บท
ตั้งค่า

CHAPTER 5

“เอาตามตรงเลยนะใจยังไม่เคยเห็นทะเลเลย เห็นแต่ภูเขาและก็ทะเลหมอกที่สวยสุด” พี่กวางหยุดเดินแล้วหันมามองฉันนิ่ง สองมือเรียวซุกเข้าในกระเป๋ากางเกงสายตาคมเบิกกว้างนิดหน่อยกับคำตอบที่ได้ยิน “ทัศนศึกษาใจไม่ได้ไปค่ะ เอาเงินส่วนนี้ไปใช้ในเรื่องอื่นๆ คงดีกว่าเยอะอีกอย่างพอใจโตวันหนึ่งคงได้ไปเองแต่ช้าหน่อย”

“เสียใจหรือเปล่า ถ้าพี่ถามแบบนี้คำตอบคงเป็นการพยักหน้าสินะ”

“เสียใจค่ะแต่พอเพื่อนเล่าให้ฟังก็ยิ้มได้แล้ว”

ฉันส่งรอยยิ้มไปให้พี่กวางที่ยังมองมาตัวเองนิ่งๆ พี่กวางไม่ค่อยถือตัวหรอกแต่ไม่ชอบให้ใครโดนตัวมากกว่า พวกเราเดินมาจนถึงบ้านพักคนงานที่ถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วน ทุกห้องเปิดประตูออกมาไว้บ้างห้องทำอาหารตรงหน้าระเบียงแต่บางห้องก็นั่งคุยกันแล้วมองมาทางฉัน

สายตาพวกนั้นแน่นอนว่ามีความสงสัย

สายตาพวกนั้นแน่นอนว่าคิดอะไรหลายๆ อย่างไปแล้ว

และฉันก็สามารถเดาได้

กระทั่งทั้งฉันแล้วก็พี่กวางเดินมาถึงหน้าห้องพักซึ่งเยื้องออกไปหน่อยมีต้นไม้และมีม้าหินอ่อนทุกเย็นก็จะมีการตั้งวงเหล้ากันหนึ่งในนั้นคือวัลพ่อเลี้ยงของฉันเอง

“ไอ้วัลลูกมึงมาแล้ว” เสียงของใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในวงเหล้าเอ่ยขึ้น

“มาพร้อมผู้ชายด้วย หล่อนะเนี่ยอีน้อยตาถึง” สมทบด้วยอีกคนหนึ่งระหว่างนั้นแม่ก็เดินออกจากห้องพักมาพอดี “สายใจลูกมึงเป็นสาวแล้วพาแฟนมากด้วย”

“สายใจมาก็ดีพาน้อยเข้าบ้าน” วัลเอ่ยสั่งแม่ที่มองมายังฉันแล้วก็พี่กวางนิ่งๆ สายตาของแม่ฉันรับรู้ว่ากำลังคิดไปในทางที่หลากหลายยิ่งได้ยินในสิ่งที่คนในวงเหล้าเอ่ยมาใบหน้าของแม่ก็ยิ่งเรียบ ในที่นี้ไม่มีใครรู้เลยว่าพี่กวางเป็นถึงลูกเจ้าของไร่ที่ทำงานอยู่และในอนาคตพี่กวางอาจมาเป็นเจ้านาย “ได้ยินมั้ยสายใจ”

พ่อเลี้ยงฉันย้ำแม่อีกครั้งซ้ำๆ

“จ๊ะพี่” แม่รับปากแล้วเดินเข้ามาใกล้หน่อย “น้อยเข้าไปช่วยแม่ทำกับข้าว”

“เอ่อ...”

ใช่ฉันกำลังลังเลใจมากกว่าปกติหลายเท่าตัวปนไปกับการทำอะไรถูกในวินาทีนี้ด้วยความที่ว่าทุกคนต่างจังจ้องไปยังพี่กวางรวมถึงปลายสายตามายังฉันยิ่งกว่าการจับผิด สายตาของคนอื่นๆ ยังไม่เท่ากับสายตาของแม่เลยด้วยซ้ำแม่ถ้าตอนนี้ถามว่าเข้าข้างใครกับเลยว่าเอียงไปทางพ่อเลี้ยงมากกว่าฉันที่เป็นลูกสาวด้วยซ้ำ

ในทุกๆ ครั้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรแม่จะให้ความสำคัญกับพ่อเลี้ยงมากกว่าฉันเป็นปกติ แม่จะถามความเห็นจากเขาทั้งที่บางครั้งมันไม่เกี่ยวอะไรเลยแต่ยังชักพ่อเลี้ยงให้เข้ามาร่วมด้วย

บางครั้งฉันก็อยากไปอยู่ที่อื่น

และบางครั้งฉันก็น้อยใจคนเป็นแม่

แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านี้หรือว่าทำไปแล้วมันก็เท่านั้น

“แม่บอกให้เข้าไปช่วยทำอาหารได้ยินมั้ยน้อยใจ”

แม่ย้ำประโยคเดิมอีกครั้งแต่เพิ่มน้ำเสียงราบเรียบทว่านาทีนี้สิ่งที่ฉันตกใจมากกว่าคือพี่กวางยกมือไหว้แม่

“สวัสดีครับ”

“แม่นี่...”

“ผมเป็นลูกแม่กวาครับ” หกพยางค์ในประโยคนี้ชัดเจนและหนักแน่นอีกทั้งยังเพิ่มเสียงให้ดังขึ้นทำให้คนที่อยู่ในละแวกนี้ต่างได้ยินชัดเจนและท่าทางก็เปลี่ยนไปในทันที “พึ่งมาอยู่ที่นี่ฝากตัวด้วยนะครับ”

“คุณกวางลูกนายหญิงเหรอ”

“ถ้าหมายถึงแม่กวาของไร่นาคนิลก็ใช่ครับ ผมเป็นลูกชายคนเดียวของแม่กวา”

“…”

“วันนี้เดินมาส่งใจเพราะเห็นว่าจะค่ำแล้วอีกอย่างอยากมาดูไร่ด้วย”

“…”

“ไร่สวยดีครับแต่อาจต้องเปลี่ยนระบบอะไรนิดๆ หน่อยว่ามั้ยครับ”

“…”

ไม่มีคำตอบจากคนรอบข้างอีกทั้งสถานการณ์ก็ยังอึมครึมลงคล้ายกับสภาพอากาศตอนฝนกำลังจะตกทั้งที่ความเป็นจริงไม่ใช่เลยไม่มีฝนตกอะไรทั้งนั้น พี่กวางหันมามองฉันที่นิ่งเงียบแต่รู้ไหมสายตาของฉันมันไม่เป็นแบบนั้นสายตาของตัวเองสอดส่ายไปมามองทุกคนกระทั่งมาหยุดที่พี่กวาง

“เข้าบ้านไปช่วยแม่ได้แล้วใจ” พี่กวางเอ่ยปากและใช้สายตาสั่งงานฉันทำตามอย่างง่ายดายถึงจะเดินห่างออกมาแต่ก็ยังทันได้ยินประโยคที่พี่กวางเอ่ยตามมาติดๆ กับแม่ของฉัน “ตอนเลิกเรียนนับตั้งแต่พรุ่งนี้ไปขอยืมตัวใจด้วยนะครับพอดีบ้านใหญ่มีงานให้ทำและไม่ต้องห่วงผมจะมาส่งเองครับ”

สุดท้ายรู้ไหมว่าฉันได้ยินประโยคตอบรับการขออนุญาตจากปากของแม่เลยฉะนั้นวันนี้ตั้งแต่เลิกเรียนเป็นต้นไปฉันต้องมุ่งหน้าไปบ้านใหญ่ซึ่งเป็นเรือนทรงไทยหลังเดิมแต่ตอนนี้ควรอยู่กับปัจจุบันดีกว่า

ปัจจุบันที่ว่าเป็นวันเปิดเรียนวันแรก

และก็เป็นปัจจุบันที่ฉันกำลังอยู่หน้าตู้กดน้ำของโรงเรียน

วันเปิดเรียนที่ใครหลายคนต่างรอให้มันมาถึงแต่รู้ไหมยังมีอยู่นะคนที่ไม่อยากมาโรงเรียนเช่นตัวฉันเอง แก้วน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำอยู่เกือบเต็มในมือถูกฉันเอาผ้าเช็ดหน้าชุปลงไปให้มันเปียกจากนั้นก็วางแก้วน้ำไว้ตรงโต๊ะม้าหินอ่อนก่อนเอาผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาพร้อมบิดน้ำออกแล้วเอามาเช็ดเสื้อนักเรียนบนตัวช่วงหน้าท้องที่ยังเป็นสีแดงเด่น

ฝนทำน้ำแดงคว่ำใส่ฉันเมื่อกี้เองแต่ฝนก็แสดงความรับผิดชอบโดยการลากมาตรงนี้แล้วก็หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

ยังดีนะที่ทุกครั้งฉันมักจะใส่เสื้อซับในสีขาวซ้อนเสื้อนักเรียนทุกครั้งฉะนั้นมันจึงไม่ค่อยน่าเกลียดมากเท่าไหร่นักหรอก ด้วยความที่ตั้งใจเช็ดมากไปหน่อยจึงไม่ค่อยสนใจสิ่งรอบตัวนักเพราะงั้นฉันจึงไม่รู้ว่าฝนเข้ามาเมื่อไหร่กระทั่งได้ยินเสียงของเธอดังขึ้น

“อีน้อยทำอะไรชักช้าว่ะ เทน้ำลงเสื้อก็หมดเรื่อง”

“เดี๋ยวๆ ฝน....”

ไม่ทันแล้วฝนคว้าแก้วน้ำที่ไม่ใช่น้ำเปล่ามาแล้วเทลงจุดเดิมซ้ำที่เดิมจนตอนนี้จากสีแดงเปลี่ยนเป็นสีคล้ำน่าอับอายกว่าเดิมอีกหลายเท่า ความเปียกชื้นมาพร้อมกับความเย็นเฉียบเพราะน้ำที่ฝนพึ่งเทเป็นโคล่าที่พึ่งซื้อมา

“เฮ้ย... กูลืมคิดอ่ะ”

“ช่างเถอะ” ฉันพูดได้แค่นี้

“ฝนทำอะไรอยู่ที่นี่แฟนมึงรอที่ห้องเรียน” เสียงของแฝดดังขัดขึ้นแล้วฟ้าก็มาหยุดยืนห่างเพื่อรักษาระยะ “อ้าวแล้วทำไมอีน้อยน่าเกลียดขนาดนั้น อี๋เสื้อสกปรก”

“น้ำแดงหกเลอะเสื้อกูเลยเอาโคล่าเทซ้ำ... นึกว่ามันจะหายไง”

“เหรอ... เอ่อรีบไปเถอะฝนปล่อยอีน้อยจัดการตัวเองซะ”

“ไปนะอีน้อย”

เสียงหัวเราะรั้งท้ายของคู่แฝดนั้นทำให้ฉันรู้สึกว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้นะแต่มันก็แค่ความรู้สึกเท่านั้นแหละแค่สองคนนี้คบกับฉันมันยังดีกว่าไม่มีใครคบเลย ยังดีแล้ว แกทำดีแล้ว ยิ้มได้แล้ว คำพวกนี้คือคำที่ฉันท่องเสมอว่าแล้วก็ชุบผ้าเช็ดหน้าผืนเดิมลงไปในแก้วอีกใบแล้วก็กำลังจะเช็ดลงเสื้อกับต้องหยุดลง

มีปากกาสีเงินด้ามสวยเข้ามาตีลงมือฉันให้หยุดจากนั้นคนมาใหม่ที่อยู่ในชุดนักเรียนมอปลายไม่เรียบร้อยก็ยังนั่งลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนรองเท้าสีดำเหยียบส้นขึ้นเหยียบลงบนเก้าอี้ คิ้วทั้งสองขมวดขึ้นอีกทั้งสายตายังจ้องไปยังเสื้อของฉันอย่างไร้คำพูดใดๆ

“พี่กวางกินข้าวแล้วเหรอ”

ใช่เกือบลืมไปเลยพี่กวางพึ่งมาใหม่เมื่อเช้าฉันอยู่บนอาคารเรียนแอบเห็นพี่กวางเดินอีกอาคารหนึ่งผู้หญิงคนอื่นมองมายังเขาเต็มเลยยิ่งเข้าไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับพี่ดิวและพี่ข้ามฟ้ายิ่งฮอตใหญ่

“นี่คือประโยคทักทาย?” อ่า... ตอบแต่ไม่มองหน้าเลย “ไปทำอะไรมาทำไมถึงเป็นแบบนี้”

“น้ำหกค่ะ”

“แต่เมื่อกี้ที่เห็นไม่ใช่” เห็นที่ฝนทำแน่ๆ เลย

“ฝนช่วยต่างหาก”

“แน่ใจใช่มั้ยว่าช่วย... ช่วยซ้ำให้เป็นกว่าเดิมหรือเปล่า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel