บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 : ในความเงียบของเธอ

!!คำเตือน!!

เนื้อหาเหล่านี้เป็นเพียงจินตนาการของนักเขียนเท่านั้น บางเนื้อหาหรือสถานที่ไม่มีอยู่จริง ไม่สนับสนุนให้ทำตาม เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป

++++

บ้านทั้งหลังเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง

อาจารย์พิมพ์ชญานั่งอยู่หน้ากองเอกสารที่เปิดค้างไว้บนโต๊ะทำงาน สะโพกยังแทบไม่ได้แตะพนักเก้าอี้หลังจากที่กลับจากให้ปากคำที่โรงพักเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้

แสงจากโคมไฟหัวเตียงที่เธอลากมาตั้งไว้ข้างโต๊ะทอเงาสีส้มสลัวไปทั่วมุมห้อง นาฬิกาแขวนผนังเดินต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยจังหวะช้าและแน่นิ่ง ราวกับเย้ยหยันการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกิดขึ้นหลังความตายของ ดร.เมธัส

เธอไม่ควรจะคิดถึงเขา...ในแง่นั้นอีก

แต่ทุกอย่างยังชัดเจนในความทรงจำ แววตาเจ็บปวดของเมธัส เสียงก่นด่าในคืนที่ทะเลาะกันครั้งสุดท้าย ความเงียบที่เขาทิ้งไว้หลังประโยคนั้น...

“คุณไม่มีวันเข้าใจ ว่าความเงียบของคนคนหนึ่ง มันสามารถฆ่าใครได้บ้าง”

พิมพ์ชญาก้มหน้าลงอย่างช้า ๆ มือที่กำลังถือปากกาสั่นเล็กน้อย เธอไม่กลัวคำถามจากตำรวจ...เธอกลัวคำถามจากความเงียบภายในตัวเองมากกว่า

เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นเบา ๆ แต่พอจะทำให้หัวใจที่จมอยู่ในอดีตสะดุ้งตื่น อาจารย์หญิงลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูอย่างระแวดระวัง

ร้อยตำรวจเอกกานต์ พิรุณทรัพย์ ยืนอยู่ตรงนั้น สีหน้าไม่เปลี่ยน แต่ดวงตาคมกริบอย่างเคย

“ขอรบกวนเวลาสักครู่ครับ อาจารย์พิมพ์”

---

ห้องนั่งเล่นของเธอยังมีกลิ่นน้ำมันหอมระเหยกลิ่นลาเวนเดอร์บางเบา กานต์นั่งตรงข้ามกับหญิงสาวที่เคยเป็นเพื่อนร่วมงานของผู้ตาย เขาหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กออกมาเปิดดู ก่อนจะเงยหน้าขึ้น

“ผมมีเรื่องต้องถามคุณอีกสักหน่อย”

พิมพ์ชญาพยักหน้ารับด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ลึกลงไปภายใต้เงาสีอ่อนของโคมไฟ ใบหน้าของเธอมีรอยหม่นแฝงอยู่

“คุณเคยได้ยินชื่อนิดาไหมครับ”

“...นิดา?”

“เธอเคยเป็นนักศึกษาในโครงการทดลองร่วมระหว่างคุณกับ ดร.เมธัส เมื่อห้าปีก่อน”

ชื่อที่เขาเอ่ยออกมาทำให้ปลายนิ้วของอาจารย์พิมพ์ที่แตะถ้วยชาอยู่สั่นไหวเพียงเสี้ยววินาที เธอกะพริบตาแล้วพยายามทำใจให้สงบ

“นิดา...หายตัวไปค่ะ”

“ผมทราบ แต่คุณยังไม่เคยพูดถึงเธอเลยตั้งแต่เริ่มการสอบสวน”

“ก็เพราะ...เพราะเราไม่มีหลักฐานว่าเธอเกี่ยวข้องกับ...”

“แต่เธอเป็นคนสุดท้ายที่เข้าไปในห้องทดลองคืนนั้น ก่อนระบบกล้องจะถูกตัดสัญญาณ” กานต์ขัดขึ้นเรียบ ๆ “มีเหตุผลอะไรที่คุณไม่เล่าทั้งหมดตั้งแต่ต้น”

พิมพ์ชญาเงียบไป หญิงสาวมองลงที่ถ้วยชาของตัวเอง สายตาหนักอึ้งเหมือนกำลังจ้องบางอย่างที่จมอยู่ก้นถ้วย

“บางความจริง...มันก็เป็นเหมือนเสียงที่ไม่มีใครอยากฟังค่ะ ผู้กอง”

---

[ห้าปีก่อน – แฟลชแบ็ก]

นิดานั่งอยู่ในห้องบันทึกเสียงที่ล้อมรอบด้วยกระจกกันเสียง แววตาเธอว่างเปล่า ขณะที่เสียงจากเครื่องบันทึกยังคงเล่นประโยคซ้ำ ๆ

“เสียงคือหลักฐานของการมีอยู่...เสียงคือความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้...เสียงคือความกลัวของความเงียบ”

เมธัสนั่งอยู่หลังแผงควบคุม มือจดบางอย่างลงในแฟ้มบันทึก

“เธอกำลังเข้าใกล้จุดเริ่มต้นของ ‘เสียง’ แล้วล่ะ” เขาพูดกับพิมพ์ชญาที่นั่งข้าง ๆ

“แต่นิดาไม่เหมือนรายก่อน ๆ” พิมพ์ชญากระซิบเสียงเบา “เธอเงียบเกินไป เงียบจนฉันรู้สึกเหมือน...เสียงที่เธอได้ยิน อาจไม่ใช่ของเรา”

เมธัสไม่ได้ตอบ แต่พิมพ์ชญาจำได้ว่า เขาหันมามองเธอด้วยสายตาแบบเดียวกับวันที่เขาบอกว่า “ความเงียบสามารถฆ่าได้”

คืนนั้น นิดาหายไป

---

เสียงของกานต์ยังคงเรียบเย็น เขาเก็บสมุดบันทึกเข้ากระเป๋าเสื้อ สูดหายใจช้า ๆ แล้วพูดเป็นคำสุดท้ายก่อนลุกขึ้น

“แต่เสียงของคนตาย...ผมไม่มีทางเลือกนอกจากต้องฟังมันจนจบ”

เขาก้าวออกจากบ้านไปท่ามกลางความเงียบที่กลับคืนสู่ห้องรับแขกอย่างไม่ขาดตอน ทิ้งให้พิมพ์ชญานั่งนิ่ง ราวกับบางอย่างในตัวเธอเริ่มร้าวรานอีกครั้ง

เธอเหลือบมองไปยังแฟ้มเอกสารที่อยู่ในลิ้นชักข้างโต๊ะ ข้างในนั้นคือสิ่งที่ไม่เคยถูกส่งมอบให้ใคร เทปบันทึกเสียงของนิดาในวันสุดท้ายก่อนหายตัวไป

“เสียงคือสิ่งเดียวที่ไม่เคยโกหก...” เสียงนิดาจากเทปบอกไว้แบบนั้น

แต่ในความเป็นจริง เสียงบางเสียงก็ทำลายได้มากกว่าความเงียบ

---

[ในคอนโดของกานต์]

คืนนั้นเอง กานต์กลับมาถึงคอนโด เขาเปิดไฟเพียงดวงเดียวในห้องนั่งเล่น แล้วหย่อนตัวลงบนโซฟา เงาของร่างตัวเองทอดยาวบนผนังเย็นเฉียบ

เขาเปิดโน้ตบุ๊กขึ้นมาทบทวนภาพถ่ายจากกล้องในสถานที่เกิดเหตุอีกครั้ง ซูมไปที่กระดาษโน้ตบนโต๊ะทำงานของเมธัส ข้อความที่ถูกขีดทิ้งและเขียนทับซ้ำอย่างรุนแรงหลายรอบ

"อย่าเงียบ...ได้โปรดอย่าเงียบ"

หน้าจอดับไปชั่วขณะ ไฟในห้องกะพริบหนึ่งที เสียง ติ๊ง ดังมาจากมือถือที่วางอยู่ข้างตัวเขา

ข้อความใหม่ จากหมายเลขที่ไม่ระบุชื่อ

“เสียงที่คุณได้ยิน...ยังไม่ใช่ทั้งหมด”

กานต์นิ่งงันไปชั่วครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองไปรอบห้อง แสงสลัวคล้ายจะแผ่วเบาลงกว่าเดิม

และเสียงหนึ่งที่ไม่รู้มาจากไหน...ก็เริ่มดังขึ้นอีกครั้งในหัวเขา

เสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง

เบา...พร่า...เหมือนอยู่ไกลมาก

“ถ้าคุณได้ยินฉัน...ได้โปรดช่วยฉันด้วย...”

เขาจำได้ว่ามันคือเสียงเดียวกับที่เขาเคยได้ยินในคืนแรกที่พบศพของเมธัส

และในที่สุด กานต์ก็เข้าใจ

เสียงของคนตาย...ไม่มีวันเงียบ

---

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel