EP 3 | สวรรค์เข้าข้าง
ไอโกะอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าเทพบุตรที่เคยช่วยเธอเมื่อช่วงบ่ายเดินตรงเข้ามาในบ้าน นี่เขาตกหลุมรักเธอถึงขนาดต้องตามหากันเลยเหรอแล้วเธอควรจะทำยังไงบอกกับป้าหอมไปเลยดีไหมว่าเธออยากจะแต่งงานกับเขาไม่อยากจะอยู่ที่บ้านหลังนี้แล้ว
น้ำปั่นมองหน้าทั้งคู่สลับกันเรดาร์อยากใส่ใจเรื่องชาวบ้านของเธอทำงานทันที ความรู้สึกมันบอกว่าทั้งคู่เคยรู้จักกันมาก่อน
“ทัพมาพอดีเลย มานี่สิลูก”
น้ำหอมเอ่ยเรียกลูกชายคนโตพลางระบายยิ้มบางๆ นำทัพพยักหน้ารับก่อนจะเดินตรงเข้าไปยังโซฟาในขณะที่ไอโกะก็ยังคงมองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ละสายตา
“นี่ไอโกะลูกสาวป้าอิ่มจ๊ะ น้องจะมาอยู่กับเราประมาณปีนึงนะลูก”
“ครับ”
นำทัพตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแม้ภายในใจเขาจะรู้สึกตื่นเต้นจนเจ้าตัวก็ยังแปลกใจ
“ไอโกะนี่พี่ทัพจ๊ะ ลูกชายคนโตของป้าเอง”
เมื่อไม่มีเสียงตอบรับจากเด็กสาวทุกสายตาในห้องนั่งเล่นจึงหันไปมองเธอเป็นตาเดียว
“ไอโกะจ้ะ”
“...”
“ไอโกะ”
“ขา คะ ค่ะๆ ป้าหอมเรียกหนูใช่มั้ยคะ”
ไอโกะสะดุ้งตื่นจากภวังค์เมื่อมือเรียวของน้ำปั่นยื่นมาจับต้นแขนของเธอก่อนจะรีบตอบกลับไป
“มองเฮียตาค้างเลยวะ”
น้ำปั่นโน้มตัวไปทางพี่ชายของตัวเองก่อนจะเอ่ยแซวขำๆ ซึ่งสิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงสายตาดุดันของนำทัพเท่านั้น
“นี่พี่ทัพลูกชายป้าจ๊ะ”
“สวัสดีค่ะ”
ไอโกะรีบยกมือไหว้ตามมารยาทไทยที่ฝึกฝนมาพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานให้อีกฝ่าย ตั้งแต่ตัดสินใจบินมาเมืองไทยนี่เป็นครั้งแรกเลยที่เธอคิดว่าตัวเองคิดถูกมากๆ
นอกจากสวรรค์จะประทานเทพบุตรลงมาเจอกับเธอแล้ว ยังลิขิตให้เขาอยู่บ้านเดียวกันกับเธออีกด้วย
ท่าทางของคนตัวเล็กทำให้เขาเกือบจะหลุดยิ้มออกมา นำทัพจึงพยายามทำสีหน้าให้เรียบนิ่งเหมือนเดิมก่อนจะหาทางเลี่ยงออกจากสถานการณ์นี้ก่อนเพราะกลัวยัยแฝดปั่นประสาทที่นั่งจ้องหน้าเขาอยู่จะจับได้
“ผมไปเก็บชุดก่อนนะครับ”
“พี่! เอ่อ...ไม่ได้อยู่ที่นี่เหรอคะ”
ไอโกะพูดขึ้นเสียงดังในคำแรกก่อนจะลดเสียงลงเมื่อรู้สึกถึงสายตาของทุกคนที่มองมาพลางเอ่ยถามเรื่องที่ตัวเองกำลังสงสัย
“ปกติพี่เค้าอยู่คอนโดลูก วันหยุดถึงจะกลับมานอนที่บ้านแต่ไม่ได้นอนในบ้านหรอก ไปนอนที่รถบ้านนู้นน~”
น้ำหอมอธิบายให้ไอโกะฟังแต่ไม่วายแอบประชดประชันลูกชายที่ไม่ยอมกลับเข้ามานอนในบ้าน
นำทัพหันกลับมามองเพียงเล็กน้อยก่อนจะก้าวขาเดินขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของตัวเองทิ้งให้เด็กสาวนั่งมองตามตาละห้อย ซึ่งแน่นอนว่าพฤติกรรมของเธอหนีไม่พ้นสายตาของแฝดสาว
“ตายแล้ว! ป้าลืมไปเลยว่ายังไม่ได้เตรียมห้องนอนไว้ให้ไอโกะ”
น้ำหอมอุทานด้วยความตกใจเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่ได้เตรียมห้องไว้ให้ไอโกะ แม้ในบ้านจะมีห้องนอนอยู่หลายห้องแต่ก็ยังไม่ได้ทำความสะอาดใหม่เธอจึงไม่มั่นใจถ้าจะให้ไอโกะเข้าไปนอนคืนนี้
“ไอโกะนอนห้องเดียวกับหวานก็ได้ค่ะหม่าม้า” น้ำหวานเสนอขึ้น
“ไม่ๆ ไอโกะไปนอนกับเจ่เจ้ดีกว่า ไปๆๆๆ”
น้ำปั่นพูดพร้อมกับรีบลุกขึ้นยืนโดยไม่ลืมที่จะคว้าข้อมือไอโกะให้เดินตามไปด้วยโดยที่เธอไม่ทันได้เอ่ยอะไร
น้ำหอมขมวดคิ้วเล็กน้อยกับท่าทางของลูกสาว เธอรู้สึกว่าน้ำปั่นจะต้องมีแผนการอะไรบางอย่างแน่นอนและเมื่อหันกลับมาสบตากับน้ำหวานก็มั่นใจว่าลูกสาวคนเล็กคิดเหมือนกันกับเธอ
หลังจากที่ต่างคนต่างอาบน้ำและจัดการธุระส่วนตัวของตัวเองเสร็จน้ำปั่นก็รีบจับมือไอโกะมานั่งบนเตียงทันที
“ตอนนี้เธอเป็นน้องสาวของฉันแล้วนะ”
“ค่ะ ไอโกะเป็นน้องสาวของเจ่เจ้”
ไอโกะตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส เธอมองหน้าน้ำปั่นด้วยสายตาชื่นชมขนาดตอนนี้น้ำปั่นหน้าสดไม่มีเครื่องสำอางใดๆ แต่งแต้มอยู่เลยก็ยังสวย
“น้องสาวห้ามมีความลับกับเจ่เจ้เด็ดขาด”
“ความลับ? อ่อ ซีเคร็ท ไม่มีแน่นอนค่ะ”
ท่าทางของไอโกะทำให้น้ำปั่นรู้สึกเอ็นดู เธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ดูร่าเริงสดใสอยู่ตลอดเวลาแถมยังดูไม่มีพิษไม่มีภัยกับใครอีกด้วย
“เธอชอบเฮียใช่มั้ย”
น้ำปั่นเอ่ยถามพลางจ้องตาไอโกะอย่างคาดคั้น เธอเชื่อในสายตาและสัญชาตญาณของตัวเองว่าเธอมองไม่ผิดแน่ๆ
“เหี้ย? เหี้ยคือใครคะ”
“เฮีย ไม่ใช่เหี้ย!”
ไอโกะมองน้ำปั่นที่ทิ้งตัวลงนอนพลางกลอกตามองบนด้วยความงุนงง เธอไม่เข้าใจว่าตัวเองทำอะไรผิดน้ำปั่นถึงได้มีสีหน้าผิดหวังขนาดนั้น
“เอาใหม่” น้ำปั่นเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอีกครั้งก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “เจ่เจ้ถามว่าเธอชอบพี่ทัพใช่มั้ย”
“เอ๊ะ! เจ่เจ้รู้ได้ยังไงคะ”
ไอโกะตาโตอ้าปากค้าง เธอแสดงท่าทางชัดเจนขนาดนั้นเลยเหรอน้ำปั่นถึงรู้ว่าเธอชอบพี่ชายของเขา
“แกนี่เก่งจริงๆ เลยไอ้ปั่น” เอ่ยชมตัวเองด้วยสีหน้าภาคภูมิใจสุดๆ “เอาเป็นว่าฉันรู้แล้วกัน เดี๋ยวเจ่เจ้คนนี้จะช่วยน้องสาวเอง”
“จริงเหรอคะ รักเจ่เจ้ที่สุด!”
ร่างบางพุ่งตัวเข้าไปกอดคนเจ้าแผนการโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังตกเป็นเหยื่อของน้ำปั่น
เช้าวันต่อมา...
ครอบครัวสินธปกรณ์นั่งกันอยู่ที่โต๊ะอาหารอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาเนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุด ไอโกะที่ลงมาข้างล่างคนสุดท้ายรีบซอยเท้าเดินมายังห้องอาหารอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษที่ลงมาช้านะคะ”
ไอโกะรีบโค้งคำนับสามสี่ครั้งพลางเอ่ยขอโทษทันที ในประเทศญี่ปุ่นเรื่องเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญมากการปล่อยให้ผู้ใหญ่รอถือว่าความผิดร้ายแรงในบ้านของเธอ
“ไม่เป็นไรจ้ะๆ มานั่งข้างป้ามา”
น้ำหอมเอ่ยเรียกพร้อมกับมือเรียวตีลงเบาๆ ตรงเก้าอี้ที่ว่างข้างๆ เธอ ร่างบางจึงรีบเดินเข้าไปนั่งทันทีและที่นั่งของเธอก็อยู่ฝั่งตรงข้ามกับนำทัพ
“ไอโกะจะกินอะไรดีลูก”
คำถามของน้ำหอมทำให้ไอโกะกวาดสายตามองอาหารเช้าของทุกคนบนโต๊ะ แทนนั่งอยู่ในตำแหน่งหัวโต๊ะมีเพียงแค่กาแฟดำวางอยู่หนึ่งแก้ว น้ำหอม น้ำปั่นและน้ำหวานเลือกที่จะทานโจ๊ก
จานอาหารเช้าของนำทัพมีไข่ดาวสองฟอง ขนมปังปิ้งและแก้วกาแฟ นิ้วเรียวจึงชี้ไปยังจานของคนพี่ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้น้ำหอม
“เอาแบบนี้ค่ะ แต่ไอโกะไม่กินกาแฟนะคะ”
“ได้จ้ะ”
น้ำปั่นเห็นท่าทางของไอโกะจึงมองเธอด้วยสายตาล้อเลียน ส่วนนำทัพกำลังนั่งมองเด็กสาวตรงหน้าอย่างพิจารณา เขามีความรู้สึกว่าการวางสายตาไว้ที่เธอก็สบายตาดี
เด็กสาวเห็นว่าเขาเอาแต่จ้องหน้าเธอแถมสีหน้าของนำทัพยังเรียบนิ่งจนไอโกะเดาอารมณ์ไม่ถูกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ใบหน้าดุดันทำให้เธอรู้สึกเกร็งเด็กสาวจึงหันไปมองหน้าน้ำปั่นราวกับต้องการจะขอความช่วยเหลือก่อนจะนึกอะไรขึ้นได้
“ไอโกะเก็บที่ดัดขนหมoยให้แล้วนะคะ”
ฟู่!
“แค่กๆๆ”
นำทัพพ่นกาแฟออกมาก่อนจะสำลักด้วยความตกใจ มือที่มีร่องรอยเหี่ยวย่นของแทนถือแก้วกาแฟค้างกลางอากาศซึ่งเขาเชื่อว่าถ้าเขายกดื่มไปเรียบร้อยแล้วคงจะสำลักไม่ต่างกับลูกชาย ช้อนกินข้าวของน้ำหวานหล่นลงกระทบจาน น้ำหอมหันกลับมามองหลานสาวคอแทบเคล็ด
ส่วนคนสอนคำศัพท์อย่างน้ำปั่นหัวเราะจนท้องแข็ง มือเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นตบโต๊ะเสียงดังในขณะที่มืออีกข้างกุมหน้าท้องของตัวเองเอาไว้
“ไอโกะพูดอะไรผิดเหรอคะ”
