บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 : เบื้องหลังเสียงกระซิบ

!!คำเตือน!!

เนื้อหาเหล่านี้เป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น บางเนื้อหาหรือสถานที่ไม่มีอยู่จริง ไม่สนับสนุนให้ทำตาม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

++++

เช้าวันถัดมา เมฆหนาหนักลอยคลุมฟ้าเหนือสำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง กานต์ยืนอยู่หน้าห้องเก็บหลักฐานเสียง ขณะเจ้าหน้าที่กำลังจัดเรียงแฟ้มข้อมูลและเทปบันทึกที่ถูกดึงออกมาจากห้องเก็บลับตามคำร้องขอของเขาเมื่อคืน

“นี่คือทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการทดลองเสียงของ ดร.เมธัส และอาจารย์พิมพ์ชญา ครับ” เจ้าหน้าที่พูดพร้อมวางกล่องลงเบื้องหน้า

กานต์มองกล่องกระดาษสีน้ำตาลที่เต็มไปด้วยแฟ้มและเทปคาสเซตต์ หยิบแฟ้มหนึ่งขึ้นมาเปิดดู หน้าแรกแนบสำเนาสัญญาร่วมวิจัย มีชื่อของ “ผู้เข้าร่วม” หลายคน และหนึ่งในนั้นคือชื่อ “นิดา ศิรินทร์รักษ์”

เขาพึมพำออกมาเบา ๆ

“ในที่สุดก็มีเอกสารของเธอจริง ๆ...”

กานต์ใช้เวลาทั้งวันนั่งฟังเสียงจากเทปเก่า เทปแล้วเทปเล่า ส่วนใหญ่เป็นเสียงบันทึกจากกลุ่มทดลอง พูดถึงความรู้สึกหลังการฟังคลื่นเสียงพิเศษ เสียงเหล่านั้นถูกออกแบบให้กระตุ้นบางจุดในสมอง โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำและอารมณ์ลึก

ในหลายเทป เสียงของนิดาดังขึ้นเพียงไม่กี่วินาที ....น้ำเสียงเธอแผ่วเบา ทว่าเหมือนจะมีบางอย่างติดค้างอยู่ในลำคอ เช่นเดียวกับหลายคนที่เข้าร่วมก่อนหน้า

แต่เทปม้วนหนึ่งซึ่งไม่มีฉลากดึงความสนใจของกานต์

ทันทีที่เขากดเล่น...เสียงลมหายใจถี่กระชั้นก็ดังขึ้น แล้วตามมาด้วยเสียงผู้หญิงพูดเบา ๆ ชัดเจน

“ฉันรู้ว่าเขาได้ยินมันเหมือนกัน...แต่เขาไม่ยอมรับ...มันอยู่ในเสียงเงียบนั่นแหละ”

เงียบไปพักหนึ่ง แล้วเสียงนั้นก็พูดอีก

“ถ้าฉันหายไป...อย่าปล่อยให้เสียงนี้เงียบตามไปด้วย”

กานต์หยุดเทปทันที ใบหน้าเขาเคร่งเครียด เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์หนึ่งที่บันทึกไว้

“อาจารย์พิมพ์ ผมขอฟังเทปบันทึกเสียงของนิดา ที่คุณเก็บไว้ได้ไหม”

เสียงปลายสายเงียบไปอึดใจ ก่อนเธอจะตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“คืนนี้คุณว่างไหมคะ”

---

[ในบ้านพิมพ์ชญา – กลางคืน]

บ้านเงียบสนิทจนได้ยินเสียงลมผ่านหน้าต่าง เทปคาสเซตต์ม้วนหนึ่งถูกวางลงบนเครื่องเล่นเก่ารุ่นโบราณ พิมพ์ชญานั่งฝั่งตรงข้าม ขณะเสียงนิดาเริ่มดังขึ้นภายในห้องเงียบงัน

“คุณบอกว่าคลื่นเสียงจะช่วยเปิดอะไรบางอย่างในตัวเรา...”

“แต่ฉันไม่คิดว่าคุณรู้...ว่าบางอย่างมันก็ไม่ควรถูกเปิดออกมาเลย”

เสียงหยุดชะงักไปเสี้ยววินาที ตามด้วยเสียงเหมือนคนสะอื้นเบา ๆ

“มีบางเสียงที่ไม่ใช่ของฉันเลย...แต่ฉันได้ยินมันตลอดเวลา เหมือนมันอยู่ข้างใน”

“และมันก็อยากให้ฉัน...เงียบไป”

เมื่อเทปจบลง ห้องทั้งห้องเงียบงันอีกครั้ง พิมพ์ชญาไม่ได้พูดอะไร ขณะที่กานต์ยังจ้องเครื่องเล่นเทปราวกับคำตอบจะผุดขึ้นมาเองจากกลไกของมัน

“ผมเริ่มสงสัยว่าโครงการนี้อาจเกี่ยวข้องกับอะไรมากกว่าที่คุณเล่า” เขาเอ่ยในที่สุด

พิมพ์ชญาเงยหน้าขึ้น สบตาเขานิ่ง

“ผู้สารวัตเชื่อในพลังของเสียงไหมคะ?”

กานต์ไม่ตอบทันที เขาเพียงมองเธอ ก่อนจะพูดช้า ๆ

“ผมเชื่อว่า บางเสียง...อาจเปลี่ยนชีวิตคนได้”

หญิงสาวพยักหน้าเบา ๆ ดวงตาเธอหม่นลงอีกครั้ง

“แล้วคุณพร้อมจะฟังจนถึงเสียงสุดท้ายหรือยังคะ”

---

[ร้านคาเฟ่เงียบ ๆ ย่านมหาวิทยาลัย – เช้าวันถัดมา]

หญิงสาวคนหนึ่งในชุดนักศึกษาเก่ากำลังเช็ดโต๊ะหลังเคาน์เตอร์ เธอมีผมยาวรวบหางม้า ใบหน้าเรียบเฉยแต่มีรอยล้าแปลกตา

ชื่อบนป้ายหน้าอกเขียนว่า “ปานตะวัน”

เสียงโทรศัพท์ในร้านดังขึ้นเบา ๆ เจ้าของร้านรีบเดินมารับสาย

และก่อนที่เสียงสนทนาจะเริ่มขึ้น...

หญิงสาวคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตูทางเข้า ราวกับได้ยินเสียงบางอย่างแทรกเข้ามาในหูของเธอ

เบา...พร่า...เหมือนอยู่ไกลมาก

“ช่วยฉันด้วย...”

เธอหันขวับไปทางข้างร้าน สีหน้าสะบัดเปลี่ยน

ราวกับเสียงนั้น...เรียกเธอด้วยชื่อเดิมที่ไม่มีใครเรียกอีกแล้ว

“นิดา...”

---

เสียงภายในหัวของปานตะวันไม่ยอมหยุด

มันไม่ได้ดังมาก ไม่ได้ชัดเจนเสมอไป แต่กลับเจาะลึกเข้าไปในจิตใจของเธอเหมือนลมหายใจที่ไม่มีใครมองเห็น เธอพยายามบอกตัวเองว่ามันเป็นเพียงภาพหลอน หรือผลของความเครียดสะสมจากการทำงานและอดีตที่เธอไม่อยากรื้อฟื้น

แต่เสียงนั้นยังคงอยู่

เสียงกระซิบเบาบาง เหมือนเสียงที่เธอเคยได้ยินในห้องทดลอง

เสียงที่ครั้งหนึ่งเธอเคยพยายามลืม

ปานตะวันเดินเข้าไปในห้องด้านในของร้าน หยิบกล่องไม้เล็ก ๆ ออกมาจากลิ้นชักหลังเคาน์เตอร์ เธอเปิดมันด้วยมือสั่นเล็กน้อย ด้านในมีเทปคาสเซตต์เพียงม้วนเดียว ไม่มีฉลาก ไม่มีชื่อ

เป็นเทปที่เธอไม่กล้าเปิดฟังอีกเลย นับตั้งแต่วันสุดท้ายของการทดลอง

เธอนั่งลง มองกล่องไม้ในมือ แล้วหลับตาแน่น

“...อย่าปล่อยให้เสียงนี้เงียบตามไปด้วย...”

เสียงประโยคสุดท้ายนั้นกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับภาพในความทรงจำที่เธอพยายามปิดตาย

ภาพของห้องทดลอง

เสียงของเครื่องจักร

กลิ่นของสารเคมีอ่อนจาง

และใบหน้าของผู้หญิงคนหนึ่ง... ที่เธอเคยเรียกว่าเพื่อน

นิดา...

---

[ขณะเดียวกัน — ในรถของกานต์]

กานต์กำลังฟังเสียงจากเทปอีกม้วนผ่านเครื่องเล่นแบบพกพา เขานั่งอยู่ในรถที่จอดเงียบในลานว่างห่างไกลจากตัวเมือง

เสียงจากเทปเป็นเสียงของดร.เมธัส บันทึกไว้ในเชิงบันทึกภาคสนาม

“...มนุษย์ไม่ได้กลัวเสียงดัง หรือแม้แต่เสียงประหลาดที่ไม่มีที่มา...

สิ่งที่พวกเขากลัวจริง ๆ คือเสียงที่สะท้อนในความเงียบ

เสียงที่ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัวเอง...”

กานต์หลับตา

เขาเริ่มเข้าใจ

ว่าเสียงของคนตาย...อาจไม่ใช่แค่เสียงจากอดีต

แต่มันกำลังพูด...ผ่านคนที่ยังมีชีวิตอยู่

และเขายังไม่พร้อมจะเงียบ

---

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel