บทที่ 5
“ชื่อเล่น อ้อ…ฉันมีชื่อเล่นว่าอิ้ง”
“อิ้ง” เอเดนเอ่ยชื่อเล่นของณมนออกมาในทันที แม้จะออกเสียงยากสักหน่อยแต่ก็ไม่ได้ยากเกินจะพูด
“ทำไมคุณถึงรู้ว่าคนไทยมีชื่อเล่น” ณมนเอ่ยถามอย่างสงสัย
“คุณยายผมท่านเป็นคนไทยเพราะแบบนั้นผมจึงพูดภาษาไทยได้นิดหน่อย” ประโยคแรกเป็นภาษาอังฤกษก็จริงแต่ประโยคต่อมาของเอเดนคือภาษาไทย ที่สำเนียงแม้จะแปร่งหูไปบ้างแต่เขาก็พูดชัดกว่าที่ณมนคิด แบบนี้คงไม่เรียกว่าพูดได้นิดหน่อยแล้วกระมัง
“แต่ฉันว่าสำเนียงพูดภาษาไทยของคุณดีมากเลยนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
“แล้วคุณมีชื่อเล่นที่คุณยายตั้งให้ไหม”
“อืม…ท่านชอบเรียกผมว่าขุน แต่ส่วนใหญ่จะเรียกชื่อมากกว่า”
“อ้อค่ะ ยังไงก็ขอบคุณที่ช่วยฉันไว้” ณมนเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มที่ตราตรึงในความรู้สึกของเอเดนเหมือนในครั้งแรกที่ได้เห็น
ยายของเขายิ้มสวยและเพราะแบบนั้นเขาจึงมักจะแพ้ให้กับผู้หญิงที่มีรอยยิ้มแบบนี้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับเขาเสียทุกคนไป เธอคนนั้นจึงต้องพิเศษมากต่างหาก
“ด้วยความยินดีครับ”
“เมื่อครู่นี้คุณต่อยมวยไทยได้เยี่ยม” ณมนยกนิ้วโป้งให้เอเดนซึ่งชายหนุ่มก็ดูจะเขินเล็กน้อยที่ถูกชมซึ่งหน้าแบบนี้เพราะโดยปกติเขาไม่ค่อยได้งัดวิชามวยไทยที่ได้เข้าคอร์สเรียนเมื่อนานมาแล้วออกมาใช้เท่าไหร่
“จริงเหรอครับ”
“ค่ะ”
“ผมชอบมวยไทย เมืองไทยแล้วก็คนไทยว่าแต่คุณมาเรียนหรือมาเที่ยวที่นี่ครับ” เอเดนเอ่ยทุกคำอย่างชัดเจนแต่ณมนกลับไม่ได้เอะใจ
อันที่จริงนอกจากมียายที่เป็นคนไทยแล้วเขายังเคยมีแฟนเป็นคนไทย แต่เธอกับเขาได้เลิกรากันไปนานแล้วและตอนนี้ดูเหมือนเธอจะแต่งงานมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ
“เที่ยวค่ะ”
“ผมขอให้คุณสนุกกับการพักผ่อนที่นี่”
“ขอบคุณ แล้วคุณล่ะคะทำอะไรที่นี่”
“ลองเดาไหมครับ” เอเดนเอ่ยถาม ณมนส่ายหน้าเล็กน้อยเพราะดูจากลุคเขาแล้วเหมือนคนทำงานไม่มีผิด แต่การได้คุยกับเขาก็ช่วยทำให้สมองของเธอไม่หวนกลับไปคิดถึงแต่เรื่องมาวิน
“ทำงาน”
“ถูกต้อง ผมทำงานอยู่ที่นี่ แต่ช่วงปลายปีจะบินไปเที่ยวเมืองไทย”
“นี่นามบัตรฉัน ถ้าคุณไปเมืองไทยแล้วอยากได้คนท้องถิ่นนำเที่ยว โทรหาฉันได้ที่เบอร์นี้” เอ่ยบอกจบณมนก็หยิบนามบัตรออกมายื่นให้เอเดนซึ่งชายหนุ่มก็รับมันไปอย่างยินดี
“ขอบคุณมาก ว่าแต่คุณบอกมาเที่ยวที่นี่ใช่ไหม มีไกค์หรือยังครับ”
“มีแล้วค่ะ”
“น่าเสียดายเพราะถ้าคุณยังไม่มีไกค์ผมจะอาสานำเที่ยวเอง”
“ขอบคุณมากค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาช่วยฉันรวมถึงอาสาเป็นไกค์ให้” ณมนเอ่ยขอบคุณเอเดนอีกครั้งพร้อมกับส่งยิ้มให้เขาซึ่งมันคือรอยยิ้มที่มีผลต่อหัวใจคนมองได้เป็นอย่างดี
ณมนขอตัวกลับเข้าที่พักซึ่งเอเดนก็ไม่ได้รั้งเธอไว้แม้จะอยากไปส่งแต่ถ้าเขารีบร้อนทำความรู้จักเธอมากจนเกินไปเธอระแวง โดยเขาได้เรียนรู้ประสบการณ์เหล่านี้จากอดีตคนรักที่เลิกรากันไป แต่ถ้าเขาไม่ทำอะไรเลยก็กลัวจะเสียเธอไปเช่นกัน เอเดนจึงตัดสินใจเดินสะกดรอยตามหลังณมนไปแต่เว้นระยะห่างพอสมควร กระทั่งรู้ว่าเธอพักในอพาร์ทเม้นท์ใกล้ๆ กับเพนท์เฮาส์ของเขา
“เราต้องได้เจอกันอีกแม่สาวน้อยที่แสนน่ารักของ…ฉัน” เอเดนเอ่ยด้วยรอยยิ้มแถมยังจับจองณมนไว้เป็นที่เรียบร้อย หัวใจของหนุ่มวัยสี่สิบปีที่ไม่เคยคิดจะมีครอบครัวหวั่นไหวอย่างห้ามไม่ได้ มันทำให้เอเดนแปลกใจว่าทำไมเขาถึงรู้สึกแบบนั้นกับณมน
ส่วนณมนเมื่อกลับเข้าห้องพักก็ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างอ่อนแรง เธอมองไปรอบๆ ห้องซึ่งได้เช่าไว้เพียงแค่สองคืนเพราะตามแผนที่วางไว้หลังจากนี้เธอและมาวินจะออกท่องเที่ยวและนอนตามโรงแรมต่างๆ แต่ตอนนี้ทริปแห่งความฝันที่เฝ้ารอได้พังทลายลงไปอย่างไม่เหลือชิ้นดีรวมถึงความรักของเธอก็เช่นกัน
นั่นทำให้น้ำตาของณมนไหลอาบแก้มอีกครั้ง ความเจ็บปวดครั้งนี้มันสาหัสมากเหลือเกิน ไม่รู้จริงๆ ว่าเธอจะมีแรงพอหายใจหรือเปล่า เสียงร้องไห้ค่อยๆ ดังขึ้นก่อนที่ณมนจะกอดตัวเองไว้แน่นเพื่อปลอบประโลม
ในขณะที่หนึ่งคนกำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสอีกคนกลับกำลังสุขล้นด้วยรสสวาทที่กำลังเกิดขึ้น มาวินปรนเปรอราคะให้หญิงสาวในอ้อมกอดอย่างร้อนแรงราวกับต้องการชดเชยเวลาอีกสองอาทิตย์ที่จะไม่ได้เจอกัน แรกๆ เขาก็แค่มีเธอไว้แก้เหงาแต่ไปๆ มาๆ กลับขาดไม่ได้
“คุณเคยจูบเธอไหม” หญิงสาวในอ้อมกอดที่เปลือยเปล่าไร้อาภรณ์เอ่ยถามชายหนุ่มขึ้น เธอกับมาวินรู้จักกันที่มหาวิทยาลัย แค่มองตาก็ต่างรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
“ใคร อิ้งนะเหรอ”
“ใช่” คลีโอเอ่ยรับ เธอไม่ได้น้อยใจอะไรหากมาวินจะรักใครอื่นที่ไม่ใช่เธอ
“ผมไม่เคยจูบกับเธอ”
“จริงเหรอ”
“จริง ทำไม” มาวินเลิกคิ้วสูงอย่างสงสัย เพราะเขาพูดจริงทุกคำ
“เพราะคุณจูบเก่ง ฉันเลยอดคิดไม่ได้ว่าคุณกับเธอจะร้อนแรงกันมากแค่ไหนตอนอยู่บนเตียง” ขณะเอ่ยบอกคลีโอก็ลากปลายนิ้วอุ่นลงไปบนหน้าอกเปลือยเปล่าของมาวิน เธอมีสเปคผู้ชายที่ชอบเป็นการส่วนตัวซึ่งมองที่ไรก็ใจสั่นเสมอนั่นคือผู้ชายไทยผิวสีแทน
“ขนาดจูบผมยังไม่เคยแล้วจะมีเรื่องบนเตียงได้ยังไงกัน”
“แล้วคุณรักเธอไหม”
“รัก”
“แล้วฉันล่ะ” น้ำเสียงของคลีโอนั้นดูน้อยใจเล็กน้อยแต่เธอไม่เคยเก็บเอาเรื่องนี้มาคิดในรกสมองและไม่แคร์ด้วยซ้ำว่ามาวินจะรักใครมากกว่า เพราะตอนนี้เธอแค่อยากสนุกกับเขาให้พอใจก็เท่านั้น
“ก็รัก แต่รักมากกว่าเธอคนนั้น”
“ขอบคุณนะที่เลือกฉัน”
“ต้องเป็นคุณอยู่แล้วที่รัก” มาวินช้อนใบหน้าของคลีโอขึ้นแล้วมอบจูบที่แสนร้อนแรงให้เธอ จากนั้นคำพูดใดๆ ก็ยุติลงและสิ่งที่เข้ามาแทนที่คือเสียงครางกระเส่าที่ดังมาจากพวกเขา
