แผนใหม่ 1/3
บทที่ 4 แผนใหม่
ขนมหยักฮวารูปดอกไม้สีน้ำตาลเพิ่งขึ้นจากกระทะร้อนๆ ถูกพามาวางให้สะเด็ดน้ำมันบนตะแกรงอะลูมิเนียมส่งกลิ่นหอม ตัวแป้งนวดกับไข่ตีผสมน้ำตาลทรายแดง ทอดเสร็จแล้วก็ทิ้งไว้ครู่หนึ่ง แล้วราดด้วยน้ำผึ้งที่ต้มกับขิงและอบเชย
ความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งของพรชนิตย์คือได้เดินทางรอบโลกเพื่อได้ชิมขนมหวานให้หลากหลายที่สุด เพราะอยากสะสมประสบการณ์ และก้าวแรกของเธออยู่ที่เกาหลี ได้มาเห็นต้นตำรับทำให้ดูกับตา หญิงสาวยิ่งประทับใจ
คุณนายพัคให้เธอช่วยเรียงขนมลงกล่องแล้วเก็บใส่ตู้เย็น ทิ้งไว้สักวันสองวันค่อยมากิน จะได้รสชาติดี พรชนิตย์ก็ยิ้มแฉ่งเป็นการขอบคุณ
“ไปนั่งพักกันดีกว่านุ่น อีกเดี๋ยวค่อยมาทำข้าวเย็น”
“ได้ยินว่าเย็นนี้พี่นิ่มจะทำแกงส้มปลานิลนะคะ มันออกเผ็ดน่ะ คุณป้าอยากได้อะไรเพิ่มไหม”
“ไฮ้! เผ็ดไม่กลัว กลัวไม่อิ่ม” คุณนายพัคตอบอย่างขบขันด้วยภาษาไทยที่พยายามเต็มที่ทั้งที่เธอก็พูดเกาหลีได้ “งั้นเราไปช่วยนิ่มเก็บผักกันดีกว่า”
เจ้าของบ้านบอกเธออย่างใจดี มองเธอด้วยแววตาของญาติผู้ใหญ่ พรชนิตย์รู้ตัวว่าคุณนายพัคเอ็นดูเธออยู่มาก รู้จักกันมาตั้งแต่พี่สาวเธอคบหากับพัคซอจุนผู้เป็นลูกชาย ท่านมีน้ำใจให้เธอเสมอ อีกอย่างคือท่านชอบงานรื่นเริง ชอบคนเยอะๆ เมื่อมีเธอมาอยู่ด้วยก็ออกจะดีใจ
วันที่เธอมาเยือนสนามบินอินชอน คุณนายพัคเก็บดอกไม้รอบๆ บ้านร้อยเป็นพวงมาลัยไปคล้องคอให้เป็นการต้อนรับ ท่านบอกว่าทำตามทัวร์ไทย พรชนิตย์ประทับใจไม่รู้ลืม
เธอมาถึงบ้านหลังนี้กลางเดือนมิถุนายน ช่วยพี่สาวเลี้ยงลูกอยู่สองสัปดาห์ก่อนจะเข้าโซลเพื่อไปจับคุกกี้เสี่ยงทายที่ร้านเชฟยู ถือว่ามีเวลาให้ปรับตัวอีกหลายเดือนก่อนถึงจะเข้าฤดูหนาว ตอนนี้อากาศค่อนข้างร้อนจึงปลูกพืชพรรณได้หลายอย่าง
สะใภ้คนไทยในเกาหลีที่ชื่อพรอนงค์นับว่าโชคดี มีสวนผักเป็นของตัวเองเพราะบ้านสกุลพัคมีเนื้อที่ถึงสามไร่เศษ สร้างบรรยากาศบ้านโบราณในชนบทอย่างที่คุณนายพัคชอบไว้หลังรั้วสูงของเมืองใหญ่ พูดกันง่ายๆ ก็คือพี่สาวเธอโชคดีได้สามีรวย
คุณนายพัคเองก็ชอบสวนของสะใภ้มาก เพราะท่านเคยทำเกษตรเป็นล่ำเป็นสัน คนแก่พูดอยู่บ่อยๆ ว่าการที่ลูกชายแต่งงานกับพรอนงค์นั้นเหมือนได้สะใภ้เข้ามาเติมเต็มชีวิตของท่าน เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่พี่สาวเธอไม่มีปัญหาแม่ผัวกับลูกสะใภ้ แล้วความรักก็เผื่อแผ่มาถึงเธอด้วย
เมื่อเห็นพี่สาวก้มๆ เงยๆ อยู่ในสวนผักของตัวเอง โดยมีลูกสาววัยขวบเศษอยู่ในเป้ด้านหลัง คนเป็นน้องก็เข้าไปช่วย
“พี่นิ่มทำอะไรอยู่ นุ่นกับคุณป้ามาช่วยเก็บผัก”
“ได้หัวไชเท้าแล้วแหละ”
พี่สาวยกหัวไชเท้าที่ใหญ่พอๆ กับปลีน่องของเธอขึ้นมาอวด มันใหญ่โตกว่าหัวไชเท้าที่เมืองไทยมากจริงๆ
“พี่ว่าจะเข้าไปเก็บถั่วฝักยาว แล้วก็จะเอาใบเตยไปต้มน้ำชาให้พี่ซอจุนด้วย”
“ถามจริงๆ เถอะ พี่เอาผักไทยมาปลูกในเกาหลีมากขนาดนี้ได้ยังไง”
“สั่งจากอินเทอร์เน็ตสิ แต่ไม่มีอันไหนเป็นพิษหรอกน่า ที่ปลูกๆ อยู่นี่ก็กินเองทั้งนั้น” พรอนงค์ตอบอย่างขอไปที “เอ้านี่! ช่วยเอาจันดีไปอุ้มหน่อย พี่จะไปเก็บผักต่อ”
ว่าแล้วพี่สาวก็หันหลังให้ พรชนิตย์ถึงได้ยกตัวหลานสาวออกมาจากเป้แล้วอุ้มโดยให้นั่งบนแขนของตัวเอง หนูน้อยจันดีผู้มีชื่อที่สามารถเขียนได้ทั้งภาษาไทยและเกาหลียิ้มแฉ่งให้น้าเลยทีเดียว
“สาวๆ ทำอะไรกันอยู่”
พัคซอจุนกลับมาแล้ว แค่ได้ยินเสียงพรชนิตย์ก็เห็นพี่สาวเธอยิ้มหวาน รีบวางมือจากทุกอย่างแล้วเดินเข้าไปหาสามี คนที่สวมชุดสูทเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน ดูไม่เข้ากับสาวๆ ที่อยู่ในสวนผักกันเลย
“เก็บผักไปทำอาหารเย็นเหรอ” ซอจุนถามพร้อมกับเข้ามาประคองมารดา แต่สายตายังอยู่ที่ภรรยา “ผมซื้อซุนแดมาให้ต้มซุปนะ มีคันจังเคจังมาด้วยนะ”
“คันจังเคจังนี่คือปูดองซีอิ๋วใช่ไหมคะ!” พรชนิตย์ถามตาโต “ดีจัง นุ่นยังไม่เคยกินเลย”
“ดีไหมล่ะ พี่สั่งมาให้นุ่นโดยเฉพาะเลยนะ” พี่สาวหันมาตอบอย่างเอาใจ “แต่อาหารเยอะแบบนี้แล้วจะแกงส้มปลานิลอยู่ไหมล่ะเนี่ย”
“ทำเถอะ แม่ชอบแกงส้มของนิ่ม” คุณนายพัคทักท้วงอย่างอารมณ์ดี “ถ้ามันเหลือเยอะก็แบ่งคนงานกิน ให้เขาห่อกลับบ้านด้วย หลายๆ คนช่วยกันกิน สนุกดีออก”
“แล้ว… ถ้านิ่มอยากขออนุญาตพี่ซอจุนกับคุณแม่ว่าจะพาน้องอีกคนมากินข้าวที่บ้านเราบ่อยๆ ได้ไหมคะ”
“นิ่มมีน้องอีกคนเหรอ!” สามีของพรอนงค์ถึงกับคิ้วขมวด “พี่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ก็เคยเจอแต่นุ่นกับพี่ณัฐ”
