ตอนที่ 5 : เสียงที่ไม่เคยเงียบ - ปิดคดีนิดา
!!คำเตือน!!
เนื้อหาเหล่านี้เป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น บางเนื้อหาหรือสถานที่ไม่มีอยู่จริง ไม่สนับสนุนให้ทำตาม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป
++++
ฝนปรอยบางเบาร่วงลงกลางเช้าในวันที่อากาศหนาวเย็นผิดฤดู กานต์ยืนอยู่หน้าประตูห้องพักของ “ปานตะวัน” หญิงสาวในชุดนักศึกษาที่เขาเจอในร้านคาเฟ่เมื่อวาน หญิงสาวที่เงยหน้ารับเสียงกระซิบบางอย่างราวกับรู้จักมันดี และชื่อที่หลุดจากริมฝีปากเธอ…ก็คือ “นิดา”
กานต์ยื่นหมายค้นให้เจ้าหน้าที่ที่คอยตามหลัง ก่อนจะเคาะประตู
เสียงขยับของกลอนดังขึ้นช้า ๆ ประตูเปิด เผยให้เห็นหญิงสาวคนเดิมในชุดอยู่บ้านธรรมดา
“คุณคือ...?” เธอเอ่ยถามด้วยเสียงที่แม้สงบ แต่มีแรงสั่นซ่อนอยู่ลึก ๆ
“ร้อยตำรวจเอกกานต์ พิรุณทรัพย์” เขาแสดงบัตร “เราสงสัยว่าคุณอาจเกี่ยวข้องกับคดีการเสียชีวิตของนิดา ศิรินทร์รักษ์”
หญิงสาวเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะเบือนหน้าหลบ
“ฉัน...ไม่ได้อยากให้เธอตายเลยนะ”
กานต์ขมวดคิ้ว สัญชาตญาณนักสืบตื่นขึ้นทันที
“คุณรู้จักนิดา?”
“ฉัน คือนิดา” เสียงตอบกลับนั้นแผ่วเบา แต่หนักแน่น
---
เสียงเทปคาสเซตต์ยังคงดังขึ้นในห้องสอบสวนกลางสายวันนั้น เสียงคำสารภาพที่กานต์บันทึกไว้จากบทสนทนาอันยาวนานระหว่างเขากับหญิงสาวผู้ใช้ชื่อใหม่ว่า “ปานตะวัน”
“วันนั้นฉันเข้าโครงการเสียงของดร.เมธัสกับอาจารย์พิมพ์ชญาเหมือนคนอื่น ๆ พวกเขาบอกว่าคลื่นเสียง S6-Δ จะช่วยกระตุ้นให้คนเปิดรับ ‘ความรู้สึกที่ลึกที่สุด’ ในใจตัวเอง...”
เสียงสะอื้นแทรกกลางประโยค
“...แต่คลื่นนั้นกลับปลุกเสียงบางอย่างในหัวฉัน มันไม่ใช่แค่ภาพหลอน มันเหมือน...ความทรงจำของใครบางคน ที่ไม่ใช่ฉันเลย”
กานต์ฟังอย่างเงียบ ๆ ขณะหญิงสาวเล่าเรื่องการเปลี่ยนชื่อ หลบหนี และใช้ชีวิตใหม่เพราะเสียงนั้นไม่เคยหยุดตามหลอกหลอน
“มีคนอื่นได้ยินมันเหมือนฉันไหม?” เขาถาม
เธอพยักหน้าช้า ๆ
“หลายคน...แต่ไม่มีใครทนได้นานพอจะเล่า มันเหมือนเสียงของคนตายที่พูดผ่านความเงียบ”
---
คดีนิดาดูจะเริ่มกระจ่างขึ้น เมื่อกานต์กลับไปค้นแฟ้มการทดลองในสำนักงานอีกครั้ง เขาพบชื่อคนไข้หลายคนที่ถอนตัวกลางคัน และหนึ่งในนั้น...เสียชีวิตภายใต้สาเหตุ “ไม่สามารถระบุได้”
ไม่ใช่แค่นิดาและที่น่าประหลาดคือเทปของแต่ละคน แม้จะบันทึกในสถานที่ต่างกัน เสียงกระซิบสุดท้ายที่พวกเขาได้ยิน...เหมือนกันแทบทุกคำ
“ช่วยฉันด้วย...อย่าปล่อยให้เสียงนี้เงียบหาย”
---
ในที่สุด กานต์จึงเรียกอาจารย์พิมพ์ชญามาสอบอีกครั้ง
คราวนี้ เธอไม่ได้นั่งนิ่งเหมือนครั้งก่อน
“คุณรู้ใช่ไหม ว่ามีบางอย่างผิดในโครงการนั้น?” เขาถาม
พิมพ์ชญามองเขานิ่ง ก่อนจะถอนหายใจ
“ผิดตั้งแต่วันที่ดร.เมธัสเปลี่ยนวิธีทดลอง”
“เปลี่ยนยังไง?”
“จากการศึกษาเรื่อง ผลกระทบของคลื่นเสียงต่ออารมณ์มนุษย์ กลายเป็น...การ กระตุ้นความจำร่วมระหว่างบุคคล”
กานต์ขมวดคิ้ว
“คุณหมายความว่ายังไง?”
พิมพ์ชญาเอ่ยเบา ๆคำที่แทบไม่อยากหลุดจากปาก
“เมธัสเชื่อว่าความทรงจำบางอย่าง ไม่ได้อยู่ในสมองคนเดียว...มันสามารถถูก ‘แบ่ง’ หรือ ‘ฝัง’ ไว้ในเสียง และถ่ายทอดจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนผ่านคลื่นที่เหมาะสม”
“แล้วเสียงที่คนพวกนั้นได้ยิน...”
“คือความทรงจำของใครบางคนที่ยังร้องขอความยุติธรรม”
---
คดีของ “นิดา” ถูกปิดในทางกฎหมายว่าไม่มีการฆาตกรรม เพราะ “นิดา” ยังมีชีวิตอยู่ในชื่อใหม่
แต่ในทางจิตใจ...คดีนี้ไม่เคยปิดเลย
กานต์ยืนมองหญิงสาวที่เคยใช้ชีวิตหลบหนีจากเสียงในหัวของตัวเอง ตอนนี้เธอไม่ต้องหลบแล้ว แม้เสียงนั้นยังคงอยู่ แต่มันกำลังเปลี่ยนไปเพราะเธอได้เล่ามันออกมา
และในขณะเดียวกัน…ข้อมูลที่พิมพ์ชญาให้มา ก็ทำให้เขากลับมานั่งทบทวนเทปเก่า ๆ ของดร.เมธัสอีกครั้ง
เขาเปิดเทปสุดท้ายของดร.เมธัสเทปที่ไม่เคยมีใครกล้าฟังจบ
ในช่วงท้ายของเสียง…มีคำพูดหนึ่งที่ดังขึ้น
“ผม...ขอโทษ ถ้าผมได้ยินเสียงนั้นชัดกว่านี้ตั้งแต่แรก บางคนอาจไม่ต้องตาย...”
เสียงจบลงพร้อมเสียงปืนแว่วเบา ๆ
---
