บทย่อ
รักโง่ๆ ทว่ากลับร้อนแรงและซาบซ่าน
บทที่ 1
กระเป๋าเดินทางใบใหญ่วางอยู่กลางห้อง ซึ่งภายในคือเครื่องแต่งกายสำหรับทริปท่องเที่ยวสองอาทิตย์ที่อเมริกา นอกจากเครื่องแต่งกายแล้วยังมีของฝากและหัวใจของเจ้าของกระเป๋าอย่างณมนรวมอยู่ด้วย โดยทริปนี้เธอกับคนรักที่คบหากันมานานกว่าสองปีร่วมกันวางแผนแต่มันก็ล่มมาตลอดกระทั่งเธอลาพักร้อนได้สำเร็จ
แต่เพราะอยากไปเซอร์ไพรส์คนรักณมนจึงตั้งใจจะไปก่อนกำหนดเล็กน้อย ยิ่งคิดว่าอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนี้เธอจะได้เจอใครหัวใจก็เต้นโครมครามด้วยความตื่นเต้นดีใจ ณมนหยิบโปรแกรมท่องเที่ยวที่เธอและมาวินช่วยกันคิดวางแผนออกมาดูด้วยใบหน้ายิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ต่อให้ตารางท่องเที่ยวครั้งนี้จะแน่นเอี๊ยดแต่ใจเธอก็สู้
ณมนนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง หัวใจยังคงเต้นรัวรวมถึงใบหน้าสวยเองก็แดงซ่านยามคิดถึงคนรักที่ขณะนี้อยู่ที่สหรัฐอเมริกาด้วยเหตุผลว่าเขาไปเรียนต่อที่นั่นโดยบริษัทที่ชายหนุ่มทำงานอยู่รับผิดชอบค่าเรียนรวมถึงค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แม้แรกๆ เขาลังเลที่จะไปแต่เพื่ออนาคตที่จะเติบโตในหน้าที่การงานชายหนุ่มก็ตัดสินใจใหม่อีกครั้ง
“อีกไม่กี่ชั่วโมงเราก็จะได้เจอกันแล้วนะคะวิน” ณมนเอ่ยฝากสายลมไปถึงคนรัก ก่อนจะสะดุ้งเมื่อจู่ๆ ได้ยินเสียงเตือนจากโทรศัพท์มือถือดังขึ้น ซึ่งระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนียมได้แจ้งให้เธอรู้ว่าขณะมีคนมาหาและคนคนคนนั้นก็กำลังรอให้เธออนุญาตเข้าประตูอยู่หน้าล็อบบี้
“มีน” พอเห็นภาพตรงผ่านจอบนมือถือเจ้าของห้องเอ่ยเรียกชื่อเพื่อนสนิทขึ้น โดยขณะนี้มีนากำลังส่งยิ้มหวานมาให้ ตาเยิ้มๆ หิ้วของมาฝากยามวิกาลแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าอีกฝ่ายเมาอยู่แน่นอน อยู่แค่ว่าจะเมามากหรือน้อยก็เท่านั้นเอง
“นอนหรือยัง พอดีฉันแวะมาแถวนี้เลยซื้อหอยทอดมาฝาก” มีนาเอ่ยตอบกลับไป
“ยังไม่นอน แต่ชวนฉันกินหอยทอดตอนนี้เนี่ยนะ”
“อือ ไม่ได้เหรอ”
“ได้ เข้ามาสิ” เอ่ยบอกเสร็จณมนก็กดปุ่มอนุญาตให้แขกที่อยากมาเมื่อไหร่ก็ได้อย่างมีนาเข้ามาในคอนโดมิเนียม หากเป็นคอนโดเก่าเธอคงต้องลงไปรับเองหรือไม่ก็เอาคีย์การ์ดสำรองให้มีนา แต่คอนโดสมัยใหม่ระบบความปลอดภัยก็ทันสมัยตามไปด้วย
มีนาเดินตรงไปยังลิฟต์จากนั้นก็กดไปยังชั้นที่ยี่สิบห้า เธอเคยถามณมนว่าเพราะอะไรถึงเลือกอยู่ชั้นนี้ทั้งๆ ที่เพื่อนกลัวความสูงพอสมควร เจ้าของห้องให้คำตอบกลับมาว่าที่เลือกชั้นยี่สิบห้าเพราะตรงกับวันเกิดของตัวเอง มีนาจึงถึงบางอ้อ เธอยืนอึนๆ อยู่ในลิฟต์ครู่เดียวประตูลิฟต์ก็เปิดออก
“ออกจากประตูลิฟต์ให้เลี้ยวซ้าย โอเคซ้าย” คนกึ่งๆ จะเมาเอ่ยกับตัวเองเป็นตุเป็นตะ นั่นเพราะเธอพึ่งมาที่นี่แค่ไม่กี่ครั้งเช่นกันและทุกครั้งที่มาก็มักจะอยู่สภาพอย่างในตอนนี้เสมอ แบบนั้นใครจะจำทิศจำทางได้ยังไง มีนาหรี่ตามองหมายเลขห้องไปเรื่อยๆ กระทั่งไปหยุดอยู่ที่ห้องหมายเลขสองห้าศูนย์แปด
จังหวะที่กำลังจะกดออด ประตูก็เปิดออกโดยคนข้างในพอดี
“รู้ได้ยังไงว่ามาถึงแล้ว” เมื่อเข้าไปในห้องณมนได้มีนาก็เอ่ยถามขึ้นหรือว่าบนตัวเธอมีชิฟหรืออุปกรณ์ติดตามตัวฝังไว้
“แม่ซื้อบอก” เจ้าของห้องเอ่ยบอกอย่างติดตลกส่วนคนฟังก็เออออตามไปด้วย แถมยังยกมือไหว้อีกต่างหาก
“สวัสดีค่ะแม่ซื้อ”
“ยัยบ้า เมาจนไม่ได้สติแล้วใช่ไหมเนี่ย”
“เมาแต่ไม่ได้มากถึงขนาดไม่ได้สติ หอยทอดกำลังร้อนๆ จะกินเลยไหม” เอ่ยบอกเสร็จก็ยกถุงหอยทอดในมือขึ้น
“กินเลยก็ได้ ว่าแต่หอยทอดเจ้านี้ไร้น้ำมันหรือเปล่า”
“ไม่อะ น้ำมันเยิ้มๆ แป้งกรอบๆ หอยทอดที่ไหนจะมีแบบไร้น้ำมันย่ะ”
“อ้วน”
“พรุ่งนี้ค่อยลด” มีนาแย้งทันที คนบอกอ้วนแต่กินอะไรก็ไม่เห็นจะอ้วนผิดกับเธอกินแค่น้ำเปล่าก็อ้วนได้ โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
“โอเค ตามนั้น แกไปนั่งรอเดี๋ยวฉันเอาไปใส่จานให้” ขณะเอ่ยบอกณมนก็ยื่นมือไปรับถุงหอยทอดมาจากมือของมีนาเช่นกัน
“อือ ตามสบายนะ คิดเสียว่าเป็นบ้านตัวเอง”
“นั่นมันคำพูดฉันย่ะ แกน่ะเป็นแขกไม่ใช่เจ้าบ้าน” ณมนส่ายหน้าช้าๆ ให้คนพูดที่คงเมามากไม่น้อย แต่เมายังไงมีนาก็เอาตัวรอดได้เสมอ ต่างกับเธอที่เมาเมื่อไหร่สติหลุดเมื่อนั้น
“อ้าวเหรอ”
“ใช่” เสียงขานรับดังมาจากเจ้าของห้องที่ตอนนี้อยู่ในครัวเพื่อจัดการเทหอยทอดใส่จานสีขาวใบสวยซึ่งขอบจานมีลายดอกเดซี่สีเหลืองอ่อนประดับอยู่
“พรุ่งนี้แกจะบินไปอเมริกาแล้วนี่” เมื่อเห็นกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มีนาก็เอ่ยถามขึ้นทั้งๆ ที่เธอเองก็รู้แผนการเดินทางของณมนมาแล้ว
“อือ”
“นี่ถ้าไม่ติดงานฉันก็ว่าจะไปด้วย อุตส่าห์ลาพักร้อนไว้แล้วแท้ๆ แต่เจ้านายกลับรถชนจนขาเดี้ยง งานทุกอย่างเลยถูกเทมาที่ฉัน” มีนาออกอาการเซ็งอย่างเห็นได้ชัด
“ดีแล้วที่แกติดงาน”
“อ้าว” คนฟังหน้าละห้อยทันที มีนาแกล้งทำเป็นเศร้าจนน่าหมั่นไส้
“ฉันไปหาแฟนนะยะไม่ใช่ไปเที่ยวคนเดียว โปรดให้เวลาฉันได้สวีทบ้าง” คนคิดถึงแฟนเอ่ยบอก ลึกๆ ก็อยากให้มีนาไปด้วยจะได้ไปเที่ยวด้วยกันแต่อีกใจก็อยากไปคนเดียว อยากใช้เวลาอยู่กับมาวินให้หายคิดถึง เพราะเกือบปีแล้วที่เธอกับเขาไม่ได้กุมมือหรือกอดกัน
“ทีอย่างนี้ถีบหัวฉันส่ง ชิ” มีนาแกล้งงอนแต่ณมนก็รู้ว่าเพื่อนสนิทแค่แกล้งทำเท่านั้นเอง ก่อนจะชวนกินหอยทอด
“หอยทอดอร่อย แกซื้อร้านไหมมา”
“หน้าคอนโดแกนี่แหละ”
“พึ่งรู้ว่าหน้าคอนโดฉันมีร้านหอยทอดอร่อยๆ แบบนี้ด้วย” หนึ่งเหตุผลที่ณมนไม่รู้เพราะเธอไม่ค่อยออกไปไหนตอนดึกๆ นั่นเอง นอกจากเซเว่นใต้คอนโดแล้วร้านอาหารอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ เธอแทบไม่รู้จักหรือไม่เคยชิมรสชาติเลยสักครั้ง
“มีร้านข้าวต้มด้วยแต่พ่อค้าไม่หล่อฉันเลยไม่ได้อุดหนุน”
“จ้ะๆ แกนี่เมาแล้วเมาเลยจริงๆ ขายขนมจีบไปทั่ว” ณมนส่ายหน้าให้เพื่อนสนิท เมาแล้วซื้อของมาฝากเธอได้นี่ถือว่าไม่ได้พีคมากเพราะถ้ามีนาเมาระดับพีคจริงๆ ล่ะก็คุยกับน้องหมาหน้าเซเว่นแถมจะลักพาตัวน้องไปเลี้ยงอีกต่างหาก
“ทำได้แค่ตอนเมาเท่านั้นแหละ เพราะตอนสติครบถ้วนฉันก็พวกปากหนักไม่ชอบเข้าหาใครก่อนเหมือนกัน” นั่นคือตัวตนของมีนาที่ณมนรู้ดีกว่าใคร
“ฉันรู้ ว่าแต่คุยไปคุยมาทำไมดราม่าเฉยเลย”
“นั่นสิ เลิกดราม่าๆ กินหอยทอดเถอะ เย็นแล้วไม่อร่อย จริงสิพรุ่งนี้แกขึ้นเครื่องกี่โมงนะ” ขณะถามมีนาก็ตักหอยทอดที่ราดซอสเยิ้มๆ ใส่ปากจากนั้นก็เคี้ยวตุ้ยๆ ก่อนจะกลืนลงท้อง