EP 1 | เทพบุตร
@ห้างสรรพสินค้า
ร่างอรชรเจ้าของส่วนสูงหนึ่งร้อยห้าสิบเจ็ดเซนติเมตรกำลังก้มๆ เงยๆ หากระเป๋าสตางค์ซึ่งไม่รู้ว่าเผลอไปทำหล่นไว้ที่ไหน สีหน้าแสดงความกังวลอย่างชัดเจนเท้าเพิ่งจะเหยียบแผ่นดินไทยได้ไม่ถึงหนึ่งวันเธอก็สร้างเรื่องเสียแล้ว
“カバンはどこへ行ったの?” (กระเป๋าหายไปไหนเนี้ย?)
เธอพึมพำกับตัวเองด้วยภาษาบ้านเกิด ดวงตากลมโตชวนมองตอนนี้เริ่มมีน้ำสีใสเอ่อล้นขึ้นมา
ไอโกะ ยามาโมโตะเด็กสาวลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นอายุสิบเก้าปี ใบหน้าหวานดวงตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อยรับกับแก้มป่องๆ ชวนให้คนพบเห็นตกหลุมรักได้ง่ายๆ ผิวกายขาวละเอียดราวกับหิมะบวกกับผมยาวสลวยดัดลอนคลายสีน้ำเงินไฮไลต์ปลายชมพูยิ่งทำให้เธอดูเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้
ร่างบางย่อตัวลงนั่งก่อนจะก้มลงหาใต้เก้าอี้สำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซึ่งเป็นจุดแรกที่เธอนั่งเมื่อมาถึง
“เอ๊ะ!”
คนตัวเล็กอุทานเมื่อมีนิ้วแกร่งสะกิดตรงไหล่และเมื่อหันกลับมาก็เจอร่างสูงของใครบางคนกำลังยื่นกระเป๋าสตางค์มาให้เธอ
“หานี่?”
ดวงตาคู่สวยเบิกกว้างขึ้นทันทีเมื่อเห็นกระเป๋าสตางค์ของตัวเอง ริมฝีปากกระจับระบายยิ้มหวานด้วยความดีใจสุดขีด
“ありがとう” (ขอบคุณค่ะ) ไอโกะเอ่ยขอบคุณเป็นภาษาญี่ปุ่นก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าเธอกำลังอยู่ในประเทศไทยจึงเอ่ยขอบคุณเป็นภาษาไทยอีกครั้ง “โอ๊ะ! ขอบคุณนะคะ”
มือเรียวรีบรับกระเป๋าสตางค์มาถือไว้ก่อนจะเงยมองบุคคลที่ย่อตัวลงนั่งข้างหน้าเธอ ฉับพลันดวงของเธอก็เป็นประกายแวววับมากขึ้นกว่าเดิม
“ลูกครึ่งเหรอ”
ไอโกะไม่ได้สนใจฟังคำถามเพราะความหล่อออร่าของเขามันพุ่งเข้ามากระแทกสายตาของเธอเต็มๆ
หล่อหยุดเวลา!
หล่อตาค้าง!
หล่อจนหูดับ!
นำทัพ สินธปกรณ์เจ้าของใบหน้าหล่อได้รูป คิ้วของเขาพาดเฉียงในองศาที่พอเหมาะ จมูกโด่งเป็นสันรับกับดวงตาสีน้ำตาลเข้มดูคมคายแต่ถ้าให้เลือกส่วนที่เด่นที่สุดบนใบหน้าไอโกะคงเลือกริมฝีปากหนาได้รูปที่ทั้งสวยและน่าจูบ
ใช่! แม้สีหน้าของเขาจะถูกฉาบไว้ด้วยความดุดันแต่ถ้ามีการประกวดผู้ชายที่มีริมฝีปากน่าจูบมากที่สุดเขาคงจะได้รับรางวัลระดับโลก
ไม่ใช่เพียงแค่ไอโกะที่นิ่งค้างไปนำทัพเองก็ตกอยู่ในภวังค์ไม่ต่างกันทั้งใบหน้าสวยหวานและรอยยิ้มกว้างอย่างดีใจตอนได้กระเป๋าสตางค์คืนทำให้เขารู้สึกเหมือนเห็นดอกไม้นานาพันธุ์ผลิบานอยู่รอบตัวเธอ
“ระวังหน่อย ถ้าหายจริงๆ จะลำบาก”
นำทัพเป็นคนที่ตั้งสติได้ก่อนจึงพูดขึ้นอีกครั้งน้ำเสียงของเขาติดไปทางดุเล็กน้อย ก่อนที่คิ้วหนาจะขมวดเข้าหากันเมื่อคนตรงหน้าเอาแต่มองเขานิ่งจนเขาคิดว่าเธออาจจะไม่เข้าใจภาษาไทยจึงเลือกที่จะพูดด้วยภาษาอังกฤษแทนแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบกลับ
“เธอ...โอเคหรือเปล่า”
ฝ่ามือใหญ่ยื่นไปวางบนศีรษะของคนตรงหน้าอย่างแผ่วเบา แววตาของนำทัพเป็นประกายวิบวับเหมือนเด็กน้อยที่เจอขนมชิ้นโปรดโดยไม่รู้ตัว
“อ่ะ! โอเค โอเคค่ะ โอเคมากๆ”
ไอโกะสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ย่นคอหนี ใบหน้าสวยเห่อร้อนอัตโนมัติพร้อมกับสารพัดประโยคที่ผุดขึ้นมาในสมอง
ใครสั่งใครสอนให้ลูบหัวผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกแบบนี้!
ไอโกะจะไปแจ้งความ!
คุณตำรวจคะ เขาขโมยหัวใจของหนู~
นำทัพลุกขึ้นยืนเต็มความสูงทำให้ไอโกะรีบลุกขึ้นยืนตามแต่ความสูงของเธอทำให้เขาเริ่มไม่แน่ใจว่าเธอลุกขึ้นยืนแล้วจริงๆ หรือเปล่า
ดวงตากลมไล่มองร่างสูงตรงหน้าตั้งแต่รองเท้าผ้าใบแบรนด์ดังขึ้นมายังกางเกงยีนขาเดฟแต่งขาดตามสไตล์วัยรุ่นไทย ผ่านเสื้อยืดคอกลมสีขาวจนปะทะกับใบหน้าหล่อของเขาอีกครั้ง
นำทัพสูงจนเธอต้องแหงนหน้าขึ้นมอง
“ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
ไอโกะโค้งคำนับพลางเอ่ยขอบคุณด้วยภาษาไทยที่ฟังดูกระท่อนกระแท่นพอสมควรแต่ก็พอจะทำความเข้าใจได้
Rrrr Rrrr~
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อดังรุ่นใหม่ล่าสุดในกระเป๋ากางเกงยีนก็ส่งเสียงร้องขึ้นมาเสียก่อน
นำทัพหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก็ทำให้เขาถอนหายใจอัตโนมัติ
“อย่าทำหายอีกล่ะ” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นก่อนจะหมุนตัวกลับไปทางเดิม
ไอโกะกัดริมฝีปากแน่นรู้สึกเสียดายที่ต้องแยกย้ายกันไปโดยที่เธอไม่ทันจะได้รู้จักชื่อหรืออะไรที่เกี่ยวกับตัวของเขาเลย
“今度、いつ会えますか?” (เมื่อไหร่เราจะได้เจอกันอีกค่ะ) เสียงใสตะโกนไล่หลัง “とても好きだよ、あなたはハンサムです” (ฉันชอบคุณมากๆ เลยนะคุณสุดหล่อ)
ขาแกร่งหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเด็กสาวตะโกนตามหลังมาด้วยภาษาญี่ปุ่น นำทัพยกยิ้มมุมปากเล็กน้อยก่อนจะเดินต่อในเมื่อเธอคิดว่าเขาฟังไม่เข้าใจก็ให้คิดแบบนั้นไปแล้วกัน
คนตัวเล็กมองตามร่างสูงเดินออกไปจนสุดสายตาก่อนจะส่งเสียงกรีดร้องเบาๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเทพบุตรเมืองไทยจะหล่อขนาดนี้
ไอโกะก้มลงเปิดกระเป๋าสตางค์ของตัวเองเพื่อเช็กความเรียบร้อย โชคดีมากที่บัตรทุกอย่างยังอยู่ครบเหมือนเดิม แม้กระทั่งเงินสดที่เธอเพิ่งแลกเป็นเงินไทยก็ยังอยู่ครบทุกใบ
มือเรียวหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมากดเข้าแอปพลิเคชันเรียกรถโดยสารที่เพิ่งโหลดลงในเครื่องหมาดๆ ปักหมุดไปยังจุดหมายปลายทางที่แม่ของเธอย้ำนักย้ำหนา
@บ้านสินธปกรณ์
น้ำหอมเดินออกมาจากห้องครัวหลังเตรียมอาหารมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย ใบหน้าสวยเก๋ยังคงดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอแม้ปัจจุบันเธอจะอายุสี่สิบห้าปีแล้วก็ตาม
Rrrr Rrrr~
หย่อนตัวลงนั่งปุ๊บเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นปั๊บ น้ำหอมรีบหยิบขึ้นมาพร้อมกับพึมพำชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอก่อนจะกดรับอย่างไม่ลังเล
“ว่าไงจ๊ะเพื่อนอิ่ม”
อิ่มเป็นเพื่อนสนิทที่น้ำหอมเป็นห่วงมากที่สุดเพราะกลัวว่าเพื่อนจะมุ่งสายธรรมะโดยไม่สนใจการมีครอบครัวแต่ใครจะไปคิดว่าธรรมะจะรังสรรค์สามีมาให้เธอถึงที่ เมื่ออิ่มได้พบรักกับซาโต้นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นซึ่งมาร่วมทริปทำบุญด้วยกันโดยบังเอิญ
“ไอโกะไปถึงหรือยังหอม”
“ห๊ะ! ไอโกะจะมาวันนี้เหรอ”
น้ำหอมอุทานเสียงดังด้วยความตกใจจนแทนที่เพิ่งกลับมาจากบริษัทถึงกับรีบเดินเข้ามาดูภรรยาสุดที่รัก
“ทำไมอิ่มไม่โทรบอกก่อน ฉันจะได้ไปรับที่สนามบิน”
“ไอโกะบอกเราว่าแพทจะไปรับเพราะอยากกินข้าวด้วยกันก่อน แต่พอเราโทรหาแพทกลับไม่รู้เรื่องเลย”
อิ่มอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนอกอ่อนใจ ไอโกะลูกสาวของเธอสนิทกับแพทพอสมควรเพราะว่าแพททำงานอยู่ฝ่ายการตลาดของคุณซาโต้จึงทำให้มีโอกาสบินไปหาเธอที่ญี่ปุ่นอยู่บ่อยๆ
ปีนี้ซาโต้ต้องการบุกตลาดฝั่งยุโรปจึงทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจบินไปทำงานอยู่ที่นั่นและน่าจะใช้เวลาราวๆ หนึ่งปีแต่ไอโกะไม่อยากย้ายไปอยู่ที่นั่นด้วย น้ำหอมจึงเสนอให้ย้ายมาอยู่กับเธอชั่วคราว
แน่นอนว่าไอโกะตอบตกลงอย่างรวดเร็ว เธอชอบประเทศไทยมากกว่า อาหารไทยฝีมือคุณยายอร่อยมากๆ สมัยเด็กเธอได้บินมาเยี่ยมคุณยายทุกปีแต่เมื่อคุณยายเสียอิ่มก็ไม่ได้พาไอโกะบินกลับมาไทยอีกเลย
“มีอะไรหรือเปล่า”
เมื่อเห็นน้ำหอมมีสีหน้าไม่ค่อยดีนักแทนจึงเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง เขายื่นมือไปโอบเอวภรรยาสุดที่รักพลางลูบเบาๆ
“อิ่มโทรมาบอกว่าไอโกะจะมาวันนี้ค่ะ” เงยหน้าขึ้นไปตอบผู้เป็นสามีก่อนจะหันกลับมาสนใจคนในสายสนทนาอีกครั้ง “อิ่มมีไฟลท์บินของไอโกะหรือเปล่าเดี๋ยวฉันให้คนไปเช็กที่สนามบิน”
“ต้องลงเครื่องที่ไทยตั้งแต่บ่ายสองสี่สิบอ่ะ”
เสียงกระดิ่งที่ดังขึ้นหน้าบ้านทำให้น้ำหอมชะงักไป สองสามีภรรยารีบเดินออกมาชะเง้อมองทันที
“ไอโกะ!”
