EP 2 | สินธปกรณ์
“ไอโกะ!”
น้ำหอมเอ่ยขึ้นเสียงดังเมื่อเห็นว่าเด็กสาวที่เธอกำลังเป็นห่วงยืนส่งยิ้มหวานอยู่หน้าประตูรั้ว แทนสั่งให้คนขับรถวิ่งไปเปิดประตูทันที
“เฮ้ออ~ ถึงแล้วใช่ไหม เราค่อยโล่งใจหน่อย”
ปลายสายถอนหายใจเสียงดังราวกับยกภูเขาออกจากอก อิ่มส่ายศีรษะด้วยความอ่อนใจลูกสาวของเธอคนนี้ดื้อเสียจนเธอสงสัยว่าไอโกะคือลูกสาวของเธอหรือลูกสาวของแพทที่อาศัยท้องของเธอมาเกิดกันแน่
“ไม่ต้องห่วงนะอิ่มเดี๋ยวฉันดูแลให้”
น้ำหอมตอบกลับปลายสายก่อนจะกดวาง เธอรีบเดินตรงเข้าไปหาเด็กสาวที่กำลังวิ่งเข้ามาในบ้านเช่นกัน
“ป้าหอมสวัสดีค่ะ”
ไอโกะหยุดยืนตรงหน้าน้ำหอมก่อนจะยกมือไหว้แล้วย่อตัวลงจนหัวเข่าแทบจะชนพื้น ถ้าเป็นผู้ใหญ่คนอื่นมาเห็นเข้าคงคิดว่าไอโกะต้องการประชดแต่เปล่าเลย เธอตั้งใจทำเพราะว่าอิ่มสอนเธอมาแบบนี้
“มายังไงลูก!ทำไมถึงไม่โทรบอกป้า ป้าจะได้ไปรับ”
น้ำหอมดึงไอโกะเข้ามากอดพลางโยกซ้ายโยกขวาด้วยความคิดถึง เธอเคยเจอไอโกะบ่อยๆ สมัยที่อิ่มพามาเมืองไทยแต่ช่วงหลังมานี้ไม่ได้เจอกันเลย
“ไอโกะเรียก...เรียกรถ ทางแอปพลิเคชันมาค่ะ”
ประโยคยาวๆ ของไอโกะมักจะตะกุกตะกักเพราะเธอต้องหยุดนึกถึงคลังคำศัพท์ที่มีอยู่ในสมอง แม้จะเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นแต่เธอกลับได้ใช้ภาษาไทยน้อยมาก
ซาโต้อยากให้คนในบ้านคุยกันด้วยภาษาญี่ปุ่นมากกว่าจะได้ไม่ต้องแปลกันไปมา ไอโกะฟังและพูดภาษาไทยในช่วงเด็กเพราะอิ่มสอนให้พูดกับคุณยายเมื่อโตมาเธอจึงไม่ค่อยได้พูด
“เข้าไปคุยกันในบ้านเถอะ”
ไอโกะหันไปมองตามเสียงเข้มที่เอ่ยขึ้น เมื่อเห็นแทนยืนอยู่เธอจึงเอ่ยสวัสดีพร้อมทั้งยกมือไหว้และย่อตัวลงองศาเท่าเดิมเป๊ะ
“สวัสดีค่ะคุณลุง”
เด็กสาวมองชายวัยกลางคนอย่างพิจารณา แทนยังคงดูดีมากแม้เขาจะอายุสี่สิบเจ็ดปีแล้วก็ตาม ไอโกะดูจากเค้าโครงหน้าเธอก็เดาได้เลยว่าสมัยหนุ่มๆ แทนต้องหล่อมากแน่ๆ
แทนพยักหน้ารับนิ่งๆ ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าบ้านไปทำให้ไอโกะหันไปมองน้ำหอมด้วยความกังวล
“คุณลุงเค้าหน้านิ่งๆ แบบนี้แหละลูก แต่เค้าไม่ดุหรอกนะคุณลุงใจดีมาก”
“ดุ?” ไอโกะแสดงสีหน้าสงสัยขึ้นมา เธอเคยได้ยินคำคำนี้จึงพยายามนึกถึงความหมายของมัน “อ่อ ดุเหมือนหมา ไอโกะไม่ได้คิดว่าคุณลุงเป็นหมาค่ะ”
“ฮ่าๆ ไม่ใช่ลูก ป้าไม่ได้หมายความแบบนั้น”
น้ำหอมหลุดหัวเราะออกมาทันที เธอคิดว่าโชคดีแค่ไหนที่แทนเดินเข้าบ้านไปเสียก่อน ไม่งั้นไอโกะคงจะได้เห็นว่าสีหน้าดุของจริงน่ะเป็นอย่างไร
“ไว้ป้าค่อยๆ สอนกันไปเนาะ”
น้ำหอมพาไอโกะเดินเข้าไปยังห้องรับประทานอาหารซึ่งตอนนี้แทนกำลังนั่งตรวจงานในโทรศัพท์รออยู่
เสียงรถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้านทำให้น้ำหอมระบายยิ้มออกมา ลูกๆ ของเธอคงจะมาถึงแล้ว
“หิวมากกก~”
น้ำปั่น แฝดสาวคนพี่ส่งเสียงเข้ามาก่อนที่ร่างเพรียวระหงจะปรากฏตัว เด็กสาวอายุสิบเก้าปีใบหน้าของเธอมีเสน่ห์เย้ายวนชวนมอง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนผู้เป็นแม่มีขี้แมลงวันเล็กๆ โดดเด่นอยู่ใต้ดวงตาคงเป็นจุดเดียวที่ทำให้สามารถแยกเธอกับน้องสาวได้ เส้นสีดำของอายไลน์เนอร์ถูกกรีดตวัดขึ้นตรงหางตาบวกกับริมฝีปากกระจับสีแดงสดทำให้เธอดูเป็นสาวเซ็กซี่ขยี้ใจสุดๆ
“とてもセクシーです” (เซ็กซี่มาก)
ไอโกะพึมพำด้วยภาษาบ้านเกิดในขณะที่ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นน้ำปั่นเดินเข้ามาในห้องอาหาร
“ปะป๊าสวัสดีค่ะ หม่าม้าสวัสดีค่ะ”
น้ำหวาน แฝดสาวคนน้องเอ่ยทักทายแทนและน้ำหอมด้วยเสียงหวานสมชื่อ ถ้าไม่นับใบหน้าที่เหมือนกันราวกับแกะของแฝดสาวพวกเธอก็แทบจะไม่มีอะไรเหมือนกันเลย น้ำหวานแต่งหน้าอ่อนๆ ปัดบรัชออนสีพีช ทาลิปสติกสีชมพูบาร์บี้ทำให้เธอดูอ่อนโยนน่าทะนุถนอม
“เอ๊ะ? หน้าเหมือนกันเลย”
นิ้วเรียวชี้ไปยังแฝดสาวทั้งสองคน ไอโกะมองน้ำปั่นและน้ำหวานสลับกันไปมาด้วยความสงสัย แม้ว่าเธอจะเคยเจอกันตอนเด็กๆ แต่ก็เป็นความทรงจำที่เลือนรางไปมากแล้ว
"ยัยสายไหมนี่ใครอ่ะม้า”
น้ำปั่นเอ่ยถามพร้อมเดินเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับไอโกะพลางหรี่ตามองคนตรงหน้าอย่างสำรวจ
“ไอโกะลูกสาวป้าอิ่มใช่มั้ยคะหม่าม้า”
เดือนที่แล้วน้ำหอมบอกกับเธอว่าลูกสาวป้าอิ่มจะย้ายมาอยู่ด้วย น้ำหวานจึงเดาว่าน่าจะเป็นเด็กสาวตรงหน้า
“รู้จักไอโกะด้วยเหรอคะ ดีใจจัง”
ไอโกะส่งยิ้มให้น้ำหวานพลางยกมือขึ้นมาตบเบาๆ ด้วยความดีใจ ดวงตาเป็นประกายวาววับขึ้นมาทันที
“ทำไมไปเรียกน้องแบบนั้นล่ะปั่น”
น้ำหอมเอ็ดลูกสาวคนโตที่ดันเรียกไอโกะว่ายัยสายไหม ก่อนจะแนะนำสาวๆ ให้รู้จักกัน
“ไอโกะจ้ะนี่พี่น้ำปั่นและพี่น้ำหวานจ๊ะ อ่ะ! ไม่ใช่พี่สิทั้งสามคนอายุเท่ากันนะ”
“สีผมไง” นิ้วเรียวชี้ไปยังศีรษะของไอโกะก่อนจะพูดต่อ “ไม่เหมือนสายไหมอยุธยาเหรอ”
ประโยคของน้ำปั่นทำให้น้ำหวานหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ เพราะเธอดันคิดว่ามันเหมือนสายไหมอยุธยาจริงๆ
“สายไหม? สายไหมคืออะไรเหรอคะ”
น้ำปั่นมองไอโกะด้วยแววตาที่ซ่อนความซุกซนเอาไว้ไม่มิด เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังเจอของเล่นชิ้นใหม่
“เธอฟังภาษาไทยเข้าใจป่ะ”
“นิดหน่อยค่ะ บางคำก็ไม่เข้าใจ”
“เยี่ยม! เดี๋ยวเจ่เจ้คนนี้จะสอนเธอเอง”
“เย้! น้ำป่าใจดีจัง”
“ปั่น! ไม่ใช่ ป่า”
น้ำปั่นย้ำชื่อของตัวเองเสียงดัง อยู่ดีๆ ชื่อเธอก็กลายเป็นภัยพิบัติไปเสียอย่างนั้น
น้ำป่าไหลหลากงี้!
แทน น้ำหอมและน้ำหวานต่างก็หันไปมองแฝดพี่แสนซนด้วยสายตาไม่ไว้วางใจ ไม่มีใครเชื่อว่าเธอจะมีน้ำใจสอนให้กับไอโกะ
“ทำไมมองหนูด้วยสายตาแบบนั้น” น้ำปั่นกวาดสายตามองทุกคน
“ให้หวานสอนให้ดีกว่ามั้ยคะ”
“นี่ทุกคนไม่ไว้ใจหนูเหรอ”
“ใช่!”
สามเสียงประสานกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ยกเว้นแต่ไอโกะที่ยังนั่งทำหน้างงไม่รู้ชะตากรรมของตัวเอง
“ชิ! ไหนเธอเรียกฉันว่าเจ่เจ้ซิ”
น้ำปั่นเลือกที่จะไม่สนใจสายตาของคนในครอบครัว เธอหันกลับมามองหน้าไอโกะอีกครั้ง
“เจ่เจ้” ไอโกะพูดตามอย่างว่าง่าย
“ดีมากน้องสาวของเจ้ ฮ่าๆ”
แม้เสียงหัวเราะจะฟังดูไม่เป็นมิตรเท่าไหร่นักแต่ด้วยความมองโลกในแง่ดีของเธอจึงทำให้ไอโกะไม่คิดระแวงน้ำปั่น
“กินข้าวกันเถอะ”
แทนเอ่ยตัดบท น้ำหอมจึงหันไปมองหน้าแม่บ้านเพื่อส่งสัญญาณให้เข้ามาจัดโต๊ะได้และบทสนทนาบนโต๊ะอาหารก็เปลี่ยนหัวข้อไปเป็นเรื่องอื่น
เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดแฝดสาวจึงกลับมานอนที่บ้านตามข้อตกลงที่สัญญากันเอาไว้ตอนขอย้ายออกไปอยู่คอนโดซึ่งใกล้กับมหาวิทยาลัยมากกว่า
น้ำปั่นและน้ำหวานเพิ่งได้ย้ายออกไปอยู่คอนโดเมื่อต้นเทอมขึ้นปีสอง ขอผู้เป็นพ่อว่ายากแล้วแต่ขอพี่ชายคนโตกลับยากกว่า ทั้งสองสาวต้องทำตามเงื่อนไขมากมายกว่าจะได้ออกไปใช้ชีวิตอย่างอิสระ
ภายในห้องนั่งเล่นเงียบลงทันทีเมื่อได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอดหน้าบ้าน สามสาวรู้ดีว่าใครคือเจ้าของรถยกเว้นแต่ไอโกะที่กำลังชะเง้อชะแง้ออกไปดูด้วยความสงสัยใคร่รู้
นำทัพก้าวขาลงจากรถก่อนจะเดินตรงเข้ามาในบ้าน คิ้วหนาขยับชนกันเมื่อสายตาคมปะทะเข้ากับแขกคนใหม่ที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาในขณะที่ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นเทพบุตรเมื่อตอนกลางวันของเธอ
“あなたはハンサムです!” (คะ...คุณคนหล่อ)
