บท
ตั้งค่า

ตื๊อรัก 4

TRICK TO LOVE : STORY 4

วันต่อมา

ฮ่าๆๆๆๆ

อยากจะขำให้ฟันร่วง! ทำไมฉันถึงได้ทำตัวน่าขายหน้าสารพัดแบบนั้น? ทั้งกำเดาไหล! ทั้งเป็นลม! แถมยังอาโนเนะสุดๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองโดนกินหรือยัง?

ฮือ! คิดผิดรึเปล่าเนี่ยที่ยอมตามใจไอ้หมวยมันขนาดนี้! TTOTT

“แล้วไง? สรุปว่ามึงกับมันยังไม่ได้กัน?” ไอ้ลีชำเลืองมองมาขำๆ ในขณะที่เรากำลังเดินไปที่หน้าคณะฯ

“ไม่รู้เว้ย! ก็มันไม่เจ็บ…”

“หืม? เจ็บไร?” ไอ้เพื่อนเวรเลื่อนใบหน้าเข้ามามองหน้ากันด้วยสีหน้ากวนประสาทเหมือนไอ้เฮียเจินนั่นไม่มีผิด

“ก็เจ็บ…” ฉันอึกอัก ตีสีหน้ายุ่งเหยิงไม่รู้ว่าจะตอบมันว่ายังไงดี สุดท้ายเลยผลักหัวมันออกไปให้พ้นทาง “กูไม่รู้เลิกถามได้แล้ว!”

“ฮ่าๆๆ เด็กสัสเลยมึงเนี่ย...” ไอ้ลีดึงใบหน้ากลับไปแล้วส่ายหัวไปมา

“เรื่องของกู”

ถึงฉันกับลีจะสนิทกันขั้นที่ว่าเล่ารายละเอียดให้ฟังได้กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ใช่ว่าจะต้องละเอียดหนักจนต้องเล่าหมดทุกเม็ดหรอกใช่ไหม? แค่นี้มันก็ล้อกันถึงชาติหน้าแล้ว!

และเพราะเราสนิทกันมาก ฉันเองก็ไม่ใช่คนเรียบร้อยอะไร ออกจะโผงผางเหมือนผู้ชายด้วยซ้ำทำให้เวลาเราคุยกันสรรพนามระหว่างฉันกับมันก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ ถ้าคาดหวังจะได้นางเอกเรียบร้อยเหมือนผ้าพับไว้ อีอ้ายบอกเลยว่าโน!

“แล้วไงต่อ?”

“อะไร?”

“มึงยังจะไปเจอมัน?”

“บอกตรงๆ ว่าไม่อยากเจอ” ฉันเบะปากทำท่าจะร้องไห้ จนเพื่อนมันทำหน้าเห็นใจคว้าไหล่เข้าไปกอด

“โอ๋ๆ มึงไม่อยากทำก็ไม่เห็นต้องทำ เรื่องของไอ้หลินไม่ใช่เรื่องของมึงสักหน่อย”

“มึง... กูจะทำร้ายน้องได้ยังไง? ไอ้หมวยมันฝากฝังกูซะขนาดนั้น ซ้ำยังมานอนร้องห่มร้องไห้ให้กูฟังทุกคืน! กูจะทำให้น้องผิดหวังได้ยังไง?”

“โถเจ๊อ้าย… ดูสารรูปตัวเองสิเพื่อน ตัวเล็กยังกับหมาถ้ามันคิดจะทำอะไรมึงจริงๆ คิดว่าจะรอดเหรอ?” ไอ้ลีผละตัวออกห่างใช้สายตามองดูสภาพฉันอย่างจนใจ “ผัวก็ยังไม่เคยมี จูบแรกก็ดันไปถวายให้มัน… เจริญละเพื่อนกู”

“...”

“แล้วมึงมั่นใจได้ไง... ว่าจะไม่เป็นฝ่ายชอบมันซะเอง?”

“ไม่มีทางเว้ย! ต่อให้ไอ้เฮียมันจะหล่อระเบิด หุ่นดีเซ็กซี่ขยี้ใจสุดๆ ทั้งยังปากหวานๆ ที่จูบกูนั่นอีก… แต่ไงซะ… อีอ้ายก็ไม่มีทางเป็นฝ่ายแพ้ทางหรอก หึ!” ฉันเชิดหน้าประหนึ่งตัวเองเป็นนางพญา ในขณะที่เพื่อนยังคงมองกันด้วยสีหน้าอ่อนอกอ่อนใจ

“กูเชื่อละ” ไอ้ลียกมือยอมแพ้ แต่ฉันรู้ว่ามันไม่ได้คิดแบบที่พูดหรอก ดูสีหน้ากวนส้นตีนนั่นสิคะคุณ!!!

“วันนี้นะ…” ฉันกระแทกตัวนั่งลงที่ม้าหินอ่อนหน้าคณะฯ เปิดประเด็นที่คิดมาตั้งแต่เมื่อวานด้วยสีหน้าจริงจังขึ้นอีกระดับ คนข้างๆ จุดบุหรี่ขึ้นสูบพร้อมเลิกคิ้วรอฟัง “เดี๋ยวค่อยสูบได้มะ? เหม็น!”

“งั้นกูไม่ฟังละ” มันทำเป็นจะเดินหนีไปแต่ฉันต้องรีบคว้าแขนเอาไว้ก่อน

“ฟังกูก่อนถ้ามึงไม่ฟังแล้วกูจะเล่าให้ใครฟัง?”

ฉันทำตาปริบๆ มองเพื่อนรัก ในขณะที่มันทำหน้าเป็นต่อ หึ! ถ้าไม่ติดว่ามีเพื่อนสนิทที่รู้ไส้รู้พุงแค่มันคนเดียวฉันคงไม่มานั่งเล่าเรื่องราวบ้าบอคอแตกชวนขายขี้หน้าแบบนี้ให้มันฟังหรอก!

“ว่ามา”

“กูจะไปหาไอ้เฮียถึงมอ.เลย!” ฉันตบฉาดเข้าที่หน้าขาตัวเองอย่างมาดมั่น ไอ้ลียกมือขึ้นห้ามก่อนจะทำเสียงซีเรียส

“ถามจริง?” มันอัดนิโคตินเข้าปอดหนักๆ ก่อนจะส่ายหน้าไม่เห็นด้วย “ไปถึงมอ.เลยเนี่ยนะ?”

“เอ้า! จะเอาเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือสิคะเพื่อน!”

“เมื่อวานมึงก็ไปห้องมัน ไม่เห็นได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน”

“ใครว่า? ไอ้เฮียมันต้องจำกูได้มั่งละวะ! กูสวยขนาดนี้ หุ่นดีขนาดนี้ นมใหญ่เบอร์นี้…”

“แถมยังเป็นคนตลกไปเป็นลมต่อหน้ามันด้วย” คนข้างๆ เติมประโยคให้ ฉันถึงกับต้องกลอกตามองบนกับการตอกย้ำซ้ำเติมของเพื่อน แต่แล้วไงใครแคร์...

“ไม่แคร์เว้ย... อย่างน้อยไอ้เฮียมันก็จำหน้ากูได้แล้ว น้องอ้ายยังงั้นน้องอ้ายยังงี้ โธ่! คิดว่ากูจะไม่มีเซ็กส์แอพเพียลบ้างเลยเหรอเพื่อน?”

“กูรู้ว่ามี… แต่มันจะคุ้มกันแน่เหรอวะ?”

“มึงนี่นะ... ขัดทุกอย่างเลยชาติที่แล้วเกิดเป็นสก็อตช์ไบรท์เหรอ?”

“มุกควายมาก...”

ฉันทำเสียงจิ๊จ๊ะขัดใจพยายามที่จะไม่สนใจคำด่าของมัน มาเล่าให้เพื่อนฟังหวังว่ามันจะเห็นด้วยหรือให้คำแนะนำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้บ้างกลับกลายเป็นว่าโดนค่อนขอดสารพัด!

ไอ้บ้าเอ๊ย!! นี่เพื่อนกันจริงใช่ไหมเนี่ย!

“กูแค่ไปเดินๆ ให้เฮียมันเจอหน้าเท่านั้นแหละ… แต่กูไม่อยากไปคนเดียว…”

“จะให้กูไปเป็นเพื่อนว่างั้น?” คนข้างๆ เลิกคิ้วมองอย่างรู้ทัน

“ฉลาดที่สุด”

“เออ… ก็ไปได้แหละ” ถึงจะทำสีหน้าซังกะตายแต่เพื่อนมันก็พยักหน้านิดๆ

“มึงนี่น่ารักที่สุดเลย!” ฉันเอื้อมมือไปหยิกแก้มมันแรงๆ อย่างมันเขี้ยวพร้อมทั้งรีบเอ่ยปากเอาใจ “มึงนี่นอกจากจะหล่อแล้วยังเป็นเพื่อนรักที่แสนดีของกูอีก”

“แน่นอน กูเนี่ยหล่อสุดแล้ว” มันว่างั้นพร้อมทำเป็นเสยผมขึ้นเก๊กหล่อเพิ่มขึ้นอีกระดับ ฉันได้แต่หัวเราะเบาๆ กับความมั่นหน้าของเจ้าตัว

โอเค... มันก็หล่อมากจริงๆ นั่นแหละ เห็นงี้ไอ้นี่มันสาวเพียบนะคะคุณ....

“ว่าแต่…”

“...”

“มึงไม่คิดจะมีแฟนบ้างเหรอ? ระวังเอดส์แดกนะคะเพื่อน มั่วไปเรื่อยแบบนี้”

ฉันมองมันอย่างเป็นห่วง ร่างสูงผุดตัวลุกขึ้นยืนพร้อมบิดซ้ายบิดขวาทำเป็นไม่สนใจ แต่ไอ้สีหน้าลอบยิ้มแบบนั้นมันคืออะไร! พอได้จินตนาการตามฉันถึงกับต้องเบิกตาโตอย่างตกใจ

“หรือมึงแอบมีแฟน?”

“เออน่า… ไว้กูค่อยพามาเจอ”

“หึ... เดี๋ยวนี้หัดมีความลงความลับ”

“เรื่องของกู”

“จ้า”

หลังจากนั้นเราสองคนก็ใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการส่องเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมของไอ้เฮียเจินเพื่อที่จะได้รู้แนวทางว่าส่วนใหญ่เขาทำอะไร ไปที่ไหน มีเพื่อนหน้าตาเป็นยังไงบ้าง…

ก็ถ้าเกิดว่าฉันรอบคอบเร็วกว่านี้คงไม่ต้องขายขี้หน้าโมเมตัวเองว่าเป็นเมียไอ้เฮียต่อหน้าเพื่อนเขาหรอก ทุเรศจริงๆ ฮือ… TT^TT

17.00 น.

“นานละนะ”

“เออ”

“กูว่ากลับเหอะวันนี้คงไม่เจอหรอก”

“…”

ฉันขมวดคิ้วเข้าหากัน พยายามสอดส่องสายตาหาเป้าหมายซึ่งไม่รู้ไปมุดหัวอยู่ที่ไหน… เราสองคนมานั่งดักรอตั้งแต่บ่ายสามนี่ปาไปสองชั่วโมงแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะโผล่มาเลย!

หรือว่าจะมาผิดคณะฯ หืม... หรืออาจจะผิดมอ.?

“หรือว่าเรามาผิดที่วะ?” พอคิดได้อย่างนั้นอีอ้ายก็ถึงกับต้องรีบเลื่อนโทรศัพท์ดูข้อมูลใหม่อีกรอบ คนที่นั่งเปื่อยรออยู่ข้างกันหัวเราะเบาๆ ก่อนจะขยี้ผมฉันแรงๆ

“มึงนี่…”

“กูไม่มั่นใจ...” ฉันยังคงสาละวนอยู่กับการเลื่อนมือถือดูหน้าเฟซบุ๊กเฮียเจิน แต่มันก็ถูกนี่นา… มาถูกที่แล้วแต่ไม่ยักเจอ…

“อ้าย...”

“หืม?”

“ไอ้อ้าย!”

“อะไร?”

เพราะแรงสะกิดไม่หยุดจากเพื่อนทำให้ฉันต้องละสายตาจากหน้าจอขึ้นมองมัน พบว่าไอ้ลีพยักพเยิดไปยังทิศทางหนึ่งพร้อมส่งเสียงกระซิบว่า ‘มาแล้วๆ’ พอหันมองตามสายตามันพบว่าเฮียเจินกำลังเดินออกมาจากตัวอาคารพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่ใช่คนเดียวกันกับเมื่อวาน

ร่างสูงโปร่งกับผิวขาวจัดออร่าจับมาแต่ไกล กำลังโน้มตัวลงพูดคุยกระหนุงกระหนิงกับคนที่เดินอยู่ข้างๆ แค่มองไกลๆ ไอ้เฮียมันยังดูดี หล่อจัดกร้าวใจสุดๆ

“แห้วแดกแล้วมั้ง…” เสียงกวนประสาทดังขึ้นเบาๆ เพื่อเรียกสติกัน ฉันเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนจะสื่อแต่ก็ไม่อยากจะแคร์เท่าไหร่ ได้แต่ใช้ขาสะกิดเรียกมันให้รีบยืน

“ลุกขึ้นเร็วเข้า”

“อะไร?”

มันทำหน้าไม่เข้าใจ แต่ฉันไม่มีเวลาจะขยายความรีบคว้าแขนคนตัวโตให้ยืนขึ้นก่อนจะออกแรงดึงมันเดินไปยังทิศทางที่ไอ้เฮียกำลังจะเดินผ่าน

แต่ดูเหมือนจะรีบเดินไปหน่อยเพราะส้นสูงที่ฉันใส่มันดันไปติดกับไอ้ทางเดินแบบตัวหนอนทำให้เสียหลักแทบจะพุ่งล้มคว่ำลง โชคดีที่ไอ้ลีคว้าเอวเอาไว้ได้ทัน

“ว้าย!”

“มึงนี่…”

แต่ก็นั่นแหละ... คว้ายังไงของมันไม่รู้ สุดท้ายตัวฉันก็ล้มลงบนพื้นอยู่ดี ไอ้เพื่อนเวร! ฉันเกือบจะได้เปิดฉากด่ามันอยู่แล้วเชียวถ้าไม่ติดตรงที่ว่าในตอนนี้... ร่างสูงของใครอีกคนหยุดยืนลงตรงหน้าเราทั้งคู่พอดี….

อืม... เหยื่อติดกับแล้วสินะ...

ฉันค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองไล่ตั้งแต่ขายาวๆ ขึ้นไปตามเสื้อผ้าเป๊ะปังเรียบกริบไปทุกอณู และจบลงด้วยการที่เราสองคนประสานสายตากัน เพราะมารยาหญิงร้อยแปดเล่มเกวียนที่ฝึกปรือมาได้เล็กน้อยทำให้ตอนนี้ฉันกำลังเบิกตาโต ทำเป็นยกมือทาบอกอย่างตกอกตกใจกับการที่เราทั้งคู่ได้พบกันอีกครั้ง

ร่างสูงหันไปคุยอะไรกับผู้หญิงที่เดินมาด้วยกันเล็กน้อย และมันก็เหมือนเดจาวูตอนที่ผู้หญิงคนนั้นจำใจต้องเดินห่างออกไปโดยที่โต้แย้งไม่ได้

ฉันพยายามหยัดตัวลุกขึ้นยืนแต่ก็ล้มไม่เป็นท่า รู้ตัวอีกทีคนตรงหน้าก็ย่อเข่าลงจนเราสองคนอยู่ในระดับเดียวกัน และฉันก็ต้องใจสั่นนิดๆ เมื่อเห็นว่าไอ้เฮีย… มันหล่อมากแค่ไหน…

คงเพราะว่าตอนนี้เป็นตอนกลางวัน ซ้ำสติสัมปชัญญะของฉันเองก็เต็มร้อย และเราก็ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่น่าหวาดเสียวทำให้ฉันมีเวลามากพอที่จะพินิจพิจารณาใบหน้าขาวสะอาดเกลี้ยงเกลาที่ยังคงจ้องมองมา

นัยน์ตาสีอ่อนชำเลืองมองรองเท้าส้นสูงที่ปลายส้นยังคงติดอยู่ระหว่างช่องว่างของทางเดินแบบตัวหนอน คิ้วเข้มตัดกับผิวขาวสว่างเลิกขึ้นเล็กน้อย จมูกโด่งคมชัดรับกันพอดีกับริมฝีปากสวยที่มักจะยกยิ้มเสมอ เครื่องหน้าโดยรวมมองดูก็รู้ได้ทันทีว่าคงจะมีเชื้อสายจีน

อืม… เฮียมันก็หล่อชนิดที่คงจะทำให้ไอ้หมวยของฉันหลงใหลได้จริงๆ

“น้องอ้าย…” เสียงคู่สนทนาเอ่ยขึ้นก่อน และนั่นทำให้ฉันต้องรีบดึงสติตัวเองกลับมา

“อ้าว! เฮีย...”

“มาทำอะไรที่นี่คะ?” เจ้าตัวยิ้มนิดๆ กับเสียงอุทานอย่างตกอกตกใจของฉัน ก่อนจะขยับตัวมาประคองร่างฉันให้ลุกขึ้นยืน ในขณะที่ไอ้ลีรีบถอยหลังห่างออกไปอย่างรู้งาน

“อ๊ะ…” แต่เพราะข้อเท้ามันพลิกทำให้เผลอส่งเสียงร้องประหลาดออกไป คนตรงหน้าก้มตัวลงไปดึงรองเท้าส้นสูงออกให้แล้วจับข้อเท้าตรวจดู

“ข้อเท้าแพลงแล้ว”

“แหม! แย่จัง...”

“น้อง… มาหาเฮียเหรอ?”

“หา?”

ฉันถึงกับไปไม่เป็นเมื่อโดนถามกันตรงๆ แบบนี้ ไอ้เฮียเจินเม้มปากกลั้นยิ้มแล้วประคองตัวฉันให้ลุกขึ้นอีกครั้ง สายตาหันไปมองไอ้ลีซึ่งยังคงยืนประกอบฉากอยู่ หน้าหล่อๆ ของเพื่อนทำเป็นปั้นยิ้มส่งให้ ก่อนจะชำเลืองมองมาที่ฉันอย่างขอความเห็น

“พอดีอ้ายพาเพื่อนมาทำธุระค่ะ” เพราะไม่รู้จะตอบอะไรฉันเลยโยนขี้ให้เพื่อน ถึงตัวมันเองก็รู้งานรีบเดินเข้ามาใกล้พยักหน้าสนับสนุน

“เพื่อนอ้ายเหรอครับ?” ไอ้เฮียเอ่ยถามออกไปอย่างสุภาพพร้อมทั้งยิ้มให้

“ครับ เพื่อนอ้าย” เพื่อนฉันเองก็เหมือนกัน

“แล้วจะกลับรึยังครับ?”

“อืม...” คนถูกถามลากเสียงยาว มองหน้ากันอย่างขอความเห็นอีกครั้ง ฉันเลยต้องรีบตอบแทนออกไป

“จะกลับแล้วค่ะเฮีย”

“ใช่ครับ จะกลับแล้ว”

“งั้น… เฮียขอเป็นคนไปส่งอ้ายแทนได้ไหม?”

“…”

ฉันเม้มริมฝีปากแน่น มองชายหนุ่มสองคนกำลังสนทนากันโดยที่มีตัวฉันเองนี่แหละเป็นคนตัดสินใจ ความคิดในหัวกำลังตีกันยุ่งเหยิงไปหมด จะเอาไงดี? ไม่อยากจะอยู่กันสองต่อสอง แต่ก็อีก… ถ้าไม่แรดขนาดนั้นแล้วจะเข้าหาเขาได้ไงกัน?

“ได้สิคะ ลีจะกลับพอดี” ฉันยิ้มหวานให้เฮียเจินก่อนจะโบกมือไล่เพื่อนซึ่งๆ หน้า “บ๊ายบายจ้า!!!”

“อือฮึ... โอเค”

และเรื่องก็จบลงตรงที่ไอ้ลีคงจะกำลังด่าฉันอยู่ในใจแน่แท้ไม่ต้องสืบเลย... แม้ว่าตอนนี้มันยังคงแสดงได้อย่างดีเยี่ยมก็ตาม…

ฮือ… ผิดแผนอีกแล้วสิเนี่ย…

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel