EP 5 | ขอจีบ
“ตามใจ”
นำทัพตีสีหน้าให้เรียบนิ่งพยายามดึงสติของตัวเอง เขาเคยตกลงกับตัวเองไว้ว่าจะไม่มีทางดึงความวุ่นวายใดๆ เข้ามาในชีวิตเด็ดขาดและสำหรับเด็กสาวตรงหน้า เหตุการณ์เมื่อเช้าก็ยืนยันได้เป็นอย่างดีแล้วว่าเธอมันตัววุ่นวายมากแค่ไหน
ใช้เวลาไม่นานรถก็แล่นเข้ามาจอดหน้าสถาบันสอนภาษาที่ไอโกะหาข้อมูลเอาไว้ ข้างในมีพนักงานคอยแนะนำเรื่องคอรส์การเรียน หลักสูตร ระยะเวลาและราคาซึ่งนำทัพเป็นคนอ่านรายละเอียดให้ทั้งหมด
ไอโกะมองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยความหลงใหล เวลาที่เขากำลังใช้สมาธิจดจ่อกับอะไรยิ่งทำให้เขาดูมีเสน่ห์ขึ้นมาเป็นร้อยเท่า
ในขณะที่นำทัพกลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังพาลูกสาวมาสมัครเรียนที่โรงเรียนอนุบาลเพราะคอรส์ของที่นี่เริ่มต้นตั้งแต่พยัญชนะไทยสี่สิบสี่ตัวเลยล่ะ
“คอรส์นี้เรียนทุกวันจันทร์ถึงพุธใช่มั้ยครับ”
นำทัพเอ่ยถามอย่างสุภาพแม้พนักงานสาวตรงหน้ากำลังนั่งจ้องเขาราวกับจะกินเข้าไปทั้งตัว
“ใช่ค่ะ”
“งั้นเอาคอรส์นี้แหละครับ”
“ได้ค่ะ สักครู่นะคะ”
ไอโกะมองหน้าพนักงานคนนั้นสลับกันพลางนึกถึงประโยคของน้ำปั่นที่คุยกันเมื่อคืน
‘เฮียทัพน่ะชอบผู้หญิงรักนวลเสนอตัว’
‘คะ?’
‘ถ้าเธอชอบเฮียทัพ เธอต้องอ่อยเค้าเยอะๆ’
‘อ่อยคืออะไรคะ?’
‘จีบไง เธอต้องจีบเฮียเอง เฮียทัพน่ะตายด้านเรื่องผู้หญิงจะตายเธอต้องบุก ต้องลุยเท่านั้น!’
น้ำปั่นในตอนนั้นพูดพลางยกแขนขึ้นมาสองข้างพลางทำท่าฮึดสู้! เล่นเอาไอโกะรู้สึกฮึดตามไปด้วยและแน่นอนว่าเธอจะไม่ยอมให้พนักงานสาวตรงหน้ามาคาบเขาไปแน่นอน
“เธอคะ” เสียงหวานเอ่ยพร้อมกับขยับเข้าไปกอดแขนนำทัพ “ไอโกะหิวค่ะ”
ไอโกะจ้องหน้านำทัพพลางกระพริบตาปริบๆ อย่างออดอ้อน แม้จะรู้สึกตกใจกับการกระทำของเธอไม่น้อยแต่ก็ยังดีที่เขาไม่สะบัดแขนเธอออกอย่างที่คนตัวเล็กกำลังนึกกลัวอยู่ในใจ
“เดี๋ยวพาไป”
พนักงานสาวหน้าถอดสีทันที เธอคิดว่านำทัพเป็นพี่ชายของไอโกะเสียอีกเกือบโดนลูกค้าคอมเพลนเพราะจ้องจะงาบแฟนเธอแล้วไหมล่ะ
“เรียบร้อยค่ะ”
ไอโกะรีบก้มลงเปิดกระเป๋าสะพายของตัวเองเพื่อหยิบเงินสดขึ้นมาจ่ายค่าคอรส์เรียนแต่ก็ยังช้ากว่าคนพี่ที่ยื่นบัตรเครดิตให้ไปก่อนแล้ว
“เธอคะจ่ายให้ไอโกะทำไมคะ”
คำถามของคนตัวเล็กทำให้นำทัพชะงักไปเล็กน้อยเพราะเขาก็ไม่รู้จะตอบคำถามเธอยังไง แต่แค่อยากจ่ายให้มันต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ
“แม่สั่งมา” ซะที่ไหนเล่า!
“อ่อ~ คุณป้าใจดีจัง”
ไอโกะยกมือขึ้นมาตบเบาๆ ด้วยความดีใจ นัยน์ตาเป็นประกายวาววับทุกครั้งจนนำทัพอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มตาม
“จะไปไหนคะ”
เสียงหวานเอ่ยถามเมื่อทั้งคู่เดินออกมาจากสถาบันสอนภาษาแต่นำทัพเตรียมเดินไปทางฝั่งตรงข้ามกับลานจอดรถ
“หิวไม่ใช่เหรอ”
“เอ๊ะ? อ่อ ใช่ค่ะไอโกะหิว”
เกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าตัวเองไปโกหกอะไรไว้ เธอไม่ได้รู้สึกหิวจริงๆ เสียหน่อยตอนนั้นแค่อยากเรียกร้องความสนใจจากเขาและกันท่าพนักงานสาวเท่านั้นเอง
นำทัพไม่ได้พูดอะไรต่อขาแกร่งก้าวนำไปยังฟุตบาทข้างถนนเพื่อเตรียมเดินข้ามไปยังร้านอาหารอีกฝั่ง
ไอโกะกวาดสายตามองรถที่กำลังขับไปมาก่อนจะก้มลงมองฝ่ามือใหญ่ด้วยความลังเล ตรงฟุตบาทที่ทั้งสองคนยืนอยู่ไม่มีทางม้าลายไม่มีสัญญาณไฟจราจรทำให้เด็กสาวค่อนข้างหวั่นใจ
หมับ!
นำทัพสังเกตเห็นท่าทางหวาดระแวงของไอโกะเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคงกลัวจึงยื่นมือไปจับมือคนตัวเล็กเดินข้ามถนน
ไอโกะสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากฝ่ามือใหญ่ ความใส่ใจของเขายิ่งทำให้เธอรู้สึกตกหลุมรักเทพบุตรตรงหน้าอีกครั้ง
“อยากกินอะไร”
เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อเดินข้ามมาอีกฝั่งเรียบร้อย ที่นี่เป็นFood mallศูนย์รวมร้านอาหารนานาชาติไว้หลากหลายร้านมากๆ
“อืมม~”
ไอโกะยกนิ้วชี้ขึ้นกัดพลางมองไปยังร้านอาหารตรงหน้าอย่างพิจารณาในขณะที่ดวงตาคมกริบกลับเอาแต่จ้องริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ
ยั่วกันชัดๆ!
“ร้านนี้ค่ะ ไอโกะอยากกินปิ้งย่าง”
“อืม”
@Hashi Buffet
หลังจากได้โต๊ะและสั่งอาหารสดไปเรียบร้อยพนักงานก็นำจานช้อนตะเกียบมาเสิร์ฟให้ ไอโกะนั่งจ้องหน้านำทัพจนเขาต้องเอ่ยถาม
“มีอะไร”
น้ำเสียงปนดุทำให้ไอโกะย่นจมูกขึ้นอัตโนมัติด้วยความหมั่นไส้ นำทัพส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจพลางหยิบตะเกียบไม้ขึ้นมาเพื่อเตรียมหักแยกทั้งสองข้างออกจากกันแต่กลับโดนมือเรียวคว้าเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวค่ะ ไอโกะทำให้ค่ะ”
“ทำไม”
คิ้วหนาขยับเข้าหากัน นำทัพไม่เข้าใจว่าแค่หักตะเกียบทำไมไอโกะจะต้องทำสีหน้าจริงจังขนาดนี้ด้วย
ในขณะที่ไอโกะพยายามดึงตะเกียบออกจากมือของคนพี่เพราะเธอดันคิดมุกจีบเขาขึ้นมาได้พอดี
“คนญี่ปุ่นเชื่อว่าคนที่หักตะเกียบเท่ากันจะเป็นแฟนหรือคนรักที่ดีมากๆ”
ไอโกะพูดพร้อมดึงตะเกียบออกจากมือคนพี่มาหักโชว์ตรงหน้าและแน่นอนว่ามันออกมาเท่ากันเป๊ะๆ ทั้งสองข้าง
“เดี๋ยวไอโกะทำให้ดูอีกรอบนะคะ”
ยื่นตะเกียบคืนนำทัพก่อนจะหยิบของตัวเองขึ้นมาและหักโชว์เขาอีกครั้ง จะไม่ให้เธอหักตะเกียบตรงขนาดนี้ได้ยังไงในเมื่อเธอหักมาตั้งแต่เด็กและความเชื่อของคนญี่ปุ่นที่ว่าก็คือความเชื่อของไอโกะหนึ่งคนถ้วน
“สนใจรับไอโกะเป็นแฟนมั้ยคะ”
นำทัพเข้าใจทันทีว่าสิ่งที่เธอพยายามทำมาทั้งหมดก็เพื่อจะโยงเข้าประโยคที่ตัวเองคิดเอาไว้ ไม่คิดเลยว่าคนตัวเล็กจะมีมุกจีบที่น่ารักขนาดนี้หรือว่าเธอคือคนพูด เขาจึงมองว่ามันน่ารักกว่าคนอื่นๆ
“จีบ?”
ปลายคิ้วหนายกขึ้นเล็กน้อยพลางเอ่ยถาม นัยน์ตาคมกริบจ้องมองเข้าไปในดวงตาของไอโกะราวกับกำลังรอคำตอบ
“ไอโกะจีบเธอคะได้มั้ย”
แม้จะเขินจนแทบเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่แต่ไอโกะก็ยังใจสู้เอ่ยถามกลับไปตรงๆ ในเมื่อเขาเปิดโอกาสให้ถามเธอก็ต้องรีบคว้าเอาไว้
“ตรงดีนี่”
“ไอโกะไม่อยากโกหกค่ะเดี๋ยวผิดศีลฮา”
“ฮ่าๆ ศีลห้า” นำทัพถึงกับหลุดหัวเราะออกมาก่อนมือหนาจะยื่นไปขยี้ผมไอโกะด้วยความมันเขี้ยว “ถ้าถือศีลแล้วฮาคนเค้าถือปันทั้งประเทศล่ะยัยโก๊ะ”
การกระทำของนำทัพทำให้ไอโกะอ้าปากค้าง เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคนที่ชอบทำหน้าดุตลอดเวลาอย่างเขาจะหัวเราะได้โลกสดใสขนาดนี้
ตกหลุมรักรอบที่ล้านแล้วมั่งเนี้ย!
เมื่อเห็นว่าคนน้องอ้าปากค้างนำทัพจึงรีบปรับสีหน้าตัวเองให้กลับมาเรียบนิ่งเหมือนเดิมส่วนมือที่วางอยู่บนศีรษะก็เลื่อนลงมาดันคางของเธอขึ้น
“เดี๋ยวค่ะ”
ไอโกะรีบคว้ามือหนาเอาไว้ด้วยมือทั้งสองข้างพลางยื่นหน้าเข้าไปวางลงบนหลังมือของเขาอย่างออดอ้อน
“ตกลงว่าไอโกะจีบเธอคะได้มั้ย”
นำทัพหรี่ตาลงเล็กน้อยก่อนดวงตาคมกริบของเขาจะฉายความซุกซนออกมา ปากหยักยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“ก็ลองดู”
“จริงเหรอคะ”
“ถ้าจีบไม่ติด อย่าร้องไห้กลับประเทศก็แล้วกัน”
ไอโกะรู้สึกว่าประโยคของเขาทำให้เธอมีแรงฮึดสู้ขึ้นมามากกว่าเดิม แบบนี้มันท้าทายกันชัดๆ ไอโกะจะไม่ยอมให้สาวญี่ปุ่นเสียชื่อเป็นอันขาด!
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อพนักงานก็เดินเข้ามาเสิร์ฟอาหารที่ทั้งคู่สั่งเอาไว้ไอโกะจึงยอมปล่อยมือของนำทัพ
