ตอนที่ 4 มิจฉาชีพ
THIS MAN IS YOURS
ดาวเคราะห์ดวงนี้ผมจองแล้ว
ตอนที่ ๔
มิจฉาชีพ
'พรุ่งนี้เฮียไปส่งพลูโตทำงานนะ'
'พลูโตไปเองได้ ไหนเฮียพุธบอกเฮียจะยอมให้พลูโตดูแลตัวเองแล้วไง' หญิงสาวอดท้วงไม่ได้ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาเธอต้องสู้รบกับพี่ชายฝาแฝดมาตลอดทั้งสัปดาห์ เขายอมให้เธอไปฝึกงานที่บริษัทสุริยะจักรพร็อบเพอร์ตี้ก็จริง แต่ก็ยังไม่วายที่จะหาข้ออ้างเรื่องอื่นๆมาทำให้เธอลำบากใจ เช่นเรื่องการรับส่งเธอไปฝึกงาน
'เฮียมีธุระแถวนั้นพอดี เฮียส่งแค่หน้าบริษัทก็ได้'
'แค่หน้าบริษัทนะ' พรฟ้าประทานไม่เคยไว้ใจบรรดาเฮียๆของเธอสักนิด ใช่เธอดื้อ เธอแสบ แต่เฮียๆของเธอก็เหลี่ยมจัดไม่น้อยเหมือนกัน ในการทำงานแวดวงธุรกิจมันก็ต้องมีกันบ้าง แต่เฮียๆของเธอโดยเฉพาะเฮียพุธมีมากจนเอากลับมาใช้กับคนในบ้านแล้ว
'อืม!! เฮียรับปาก'
นั่นแหละคือเหตุผลที่ทำไมตอนนี้ร่างบางของพรฟ้าประทานถึงมานั่งอยู่ในรถสปอร์ตคันหรูของพี่ชาย สีหน้าที่ง้ำงอของพรฟ้าประทานทำให้พุธอดหัวเราะน้อยๆไม่ได้ น้องสาวของเขากำลังกังวลอะไรอยู่นะ แค่เขาจะไปส่งเองไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเสียหน่อย
"จอดตรงนี้แหละเฮียพุธ" นิ้วเรียวๆชี้ไปยังข้างทาง อีกเกือบห้าสิบเมตรจะถึงทางเข้าบริษัทแล้วแท้ๆ แต่เธอกลับให้พี่ชายจอดรถก่อนเสียอย่างนั้น
"อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว" พุธไม่เข้าใจ แต่ก็ยอมเปิดไฟเลี้ยวตามคำสั่งของพรฟ้าประทานอยู่ดี
"ตรงนี้แหละ เฮียรับปากแล้วว่าจะส่งแค่หน้าบริษัท"
"นี่ก็ยังไม่ถึงเลย หน้าบริษัทที่เฮียหมายถึงคือหน้าประตูออฟฟิศต่างหาก ไม่ใช่ข้างถนนแบบนี้"
นั่นไงล่ะ พรฟ้าประทานคิดไว้ไม่มีผิด เฮียพุธของเธอเริ่มเหลี่ยมใส่เธออีกแล้ว หญิงสาวส่งสายตาขวางๆด้วยความไม่ชอบใจให้พี่ชายตัวดีของเธอทันที
"ถ้าเฮียพุธจะเอาแบบนั้นก็ได้...แต่ต่อไปพลูโตจะรักแค่เฮียพฤหัสแล้วเลิกรักเฮียพุธตลอดไป" ประโยคจำนนของพรฟ้าประทานในตอนแรกเรียกรอยยิ้มจากปากหนาของพุธได้ทันที แต่เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นรอยยิ้มนั้นถูกทำหายไปในทันทีด้วยฝีมือของน้อฃสาวเขาเอง
"โอเคๆ ยอมแล้วๆเฮียส่งพลูโตตรงนี้ก็ได้ แล้วตอนเย็นจะให้เฮียมารับที่ไหนล่ะ" ไม่รัก!! เขาไม่ชอบคำขู่แบบนี้ของพรฟ้าประทานเลยสักนิด คิดง่าเขากลัวมากหรือไงกับการที่น้องสาวคนเดียว ผู้เป็นที่รักสุดดวงใจของเขาจะไม่รักเขา คิดว่าเขากลัวมากหรือยังไงกัน คำตอบแบบไม่ต้องคิดเลยคือ ใช่!! เขากลัวพรฟ้าประทานไม่รัก แค่คำขู่เขาก็ไม่พร้อมรับฟัง
"ที่บ้านค่ะ พลูโตจะกลับเอง" พรฟ้าประทานยังคงถือไพ่เหนือกว่า เธอไม่ชอบใช้คำขู่ว่าจะไม่รักนักหรอก หากไม่สุดทางจริงๆ ความรู้สึกของบรรดาเฮียๆของเธอสำคัญสำหรับเธอมาก เธอไม่ควรไปล้อเล่นกับความรักที่เฮียๆมอบให้เธอ ดังนั้นถ้าพวกเฮียๆไม่ดื้อ ไม่เหลี่ยม ไม่บังคับเธอมากเกินไปเธอก็จะไม่ใช้ไม้ตายแบบนี้
"ก็ได้ๆ เฮียรอรับพลูโตที่บ้านก็ได้"พุธยอมจำนนแต่โดยดี ผู้หญิงที่ทำให้เขาแพ้ราบคาบขนาดนี้มีเพียงพรประภาแม่ของเขากับพรฟ้าประทานเท่านั้นแหละ
"ถ้าอย่างนั้นพลูโตไปทำงานก่อนนะคะ เฮียจะได้รีบไปทำธุระด้วย พลูโตรักเฮียนะคะ" ร่างบางโน้มตัวหอมแก้มพี่ชายก่อนจะยิ้มแฉ่งอย่างเอาใจ ให้มันได้อย่างนี้สิ!! ให้มันได้อย่างนี้สิไอ้พุธ แพ้อีกร้อยครั้งก็ได้ แพ้ไปตลอดชีวิตก็ได้ถ้าจะเห็นน้องสาวของเขามีรอยยิ้มแบบนี้ไปตลอด
"ดูแลตัวเองด้วยนะ เฮียเป็นห่วง"
"โอเคครับ" พรฟ้าประทานตะเบ๊ะมือล้อเลียน รับปากอย่างแข็งขันก่อนจะเปิดประตูลงจากรถอย่างอารมณ์ดี
เอี๊ยด!!!
กรี๊ด!!!!
"ขับรถบ้าอะไรไม่เห็นหรือไงว่ามีคนเดินข้ามทางม้าลาย!!" ด้วยความตกใจพรฟ้าประทานไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะก่นด่ารถคันนั้น อีกอย่างนี่พื้นที่ส่วนบุคคลจะรีบไปไหน
"แล้วเธอเป็นบ้าอะไร ทำไมข้ามถนนไม่ดูรถซ้ายขวา" ในตอนแรกเขาตั้งใจจะลงมาขอโทษและดูว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนไหม แต่ยังไม่ทันก้าวลงจากรถเลยด้วยซ้ำ หญิงสาวก็สาดคำพูดไม่ดีใส่เขาเสียแล้ว ผิดที่เขาเองที่มัวแต่เหม่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืนที่เพื่อนรักของเขาโทรมาบอก มันเป็นข่าวดีที่สุดแล้วตั้งแต่เขากลับมาจากการไปเรียนต่างประเทศ
"นี่คุณ ขับเร็วขนาดนี้ดูยังไงให้ทัน แล้วนี่พื้นที่ส่วนบุคคลนะ ถ้าอยากขับรถเร็ว นู้นค่ะ!! สนามแข็งรถไม่ใช่ถนนแบบนี้ ผิดแล้วไม่รู้จักขอโทษ" พรฟ้าประทานยังคงไม่ยอม ยังไงคนผิดก็ไม่ใช่เธอแน่นอน
"คุณรู้จักคำว่าประมาทร่วมไหม?"
"ทำไม?"
"เรื่องนี้ผมไม่ได้ผิดคนเดียว คุณเองก็ผิด คุณเองก็ข้ามถนนไม่มองซ้ายมองขวาเหมือนกัน ผมก็ขับของผมมาดีๆ แต่คุณต่างหากที่วิ่งมาตัดหน้าผม เป็นมิจฉาชีพหรือเปล่าก็ไม่รู้"
"นี่คุณ!!!" แม้เพิ่งจะเจอกันครั้งแรก แต่พรฟ้าประทานไม่เคยรู้สึกเหม็นขี้หน้าใครเท่าผู้ชายตรงหน้ามาก่อนเลย เขาขับรถเกือบจะชนเธอนะ มีอย่างที่ไหนมากล่าวหาว่าเธอเป็นมิจฉาชีพ จะเอาแบบนี้ใช่ไหม ได้สิ!! มิจฉาชีพคนนี้จะรูดให้หมดตัวเลย
"แสนนึง" ดวงตาที่วาวโรจน์ด้วยความโกรธแปรเปลี่ยนเป็นความเจ้าเล่ห์ในทันที
"มากเกินไป" เขายังคงพูดเสียงเรียบ มองร่างบางตรงหน้าอย่างพอใจ เขาจำเธอได้ จำได้มาตลอด แต่ในเมื่ออยากเล่นบทมิจฉาชีพ ก็ได้เขาจะยอมเล่นด้วย
"ค่าความตกใจของฉันไงคุณ ผู้หญิงบอบบางแบบฉันก็จิตใจบอบบางมากกว่าคนปกติทั่วไป หรือคุณไม่มีปัญญาจ่าย ขับรถก็แพง เอ๊ะ หรือว่าเช่ามาสร้างภาพว่ามีเงินนะ"
"เอาเลขบัญชีมา" เขาไม่คิดว่าเด็กน้อยตัวแสบวันนั้นวันนี้จะพัฒนาความแสบได้มากขนาดนี้ เพื่อนของเขาเลี้ยงน้องสาวของพวกมันมายังไง
"...."
"ก็บอกเอาเลขบัญชีมา หรือไม่ก็คิวอาร์โค้ดก็ได้ ไม่เอาหรือไงค่าตกใจอะไรของเธอ"
พรฟ้าประทานกดเปิดคิวอาร์โค้ดให้เขาอย่างงงๆอะไรมันจะง่ายขนาดนั้น เงินเป็นแสนเลยนะ เขาจะมาโอนให้เธอง่ายๆแบบนี้ได้ยังไง
"พรฟ้าประทาน พรหมวณิชกุล" เขาอ่านชื่อในแอพลิเคชั่นธนาคารก่อนกดยืนยันอีกครั้ง ไม่ผิดตัวแน่นอน
"ได้เงินแล้วก็แยกย้ายนะ แล้วคราวหลังอย่าไปทำแบบนี้อีก คุณอาจจะไม่ได้เจอคนใจดีแบบผมอีกก็ได้" พูดจบเขาก็ทิ้งให้พรฟ้าประทานยืนอึ้งกับยอดเงินที่แจ้งเตือนเขามา กว่าจะรู้สึกตัวเขาก็ขับรถออกไปไกลเสียแล้ว
"เป็นมิจฉาชีพจนได้สินะ" เธออดขำแห้งๆกับตัวเองไม่ได้ ความอยากเอาชนะทำให้เธอกลายเป็นมิจฉาชีพโดยสมบูรณ์
'เงินแค่แสนเดียว ขนหน้าแข้งเขาไม่ร่วงสักเส้นหรอก มากกว่านี้ถ้าเธออยากได้เขาก็จะให้ ไม่ว่าเพื่อนของเขาจะเลี้ยงน้องมาตามใจมากขนาดไหน แต่เชื่อเถอะเขาตามใจได้มากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า'
พรฟ้าประทานผู้มีบุรุษอุปถัมภ์ หนีเสือปะสิงโตเจ้าป่าแล้วตอนนี้
