมิดถึงคอ

และคืนนี้ก็จบลงตรงที่ผมต้องนอนฟังเสียงกรนของคนเป็นสาวเป็นนางทั้งคืน ร่างกายถูกประทุษร้ายสารพัด ตั้งแต่กอดยันถีบ…

โอเค เอาเป็นว่ามันเละเทะไม่เหมือนที่จินตนาการไว้เท่าไหร่ก็พอ...

09.00 น.

“กรี๊ด!!!”

“...”

“กรี๊ด!!”

“...”

“ฮือ! นี่มันอะไรกัน?”

ผมขยับร่างกายตัวเองอย่างเหนื่อยอ่อน เหยียดแขนเหยียดขาเพื่อบิดขี้เกียจอย่างสบายอารมณ์ แกล้งทำเป็นไม่สนใจสีหน้าตื่นตระหนกตกใจของคนข้างๆ ที่กำลังส่งเสียงร้องโวยวายตีโพยตีพายอย่างไม่รักษาอาการ

อ้ายกำลังเปิดผ้าห่มสำรวจร่างกายตัวเอง หยิกแขนตัวเอง จนถึงขั้นเกือบจะฟาดฝ่ามือใส่ใบหน้าตัวเอง ถ้าไม่ติดว่าผมรีบฉวยข้อมือนั่นเอาไว้ก่อน ไม่งั้นคงได้ฟาดเข้าให้จริงๆ ผมหัวเราะเบาๆ ก่อนจะแกล้งแหย่เล่น

“ไม่ใช่ฝันหรอกน่า... นี่เรื่องจริง” ผมแสร้งยิ้มหวานให้ เจ้าตัวเนื้อเต้นระริก สะบัดมือออกจากการเกาะกุมแล้วตั้งท่าจะพูดอะไรบางอย่าง…

“แก! เอ้ย! เฮีย! เฮียทำอะไรอ้าย?” คนตัวเล็กกระโดดลงจากเตียงถอยห่างออกไปไกล ยกแขนสองข้างกอดตัวเองไว้แน่น หลับหูหลับตาร้องถามมาเสียงดัง “ทำไมอ้ายถึงได้อยู่ในสภาพนี้?”

“สภาพไหน?”

ผมกวนประสาทน้องมันด้วยการลากสายตาโลมเลียมองเรียวขาเล็กที่กำลังเต้นเร่าอยู่กับที่ และแว้บหนึ่งก็ได้เห็นสีหน้าปรี๊ดแตกของอ้ายตัวจริงๆ แต่ก็แค่แว้บเดียวเท่านั้นก่อนที่ใบหน้าสวยๆ จะเปลี่ยนกลับมาเป็นน้องอ้ายคนเดิม…

“อ้ายเสีย… เอ่อ…” ดวงหน้าหวานแดงซ่านไปทั้งหน้าจนถึงบริเวณกกหู สายตาที่มองมาเต็มไปด้วยความรู้สึกอับอาย และสับสนหนัก ในขณะที่ผมก็แกล้งตีมึนเพื่อรอดูอาการน้องมันต่ออย่างสนุกสนาน

“เสีย?”

“ก็เสีย… เอ่อ… ครั้งแรก” คนตัวเล็กยังคงอึกอักเรียบเรียงคำพูดไม่ถูกอยู่อย่างนั้น เหมือนจะอยากพูดแต่ก็ไม่พูด อีกอึดใจก็หันหลังหนีกันซะอีก…

“น้องอ้ายจำอะไรไม่ได้เลยเหรอคะ?”

“จำอะไร? ก็อ้ายเป็นลม… เป็นลมแล้วก็… นอน...”

สีหน้าสับสนงงงวยขั้นสุดยังคงฉายชัด หันมามองผมทีก็สลับกับก้มลงมองสภาพตัวเองอีกที มือเล็กตบเข้าที่หน้าอกหน้าใจตัวเอง เลื่อนลงไปสัมผัสตรงส่วนอื่นๆ อย่างไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น

“จำได้แค่นั้นเอง?”

“เออสิคะ!! เฮียแอบลักหลับอ้ายเหรอ?”

คนตัวเล็กทำหน้าเหมือนอยากจะร้องไห้ ยกมือชี้หน้าผม เท้าสองข้างกระทืบเร่าๆ อยู่กับที่ ดูเหมือนอ้ายกำลังสับสนในตัวเอง ใจหนึ่งคงอยากจะเปิดเผยตัวตนเต็มที่ แต่อีกใจก็ยังคงอยากเดินหน้าภารกิจที่น้องสาวตัวเองได้ฝากความหวังไว้

“เฮียเปล่าสักหน่อย มีแต่อ้ายนั่นแหละ…” ผมยังคงแกล้งแหย่น้องต่อไป เจ้าตัวอ้าปากค้างมองมาอย่างไม่อยากจะเชื่อหูก่อนเสียงแหลมๆ จะแผดร้องถามเสียงดัง

“อ้ายทำไม? อ้ายทำไร!!!”

“อ้ายเอาแต่นอนเบียดเฮีย… เดี๋ยวก็กอด… เดี๋ยวก็ก่าย… เอานมมาชนตัวเฮียเจินตั้งหลายรอบ”

“!!!!! ”

“จะโทษเฮียคนเดียวไม่ได้นะ”

“!!!!! ”

“…”

ผมกลั้นหัวเราะไม่ไหวอีกต่อไปเมื่อเห็นสีหน้าช็อกระดับร้อยของคู่สนทนา สุดท้ายเพราะสงสารผมก็เลยผุดตัวลุกขึ้นจากเตียง เดินเข้าไปหาร่างเล็กที่สูงแค่ระดับอกผมเท่านั้น น้องอ้ายเงยหน้าขึ้นมามองกัน ท่าทางยังคงช็อกไม่หาย และเพราะน้องมันน่ามันเขี้ยวเหลือเกินผมเลยกดจมูกหอมแก้มนวลเนียนเข้าไปหนึ่งที

ฟอด!!!

“...” คนตัวเล็กยกมือสองข้างขึ้นสัมผัสข้างแก้มตัวเองอย่างอึ้งๆ

“เฮียไม่ได้ทำอะไรอ้าย…”

ผมยกยิ้มมุมปากมองดูอาการแปลกประหลาดของคนตรงหน้า อ้ายอ้าปากค้างอยู่อย่างนั้น สีหน้าสับสนงงงวยตีกันอย่างเปิดเผย

“ยะ… ยังไงแน่? แล้วทำไมอ้ายถึงมาอยู่ในชุดนี้?”

“เฮียเปลี่ยนให้เอง… ก็เห็นบอกอึดอัด”

“จริงเหรอ?” น้องอ้ายยกมือเสยผมยาวๆ ของตัวเองขึ้น ทำท่าเหมือนกำลังก่นด่าตัวเองในใจ ก่อนที่จะช้อนสายตาขึ้นมองกันอีกรอบ เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ละ… แล้วเรื่องนั้น?”

“เรื่องอย่างว่า?” ผมเลิกคิ้วถาม เจ้าตัวพยักหน้าอย่างเขินอายระคนโมโหตัวเอง

“อือ เรื่องนั้นมันยังไง?”

“เฮียไม่ได้ทำ” ผมยืนยันอีกครั้ง แต่เจ้าตัวยังคงมีสีหน้าคลางแคลงใจ

“แล้วอ้ายจะพิสูจน์ได้ยังไง?”

“ง่ายจะตาย…”

“...”

ใบหน้าเล็กตะแคงคอรอฟังคำตอบ ผมขยับใบหน้าลงไปชิดริมกกหูเจ้าตัวก่อนจะกระซิบเบาๆ แต่เล่นเอาคนตรงหน้าเกร็งไปทั้งตัว...

“น้องอ้ายเจ็บตรงนั้นรึเปล่าล่ะ? ของเฮียเจินเนี่ยไม่ใช่เล็กๆ นะครับ… ถ้าโดนแล้วอาจจะเดินไม่ไหวเลยก็ได้”

“...” นัยน์ตาสุกใสเบิกโตมองกันอีกครั้ง ก่อนจะรีบเบนสายตาหนีกัน ขยับตัวถอยห่างออกไปอีกอย่างร้อนรน

ผมตัดสินใจเลิกแกล้งแล้วเดินเลี่ยงออกมาด้านนอกเพื่อที่จะไปสูบบุหรี่ ในขณะที่อีกคนยังคงยืนนิ่งอยู่ตรงที่เดิม ใบหน้าแดงแปร๊ดสะบัดหนีไปทางอื่นอย่างเก็บอาการไม่อยู่ ก็น่าจะทั้งอ้ายตัวจริง และอ้ายตัวปลอม…

ถ้าได้กันจริงๆ คงไม่มีหน้ามายืนพูดกันอยู่แบบนี้หรอกมั้ง…

ต้องมีร้องโอดร้องโอยกันบ้างล่ะวะ...

ZHEN END

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel