EP 4 | เธอคะ
“ไอ้ปั่น!”
นำทัพหันไปจ้องหน้าน้องสาวของตัวเองด้วยสายตาดุดัน เขารู้ได้ทันทีว่าไอโกะคงจะถูกสอนคำศัพท์ที่ผิดมาอีกเยอะแน่ๆ เมื่อเช้าตอนที่น้ำหวานบอกว่าไอโกะนอนห้องเดียวกับน้ำปั่นเขาก็เอะใจแล้วเชียว
น้ำปั่นเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงพอๆ กับเขา ไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวายในห้องแม้กระทั่งน้ำหวานที่เป็นฝาแฝดก็ยังต้องขออนุญาตก่อนทุกครั้งแต่เมื่อคืนกลับชวนไอโกะไปนอนด้วย
เพราะมีแผนการร้ายอยู่นี่เอง
“อะไรเฮีย ปั่นก็แค่สอนเอาฮาใครจะรู้ว่ายัยสายไหมจะพูดขึ้นมาตอนนี้”
น้ำปั่นแก้ตัวในขณะที่เธอยังคงพูดปนขำแต่เมื่อหันไปสบตาสายกับผู้เป็นพ่อเธอก็รีบเม้มปากตัวเองแน่นทันที
“ปั่นทำไมแกล้งไอโกะแบบนี้ล่ะ ถ้าเค้าเอาไปพูดที่อื่นจะทำยังไง”
น้ำหอมเอ็ดลูกสาวขี้แกล้งของตัวเองในขณะที่คนต้นเรื่องยังไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้เธอพูดอะไรผิดไป
เมื่อเช้าเธอจะขอยืมที่ดัดขนตาของน้ำปั่นมาใช้แต่ไม่แน่ใจว่าภาษาไทยเรียกว่าอะไรและน้ำปั่นก็เป็นคนสอนเธอ แต่ทำไมคำศัพท์ของน้ำปั่นถึงทำให้ทุกคนบนโต๊ะอาหารมีอาการแตกตื่นขนาดนี้
“หม่าม้าคะ ดูหน้ายัยสายไหมใครๆ ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนไทยพูดผิดพูดถูกไปบ้างไม่มีใครถือสาหรอกค่ะ”
น้ำปั่นยังคงแก้ตัวด้วยท่าทางไม่ยี่หระแต่เมื่อเห็นสายตาของทุกคน เธอจึงถอนหายใจออกมาแรงๆ
“เฮ้อ! ไม่สนุกเลยไปดีกว่า”
รีบลุกขึ้นหนีความผิดไปอย่างไว นำทัพส่ายศีรษะกับพฤติกรรมปั่นประสาทของน้องสาวก่อนจะหันกลับมาสบตาเด็กสาวตรงหน้าพลางมองเธออย่างอ่อนใจ เขาคิดว่าภาษาไทยของเธอจะแข็งแรงมากกว่านี้เสียอีก แต่ก็เข้าใจว่าปกติเธอไม่ค่อยจะได้ใช้มัน
••××××ו•
“ตอนนี้ไอโกะเรียนอะไรอยู่ลูก”
น้ำหอมเอ่ยถามไอโกะซึ่งกำลังนั่งดูโทรทัศน์อยู่ข้างกันในห้องนั่งเล่น น้ำหวานกับน้ำปั่นขอตัวกลับไปคอนโดก่อนเพราะมีนัดกับเพื่อน ส่วนนำทัพยุ่งอยู่กับการต่อเติมรถบ้านของเขา
“ไอโกะเรียนคณะสื่อสารมวลชนอยู่ที่มหาลัยวะเซะดะค่ะ เรียนออนไลน์”
Waseda University เป็นมหาวิทยาลัยที่ขึ้นชื่อเรื่องคณะสื่อสารมวลชลไอโกะพยายามเป็นอย่างมากเพื่อสอบเข้าคณะนี้และโชคดีที่เธอสามารถเรียนออนไลน์ได้จึงทำให้ไม่ส่งผลกระทบด้านการเรียนในระหว่างที่ย้ายมาอยู่ไทยชั่วคราว
“แล้วมาอยู่ที่ไทยหนูอยากทำอะไรบ้าง”
“หนูอยากเรียนภาษาไทยค่ะ”
ไอโกะหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมาเพื่อเปิดหน้าแฟนเพจสถาบันสอนภาษาที่เธอหาข้อมูลเอาไว้ยื่นให้ผู้เป็นป้าดู จากสถานการณ์เมื่อเช้าน้ำหอมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเด็กสาวควรไปเรียนภาษาไทยเพิ่ม
“อยากลองไปดูมั้ย”
“ได้เหรอคะ อยากค่ะๆๆ”
คนตัวเล็กพยักหน้ารัวๆ ด้วยความตื่นเต้น ดวงตาคู่สวยเป็นประกายขึ้นมาทุกครั้งเวลาดีใจและนั้นก็ยิ่งทำให้เธอดูน่ารักน่าเอ็นดูจนน้ำหอมอดไม่ได้ที่จะอมยิ้มตาม
“ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวป้าให้พี่ทัพพาไปแล้วกันนะ”
คราวนี้นอกจากดวงตาจะเป็นประกายแล้วริมฝีปากบางยังยกยิ้มจนเห็นฟันครบสามสิบสองซี่อีกด้วย
น้ำหอมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาลูกชายที่ทุ่มเทเวลาว่างทั้งหมดของตัวเองในการสร้างรถบ้าน เมื่อได้ยินว่านำทัพตอบตกลงแต่ขอเวลาอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อนไอโกะจึงขอตัวขึ้นไปเปลี่ยนชุดข้างบนบ้าง
ตอนนี้เธอมีห้องนอนเป็นของตัวเองแล้วและเมื่อเช้าแม่บ้านก็ขนกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอเข้ามาจัดใส่ตู้ให้เรียบร้อย
“ชุดนี้ดีมั้ยนะหรือชุดนี้ดี”
มือเรียวทั้งสองข้างจับไม้แขวนเสื้อมาทาบทับตัวเองอยู่หน้ากระจกหลายต่อหลายชุด ถ้าแค่ไปสมัครเรียนสถาบันสอนภาษาไทยเธอคงไม่ซีเรียสเท่านี้หรอกแต่นี่คนที่พาไปคือนำทัพคนที่เธอตั้งใจว่าจะเดินหน้าจีบเขาตามคำแนะนำของน้ำปั่นเพราะฉะนั้นเธอจะต้องสวยและดูดีตลอดเวลาในสายตาของเขา
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลังจากที่เวลาผ่านไปประมาณยี่สิบนาที ไอโกะสวมชุดมินิเดรสยีนสีเข้มรีบเดินมาเปิดประตูอย่างรวดเร็วเพราะคิดว่าน้ำหอมคงมาตาม
“มาแล้วค่ะคุณ...พี่”
ชื่อเรียกถูกเปลี่ยนไปทันทีเมื่อคนที่ยืนอยู่หน้าประตูห้องกลับเป็นร่างสูงของนำทัพแทนที่จะเป็นน้ำหอม
“เสร็จหรือยัง”
เสียงเข้มเอ่ยถามพลางไล่สายตามองชุดที่คนตัวเล็กกำลังสวมใส่ ดีเทลเสื้อคล้องคอและกระโปรงที่ยาวเหนือเข่าขึ้นมาเกือบคืบทำให้นัยน์ตาคนตัวโตดุดันขึ้นอัตโนมัติจนไอโกะรู้สึกขนลุกขนชัน
sds
“เสร็จแล้วค่ะ ไอโกะขอเข้าไปเอากระเป๋าสะพายก่อนนะคะ”
“รอที่รถ”
พูดจบร่างสูงก็หมุนตัวเดินกลับไปทางบันไดทิ้งให้ไอโกะมองตามด้วยความสงสัยว่าเขาไปอารมณ์เสียจากที่ไหนมาหรือเปล่า
นิ้วแกร่งเคาะบนพวงมาลัยระหว่างนั่งรอคนตัวเล็ก นำทัพไม่รู้ว่าเขากำลังคันยุบยิบในใจด้วยเรื่องอะไรหรืออาจจะเป็นเพราะการแต่งตัวของไอโกะที่ดูขัดกับวัฒนธรรมไทย
ใช่! ต้องเป็นเพราะเรื่องนี้แน่ๆ
เมื่อหยิบกระเป๋าสะพายและเตรียมเอกสารของตัวเองเรียบร้อยไอโกะก็รีบวิ่งตามลงไปทันที
Honda Accord สีดำสนิทแล่นออกจากบ้านสินธปกรณ์ไปตามถนนด้วยความเงียบ ไอโกะได้แต่ลอบมองร่างสูงในตำแหน่งคนขับที่ไม่ปริปากพูดสักคำตั้งแต่เธอขึ้นมานั่งบนรถหรือว่าเขาไม่อยากจะไปส่งเธอ ไอโกะคิดว่านำทัพอาจจะพาเธอออกมาเพราะเกรงใจผู้เป็นแม่
“ถ้าคุณพี่มีธุระต้องไปทำส่งไอโกะไว้แถวนี้ก็ได้นะคะ”
นำทัพขมวดคิ้วพลางปรายตามองร่างบางเล็กน้อย ประโยคของเธอสร้างความสงสัยให้เขาเต็มไปหมด
“ไม่มี…แล้วทำไมเรียกคุณพี่”
“ก็เป็นคำสุภาพในภาษาไทยไม่ใช่เหรอคะ เหมือนคุณลุง คุณป้า คุณน้า คุณพี่”
ไอโกะตอบพร้อมรอยยิ้มหวานแต่คนฟังกลับส่ายศีรษะไปมาเบาๆ อย่างอ่อนใจ เธอควรไปสมัครเรียนที่สถาบันสอนภาษาไทยนี่แหละดีที่สุดแล้ว
“ไม่ต้องเรียกคุณ”
“แล้วให้เรียกอะไรเหรอคะ หรือเรียกเหี้ยเหมือนน้ำหวานน้ำปั่น”
“หยุด!”
นำทัพจอดรถติดไฟแดงก่อนจะหันมาจ้องคนตัวเล็กพลางหลับตาลงช้าๆ อย่างข่มอารมณ์ เขาไม่เข้าใจเลยว่าเธอพูดไทยไม่ค่อยชัดแต่คำทะลึ่งหรือคำด่าทำไมถึงชัดเจนทุกวรรณยุกต์
“งั้นอยากให้ไอโกะเรียกว่าอะไรเหรอคะ”
ไอโกะยื่นหน้าเข้าไปถามตาแป๋ว เธออาศัยจังหวะนี้พิจารณาใบหน้าหล่อเหลาของเขาใกล้ๆ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าการกระทำของตัวเองกำลังปลุกเสือจำศีลให้ตื่นตัว
ใบหน้าจิ้มลิ้มของไอโกะทำให้นำทัพเกิดอาการมันเขี้ยวอย่างบอกไม่ถูก เขาอยากจะตะปบแก้มป่องๆ ของคนตรงหน้า ยิ่งริมฝีปากบางสีชมพูที่กำลังระบายยิ้มยิ่งทำให้เขาอยากจะดึงเธอเข้ามาฟัด
‘เป็นอะไรของมึงวะไอทัพ!’
“เธอ...”
ปรี๊น!
เริ่มพูดได้แค่คำแรกเสียงแตรที่ดังมาจากรถคันข้างหลังก็ทำให้นำทัพรีบหันกลับมามองถนนข้างหน้า ตอนนี้ไฟเขียวแล้วและรถคันอื่นก็ออกตัวไปหมดแล้วด้วย
“ได้ค่ะ ไอโกะจะเรียกว่าเธอ”
คนตัวเล็กพยักหน้ารับอย่างใสซื่อโดยไม่รู้เลยว่าประโยคเมื่อสักครู่นำทัพยังพูดไม่จบ
“แต่มันฟังดูไม่ค่อยสุภาพเลยนะคะ งั้นไอโกะจะเรียกว่าเธอคะ ดีมั้ยคะ”
คำว่า ‘เธอคะ’ ที่เปล่งออกมาด้วยน้ำเสียงสดใสของไอโกะทำให้นำทัพรู้สึกหายใจสะดุดขึ้นมา แม้จะเป็นคำเรียบง่ายที่สามารถได้ยินได้ทั่วไปแต่เขากลับรู้สึกชอบที่มันดังออกมาจากปากของเธอ
“ตามใจ”
