ตอนที่ 3 ปั่นป่วน_3
ไม่นานแฟรงก์ก็โผล่มา เขาดูหงุดหงิดมากและก็โมโหเอามากๆ จนฉันอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามหลังจากที่เขามารับฉันที่ศูนย์อาหารและเดินตามเขากลับมาที่รถซึ่งจอดอยู่ไม่ห่างมากนัก
“มีอะไรหรือเปล่าแฟรงก์”
หมอนั่นหันกลับมาจ้องหน้าฉันวูบหนึ่งก่อนจะหันกลับไปเปิดประตูเข้าไปนั่งในรถ ฉันจึงรีบทำตาม
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ” หมอนั่นตอบกลับมาอย่างไร้เยื่อใยสิ้นดี ชิ คนอุตส่าห์เป็นห่วงนะเออ ทำเป็นเย็นชาไปเถอะ
“แล้วนี่เราจะไปไหนกัน” ฉันมองหน้าแฟรงก์อย่างสงสัยเมื่อเขาสตาร์ทรถและขับออกจากมหาวิทยาลัยโดยไม่บอกกล่าวอะไรสักคำ
“ฟิตเนส”
“เฮ้ยแต่นี่มันเพิ่งจะบ่ายโมงเองนะ”
“ฉันจะไปลูปาร์คอยากว่ายน้ำ” แฟรงก์บอกเสียงเรียบแล้วก็นิ่งไปตลอดทางจนถึง ลูปาร์ค ห้างสรรพสินค้าชั้นนำที่มีชื่อเสียงมากๆ แห่งหนึ่งของประเทศ แต่มันก็อยู่ไม่ใกล้กับมหาวิทยาลัยของเราเท่าไหร่เพราะงั้นนานๆ ทีฉันถึงจะมาที่นี่สักครั้ง
ใบหน้าที่เคร่งเครียดของแฟรงก์ฉันเดาว่าเขาคงจะเจอเรื่องน่าปวดหัวและก็เครียดเอาการมา ถึงอยากไปว่ายน้ำเพื่อดับความร้อนรุ่มที่ลุกโชนอยู่ในใจ
“เธอจะไปเดินเล่นก่อนก็ได้นะ ฉันจะไปสระว่ายน้ำ” หมอนั่นบอกหลังจากเดินเข้ามาในห้างสรรพสินค้าเรียบร้อยแล้ว ฉันเดินไวๆ เพื่อจะตามหลังแฟรงก์ให้ทัน ให้ตายสิ จะรีบไปไหนของเขานะ อีกอย่างเรื่องไรฉันจะปล่อยให้นายอยู่ห่างล่ะ หน้าที่ฉันก็คืออ่อยนายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อให้นายอยู่ห่างจากยัยหวายอะไรนั่น แง่ง~! นึกถึงเรื่องนี้ทีไรหัวใจก็สั่นรัวทุกที
ไม่รู้ว่าฉันกำลังกลัวหรือหวั่นไหวกับหน้าเข้มๆ ของหมอนี่กันแน่
“ไม่ดีกว่า”
“ไอ้โรคจิตไม่อยู่แถวนี้หรอกน่า” เมื่อเห็นว่าฉันทำท่าจะเกาะติดเขาแจแฟรงก์ก็รีบพูดกันท่าฉันทันที
“ไม่ใช่ แต่ฉันไม่อยากอยู่ห่างนายนี่”
“อะไรนะ?” คำพูดของฉันทำให้หมอนั่นหยุดกึกแล้วหันกลับมาจ้องหน้าฉันอย่างไม่เข้าใจ เอ่อ... แฟรงก์จ้องฉันตาไม่กระพริบราวกับเพิ่งได้ยินความลับระดับชาติก็ไม่ปาน
บ้าจริง เมื่อกี้ฉันพูดบ้าอะไรออกไปเนี่ย หน้าฉันร้อนวูบวาบขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุขณะพยายามหาเหตุผลมาอธิบายให้เขาเข้าใจ
“ก็... ก็นายอุตส่าห์รีบมาหาฉันแล้วจะให้ฉันทิ้งนายไปได้ยังไงล่ะ” ฉันละล่ำละลักบอกเสียงสั่น
“ฉันไม่คิดมาก”
แหงะ ใจคอนายคอยแต่จะไล่ฉันออกห่างเลยใช่ไหม
“แต่ฉันคิดนี่”
เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองหน้าด้านก็วันนี้นี่แหละ
แฟรงก์มองฉันตาขวาง
“คิดเหรอ? คิดอะไร”
หมอนั่นหรี่ตามองฉันอย่างจับผิด โธ่เอ๊ย แล้วทำไมฉันต้องรู้สึกประหม่าด้วยล่ะเนี่ย
“ปะเปล่า...” ฉันก้มหน้าหลบสายตาคมกริบที่แทบจะฉีกเฉือนเนื้อหนังฉันออกเป็นชิ้นๆ ถ้าฉันบังอาจคิดเกินเลยกับเขา ไอ้หมอนี่มันน่าหลอกให้รักแล้วหักอกให้แตกดังเปราะจริงๆ เกิดมาไม่เคยเจอผู้ชายที่ไหนหยิ่งขนาดนี้ มีอย่างที่ไหนกันท่าผู้หญิงออกจากตัวเอง
“อ้าวแฟรงก์” ระหว่างที่ฉันกำลังนึกสาปแช่งผู้ชายถือตัวคนนี้ในใจ เสียงสดใสดีใจของใครบางคนก็ดังขึ้นพร้อมๆ กับการปรากฏตัวของผู้หญิงรูปร่างเล็กผอม หน้ามน ตากลม ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มน่ารัก ไม่ใช่คนสวยมาก ไม่ได้หุ่นนางแบบ ทว่ากลับเต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ชวนให้คนที่มองแล้วต้องมองอีกหลายๆ ครั้งอย่างไม่รู้สึกเบื่อหน่าย
ผู้หญิงน่ารักคนนี้เป็นใครกัน กิ๊กหมอนี่เหรอ? ฉันเหล่มองหน้าเครียดๆ ของแฟรงก์ที่บัดนี้คลี่ยิ้มออกมาราวกับไม่เคยมีเรื่องหงุดหงิดใจมาก่อน
“มิลล์ มาทำอะไร”
อ่อ... ยัยนั่นชื่อมิลล์
“มาดูหนังกับเพื่อนน่ะ แล้วแฟรงก์ล่ะ”
“มาว่ายน้ำน่ะ ไปด้วยกันไหม”
โธ่แฟรงก์ ชวนคนอื่นต่อหน้าต่อตาฉันเลยเหรอ นายมองข้ามฉันไปแล้วเหรอไง แง่ง!
“อืม... ไม่ดีกว่า เดี๋ยวเพื่อนว่าเอา นี่วันหลังก็โทรหามิลล์บ้างสิ ว่างๆ จะได้ไปเที่ยวกันไง”
“ก็อยากโทรหานะแต่ไม่ค่อยว่างนี่สิ” แฟรงก์ตอบกลับไปอย่างขี้เล่น ฉันสงสัยจังว่าหมอนี่นิสัยใจคอเป็นยังไงเวลาอยู่กันคนอื่น ท่าทางเขาเฟรนลี่มากๆ มากจนฉันรู้สึกอิจฉายัยมิลล์อะไรนั่น
“แฟรงก์ก็อย่างนี้ทุกทีแหละ ชอบลืมมิลล์ชิๆ”
“เอ้า! อย่าเพิ่งงอนสิ”
“ไม่รู้ล่ะ งอนแล้ว... เออนี่แล้วผู้หญิงใหม่ของแฟรงก์ล่ะเป็นไงบ้าง”
ผู้หญิงใหม่? ประโยคนี้ทำฉันหูตาผึ่งขึ้นมาทันควันหลังจากห่อเหี่ยวไปได้สักพักเพราะบทสนทนาที่สนิทสนมกันของทั้งคู่
หมอนั่นชำเลืองสายตามามองฉันหน่อยๆ ก่อนจะหันกลับไปสบสายตายัยมิลล์ เอะ! ทำไมต้องมองฉันด้วยเนี่ย
“ก็เรื่อยๆ น่ะ ไม่มีอะไรพิเศษเท่าไหร่”
นายหมายถึงหวายใช่ไหม?
“เหรอ เมื่อไหร่จะได้เปิดตัวเนี่ย”
“ไม่รู้จะมีวันนั้นหรือเปล่านะ มิลล์จะไปไหนต่อเนี่ย”
“อ้อ ไปห้องน้ำน่ะ งั้นขอตัวก่อนนะอย่าลืมโทรมาด้วยล่ะ”
“คร้าบ”
“บาย”
แล้วยัยมิลล์อะไรนั่นก็จากไปพร้อมกับรอยยิ้มและทิ้งความสงสัยเอาไว้ให้ฉันกองโต ฉันตวัดสายตาสงสัยมองหน้าหมอนั่น
แฟรงก์ที่สบตากับฉันพอดีจึงเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจหรือแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจก็ไม่รู้ เขายักไหล่อย่างไม่คิดอธิบายอะไรทั้งนั้นก่อนจะเดินนำฉันไปที่สระว่ายน้ำเงียบๆ
หน็อย เห็นฉันไม่สำคัญเลยไม่อยากจะแบ่งปันเรื่องส่วนตัวด้วยอย่างนั้นเหรอ ชิ
